บทที่ 114**: ความโกรธของฮัวอวิ๋น**
ในขณะที่เจ้าอ้วนกำลังริเริ่มสร้างระฆังลมทองแดงขึ้นมาใหม่ นักบวชฮัวอวิ๋นกำลังทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับเขา ในตอนนี้เขากำลังถอดเหล็กสีดำออกอย่างระมัดระวัง
เขาไม่ค้นพบสิ่งลึกลับใด ๆ จากการสำรวจด้วยจิตวิญญาณของตน เพราะฉะนั้นเขาจึงตัดสินใจชำแหละระฆังใบนี้เสีย เขาบรรจงแกะมันออกความลึกไม่เกินหนึ่งนิ้วเพราะเกรงว่าจะพลาดสิ่งสำคัญไป
ระฆังใหญ่โตและหนักเป็นล้านจิน แม้ว่าจะนักบวชฮัวอวิ๋นจะอยู่ในระดับหยวนหยินก็ไม่สามารถแยกมันออกจากกันโดยง่าย โครงสร้างของมันใหญ่เกินไปและต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการแยกชิ้นส่วน
สวรรค์ช่วย นักบวชฮัวอวิ๋นเรียกศิษย์ระดับจินตันมาสองคนเพื่อช่วยเหลือในครั้งนี้ หลังจากที่ไม่ได้หลับนอนกันมาสองคืน ระฆังเหล็กดำถูกทำลายลงจากขนาดหนึ่งพันฟุตเหลือเพียงหนึ่งนิ้วเท่านั้น แต่อุปกรณ์วิญญาณที่พวกเขากำลังค้นหานั้นกลับไม่มี!
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ นักบวชฮัวอวิ๋นที่สูญเสียดาบวิญญาณห้าธาตุเริ่มกระวนกระวายใจ ใบหน้าของเขาคร่ำเครียดพร้อมกับจ้องมองไปยังศิษย์ที่มาช่วยอย่างอ่อนใจ เขากล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “พวกเจ้าค้นพบอะไรบ้างหรือไม่?”
“เรียนท่านอาจารย์ พวกเราไม่พบสิ่งใดเลยขอรับ!” ศิษย์ทั้งสองส่ายหัวอย่างหมดหนทาง
“พวกเจ้าไม่พบอะไรจริงหรือพวกเจ้ากำลังปกปิดข้าอยู่กันแน่!” นักบวชฮัวอวิ๋นตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล
เมื่อเห็นว่าอาจารย์สงสัยพวกเขา ศิษย์ทั้งสองตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว หนึ่งในนั้นรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ท่านอาจารย์ เราทั้งสองคนอยู่ภายในสายตาของท่านตลอดการทำงาน แล้วเหตุใดเราทั้งสองจึงจะมีความกล้าหาญที่จะเล่นตลกกับท่านได้กัน?!”
“ใช่แล้วท่านอาจารย์! เราเป็นศิษย์ที่มีแต่ความซื่อสัตย์ต่อท่าน แล้วเหตุใดจึงจะกระทำการไร้สาระเช่นนั้นได้?” อีกคนรีบกล่าวเสริมทันที “ข้าคิดว่ามันไม่มีอะไรซ่อนอยู่ข้างในตั้งแต่แรกแล้ว! ท่านอาจจะถูกเจ้าอ้วนนั่นล่อลวงเสียแล้ว!”
“ฮึม…” เมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นได้ยินเช่นนั้น คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่นเพื่อทบทวนว่าเกิดสิ่งใดขึ้นบ้าง
แท้จริงถึงแม้ว่านักบวชฮัวอวิ๋นมีอายุไม่กี่ร้อยปีแต่เขาก็มองเห็นสิ่งต่าง ๆ มามากมาย เขาถูกแต่งตั้งให้เป็นอาวุโสที่ฉลาดหลักแหลม ปกติแล้วลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเจ้าอ้วนไม่อาจล่อลวงเขาได้ แต่ในเวลานี้นักบวชฮัวอวิ๋นถูกความโลภครอบงำอย่างสมบูรณ์แบบ เขาหมกหมุ่นอยู่กับการค้นหาอุปกรณ์วิญญาณโดยลืมมองแผนการของเจ้าอ้วน ในตอนนี้เขาสงบลงแล้วและนึกถึงท่าทีของเจ้าอ้วนในวันนั้น ไม่ว่าเขาจะมองมันยังไงมันก็กลายเป็นเรื่องตลกอย่างแท้จริง!
เช่นนั้นนักบวชฮัวอวิ๋นจึงเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าเขาถูกเจ้าอ้วนหลอกเข้าให้แล้ว! เขาคำรามออกมาดังสนั่น “ไขมันที่บัดซบ! เจ้าไขมันบัดซบนั่นบังอาจมากที่กล้าลูกไม้กับข้า! มันทำให้ข้าติดกับดักในช่วงเวลาที่ข้าประมาท!”
เมื่อศิษย์ระดับจินตันได้ยินเช่นนั้น คิ้วของพวกเขาขมวดติดกันแน่นพร้อมกล่าวว่า “ท่านอาจารย์! พวกเราไม่อาจปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเฉย ๆ ได้! พวกข้าจะไปพบเจ้าอ้วนพร้อมกับขอคำอธิบาย!” ในขณะที่พวกเขากล่าวเช่นนั้น พวกเขาหันหลังพร้อมจะเดินออกไปทันที
“กลับมา!” นักบวชฮัวอวิ๋นเรียกพวกเขากลับมาอย่างขุ่นเคือง “การแลกเปลี่ยนนี้เสร็จสมบูรณ์ทุกประการโดยมีจ้าวสำนักและภรรยาของเขาเป็นพยาน นอกเหนือจากนั้นเราทั้งสองฝ่ายเต็มใจ ด้วยสถานะของข้า จะให้ข้ากลับไปแก้ไขได้อย่างไร! พวกเจ้าคิดว่าใบหน้าของข้ามันมีมากมายเท่าไหร่กันหรือ!?”
“แต่อาจารย์… เจ้าบ้านั่นมันหลอกลวงท่าน…” ศิษย์ทั้งสองกล่าวออกมาอย่างอาลัยอาวรณ์
“มันใช้คำพูดของมันและท่าทีต่าง ๆ เพื่อหลอกลวงข้า และมันก็ไม่ได้โกหกข้าแต่อย่างใด ในตอนนี้ข้าทำได้เพียงตำหนิความโลภของตนเองซึ่งเป็นสาเหตุให้ข้าถูกล่อลวงโดยง่ายเช่นนี้!” นักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาอย่างเศร้าโศก “ส่วนเจ้าอ้วนบัดซบนั่นแม้ว่ามันจะอายุน้อยแต่ทว่าฝีมือและสมองของมันช่างหลักแหลมยิ่งนัก!”
“แต่ท่านอาจารย์ อย่าบอกข้านะว่าท่านจะปล่อยให้เรื่องราวทั้งหมดนี้ผ่านไป?” ศิษย์ทั้งสองถามกลับอย่างปวดหัว “ดาบวิญญาณห้าธาตุเป็นอาวุธวิญญาณระดับสูง ดาบแต่ละใบที่ประกอบไปด้วยธาตุที่บริสุทธิ์ทั้งห้านั้นหาได้ยากยิ่ง และมันกำลังพัฒนาจิตวิญญาณของตนเอง ในอีกไม่กี่ร้อยปี มันจะกลายเป็นอุปกรณ์วิญญาณอย่างแท้จริง เหตุใดเราจึงปล่อยสิ่งของที่มีค่าเช่นนั้นให้กับเจ้าอ้วนบัดซบนั่นอย่างง่ายดาย?”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นักบวชฮัวอวิ๋นรู้สึกราวกับว่าถูกมีดปักเข้าที่กลางขั้วหัวใจของเขา ก่อนอื่นที่ต้องรู้คือ จิตวิญญาณแห่งธาตุทั้งห้าที่บริสุทธิ์นั้นไม่ได้หากันง่าย ๆ มันเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้จากการสะสมที่มากพอของจิตวิญญาณเท่านั้น ในรอบหนึ่งหมื่นปี จะมีปรากฏออกมาให้เห็นเพียงหนึ่งหรือสองครั้งเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่ที่จะสามารถกำเนิดพวกมันได้ นับว่าหาได้ยากยิ่งกว่า เรียกได้ว่าไม่มีอะไรที่ได้มาโดยง่ายเลย
ในช่วงชีวิตไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมา นักบวชฮัวอวิ๋นยังไม่เคยเห็นองค์ประกอบจิตวิญญาณทั้งห้าที่นำมาทำดาบชุดนี้ ในแต่ละบุคคลกับดาบแต่ละเล่มจะมีจิตวิญญาณที่สอดคล้องกัน เพียงแค่จุดนี้จุดเดียวก็สามารถดึงพลังของดาบออกมาใช้ได้อย่างมหาศาลแล้ว
นอกจากนี้จิตวิญญาณที่บริสุทธิ์นั้นมีพลังอยู่ในตนเอง ดังนั้นถ้าหากมันได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง แน่นอนว่าในอนาคตมันจะกลายเป็นอุปกรณ์วิญญาณอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากดาบวิญญาณห้าธาตุนั้นมีองค์ประกอบของจิตวิญญาณของธาตุทั้งห้า ผู้ที่ใช้มันจะต้องมีองค์ประกอบทั้งห้าอยู่ในร่างกาย ถ้าไม่เช่นนั้นความสามารถของดาบจะแสดงออกมาได้ไม่สมบูรณ์ เช่นผู้ฝึกตนธาตุอัคคีอย่างนักบวชฮัวอวิ๋นจะไม่สามารถใช้ดาบเหล่านี้ได้อย่างเต็มพลัง มีเพียงดาบที่เป็นธาตุอัคคีเท่านั้นที่เขาสามารถใช้มันได้ ส่วนธาตุที่เหลือก็ไม่ต่างกับปาหี่เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่เคยใช้มันมาก่อน
แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น นักบวชฮัวอวิ๋นก็ยังให้ความสำคัญกับดาบพวกนี้ ในครั้งแรกเขาต้องการนำมันไปแลกกับอุปกรณ์ชั้นสูงที่เหมาะสมกับตนเอง แต่เนื่องจากดาบนี้ต้องการผู้ใช้ที่มีองค์ประกอบทั้งห้า นักบวชฮัวอวิ๋นจึงไม่เคยพบเจอผู้ซื้อที่เหมาะสมสักครั้ง ดังนั้นเจ้าอ้วนจึงเหมาะสมที่จะทำการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ที่สุด
ตอนนี้นักบวชฮัวอวิ๋นได้สูญเสียทั้งแม่ไก่และไข่ไก่จนสิ้น เขาใช้ดาบอันล้ำค่าเพื่อแลกกับกองเหล็กขนาดยักษ์ แล้วเช่นนี้เขาจะสามารถแบกรับความเจ็บปวดนี้ไว้เฉย ๆ ได้อย่างไร?
แต่เป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักและอยู่ในระดับหยวนหยิน เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเอาใบหน้าของเขาออกไปเผชิญและค้นหาเจ้าอ้วนเอง แต่เขายังไม่ได้ประกาศออกไปว่าเขาถูกเจ้าอ้วนหลอกลวง ในที่สุดเขาก็นึกอะไรดี ๆ ออกพร้อมกับพูดอย่างเร่งรีบว่า “ตามข้ามาและไปพบจ้าวสำนัก ทั้งสองคนนี้จะต้องให้ความยุติธรรมกับข้าได้แน่! พวกเขารวมหัวกันหลอกลวงข้า!” หลังจากกล่าวจบ เขาสะบัดมือและเก็บเศษเหล็กขนาดใหญ่พร้อมกับออกไปยังสถานที่ของจ้าวสำนักทันที
ในเวลาเพียงชั่วครู่ นักบวชฮัวอวิ๋นเดินทางมาถึงลานของจ้าวสำนักและภรรยา
เมื่อมองเห็นใบหน้ากระวนกระวายใจของนักบวชฮัวอวิ๋น จ้าวสำนักและภรรยาของเขาจ้องมองมาเพื่อเป็นการถามว่าเขามาที่นี่ด้วยเหตุใด และคิดในใจว่าน่าจะเป็นเพราะระฆังใบนั้นอย่างแน่นอน
เห็นนักบวชฮัวอวิ๋นเดินเข้ามาด้วยความโกรธเคืองและดวงตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟันจากการอดหลับอดนอนถึงสองวัน จ้าวสำนักรู้สึกมีความสุขมากที่ได้เห็นใบหน้าเช่นนี้ของนักบวชฮัวอวิ๋น เขากล่าวต้อนรับอย่างร่าเริง “ไอหย๋า นี่ใช่ศิษย์น้องฮัวอวิ๋นหรือไม่? เจ้าค้นพบอุปกรณ์วิญญาณหรือไม่? แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”