EG บทที่ 707 ไม่ได้เปล่าประโยชน์

 

เฝิงหยู่ไม่สนว่าตัวองจะถูกเอาเปรียบเพราะตอนนี้บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงแล้ว ยานี้จะได้รับความนิยมถ้าขายภายใต้ชื่อแบรนด์นี้ นอกจากนี้ บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงยังมีนักวิจัยจำนวนมากและสามารถพัฒนาสูตรและทำการทดลองทางคลินิกได้เร็วขึ้นด้วย

 

นอกจากนี้ กฎระเบียบของจีนเกี่ยวกับยาก็ไม่ได้เข้มงวด เฝิงหยู่จะได้รับการอนุมัติเร็วกว่าไฟเซอร์และเริ่มการผลิตได้เลย เขาจะสามารถยื่นขอจดสิทธิบัตรและทำให้ยาของไฟเซอร์เข้าสู่ตลาดช้าลงได้ บริษัทเภสัชกรรมเมืองปิงจะเป็นบริษัทแรกที่พัฒนาและผลิตยานี้

 

ถ้าเป็นบริษัทยาเล็กๆ สักแห่ง คงยากที่จะจัดการเรื่องพวกนี้ นอกจากนี้ เฝิงหยู่ก็ไม่ได้ขาดทุนอะไรมากนักด้วย ข้อมูลการวิจัยพวกนั้นเป็นเพียงเอกสารอ้างอิงและมีความรู้ด้านเทคนิคในการผลิตยานี้

 

หลังจากการพูดคุยจบลง เฝิงหยู่ยังคงนั่งไขว้ห้างบนโซฟา

 

“ทำไมคุณถึงยังไม่กลับ? ถ้าคุณต้องการทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารของเราที่นี่ ก็โอเค แต่อย่าคิดว่าจะได้สั่งอาหารราคาแพงล่ะ”

 

“แหมมม……คุณเป็นถึงนายกเทศมนตรี ทำไมทำท่าขี้งกแบบนี้ล่ะครับ คุณคิดว่าผมไม่มีปัญญาจ่ายค่าอาหารให้ตัวเองได้หรอ?” เฝิงหยู่ตอบอย่างหยิ่งยโส

 

“แล้วคุณต้องการอะไรจากผม? ใกล้จะสิ้นปีแล้วและผมก็ยุ่งมาก ผมยังต้องเข้าร่วมการประชุมอีกเยอะ” จางรุ่ยเฉียงขมวดคิ้ว เขารู้จักเฝิงหยู่เป็นอย่างดี และรู้ว่าเฝิงหยู่ต้องการอะไรสักอย่างแน่ๆ

 

ถ้าเป็นเรื่องที่ดี เฝิงหยู่จะรีบชิงพูดก่อนหน้านี้นานแล้ว

 

“รัฐบาลเมืองให้สวัสดิการแก่พนักงานของคุณในช่วงเทศกาลตรุษจีนหรือเปล่าครับ?”

 

“แล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับคุณ? คุณถามให้ลูกพี่ลูกน้องของคุณงั้นหรอ?  คุณคุ้นชินกับการอวดร่ำอวดรวยไม่ใช่หรอ? ตอนนี้ลูกพี่ลูกน้องของคุณก็กำลังเดินตามรอยเท้าของคุณเหมือนกัน เขาเป็นแค่หนึ่งในสมาชิกเจ้าหน้าที่รุ่นน้อง และเขาก็ขับรถไปทำงานใช่ไหม? เขาขับรถซงเจียงโอลิมปิกด้วย”

 

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จางรุ่ยเฉียงก็โมโห ในตอนแรกเขาก็รู้สึกดีกับลูกพี่ลูกน้องของเฝิงหยู่และพยายามช่วยเหลือเขาด้วยการย้ายเขาไปทำงานให้กับเลขาของเขา เขายังคิดที่จะเลื่อนตำแหน่งให้ในปีนี้ด้วย

 

แต่ลูกพี่ลูกน้องของเฝิงหยู่คนนี้ขับรถไปทำงานและไม่ได้อาศัยอยู่ในห้องพักที่ทางเมืองจัดเอาไว้ให้ เขาซื้ออพาร์ตเมนต์ส่วนตัวหลังใหม่เองซึ่งอยู่ติดแม่น้ำเมืองปิง เขาได้ยินมาว่าพื้นที่ห้องของอพาร์ทเมนต์หลังนั้นใหญ่กว่าห้องพักสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับผู้อำนวยการอีก

 

นอกจากนี้ เขายังมีโทรศัพท์มือถือด้วย หัวหน้าแผนกหลายคนในรัฐบาลยังไม่มีแม้แต่วิทยุติดตามตัวเลย

 

เฝิงหยู่ก็พูดไม่ออกเหมือนกัน พ่อของเขาเป็นคนให้ของพวกนี้แก่ลูกพี่ลูกน้องของเขาเอง ถ้าเขาไม่ห้ามพ่อเอาไว้ ป่านนี้พ่อคงจะให้รถซงเจียงโอลิมปิกรุ่นหรูหรากับลูกพี่ลูกน้องของเขาไปแล้ว ซึ่งนั่นคือรุ่นที่เป็นรถประจำตำแหน่งของนายกเทศมนตรี

 

ส่วนอพาร์ทเมนต์หลังนั้นพ่อของเฝิงหยู่ก็เป็นคนซื้อเอง เขาบอกว่าถ้ามีอพาร์ทเมนต์ขนาดใหญ่ ลูกพี่ลูกน้องของเขาจะสามารถหาแฟนได้ง่ายขึ้น ตอนนี้ในฐานะข้าราชการจากครอบครัวที่ร่ำรวยและแถมยังมีรถส่วนตัว จะเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเขาที่จะมีแฟน ผู้นำหลายคนในรัฐบาลเมืองต้องการแนะนำลูกสาวหรือหลานสาวของพวกเขาให้กับเขา

 

เฝิงหยู่ยิ้ม “นั่นคือรถยนต์ส่วนตัวของเขา เขาใช้เงินของตัวเองจ่ายค่าน้ำมันและเรื่องนี้ก็ไม่ได้ขัดกับกฎระเบียบอะไรนิครับ อีกอย่างพ่อผมก็เป็นคนซื้อรถให้เขา ผมก็ห้ามเขาไม่ได้เหมือนกัน คุณบอกว่ารัฐบาลเมืองไม่มีรถโดยสารรับส่งไม่ใช่หรอครับ? ตอนนี้บริษัทเครื่องจักรเมืองปิงสามารถผลิตรถโดยสารได้แล้ว คุณต้องการสั่งซื้อรถโดยสารสัก 8 หรือ 10 คันสำหรับเมืองมั้ยครับ?”

 

จางรุ่ยเฉียง “……” เฝิงหยู่ทำกับรัฐบาลเมืองเหมือนกับว่าเป็นลูกค้าประจำของเขา เขาพยายามขายสินค้าทุกครั้งที่เขามาที่นี่

 

“เราไม่ได้จะซื้อรถ มีอีกเรื่องหนึ่ง…… แต่ช่างมันเถอะ คุณต้องการจะบอกอะไรกับผมอีก?” จางรุ่ยเฉียง หยุดกลางคัน

 

ให้ตายสิ ทำไมคุณถึงไม่พูดในสิ่งที่คุณต้องการจะพูดให้จบล่ะ? ทำแบบนี้คนอื่นก็อยากรู้สิ

 

เฝิงหยู่มองหน้าจางรุ่ยเฉียงและยังคงแสดงทีท่ากระตือรือร้นเหมือนเป็นพนักงานขาย “​​ซื้อบัตรช้อปปิ้งไท่หัวของเราให้เป็นของขวัญสวัสดิการสำหรับพนักงานรัฐบาลเมืองก็ได้นะครับ ผมจะให้ส่วนลดคุณ 2%”

 

จางรุ่ยเฉียงหันหลังและเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ “เสี่ยวหลิว ส่งแขกด้วย”

 

“เอ๊ะ อย่าทำแบบนี้สิครับ เรากำลังคุยกันสนุกอยู่เลย สรุปแล้วรัฐบาลไม่ได้ให้ของขวัญวันตรุษจีนหรอครับ? บัตรช้อปปิ้งซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวดีมั้ยครับ? วิธีนี้ถูกกว่าด้วยนะครับ สินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็มีราคาถูกด้วยและมีผลิตภัณฑ์ให้พนักงานของคุณเลือกมากมาย ดีกว่าที่คุณแจกเนื้อสัตว์ ข้าว และของอื่นๆ ตั้งเยอะ”

 

จางรุ่ยเฉียงจ้องหน้าเฝิงหยู่ “ปีก่อนหน้าปีที่แล้วคุณก็โปรโมทน้ำมันปรุงอาหารระดับพรีเมี่ยมไท่หัวของคุณ เมื่อปีที่แล้วก็หมูเทียนเผิงของคุณ พอมาปีนี้คุณก็พยายามช่วยเคลียร์สต๊อกของเหลือในซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวของคุณงั้นหรอ?”

 

“คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไรนะครับ? ผมเคยมีสินค้าเหลือตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ธุรกิจของซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัว นั้นยอดเยี่ยมมากและคนทั้งเมืองก็รู้ดี!”

 

“ถูกต้อง แม้แต่ซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าของรัฐยังต้องดิ้นรนเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดเลย” จางรุ่ยเฉียงตอบด้วยความโกรธ

 

ห้างสรรพสินค้าของรัฐแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในเมืองและพยายามลอกเลียนแบบซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวโดยการเปิดซูเปอร์มาร์เก็ต แต่ไม่นานหลังจากเปิดก็ประสบปัญหา

 

จางรุ่ยเฉียงบอกให้ลูกน้องไปตรวจสอบและพบว่าเป็นเพราะซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวที่พุ่งเป้ามาที่พวกเขา สินค้าทั้งหมดที่ขายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวมีราคาถูกกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตของรัฐ ซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวยังมาแจกใบปลิวที่ด้านหน้าซูเปอร์มาร์เก็ตของรัฐด้วย

 

แม้ว่าพวกเขาจะเป็นคู่แข่งกัน แต่ก็ไม่ควรหักหน้ากันแบบนี้ ธุรกิจของซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวดีมาก ทำไมพวกเขาถึงไม่ยอมให้ธุรกิจของคนอื่นอยู่รอดได้บ้างล่ะ? ปีนี้รัฐบาลเมืองจะมอบของขวัญสวัสดิการให้กับพนักงานของพวกเขา แต่พวกเขาจะซื้อของขวัญทั้งหมดที่ซูเปอร์มาร์เก็ตของรัฐ พวกเขาจะไม่ไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัว

 

“แต่มันก็เป็นการแข่งขันที่เป็นธรรมนะครับ เราเป็นต้นฉบับและพวกเขาก็เป็นคนลอกเลียนแบบ คุณจะจัดกลุ่มให้พวกเราอยู่ด้วยกันได้ยังไง และคุณก็ไม่ควรพูดว่าราวกับว่าเรากำลังกดพวกนั้นไม่ให้ลืมตาอ้าปากได้นะครับ กิจการของพวกเขาไม่ดีเองอาจเป็นเพราะปัญหาการบริหารจัดการของพวกเขาหรืออาจมีบางอย่างผิดปกติกับการทำตลาดของพวกเขาก็ได้” เฝิงหยู่ตอบอย่างมั่นใจ

 

ปัญหาการบริหารจัดการหรอ? ผู้จัดการของซุปเปอร์มาร์เก็ตของรัฐถูกซื้อตัวไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัว ของคุณเพื่อเป็นผู้จัดการประจำร้าน คุณเสนอเงินเดือนให้เขามากกว่าสองเท่าและผู้จัดการหลายคนจากแผนกการเงินและคลังสินค้าก็ไปอยู่ข้างคุณหมดแล้ว แล้เราจะจัดการซูเปอร์มาร์เก็ตของเราให้ดีได้ยังไง?

 

ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตของรัฐแย่ลงและห้างสรรพสินค้าก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน จางรุ่ยเฉียงรู้สึกผิดหวัง เขาตั้งความหวังไว้สูงมากสำหรับห้างสรรพสินค้าแห่งนี้

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เมืองปิงก่อตั้งห้างสรรพสินค้า ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีกว่าและมีการปรับปรุงใหม่และบริการลูกค้าที่ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ธุรกิจนั้นแย่ยิ่งกว่าห้างสรรพสินค้าเก่าๆ พวกนั้นอีก

 

ความน่าจะเป็นที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือเป็นเพราะซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัว พวกเขาจ้างเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารทั้งหมดจากซูเปอร์มาร์เก็ตของรัฐและซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวก็ตั้งอยู่ใกล้กับพวกเขามาก

 

“ถ้าเป็นการแข่งขันที่ยุติธรรม คุณก็เลิกจ้างคนของเราสิ”

 

“พวกคุณไม่สามารถให้เงินเดือนที่สูงกว่าแก่พวกเขาได้เอง แต่คุณยังต้องการห้ามไม่ให้พวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้นอีกหรอครับ? พวกเขามีครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดู แล้วพวกเขาผิดอะไรที่พยายามจะหารายได้ให้ได้มากขึ้น? หากซูเปอร์มาร์เก็ตของรัฐไม่สามารถอยู่รอดได้อีกต่อไป ผมสามารถให้คำแนะนำได้นะครับ ก็คือปิดแล้วย้ายไปที่อื่นซะ เช่น บริเวณใกล้กับมหาวิทยาลัย ธุรกิจจะได้ดีขึ้นไงครับ”

 

จางรุ่ยเฉียงมองหน้าเฝิงหยู่อย่างสงสัย “ย้ายไปอยู่แถวใกล้กับมหาวิทยาลัยแล้วจะดีขึ้นงั้นหรอ?”

 

“แน่นอนครับ ไม่ใช่มหาวิทยาลัยไหนก็ได้นะครับ ทำเลที่ตั้งใกล้กับมหาวิทยาลัยหลงเจียงก็ไม่เลวนะครับ มีโรงเรียนหลายแห่งในละแวกนั้น แม้ว่ามันจะใกล้ไปหน่อย แต่ก็มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่น ตรงนั้นเป็นสถานที่ที่ดีในการสร้างห้างสรรพสินค้า”

 

“ไม่เป็นไร ไว้เราค่อยคุยถึงเรื่องนี้กันอีกครั้ง คุณมีอะไรกับผมอีกมั้ย?”

 

“มีอีกเรื่องหนึ่งครับ คือผมรู้มาว่าเมืองจะย้ายผู้อยู่อาศัยในพื้นที่สองแห่งนี้ จะมีการประมูลขายที่ดินหรือเปล่าครับ? ถ้าขายให้กับซุปเปอร์มาร์เก็ตไท่หัวได้มั้ยครับ? เราจะสร้างห้างสรรพสินค้าไฮเปอร์มาร์เก็ตที่นั่นและผมรับประกันได้ว่าพื้นที่ทั้งสองแห่งนี้จะกลายเป็นย่านการค้าที่คึกคักเลยทีเดียว”

 

จางรุ่ยเฉียงมองหน้าเฝิงหยู่ด้วยความโกรธ คุณคิดว่าผมไม่รู้หรอว่าพื้นที่ทั้งสองแห่งนี้เหมาะที่จะสร้างห้างสรรพสินค้า? ทำไมเราต้องขายที่ดินให้คุณด้วย? แต่จางรุ่ยเฉียงคิดอยู่พักหนึ่ง ดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบริหารจัดการห้างสรรพสินค้าที่รัฐเป็นเจ้าของ แม้แต่ห้างสรรพสินค้าในทำเลที่ดีที่สุดของเมืองก็กำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด หากเมืองสร้างและบริหารจัดการห้างสรรพสินค้าของพวกเขาเองในพื้นที่ใหม่ พวกเขาอาจเจอกับการขาดทุนอย่างหนักก็ได้ ถ้าเมืองขายที่ดินและผลประโยชน์ เมืองยังสามารถเรียกเก็บภาษีในอัตราสูงได้ทุกปีหลังจากนั้น

 

“เราจะประมูลที่ดินทั้งสองแห่งนี้หลังตรุษจีน ผมจะแจ้งให้คุณทราบวันเวลาที่แน่นอนอีกที ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้ว ก็กลับไปได้ละ”

 

เฝิงหยู่หยิบถ้วยชาขึ้นมาแล้วดื่มอึกใหญ่จนหมด จากนั้นเขาก็ค่อยๆ กลับออกไป การเดินทางไปที่สำนักงานของนายกเทศมนตรีครั้งนี้ไม่ได้เปล่าประโยชน์จริงๆ