ตอนที่ 1996 เสี่ยวเฮย (2

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1996 เสี่ยวเฮย (2)
  ในโลกวิญญาณไม่มีความแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืน และร่างวิญญาณไม่ต้องการการพักผ่อน พวกเฉียวฉู่ฝึกฝนอยู่ในบ้านของตัวเองเป็นเวลานานจนรู้สึกว่ารอต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงได้รวมตัวกันมาเคาะประตูบ้านของจวินอู๋เสีย
  ทันทีที่ประตูเปิดออก พวกเฉียวฉู่ก็เห็นว่าทั้งบ้านมีแผ่นกระดาษกระจัดกระจายเต็มไปหมด บนกระดาษพวกนั้นเต็มไปด้วยอักขระโบราณทุกประเภทที่ยากจะเข้าใจ
  จวินอู๋เสียนั่งอยู่บนพื้นในห้อง มือถือพู่กันและเขียนอักขระโบราณทุกรูปแบบลงบนกระดาษไม่หยุด
  จวินอู๋เหยายืนอยู่ข้างประตู มองพวกผู้เยาว์ที่พากันยืนงงอยู่กับที่
  “พี่ใหญ่อู๋เหยา เกิดอะไรขึ้นกับ……เสี่ยวเสีย?” เฉียวฉู่มองจวินอู๋เสียที่ใกล้บ้าด้วยสีหน้าตกตะลึง ก่อนหน้านี้นางก็สบายดี แล้วจู่ๆทำไมถึงได้เริ่มเขียนอะไรแบบนี้ล่ะ?novel-lucky
  “เกิดเรื่องขึ้นกับเจ้าแมวดำน่ะ” จวินอู๋เหยามองจวินอู๋เสีย แม้ว่าเขาจะบอกนางแล้วว่าเจ้าแมวดำจะไม่หายไป แต่จวินอู๋เสียก็ยังไม่สบายใจ นางพยายามบันทึกอักขระเสริมวิญญาณที่เห็นในหอคอยโยวหลิงเมื่อวานนี้ตลอดทั้งคืน
  “หือ? เกิดอะไรขึ้น?” เฉียวฉู่ตกใจเล็กน้อย
  จวินอู๋เหยาเล่าให้พวกเฉียวฉู่ฟังคร่าวๆเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าแมวดำตัวน้อย พวกผู้เยาว์ต่างมีสีหน้าตกใจเมื่อได้ยิน
  แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เข้าท่าในตอนที่ได้รับการบอกเล่าเรื่องหอคอยโยวหลิง แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่ามันจะส่งผลร้ายเช่นนี้ เมื่อเห็นจวินอู๋เสียกำลังเค้นสมองอย่างหนัก พวกเขาก็อดกังวลไม่ได้
  พวกเขาไม่ได้มีคู่วิญญาณอย่างเจ้าแมวดำ แต่พวกเขามีภูติประจำตัวที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ ถ้าภูติประจำตัวของพวกเขาตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ พวกเขาคงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เช่นกัน
  ไม่มีใครไปรบกวนจวินอู๋เสีย ทุกคนพากันยืนเงียบๆอยู่ด้านข้าง
  จวินอู๋เสียยังคงเขียนต่อไปอีกนานพอสมควร การเขียนอักขระเสริมวิญญาณจำนวนมากในหอคอยโยวหลิงออกมาให้ได้อย่างถูกต้องแม่นยำไม่ใช่งานที่จะทำได้สำเร็จในเวลาแค่หนึ่งหรือสองวัน ความกังวลที่อยู่ในใจนางทำให้นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่นางจะได้ไขความลับที่ซ่อนอยู่ภายในหอคอยโยวหลิง
  จวินอู๋เสียไม่รู้ว่าตนเขียนอยู่นานเพียงใด ในที่สุดนางก็วางพู่กันในมือลง พอเงยหน้าขึ้นนางก็เห็นพวกเฉียวฉู่กำลังรออยู่ทางด้านหนึ่ง นางหมกมุ่นเกินไปจนไม่สังเกตเห็นการมาของพวกเขาเลย
  “พวกเจ้ามาแล้วหรือ” จวินอู๋เสียลุกขึ้นเดินไปอุ้มเจ้าแมวดำที่กำลังหลับสนิท
  “พวกเรารู้เรื่องของเสี่ยวเฮยหมดแล้ว ถ้ามีอะไรที่เจ้าต้องการให้เราช่วย ก็บอกได้เลยนะ” หรงรั่วเดินมาข้างๆจวินอู๋เสียและพูดด้วยความเป็นห่วง
  จวินอู๋เสียส่ายหน้า สถานการณ์ของเจ้าแมวดำนั้นค่อนข้างพิเศษ แม้ว่ามันจะไม่หายไป จวินอู๋เสียก็ไม่อยากเห็นมันอ่อนแอเช่นนี้ มีเพียงการฝึกพลังวิญญาณอย่างหนักเท่านั้นที่จะทำให้เจ้าแมวดำฟื้นตัวได้เร็วที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน นางก็ต้องไขความลับในหอคอยโยวหลิงเพื่อกำจัดรากของปัญหา ไม่อย่างนั้น เจ้าแมวดำอาจจะหนีไม่พ้นโซ่ตรวนนี้
  “เราไปหาน่าหลานเยว่กัน” จวินอู๋เสียกล่าวอย่างสงบ การไขความลับของหอคอยโยวหลิงต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งหรือสองวัน การฝึกพลังวิญญาณให้เร็วที่สุดคือทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
  พวกหรงรั่วมองจวินอู๋เสียอย่างเป็นห่วง เกรงว่าอาการของเจ้าแมวดำจะส่งผลต่อจวินอู๋เสียอย่างมาก โชคดีที่จวินอู๋เสียสงบนิ่งมาก ไม่ได้จมอยู่กับความหวาดกลัวและตื่นตระหนก
  พวกผู้เยาว์อยู่ที่นั่นอีกครู่เดียวก่อนจะออกเดินทางไปยังป่าโยวเมิ่งเพื่อตามหาน่าหลานเยว่ภายใต้การนำทางของอิงซู่และบัวน้อย
  ที่อยู่ของน่าหลานเยว่อยู่ไม่ไกลจากที่อยู่ของตู๋เถิงมากนัก แต่อยู่ตรงข้ามกับป่าโยวเมิ่ง เมื่อบัวน้อยไปถึงที่นั่นพร้อมกับพวกจวินอู๋เสีย พวกเขาก็เห็นน่าหลานเยว่พยายามแสดงท่าทางบางอย่างกับวิญญาณสัตว์อสูรที่ดูเหมือนหมีสีน้ำตาล……