บทที่ 506 มองย้อนกลับไป (2)
[อังกฤษ – ป่าแห่งอดีตกาล]
ในขณะเดียวกันแม้ความวุ่นวายทั้งหมดจะเกิดขึ้นที่แอฟริกา อีเวนเดล, อาแฮอิน และ เรเชล ก็มาถึงป่าในอังกฤษพร้อมกับ ฮายัง
“ว้าว….”
พวกเธออยู่ใน ‘เขตอันตรายอันดับที่ 1’ เรียกว่า ป่าแห่งอดีตกาล
“อีเวนเดล เธอจำสิ่งที่เธอต้องทำเพื่อสร้างเครือข่ายส่วนตัวแล้วหรือยัง” อาแฮอิน ถามในป่าที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ระดับสูง
อีเวนเดล ผู้อยู่ในชุดฝึกฝน สงสัยสักก่อนจะพูดออกมา
“หนูต้องเข้าใจธรรมชาติภายในเครือข่ายก่อน!”
“อืมมมมม เธอผิดแล้ว.”
อาแฮอิน ส่ายหัวของเธออีเวนเดล สับสน แต่ไม่ช้าก็เกิดคำตอบขึ้นอีก
“งั้น…หนูต้องผูกมิตรกับธรรมชาติภายในเครือข่าย!”
“ยังไง? เธอจะเป็นเพื่อนกับมันได้ยังไง”
“อืม…นั่นก็….”
อีเวนเดล เหลือบมองไปที่ เรเชล เพื่อขอความช่วยเหลือจากเธอ
“…ฮืออ…ฮืออ,ฮืออ….”
อย่างไรก็ตามเรเชลหมกมุ่นอยู่กับความเสียใจที่เธอกำลังจะลาจาก
อีเวนเดล เด็กน้อยจับมือเรเชลเบาๆ
“เธอไม่ต้องพยายามหรอก คำตอบนั้นก็ผิดเช่นกัน”
อาแฮอิน ยิ้มและลูบหัวของ อีเวนเดล
“สิ่งแรกที่เธอควรทำก่อนสร้างโดเมนส่วนตัวคือ…”
เธอเงยหน้าขึ้นและมองออกไปรอบๆ ธรรมชาติ ต้นหญ้า ต้นไม้และลำธารล้วนเต็มไปด้วยพลังเวทมนต์ ดินแดนนี้จะสร้าง
‘เครือข่ายของจอมเวทย์’ ที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาได้อย่างแน่นอน
“…ซื้อที่ดิน”
“…เอ้?”
แน่นอนว่าเด็กน้อยเต็มไปด้วยความสับสน
“ก่อนอื่นเธอต้องทำให้แผ่นดินนี้เป็นของเธออย่างถูกกฎหมาย แม้แต่
จอมเวทย์ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย”
“ อืม…แล้ว….”
“แต่เธอไม่จำเป็นต้องกังวล อีเวนเดล”
อาแฮอิน บิดคำพูดของเธออีกครั้ง อีเวนเดล ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“จากที่นี่ไปถึงที่นั่นดินแดนทั้งหมดถูกซื้อแล้วทั้งหมด โดยคิมฮาจิน”
“…หา?”
คิ้วของ อีเวนเดล สั่นคลอนอาแฮอิน ยิ้มแย้มแจ่มใส ถ้าให้พูดจริงๆ
คิมฮาจิน ไม่ได้ซื้อที่ดินนี้ แต่มันถูกซื้อโดย ‘เงิน’ ของคิมฮาจิน จนถึงตอนนี้ คิมฮาจิน ได้จ่ายเงินให้เธอถึง 40 พันล้านวอนสำหรับบทเรียนของ อีเวนเดล อาแฮอินซื้อที่ดินนี้ในนามของคิมฮาจิน
“เธอพร้อมที่จะเริ่มหรือยัง?”
“คะ!”
อีเวนเดล พยักหน้าด้วยรอยยิ้มอันยิ่งใหญ่
“ดี. ตอนนี้อย่าหยุดละเรียกสัตว์ของเธออกมา”
“ฮาาาาา… .”
อีเวนเดล หลับตาลงแล้วสูดหายใจเข้าลึกๆจากนั้นเธอก็นั่งลงบนพื้นพร้อมเขียนลงบนหญ้าจากลายมืออันเป็นเอกลักษณ์ของเธอข้อความที่เขียนคือ ‘มาหาฉัน’
“งานต่อไปของเธอง่ายมาก คุณจะต้องรวมดินแดนนี้ด้วยความช่วยเหลือจากสัตว์ของเธอ ในขณะที่เธอก็ตเองอาศัยอยู่ในธรรมชาติพร้อมกับสัตว์ป่าวิญญาณและเมื่อเธอสร้างสิ่งใหม่ๆให้ดินแดนนี้จนมันยอมรับเธอในฐานะเจ้าของที่ถูกต้อง “
อีเวนเดล พยักหน้าดวงตาทั้ง 2 ของเธอปิดแน่นเธอจดจ่อกับการเปล่งพลังเวทมนต์ของเธอถึง 5 นาที การสั่นสะเทือนดังมาจากที่ไกลๆ
สัตว์วิญญาณจำนวนนับหมื่นที่ อีเวนเดล ปล่อยออกมากลับมาหาเธอ
“พวกเขากำลังมาแล้ว.”
“…ใช่.”
ทั้ง อาแฮอิน และ เรเชล รอคอยคลื่นของสัตว์ร้ายปรากฎ
ตู้มมม…แรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยกลายเป็นเสียงคำรามดังกึกก้อง
ท่ามกลางเสียงฝีเท้าอันตระหง่านจนกลบโลกทั้งใบ ผู้ใหญ่ทั้ง 2 ต่างก็ตกใจเมื่อเห็นสัตว์วิญญาณของ อีเวนเดล เข้ามาใกล้ๆ
สัตว์วิญญาณล้อมรอบ อีเวนเดล กระต่าย สิงโต เสือ ม้า ฮิปโปโปเตมัสหมาป่า….สัตว์วิญญาณนับไม่ถ้วนก่อตัวเป็นวงกลมขนาดใหญ่รอบ
อีเวนเดล
ใครจะโชคดีได้เห็นปรากฏการณ์เช่นนี้ ปกติแล้วแม้แต่ครั้งเดียวในชีวิตก็ไม่มีทาง
“ …ตอนนี้ ลืมตาของเธอขึ้นมา”
อีเวนเดล ลืมตาของเธอเธอมองดูสัตว์ร้ายรอบตัวเธอและยิ้มอย่างซุกซน
“ให้พวกเขา ท่องไปรอบๆอย่างอิสระ สัตว์วิญญาณของเธอจะรวบรวมเครือข่ายให้กับเธอ”
“ได้เลยยยยค่า!”
อีเวนเดล ปล่อยให้สัตว์ป่าวิญญาณของเธอออกไปวิ่งเล่น
เสียงฝีเท้า เสียงคำราม เสียงกระพือ
สัตว์วิญญาณของเธอกระโดดขึ้นไปในอากาศแล้ววิ่งไปตามพื้นดินทิ้งร่องรอยไว้ทั่วธรรมชาติโดยรอบ
*************************************************************************
ผมตื่นขึ้นมาในห้องมืด ผมรู้สึกได้ถึงฟูกที่นุ่มสบาย
“… ?”
ไม่นานผมก็กระพริบตา 2-3 ครั้งและประเมินสถานการณ์ ผมเต็มไปด้วยความสับสน ผมจำได้ว่าเกิดระเบิดครั้งใหญ่ แต่ผมไม่ได้บาดเจ็บ จริงๆแล้วหัวของผมรู้เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนกว่าที่เคยด้วยซ้ำอาจเป็นเพราะ ลูกแก้วพื้นฟู แต่ก็ยังแปลกๆที่ผมรู้สึกสดชื่นขนาดนี้เป็นเพราะผมได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพองั้นเหรอ? หรือนี่เป็นเพราะโชคของผมด้วย?
“นายตื่นแล้วเหรอ”
เสียงรบกวนความคิดของผม ผมเอียงศีรษะไปด้านข้างเล็กน้อย ผมเห็นชายรูปงามคนหนึ่งที่ดูเหมือนเลโกลัสจาก The Lord of the Rings
สูบบุหรี่ซิการ์อยู่ตรงนั้น
“…นายอีกแล้ว”
ผมรู้จักชายคนนี้
เบลล์.
แต่ดวงตาของเขาไม่มีความเป็นศัตรู แววตาของเขาทำให้เขาดูน่าสนใจทีเดียว
“ตอนนี้นายจะทำอะไรอีก?” ผมถาม
เบลล์พูดช้าๆแล้วลูบรอยคล้ำใต้ตาของเขา
“อ้อ ไม่มีอะไรใหญ่โต ฉันแค่ดูที่ความทรงจำของนาย…ด้วยความสามารถขั้นสูงสุดของฉัน ประมาณ 10 นาทีหรือมากกว่านั้น”
“…อะไรนะ?”
“กลายเป็นว่าฉันไม่สามารถรักษาสภาพมันได้นานกว่า 10 นาที
ความทรงจำของนายซับซ้อนเกินไป ดังนั้นฉันเห็นเพียงเล็กน้อยที่นี่และที่นั่น อายุ่งยากจริงๆ”
“ไม่ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉัน”
ผมขมวดคิ้ว ผมเคยฆ่าเบลล์ครั้งหนึ่งในหอคอย ผมจำได้อย่างชัดเจนว่าผมยิงปืนใส่หัวเขาดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะมีทักษะขั้นสูงสุด
“ฉันฆ่านายไปแล้วครั้งหนึ่งในหอคอยนี้น่า?”
“…อ้า~ ใช่แล้วมันเกิดขึ้น แต่นายไม่สามารถฆ่าฉันได้ ร่างกายของฉันประกอบด้วยพลังเวทมนต์ ต้องขอบคุณพรสวรรค์ของฉัน
[ร่างกายเวทมนต์] ฮาฮ่า~”
เบลล์หาวและพูดเหยียดๆในเวลาเดียวกัน
“ไม่… แต่ฉันฆ่านายจริงๆ”
“… อืม? อา ~ คุณพูดถูก พลังต่อต้านเวทมนต์ของนายทำลาย
‘พลังเวทย์’ ของฉัน แต่มันก็ไม่สามารถทำลายพลังของฉันได้นี้น่า”
“อืม…บอกฉันเพิ่มอีกหน่อยสิ”
“ฮ่าฮ่า” เบลล์หัวเราะดังๆและอธิบายต่อไปว่า “ฉันกำลังบอกว่านายควรคิดว่าฉันเป็น ‘ธรรมชาติ’ ของโลกใบนี้ ฉันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เหมือนลมที่พัด ฝนที่ตกและดอกไม้ที่บาน ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเช่นกัน ดังนั้นเมื่อฉันตายธรรมชาติจะจัดการชีวิตของฉันใหม่โดยอัตโนมัติ ปรากฏการณ์นี้เป็นไปได้เพียงเพราะฉันสร้างขึ้นจากพลังเวทมนต์ทั้งหมด”
“… .”
“ฉันตายไม่ได้ ฉันเป็นอมตะอย่างแท้จริง”
ผมพูดไม่ออก
ร่างกายเวทมนต์ อยู่ในเนื้อเรื่องดั้งเดิมของผมแม้ว่าในที่สุดผมจะเอามันออกไปเพราะรู้สึกว่ามันโกงเกินไปแต่ถึงกระนั้นการ ‘คืนชีพ’ ก็ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของ ร่างกายเวทมนต์เมื่อผมหันกลับมามองไปที่เบลล์
ผมก็สงสัยว่าเขายิ้มให้ผมทำไม
“ยังไงก็ตามนายไม่อยากรู้เกี่ยวกับความจริงที่ว่าฉันดูความทรงจำของนายถึงไหนงั้นเหรอ”
“…หา?”
หัวใจของผมจมดิ่งลงความจริงที่ว่าเขาอ่านความทรงจำของผมนั่นหมายความว่าตอนนี้เบลล์รู้ความลับทั้งหมดของผมแล้ว
“ใช่นั่นคือวิธีที่ นายควรตอบฉันมา”
เบลล์ยิ้มแล้วนั่งลงข้างๆผม
“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมี ผ้ข้ามมิติคนอื่นนอกเหนือจาก จินซาฮยอค และ คิมซูโฮ”
“…ผู้ข้ามมิติ?”
สิ่งที่เบลล์พูดนั้นแปลกๆตอนแรกผมสับสน แต่ไม่นานผมก็รู้ว่าเขาตีความความทรงจำของผมในแบบที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
“ใช่ ผู้ข้ามมิติ คิมฮาจิน และ คิมชุนดง เหมือนกัน แต่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง นั่นคือเหตุผลที่จินซาฮยอค คิดว่านายเป็นคนรับใช้ของเธอ
คิมชุนดง ซึ่งเป็นร่างกายของนายกลายเป็นคนรับใช้ ‘ไคด์สปริง’ ของ
จินซาฮยอคใน อคทรีน่า
“… .”
“ฉันเข้าใจเรื่องนั้นเป็นอย่างดี ฉันยังเห็นโลกที่นายจากมา แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่านายมาที่นี่ได้ยังไงเพราะข้อมูลนั้นถูกป้องกันเอาไว้อย่างดี”
ผมไม่ได้พูดอะไรและจ้องมองไปที่เบลล์
“โลกอื่นๆในเอกภพคู่ขนาน มันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม”
เบลล์ยิ้มสบายๆ ผมมองดวงตาสีฟ้าเข้มของเบลล์ ชายผู้นี้ที่ไม่ได้อยู่ในนิยายที่ผมแต่ง เขาคืออะไรกันแน่?
“…นายต้องการที่จะรู้ว่าฉันเป็นใครงั้นเหรอ?”
เบลล์พึมพำราวกับว่าเขาอ่านใจของผมได้
“นายจะให้คำตอบกับฉันไหมละ ถ้าฉันถาม”
“แน่นอน ให้สิ ฉันค้นหาตัวตนของนาย ตอนนี้นายก็ควรรู้ว่าฉันเป็นใคร”
ผมมองเบลล์เหมือนกำลังพูดว่า ‘ตาฉันบอกแล้ว’
“โอเค แต่ก่อนอื่นนายเคยได้ยินเรื่อง ‘บาอัล’ หรือเปล่า?”
ผมตัวแข็งค้าง
บาอัล
นั่นคือชื่อของปีศาจอันดับ 1 ในหมู่ 72 ปีศาจโซโลมอน เขาเป็นซาตานที่ได้รับความนิยมและมีอำนาจมากที่สุด
“งั้นนายก็รู้สินะ ถ้าอย่างนั้นนายก็ควรรู้ว่า มารที่จะลงมาบนโลกเขาต้องการร่างอวตารใช่ไหม?”
เบลล์ยิ้ม ผมฟังเบลล์ด้วยความงุนงง
“ณ จุดนี้นายอาจคิดว่าฉันไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไง ก็ฉันเองที่เป็นร่างอวตาลของ บาอัล ฉันเหลือเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น อีก 6 เดือนบาอัลจะเกิดในหัวของฉัน”
มันเป็นการประกาศที่รวดเร็วและน่าตกใจเกิดไป
“…แล้ว?”
เบลล์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นปฏิกิริยาไม่แยแสของผม
“แล้ว? ฉันพูดว่าฉันจะเป็น บาอัล เลยนะ เมื่อฉันกลายเป็นบาอัล
โลกก็ถึงจุดจบ นายเองก็ไม่สามารถฆ่าฉันได้”
“…แล้วไง?”
ถึงอย่างนั้นผมก็ยังใจเย็น
เหตุผลนั้นก็ง่ายมาก ผมรู้ว่าผมมาที่นี่เนื่องจาก
[การสะสมโชคชะตา] ที่เกิดขึ้นระหว่างการระเบิดและผมยังสามารถเห็นประโยค [นี่คือโชคร้ายชั่วขณะที่จะนำไปสู่จุดจบที่ดีที่สุด]
ในหน้าต่างระบบของผม
กล่าวก็คือการพบกับเบลล์เป็นผลมาจาก ‘โชคชะตะ’ อย่างแท้จริง
“…เฮ้อออออออออออออออ.”
ในที่สุดเบลล์ถอนหายใจออกมา
“โอเคๆ ฉันจะพูดถึงเป้าหมายเลยก็แล้วกัน แต่ก่อนอื่น.”
แววตาของเบลล์จริงจังขึ้นมา
“…ชุนดง.”
เบลล์เรียก คิมชุนดง เขาเป็น 1 ใน 2 คนบนโลกนี้ที่รู้จัก คิมชุนดง
“คิมชุนดง”
นอกจากนี้เขายังเป็นคนเดียวที่รู้ถึงการดำรงอยู่ของ คิมชุนดง
[เพื่อตอบสนองต่อชื่อที่ขาน การซิงค์โครของคุณกับ ‘คิมชุนดง’ เพิ่มขึ้น]
บางสิ่งในใจของผมตอบสนองต่อเสียงของเบลล์ ผมจ้องมองเบลล์และ เบลล์และก็ถามผมว่า
“คุณคิดว่า…นายจะสามารถหักหลัง บยอล ได้ไหม?”
เขาถามผมว่าผมสามารถทรยศบอสได้หรือไม่ได้!!!