SD:บทที่ 40 : รุมทำร้าย

ซู ฉิวไป่ เดินปรี่เข้าไปทางสถานีพยาบาลโดยไม่ลังเล เฉา ตั้วเฟย เดินตามเขาอย่างระมัดระวัง

หัวหน้าพยาบาลที่ จาง เหวิน กล่าวถึงนั้น คือ หลี่ ฉิวปิง ซึ่งเป็นนางพยาบาลอาวุโสที่ทำงานในโรงพยาบาลนี้มานานนับหลายปี เธอคิดว่าสุดท้ายนี้ เธอคงเหลือแค่เพียงการรอวันเกษียณเท่านั้น แต่จู่ ๆ รองคณบดีของโรงพยาบาลกลับมาบอกเธอว่า หากกลั่นแกล้งคนไข้รายหนึ่งแล้วล่ะก็ เธอจะได้รับการเลื่อนขั้น

เขาเน้นย้ำเป็นพิเศษว่านี่เป็นคำขอโดยตรงจากภรรยาของ เซี่ยว ซิวเหวิน!

เซี่ยว ซิวเหวิน! หัวหน้าตระกูลเซี่ยว ผู้นำที่แท้จริงของเมืองตงไห่!

หลี่ ฉิวปิง ตระหนักได้ในทันทีว่านี่เป็นโอกาสของเธอแล้ว ใครดูก็รู้ว่าเป็นงานง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนางพยาบาลอาวุโสค้นพบว่าคนไข้รายนี้เป็นเพียงเด็กสาวที่ไร้ซึ่งพลังหรืออำนาจ!

เพราะฉะนั้น เธอจึงจงใจกลั่นแกล้ง ซู เซี่ยวเซี่ยว โดยไม่แจ้งแพทย์ให้มาตรวจเธอ แม้แต่หลังจากที่มีการจ่ายค่ารักษาเรียบร้อยแล้ว

นางพยาบาลหลี่ซ่อนตัวในห้องน้ำ แล้วจึงโทรรายงานรองคณบดีว่าหน้าที่ของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเดินทอดน่องกลับมายังสถานีพยาบาลอย่างสบายอารมณ์ แต่กลับพบกับ ซู ฉิวไป่ และ เฉา ตั้วเฟย ยืนรออยู่ใกล้ ๆ พร้อมกับพรรคพวกอีกนับหลายสิบคน

“พวกคุณมามุงอะไรกันที่นี่”

เธอออกอาการระแวงทันทีที่เธอเอ่ยถาม ซู ฉิวไป่

“คุณเป็นหัวหน้าพยาบาลใช่มั้ย” ซู ฉิวไป่ จ้องมองนางพยาบาลแล้วเอ่ยถามขึ้น น้ำเสียงของเขาฟังดูราบเรียบแต่กลับโกรธจัด

เธอเพียงพยักหน้า สายตาของเธอยังจับจ้องที่ฝูงชนตรงหน้าเธอ “แล้วพวกคุณมาทำบ้าอะไรกันที่นี่เนี่ย”

“ทำไมคุณถึงไม่นัดแพทย์ให้กับ ซู เซี่ยวเซี่ยว” ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้น

เมื่อได้ยินชายตรงหน้ากล่าวเช่นนั้น หลี่ ฉิวปิง จึงประจักษ์เห็นว่าแท้จริงคนพวกนี้คงเป็นครอบครัวของเซี่ยวเซี่ยว อีกทั้งเธอยังนึกถึงสิ่งที่รองคณบดีเคยพูดไว้ได้ พี่ชายของเซี่ยวเซี่ยวเป็นแค่คนขับรถแท็กซี่

เมื่อเห็นเสื้อกั๊กของ ซู ฉิวไป่ นางพยาบาลหลี่เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้ในทันที

หลี่ ฉิวปิง หัวเราะเยาะเขาแล้วเอ่ยดูแคลน ในสายตานั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

“โรงพยาบาลเองก็มีขั้นตอนกระบวนการของมันเองนะคะคุณ ไม่ใช่ว่าจะเรียกร้องหาหมอ แล้วจะได้ปุบปับ คุณควรพิจารณาตัวเองก่อนเถอะ ถ้ายังจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลไม่ไหว ก็เลิกอวดรวยเสีย แล้วไปรอให้ถึงตาของตัวเองไป”

เมื่อเธอได้ด่าเท่าที่เธอพอใจแล้ว หลี่ ฉิวปิง จึงขอตัวลากลับ

“ช่างหัวแกสิ เดี๋ยวโดนดีแน่ ยัยป้าเอ้ย!”

นอกเหนือจากความคาดหมายของทุกคน จู่ ๆ เฉา ตั้วเฟย กลับกระโดดออกมาแล้วเตะเธอเข้าอย่างจัง จนร่างเธอกระแทกผนังดังลั่นทีเดียว ข้าง ๆ เด็กหนุ่มนั่น ซู ฉิวไป่ ก็ตกตะลึงไม่ต่างจากทุกคน ถึงจริง ๆ เขาจะคิดอยากจะสั่งสอนผู้หญิงคนนี้เสียหน่อยเถอะ แต่ไอ้เด็กนั่นกลับเริ่มลงมือก่อนเสียได้

หลังจากขณะนั้นเอง หัวของนางพยาบาลหลี่เริ่มมีเลือดไหลออกมา เธอหวาดกลัวระคนกับเกลียดชังเจ้าพวกเด็กไร้สามัญสำนึกเช่นนี้จริง ๆ หลี่ ฉิวปิง จึงชี้นิ้วไปทาง เฉา ตั้วเฟย แล้วเริ่มกรีดร้องราวกับคนบ้า “ช่วยด้วยค่า! ฆาตกร! ฉันบาดเจ็บ! ทุกคน มานี่เร็ว!”

เดิมที เธอคิดเอาว่าตราบใดที่เธอส่งเสียงเอะอะเข้าไว้ ไอ้เด็กเปรตพวกนี้ก็คงไม่กล้าทำอะไรหรอก อันธพาลเช่นนี้น่ะ ก็อวดเก่งได้เท่านี้แหละ คงไม่กล้ามาหืออืออะไรอีก

แต่ก็อีกนั่นแหละ คนบางคนก็หน้าหนากว่าคนทั่วไป

“ฆาตกรบ้านแม่แกสิ! สงสัยต้องสั่งสอนเสียหน่อยแล้ว!”

และเมื่อกล่าวคำประกาศิตเช่นนั้น เจ้าตัวก็ตบหน้านางพยาบาลหลี่ให้พอหายคันไม้คันมือ แต่เหมือนว่าเขาจะรุนแรงเกินไปมาก หลี่ ฉิวปิง ถึงกับพิงกำแพงร้องไห้โฮออกมาอย่างสภาพดูไม่ได้

เด็กคนอื่นจากแก็งนักแข่งข้างถนนก็เริ่มควักโทรศัพท์ของตัวเองออกมาแล้ว

“ไงคะคุณลุง ตอนนี้หนูอยู่เมืองตงไห่นะคะ หนูอยากจะโทรมาบอกน่ะค่ะ ว่าหมอที่โรงพยาบาลตงไห่ทำตัวจองหองมาก คุณลุงช่วยจัดการหน่อยได้มั้ยคะ…”

“เฮ้ยพี่จ่าง นี่น้องคนที่หกของพี่นะ ช่วยส่งคนมาสอบสวนหัวหน้าพยาบาลที่โรงพยาบาลตงไห่หน่อยได้มั้ย ยัยบ้านั่นถึงกับจะฆ่าเพื่อนคนหนึ่งของผมเลยอ่ะ…”

“อาครับ พยาบาลคนหนึ่งของโรงพยาบาลตงไห่ทำผมบาดเจ็บร้ายแรง ช่วยมาที่นี่เร็ว ๆ เลยครับ…”

ซู ฉิวไป่ ฟังเสียงของเหล่าเด็กในแก็งแล้ว เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออก การที่พวกเขาเชี่ยวชาญแบบนี้ เห็นได้ชัดเลยว่านี่คงไม่ใช่ครั้งแรก!

เฉา ตั้วเฝย จึงหยุดทำร้ายนางพยาบาลเสียที เขาก้าวถอยหลังแล้วบอกกับเธอว่า “โทรเรียกพวกเขาสิ ช่วยเช็คดูให้หน่อยนะครับ ว่าคุณยังพอจะเรียกหมอมาดูอาการเธอได้หรือไม่ ผมจะให้เงินชดเชยกับคุณ หรือคุณจะเรียกยามมาคุมตัวผมก็ได้ อย่างไหนผมก็โอเค”

พอเด็กหนุ่มพูดจบ เขาหันมาขยิบตาให้ ซู ฉิวไป่ อย่างมีเลศนัย

ในที่สุดคนขับรถก็เข้าใจว่าทำไม เฉา ตั้วเฟย ถึงเป็นคนเริ่มก่อน เด็กหนุ่มไม่อยากให้เขาโดนร่างแหเข้าไปด้วย หากในกรณีที่มีใครโดนจับกุม หากมีกรณีที่เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นแล้ว ยังไงทางการก็ต้องหมายหัวตัวเด็กหนุ่มแทน ซู เฉี่ยวไป่

เพราะจะอย่างไรก็เถอะ สุดท้าย ก็มีแต่ ซู ฉิวไป่ ที่จะจัดการ เซี่ยว หยุน ได้เท่านั้น!

มันเป็นลางสังหรณ์เดียวกับตอนที่ ซู ฉิวไป่ กะพริบไฟเลี้ยวซ้ายข้างหลังรถเฟอร์รารี่ของเขา เฉา ตั้วเฟย มั่นใจว่า ซู ฉิวไป่ จะต้องทำได้!

หลี่ ฉิวปิง งงงวยไปพักใหญ่ เมื่อสติหวนกลับคืนมา เธอเพียงจ้องมอง ซู ฉิวไป่ ด้วยความหวาดกลัว นางพยาบาลหลี่ไม่รีรอเลยที่จะโทรหาท่านรองคณบดี

ณ ช่วงเวลาเดียวกัน ในห้องทำงานที่ชั้นสูงสุดของโรงพยาบาลตงไห่ คณบดีเหอได้รับสายจากคนที่ไม่ว่าใครก็เป็นต้องเคยได้ยินชื่อ

“อา คุณนี่เอง หรงหรง”

คณบดีสามารถจำเสียงของคนที่โทรมาได้ทันที ว่าแท้จริงเธอเป็นถึงซีอีโอของบริษัท เซี่ยกรุ๊ป เธอคือ เซี่ย หรงหรง นั่นเอง

“คุณลุงเหอคะ คือสถานการณ์มันเป็นเช่นนี้น่ะค่ะ หนูมีน้องสาวคนสนิทที่ชื่อ ซู เซี่ยวเซี่ยว แล้วขณะนี้ เธอรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของคุณลุงค่ะ ได้โปรดช่วยให้เธอได้รับการดูแลที่ดีไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามนะคะ เด็กคนนั้นฉันรักและห่วงใยเหมือนน้องสาวแท้ ๆ เลยค่ะ!”

คณบดีที่เคยยิ้มอย่างอารมณ์ดีในตอนแรก รอยยิ้มกลับเลือนหายไปฉับพลัน เมื่อเขาได้ยินประโยคสุดท้ายของ เซี่ย หรงหรง

เขารู้ตัวในทันทีว่าเธอตั้งใจจะกล่าวอะไร หญิงสาวกำลังกดดันเขาอยู่!

คณบดีเหอทำได้แค่ยิ้มอย่างขมขื่นหลังจากที่คู่สนทนาตัดสาย ณ ตอนนี้ เขากำลังอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบาก คุณนายเซี่ยวเพิ่งจะโทรมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าที้ และหล่อนได้ขอให้เขาทำสิ่งที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

ตอนนี้เขากำลังถูกบีบอัดอยู่ตรงกลางระหว่างการแข่งขันของสองขั้วอำนาจ รองคณบดีก็อับจนหนทาง ไม่รู้จะทำอะไรต่อไปได้ สุดท้าย เขาก็คิดตัดสินใจเรื่องนี้ในภายหลัง จะอย่างไรก็ตาม เขาก็คงเหยียบเรือสองแคมไม่ได้ จะขัดใจทั้งสองฝ่าย เขาก็ยอมเสี่ยงอันตรายเช่นนั้นไม่ได้อีก จากนั้น โทรศัพท์ของเขากลับดังขึ้นมาทันทีทันใดอีกครั้ง!

เมื่อคณบดีรับสาย เขาตระหนักได้เลยว่าคู่สนทนาเป็นประธานกรรมการของบริษัทชื่อดังในเมืองตงไห่ ชายในสายเอ่ยว่าเขาได้รับการแจ้งเรื่องเกี่ยวกับหัวหน้าพยาบาลที่ชื่อว่า หลี่ ฉิวปิง ได้ทำร้ายร่างกายใครสักคนในโรงพยาบาล และยังถามไถ่ถึงอาการของ ซู เซี่ยวเซี่ยว อีก

เขารีบรับรองกับคู่สนทนาว่าเขาจะสืบสวนเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่เมื่อเขาวางสายไป โทรศัพท์เจ้ากรรมกลับดังขึ้นมาอีกครา อีกสิบนาทีถัดมา เสียงเตือนสายโทรเข้าของมือถือดังอย่างไม่หยุดหย่อน

เกือบทุกสายต่างมาจากพวกผู้มีอิทธิพลและเหล่าผู้นำหลากหลายรูปแบบจากทั่วทุกย่านในเมืองตงไห่ เขาไม่รู้จักพวกนั้นเป็นการส่วนตัวสักคน แต่ทุกคนกลับกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน ว่าหัวหน้าพยาบาลหลี่ ฉิวปิง ทำให้คนไข้ต้องเสี่ยงชีวิต และทำร้ายผู้คนอีกด้วย และพวกเขาต่างต้องการให้เขาให้การดูแลเป็นอย่างดีกับ ซู เซี่ยวเซี่ยว

คณบดีทั้งประหลาดใจและเป็นกังวล คุณนายเซี่ยวให้ข้อมูลเขาว่า ซู เซี่ยวเซี่ยว เป็นเพียงเด็กสาวจากแถบชนบท แต่เด็กบ้านนอกแบบไหนกันที่มีอิทธิพลมากขนาดนี้!

ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครมีอำนาจเทียบเท่ากับสี่ตระกูลใหญ่แห่งตงไห่ก็เถอะ แต่พวกนั้นรวมกันแล้วก็แทบจะยึดครองถึงครึ่งหนึ่งของเมืองนี้เสียด้วยซ้ำ!

คณบดีเหออดไม่ได้ที่จะนวดขมับตน เขาจำใจต้องเมินคำขอร้องปนบังคับของคุณนายเซี่ยว แล้วหันไปดูอาการของ ซู เซี่ยวเซี่ยว ด้วยตนเองในทันที ทว่าโทรศัพท์ตั้งโต๊ะของเขาดันดังขึ้นมา

โทรศัพท์เครื่องนั้นจะดังเฉพาะในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น!

ท่านคณบดีสูดหายใจให้เต็มปอด โดยหวังว่ามันจะทำให้เขาใจเย็นลงบ้าง ก่อนที่เขาจะรับสายนั่นเสียที หลังจากวางสายแล้ว เขาตั้งปณิธานว่าจะต้องช่วยเหลือ ซู เซี่ยวเซี่ยว ให้ได้

ตระกูลเซี่ยวหาภัยเข้าตัวจริง ๆ ล่ะคราวนี้!

เขาไม่เสียเวลาอีกต่อไป แล้วรีบวิ่งไปที่แผนกผู้ป่วยไอซียูเท่าที่สภาพตนจะเอื้ออำนวย

ในอีกด้านหนึ่ง หลี ฉิวปิง ลุกขึ้นยืน แล้วชายตามอง ซู ฉิวไป และ เฉา ตั้วเฟย อย่างไม่เกรงกลัว หลังจากที่เธอโทรหารองคณบดี ทั้งโถงทางเดินดูจะอัดแน่นไปด้วยผู้คนที่มามุงดูมากขึ้นเรื่อย ๆ และท่านรองฯกำลังปรี่มาหาจุดกำเนิดความวุ่นวายนี่

เมื่อนางพยาบาลหลี่เห็นรองคณบดีแล้ว ต่อมน้ำตาเธอก็ทำงานทันที เธอดึงเสื้อผ้าของท่านรองฯแล้วร้องระงมราวกับหมาโดนรถชนอย่างไรอย่างงั้น

“ท่านรองคณบดีจางค่ะ พวกคนป่าเถื่อนพวกนี้ทำร้ายดิฉันค่ะ! หน้าที่ในการจัดหาหมอมาดูแลอาการคนไข้ ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของฉันนะคะ”

เสียงร้องที่ชวนให้แก้วหูแตกของนางพยาบาลทำให้หลายคนรีบออกมาจากแผนกนั้นในทันที พร้อมหันมามองเธอกันใหญ่

รองคณบดียิ่งไม่พอใจหลังจากได้ฟังคำของเธอแล้ว จะอย่างไรก็ตาม เขาเองที่เป็นคนสั่งให้เธอทำเช่นนั้น หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เขาเป็นคนที่เห็นด้วยกับคุณนายเซี่ยว!

ถึงอย่างนั้น คนพวกนี้กลับกล้าเข้ามารุมกระทืบเธอถึงในโรงพยาบาลอย่างไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมใด ๆ  ดังนั้นไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ต้องแจ้งตำรวจ!

“นี่ลุง อยากโทรหาตำรวจเหรอ คิดว่าผมกลัวลุงรึไง!” เฉา ตั้วเฟย ตะโกนออกมาดังลั่น โดยที่ ซู ฉิวไป่ ไม่พูดอะไร เขาเพียงเฝ้าดูเรื่องนี้ดำเนินต่อไปจากจุดที่เขายืนอยู่เท่านั้น

แล้วพวกเด็กหนุ่มสาวคนอื่นจากแก็งนักแข่งข้างถนนก็เข้ามาร่วมด้วย

“เอาสิวะ ฉันก็กระทืบยัยป้านั่น จับฉันไปด้วยสิวะ!”

“เออนั่นดิ ผมก็ร่วมด้วย จับผมส่งตำรวจไปอีกคนสิครับ”

โดยทันทีทันใด ทั้งโถงทางเดินกลับดังไปด้วยเสียงระงมร้องเรียกหาตำรวจ

รองคณบดีจางรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันบ้าสิ้นดี

ในระหว่างที่เขายังไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรต่อไป เขาพลันสังเกตเห็นคณบดีเหอจากระยะไกลพอดิบพอดี เขายิ้มร่าทันทีเพราะเขารู้มาก่อนแล้วว่าคุณนายเซี่ยวได้คุยกับท่านคณบดีด้วยตนเองแล้ว

หลี่ ฉิวปิง แทบจะล้มลุกคุกคลานเข้าไปหาคณบดีเหอ ทว่าขณะที่เธอร้องเรียกหาท่านนั่นเอง เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นจนได้

คณบดีเหอผลักพยาบาลหลี่ไปไกลจากหัว แล้วเอ่ยด้วยนน้ำเสียงเย็นขา “คุณไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นนางพยาบาล จะไปไหนก็ไป!”

แล้วท่านก็หันมามองรองคณบดีจาง

“และคุณ…คุณถูกไล่ออก!”