ตอนที่ 870 จำคำพูดตัวเองเอาไว้ให้ด

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

กว่าทุกอย่างจะสงบชูฮันก็ไม่รู้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ตรงไหน มีแต่หลังคาอาคารเต็มไปหมด คงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าเกาช้าวฮุ่ยลากเขามาถึงไหน ส่วนชูฮันที่โดนเกาช้าวฮุ่ยลากพามาด้วยความเร็วสูงก็มีความคิดตีกันในหัว หัวใจเต้นถี่
  เกาช้าวฮุ่ยแห่งตระกูลลึกลับกลัวซอมบี้?
  แล้วอย่างนี้จะไม่กลัวลูกผสมเหมือนกันเหรอ?
  ชูฮันที่กำลังคิดอยากจะบ้าตายเขาเสี่ยงอย่างมากในการตัดสินใจกลับมาเมืองหนานตู้ อย่าบอกนะว่าสรุปเกาช้าวฮุ่ยจะไม่สู้ให้เขา!
  นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน?
  เกาช้าวฮุ่ยที่ไม่ได้รับรู้ถึงความคิดในใจของชูฮันตอนนี้กำลังกระวนกระวายเขามองไปรอบๆด้วยสายตาล่อกแล่ก ก่อนจะมั่นใจว่าไม่มีซอมบี้แล้ว จึงถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งลงกับพื้นเพื่อพัก
  กลุ่มซอมบี้ที่จู่ๆก็โผล่ออกมาทำให้เกาช้าวฮุ่ยกลัวมากจริงๆเขารู้ว่าซอมบี้นั้นกลายร่างมาจากมนุษย์ ส่วนตัวเขาที่เป็นคนจากตระกูลลึกลับก็ต้องคำสาปให้เป็นอมตะ ดังนั้นจะให้ฆ่าซอมบี้?
  เกาช้าวฮุ่ยไม่รู้ผลลัพธ์แต่เขามักขอบคุณชีวิตที่มีและไม่คิดเสี่ยงที่จะทำให้ชีวิตต้องจบเพื่อการทดลอง
  ถ้าเขาสู้กับซอมบี้มันอาจจะเกิดอุบัติเหตุจนตัวเองตายได้เพราะงั้นมันจึงไม่คุ้ม
  ทั้งคู่ต่างมีความคิดในใจชูฮันและเกาช้าวฮุ่ยมองหน้ากันแปลกๆ ทว่าสิ่งที่ทั้งคู่คิดเหมือนกันคือพวกเขาต้องหาเส้นทางในเมืองหนานตู้ให้ได้
  ————
  ในเวลาเดียวกันภายในห้องหนึ่งในค่ายจินหยาง ตอนที่ข่าวปลอมเรื่องการตายของชูฮันแพร่กระจาย เหมิงชีเหว่ยเองก็ช็อคไปในทันทีเหมือนกัน สมาชิกทุกคนในหน่วยข่าวกรองลับมารวมตัวกัน สีหน้าทุกคนค่อนข้างแปลกประหลาด
  ”ข่าวนี้…”เหมิงชีเหว่ยพูดไม่จบประโยคก็ต้องชะงัก
  ”เป็นโอกาสของเราแล้ว”เจียงเหว่ยที่เหมิงชีเหว่ยส่งเข้าไปเป็นคนสนิทของจงคุยพูดขึ้น “เราใช้ข่าวปลอมนี้ได้มั้ยครับ?”
  เหมิงชีเหว่ยนิ่วหน้าก่อนจะพยักหน้ารับ”ฉันก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่ฉันอยากรู้ว่าคนที่ปล่อยข่าวนี้ต้องการอะไรกันแน่?”
  ”ส่วนนี้เราต้องรอให้หน่วยข่าวกรองวิเคราะห์ผลลัพธ์” เจียงเหว่ยเองก็ขมวดคิ้ว “ปัญหาก็คือค่ายจินหยยางและค่ายเขี้ยวหมาป่าค่อนข้างห่างกันพอสมควร เราจึงยังไม่ได้รับการติดต่อ”
  ”นี้เป็นเรื่องด่วนก่อนอื่นเรามาคิดกันก่อนว่าที่ไหนที่เราจะเอาข่าวปลอมนี้ไปใช้ประโยชน์ได้” เหมิงชีเหว่ยมีแววตาชั่วร้ายสว่างวาบขึ้นมา  ในเวลาเดียวสมาชิกทุกคนของหน่วยข่าวกรองลับแห่งกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็รู้สึกโชคดี โชคดีที่พวกเขาถูกชูฮันบังคับให้ทำเรียนรู้และจดจำอะไรมากมายที่ในตอนแรกพวกเขามองว่ามันไม่จำเป็นและไม่สมเหตุสมผล ในตอนนี้เมื่อคุ้นเคยกับสถานการณ์ดีและมีข้อมูลเรื่องอันดับรายชื่อเสาหิน แม้ในตอนแรกพวกเขาจะแตกตื่นกับข่าวการตายของชูฮันเหมือนกัน หากไม่นานก็ได้สติและรู้ความจริงในทันที
  ขณะที่เหมิงชีเหว่ยและหน่วยข่าวกรองลับกำลังปรึกษาหารือถึงวิธีการใช้ประโยชน์สูงสุดจากข่าวนี้จงคุยและจงไคก็มีปฏิกิริยาดีใจเกินเหตุกับข่าวนี้
  เมื่อเทียบกับคนอื่นๆสองพ่อลูกที่ทำได้รับการแจ้งข่าวจากซางจิงเหมือนกันจึงไม่มีข้อสงสัยใดๆอีก พวกเขาเชื่อในข่าวนี้อย่างสมบูรณ์ 100% ขณะที่ทั้งสองกำลังจับมือดีใจหัวเราะกันจนตัวสั่น
  ”ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!ตายแล้ว มันตายจริงๆ!” จงคุยไม่คิดปิดบังความตื่นเต้นดีใจของตัวเองเลย “ตายก็ดี! พวกโง่นั้นมันเข้าใจผิด เอาต่ำแหน่งมีค่าขนาดนี้ไปให้คนต่ำๆ สุดท้ายมันก็ถูกผสมฆ่าตาย!”
  แม้ว่าจงไคเองก็จะตื่นเต้นเหมือนกันแต่ข้างในนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่ว่ายังไงตัวเขาก็ต้องนั่งเก้าอี้รถเข็นไปตลอด จงไคมองพ่อตัวเองด้วยสายตาวาววับอย่างเกลียดชังเพียงพริบตาเดียว
  ชูฮันตายตายไปก็ดี แต่คนต่อไปคือพ่อ! novel-lucky
  ปล่อยให้เขาจงไคดูแลค่ายจินหยางเอง
  —————–
  ณค่ายหนานตู้ ฝูงซอมบี้ถูกควบคุมอย่างดี ค่ายหนานตู้ค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าการต่อสู้ที่ประตูจะยังดำเนินต่ออยู่ หากความหวังแห่งชัยชนะก็เริ่มมีให้เห็น แม้มันจะริบหรี่
  ขณะที่ทุกคนกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้นมันก็มีการโต้เถียงนหน้าดำหน้าแดงเกิดขึ้นภายในห้องประชุมของค่ายหนานตู้  ”คุณต้องการเอาเฮลิคอปเตอร์บินกลับไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่า?”ฉางกวนหลงจ้องหลูปิงเซ่อตรงหน้าไม่วางตา
  หลูปิงเซ่อที่ยืนอยู่ตรงหน้าาได้แต่จ้องตากลับด้วยท่าทีนิ่งๆหากพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ครับ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี!”
  ”เป็นบ้าเหรอไง?!”เจ้าหน้าที่อาวุโสคนหนึ่งลุกขึ้นยืนพูดต่อทันที “ไม่รู้หรือไงว่าตอนนี้ทรัพยากรเรากำลังจะหมดแล้ว การต่อสู้ข้างนอกก็ยังไม่จบ เฮลิคอปเตอร์ของเรามีไว้เพื่อขนส่งทรัพยากรต่างๆ แล้วจะให้เราเอามันไปส่งนายอีก?”
  ”ถูกต้อง!”เจ้าหน้าที่อาวุโสอีกคนลุหขึ้นยืนจ้องหลูปิงเซ่อด้วยสายตาไม่พอใจชัดเจน “ไม่ใช่แค่การต่อสู้ที่ค่ายหนานตู้ยังไม่จบ แต่นายควรรู้ไว้ว่าตอนนี้พลเอกชูฮันตายแล้ว นายหมายความว่ายังไงที่ว่าจะกลับไปค่ายเขี้ยวหมาป่า?!”
  คำพูดของอีกฝ่ายไม่เข้าหูหลูปิงเซ่อเขาอดไม่ได้ที่จะจ้องตากลับอีกฝ่าย “อะไรทำให้คุณคิดว่าท่านพลเอกตายแล้ว แล้วทำไมผมจะกลับไปที่ค่ายเขี้ยวหมาป่าของผมไม่ได้?”
  ”หึ!”อีกฝ่ายยิ้มเยาะ “ชูฮันตายแล้ว ตอนนี้ค่ายเขี้ยวหมาป่าก็ไม่มีผู้นำ หรือนายจะกลับไปเพราะคิดจะไปยึดอำนาจ?”
  ”ไม่มีปัญหา!”เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ฉางกวนหลงก็รีบขัดขึ้นมา เขาสบตากับหลูปิงเซ่อ “บอกเหตุผลที่จะโน้มน้าวฉันได้มาสิ”
  คิ้วของหลูปิงเซ่อย่นขมวดเข้าหากันหลังจากผ่านพักหนึ่งก็พูดขึ้น “ข้อแรก หัวหน้าชูฮันยังไม่ตาย ข้อสอง ค่ายหนานตู้ไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกลูกผสม สถานที่ที่จริงๆที่มันต้องการโจมตีคือค่ายเขี้ยวหมาป่า”
  ”ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยล่ะ?”ทันทีหลังจากหลูปิงเซ่อพูดจบทั้งห้องประชุมก็ระเบิดเสียงหัวเราะสนั่น
  ”ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!จุดประสงค์ที่แท้จริงคือค่ายเขี้ยวหมาป่า?”   ”ค่ายเขี้ยวหมาป่าคิดจะเล่นเกมส์อะไรอีก?ที่จริงค่ายหนานตู้เป็นถึงสามอันดับของจีน”
  ”ตลกชะมัด!”
  ”แถมยังบอกอีกว่าชูฮันยังไม่ตาย?อย่าเอาแต่มองและพูดออกมาสิ!”
  เสียงที่ไม่เชื่อและดูถูกดังไล่ตามกันมาทำให้แววตาของหลูปิงเซ่อยิ่งตึงเครียดขึ้นไปอีก ฉางกวนหลงตกใจไปพักหนึ่งก่อนจะจ้องแววตาของหลูปิงเซ่อและอดไม่ได้ที่จะแสดงความสงสารออกมา
  เหนือความคาดหมายเขาไม่คิดเลยว่าหลูปิงเซ่อที่ดูจริงจังและมีความสามารถจะกลายเป็นคนไร้ความผิดชอบหลังจากชูฮันเสียไปแบบนี้
  หลูปิงเซ่อเองก็อ่านสายตาของฉางกวนหลงออกทันที…ดูเหมือนว่าการขอยืมเฮลิคอปเตอร์คงจะเป็นไปไม่ได้
  หลูปิงเซ่อสูดลมหายใจลึกมองไปรอบๆห้องประชุมอีกครั้ง จดจำหน้าตาของทุกคนที่หัวเราะดูถูกเอาไว้เงียบๆในใจก่อนจะแสยะยิ้มและพูดขึ้น “จำคำพูดของพวกคุณในวันนี้เอาไว้ให้ดี รอหัวหน้าชูฮันกลับมาที่ค่ายหนานตู้อีกครั้ง ฉันหวังว่าพวกคุณจะหยิ่งให้ได้อย่างตอนนี้ละกัน!”
  เงียบกริบ——
  ทุกคนตกใจไม่ใช่เพราะสิ่งที่หลูปิงเซ่อพูด แต่เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นท่าทางมุ่งมั่นและจริงจังขนาดนี้ของหลูปิงเซ่อ เพราะปกติหลูปิงเซ่อมักจะเป็นคนอารมณ์ดีเสมอ
  แต่วันนี้หลูปิงเซ่อกลับใช้น้ำเสียงจริงจังเพื่อเอาตัวรอด?