เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 665
ซากศพ เลือดสด

กองทับซ้อนกันบนสุสานของเย่เหวินทั้งหมด

หลี่ซู่พูดอย่างดุร้ายเหี้ยมโหด “เหล่าสหาย รอพวกเรากลับศูนย์พันธมิตรบู๊ จะต้องไปรายงานต่อท่านเจ้าพันธมิตรใหญ่ ให้ท่านเจ้าพันธมิตรใหญ่สังหารหยางเฟิงและล้างแค้นแทนผู้คุมกฎสิบให้จงได้ ”

“ฆ่าหยางเฟิง!”

“ฆ่าหยางเฟิง!”

“ฆ่าหยางเฟิง!”

……

เวลานี้

สมาชิกทั้งหมดของศูนย์พันธมิตรบู๊กู่ร้องก้องตะโกน

พวกเราเกลียดชังหยางเฟิง

จนไม่มีที่สิ้นสุด

“คิก คิก …… หากจะฆ่าท่านแม่ทัพ ก็ต้องดูก่อนว่าพวกเราจะมีชีวิตรอดหรือไม่?”

ทันใดนั้น

น้ำเสียงเย็นฉียบดังเข้ามาในหูของพวกเขา

“ใครน่ะ?”

หลี่ซู่หวาดผวาขึ้นมาฉับพลัน

เมื่อเขาหันหลังกลับไปก็ต้องตกตะลึงไปทั้งตัว

เพราะเห็นเพียงพลทหารที่ติดอาวุธหนักหลายพันคนถือปืนเล็งมายังพวกเขา

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

พลทหารเหล่านี้มาจากไหน?

เพียงชัวพริบตา

หลี่ซู่สับสนมึนงงไปหมด

“หนี!”

“รีบหนีไป!!!”

เมื่อรอให้หลี่ซู่โต้ตอบแล้ว

เขาก็ตะโกนออกมาเสียงดังทันที

สมาชิกทั้งหมดของศูนย์พันธมิตรบู๊วิ่งหนีไปทันทีทันใด

“อยากหนีรึ ฝันไปเถิด!”

“สังหารพวกมันทั้งหมดเพื่อสนองแก่ข้า!”

กัสสปะยิ้มเยาะเย้ย

ปัง!

ปัง!

ปัง!

……

กระสุนหลายนัดถูกลั่นไกออกไป

ทุกคนอลหม่านแตกตื่น

หลังจากนั้น

อ้าก!

อ้าก!

อ้าก!

……

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น

สมาชิกของศูนย์พันธมิตรบู๊จมลงในกองเลือดทีละคน

ต่อให้ศิลปะการต่อสู้ของพวกเขาจะแข็งแกร่ง

ทว่าท่ามกลางห่าฝนกระสุน

ก็คือพวกขยะ!

หลายคนเลือดไหลออกมาไม่หยุด

ดวงตาเบิกกว้าง

สิ้นใจอย่างกระสับกระส่าย

พวกเขาล้วนไม่อยากเข้าใจว่ากำลังจะต้องตาย

เหตุใดถึงมีพลทหารนอกสุสานได้

เหตุใดกัน?

ถึงมีพลทหารมารอเก็บพวกเขา

นี่คือเป็นการสังหารหมู่!

พวกเขารู้สึกเสียใจว่าเหตุใดตนถึงมายังหมู่บ้านตระกูลเย่?

หลังจากนั้นเพียงไม่นาน

สมาชิกทั้งหมดของศูนย์พันธมิตรบู๊ล้วนถูกยิงตายทั้งหมด

ทั่วทั้งหน้าประตูสุสาน ยังมีซากศพอีกหลายร้อยศพ

เลือดสดได้ย้อมผืนดินให้กลายเป็นสีแดง!

กัสสปะเหลือบมองคนเหล่านี้และพูดด้วยความรังเกียจ “พวกขยะที่อยากจะฆ่าท่านแม่ทัพ ช่างไม่ดูกำลังและความสามารถของตนเสียจริง!”

ภายในใจของเขา

หยางเฟิงก็คือเทพเจ้า

มนุษย์ จะอาจหาญริมาสังหารเทพ?

ช่างน่าขันเสียจริง!

ตึก!

ตึก!

ตึก!

……

ด้วยพละกำลังของเท้าหน้าหลัง

และร่างเงานับร้อยกว่าร่าง ก็สามารถพุ่งกระโจนออกมาจากประตูหลุมศพได้

ผู้นำกลับเป็นผู้คุมกฎสิบ!

หลังจากที่ได้เห็นซากซพของศูนย์พันธมิตรบู๊หลายร้อยศพอยู่บนพื้น

ใบหน้าของเขาก็ถอดสี

เมื่อเงยหน้าขึ้นมอง

ก็พบปากกระบอกปืนดำจำนวนนับไม่ถ้วน โลหะอันแวววาวดุจเทพมรณะที่กำลังส่งกลิ่นควัน ได้เล็งมาที่ตน!

ณ เวลานี้

มือของผู้คุมกฎสิบกำลังสั่นสะท้าน หัวใจเต้นกำลังโครมคราม และโลหิตก็กำลังลุกไหม้

เขาขนลุกซู่

รู้สึกได้ถึงวิกฤตครั้งใหญ่!

เขาไม่รู้ว่าใครคือพลทหารติดอาวุธหนักเหล่านี้

เขารู้เพียงว่า

หากไม่หนีในตอนนี้ เกรงว่าจะไม่มีโอกาสให้หนีอีกแล้ว

เมื่อคิดถึงจุดนี้

ผู้คุมกฎสิบก็ตะโกนเสียงดัง “มอบพลังทั้งหมดแก่ข้าเพื่อตีฝ่าวงล้อมซะ!”

“ฆ่ามัน!”

สาวกกุ่ยเหมินมากกว่าหนึ่งร้อยคน ระเบิดเสียงออกมา

รัศมีแห่งการสังหารที่น่าสะพรึงกลัวเล็ดลอดออกมาจากร่างกาย

แม้รู้ว่าตนจะต้องตาย

พวกเขาก็ยังคงไม่หวาดกลัว

วินาทีที่เข้าร่วมกับกุ่ยเหมิน

พวกเขาก็ได้ละทิ้งชีวิตและความตายไปหมดแล้ว

ชีวิตของพวกเขาไม่ใช่ของพวกเขาอีกต่อไป!

“ฆ่ามัน!”

สิ้นเสียงคำราม

ผู้คุมกฎสิบก็ได้คุมบังเหวียน

“ผู้ที่ไม่รู้จักประมาณตน ยอมนำตนไปสู่หายนะ”

“สังหารพวกมันให้สิ้นเพื่อสนอแก่ข้า!”

กัสสปะยิ้มเยาะเย้ย

เทียบกับเสือขาวผู้โง่เขลาบ้าบิ่นแล้ว เขาชอบที่จะสังหารศัตรูอย่างสะอาดหมดจดมากกว่า

ปัง!

ปัง!

ปัง!

……

เสียงปืนดังสนั่นขึ้น

สาวกของกุ่ยเหมินถูกโจมตีจนล้มลงบนพื้นไปทีละคน

เมื่อเห็นลูกสมุนของตนถูกสังหารฝ่ายเดียว

ดวงตาของผู้คุมกฎสิบพลันแสดงความโกรธจัดราวกับว่ากำลังจะแตกสลาย

ปฎิบัติการในครั้งนี้

เขาเองก็เกือบถูกเล่นงาน

แม้จะกลับไปยังกุ่ยเหมินได้ เขาก็จะกลายเป็นผู้บัญชาที่ไร้ซึ่งไพร่พลอยู่ดี