หกยอดฝีมือเทพเชวียน เจ็ดยอดฝีมือสวรรค์เชวียนสูงสุด และสองสวรรค์เชวียนกลาง ! นี่คือกองกำลังที่น่าสะพรึ่งอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับ นครเทียนเชียง !
เหตุใด นครพายุหิมะสีเงินถึงส่งยอดฝีมือมากมายเช่นนี้ ? แม้แต่ก้นของจวินโม่เซี่ยก็สามารถคิดคำตอบของคำถามนี้ได้ … กองกำลังนี้ถูกเรียกมาเพื่อจัดการกับสกุลจวิน จักเห็นผู้ใดอื่นได้อีก ? พวกเขาเคลื่อนกองกำลังนี้เนื่องจาก แปดยอดปรมาจารย์ผู้หนึ่ง เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว ได้เข้ามาพำนักอยู่ในสกุลจวิน
หากความแข็งแกร่งเช่นนี้ผนวกรวมกัน ก็สามารถใช้เพื่อเอาชนะเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวได้ !
จวินโม่เซี่ย ควบคุมเคลHดอิสระหยินหยางของเขาอย่างระมัดระวังและเข้าไปยังสถานที่นั้น จากนั้น เขาซ่อนตัวลงไปใต้พื้นดินอย่างเงียบเฉียบ
เขามิอาจจดจ่ออยู่กับเป้าหมายหลักของเขาได้ในเวลานี้ เนื่องจากสิ่งที่สำคัญกว่าคือการเข้าใจถึงเป้าหมายที่แท้จริงของเหล่ายอดฝีมือจาก นครพายุหิมะสีเงินเหล่านั้น เมื่อเรียนรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของศัตรูได้แล้ว จากนั้นเขาก็รีบคิดหาการตอบโต้ที่เหมาะสมกับความแข็งแกร่งของศัตรู
มิเช่นนั้น ผลของสถานการณ์นี้จักก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ …
เขามิได้คาดว่า ช่วงเวลาแห่งความ ละโมบของเขาจักทำให้เขาได้พบกับข้อมูลที่สำคัญเช่นนี้ จวินโม่เซี่ย ถอนใจจากใต้พื้นดิน
สหาย ความโลภของข้าเป็นรางวัลที่มากมาย ข้าจักได้รู้เรื่องนี้หรือไม่หากข้าไม่ทำตามความโลภนี้ ? ข้ามิได้เพียงสะดุดเข้ากับสุภาษิตที่ว่า วิมานกลางอากาศ ?
สรวงสวรรค์นั้นชื่นชอบความดี สวรรค์ตอบแทนการทำดีของคุณชายน้อยผู้นี้ ข้าลงโทษคนชั่วและเช่นนั้นความดีของข้าจึงเป็นสะพานทอดสู่ความสำเร็จ … สวรรคจักให้รางวัลมากมายเช่นนี้กับคุณชายน้อยผู้นได้เช่นไรหากข้ามิได้มีคุณธรรม ? อืมมม ? ฮึ่มม …
” เพื่อสิ่งใด … ? อย่าบอกข้าว่า เจ้าคนพิการนั้นจักเหิมเกริมขึ้นอีก ? ข้าคิดว่าจักเป็นการดีหากใช้โอกาสนี้เพื่อถอนรากถอนโคนปัญหาเหล่านั้น ! มิเช่นนั้น พวกเขาจักต้องเผชิญกับปัญหานี้ต่อไปอีกนาน ! “
น้ำเสียงนั้นมิอาจตัดสินใจ กระนั้น ดูเหมือนจักเต็มไปด้วยความไม่พอใจและท้าทาย ดังนั้น ผู้เอ่ยวาจาจึงมิใช่ เซี่ยวฮั่น
” ความโอหังเช่นนั้น …. ! พวกเรามาจากระดับสูงของ นครพายุหิมะสีเงิน ตอนนั้น เจ้ายังจะกล้าสงสัยในวาจาพวกเรา ? ดูเหมือนว่าเจ้ามิรู้จักที่สูงต่ำ ! “
น้ำเสียงอ่อนโยนตำหนิขึ้น
” พวกเราจักวุ่นวายหรือไม่หากมิใช่เราะปิศาจผู้ที่เริ่มจุดไฟและทำให้มันลุกลาม ? สถานการ์ของ นครพายุหิมะสีเงินตกต่ำเนื่องจากการกระทำของเจ้า หากสกุลต้งฝ๋างมิได้ สังหารสมาชิกของพวกเรา และทำให้ผู้คนโกรธเคือง ข้าเกรงว่า สมาพันธ์สูงสุดจักพยายามเข้าไปก้าวก่ายในเรื่องนั้น ! และการกระทำดื้อรั้นของเจ้าเป็นเหตุของความวุ่นวายนี้ ! และ เจ้ายังคงจักทำลายนครพายุหิมะสีเงินอยู่อีกหรือ ? “
” สกุลจวินเล็กๆจักสามารถทำลาย นครพายุหิมะสีเงิน ได้หรือ ? เหตุใดจึงกล่าวหาข้าในเรื่องนี้ ท่านปู่ ? ปัญหาเริ่มต้นได้เช่นไร ? เขาพยายามชิงตัวภรรยาข้า ! เขาเริ่มความเกลียดชังระหว่างพวกเรา ! บอกข้า บุรุษผู้ใดสามารถยืดหยัดต่อการดูหมิ่นเช่นนี้ได้ ? “
เซี่ยวฮั่นถามมีอารมณ์
ท่านปู่ ? ปู่ของ เซี่ยวฮั่น ? คงมิใช่ผู้ที่อยู่ในอันดับสูงสุดในสกุลเซี่ยวแห่ง นครพายุหิมะสีเงิน ?
กระนั้น เขาก็มิรู้ว่าคนผู้นั้น คือ เซี่ยวเซียงหยุน หรือ เซี่ยวปู้หยู คุณชายน้อยจวินกลั้นใจและยังคงสงบนิ่ง เขายังคงไร้อารมณ์ขณะลอบฟังต่อไป มือสังหารจวินฟังทุกเสียงที่เกิดขึ้นอย่างถี่ถ้วน … ไม่ว่าจะดังหรือเบา ..โดยไม่ละเลย
” แต่เจ้าได้ทำลายสมาชิกคนสำคัญสี่คนของสกุลจวินและผู้ค้ำจุนอำนาจของพวกเขาไป ! และ จวินวูอี้พิการเพื่อปิศาจเช่นเจ้า ! เจ้าต้องการสิ่งใดอีก ? เจ้าจักมิเมตตาต่อหมาหรือไก่ในสกุลของวพวกเขาเลยหรือ ? “
น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นตำหนิด้วยความไม่พอใจและผิดหวัง
” และ สถานการณ์ปัจจุบันเป็นเช่นไร ? คฤหัสน์ฉือฮั่น และ ฉีฉางเซี่ยว ร่วมมือกันเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับเจ้า ? พวกเราควรมุ่งหน้าไปทางใต้ และตอนนี้เจ้าปิศาจทำให้พวกเราล่าช้าเนื่องด้วยเรื่องเบาะแว้งไร้สาระของเจ้า …. ? “
ข้ายอมรับ … วิธีการจัดการกับเรื่องนี้ของคนผู้นี้น่าประทับใจ อย่างน้อย เซี่ยวฮั่น มิอาจดื้อรั้นได้
” ตอนนี้ท่านเอ่ยถึงเรื่องนั้น ข้านึกอีกสิ่งขึ้นได้ เรื่องทั้งสองนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ข้าขอให้ท่านปู่พิจารณา “
กำลังใจของเซี่ยวฮั่นคล้ายจักเพิ่มขึ้น
” พวกเราได้รับข้อความในตอนที่อยู่ที่ราชวังวันนี้ มีข้อความเพียงเล็กน้อย มันบอกว่า จวินวูอี้ นำกองกำลังไปทางใต้เพื่อเผชิญหน้ากับ การปฏิวัติขิง สัตว์เชวียน ท่านปู่ มันจักเป็นการดีหากเรา … “
” ใช้ทหารธรรมดาเพื่อรับมือกับ การปฏิวัติของสัตว์เชวียน ? “
น้ำเสียงอ่อนโยนนั้นยุดลงทันใด …. ขณะที่กำลังครุ่นคิด จากนั้น เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“อ่า ! ดี … หากเป็นเช่นนั้น … นี่เป็นโอกาสที่ดีจริงๆ .. บางที … “
” น้องสอง … ม้วนกระดาษมอบโอกาสที่ดีให้เรา หากแต่เรามิควรหลงลืมการเรียกรวมตัว ! พวกเราเรียกชุมนุมยอดปรมาจารย์ ! นั้นหมายความว่า เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวอาจไปทางใต้ ! และ ทั้งหมดที่อาจเป็นไปได้ … เขาจักสนับสนุน จวินวูอี้ ตลอดการเดินทาง เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว นั้นมิง่ายหากต้องเผชิญ แม้นว่าพวกเราจักรับมือกับจวินวูอี้ได้อย่างง่ายดาย จากนั้น ปัญหาจักดำเนินต่อไปเป็นวงกลม ด้วยเหตุนี้ข้าจึงขอให้ พี่สองสนใจเพียง เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว เขาจักเป็นปัญหาหลักของเรา ! “
พี่สอง ? ดูเหมือนว่าจักเป็นทายาทอันดับสองของสกุลเซี่ย เซี่ยวปู้หยู !
” ถูกของเจ้า ! เจ้าเฒ่าเหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวผู้นั้นจักต้องได้รับการชดใช้ที่เหมาะสม เนื่องจากเขาตัดสินใจจักก้าวก่าย ! พวกเราจักปล่อยโกาสในการล้างแค้นให้น้องหกได้เช่นไร ? ! “
น้ำเสียงอ่อนโยนของ เซี่ยวปู้หยูเต็มไปด้วยความอาฆาตร
” เราจักรอคอยโอกาศที่เหมาะสมเมื่อเราไปยังทางใต้ สิ่งแรก พวกเรากระบี่ทั้งหกและเจ็ด เราทั้งสิบสามจักร่วมมือกันและสังหาร เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยว จากนั้น พวกเราจักตัดสินใจอีกทีว่าจักจัดการกับ จวินวูอี้หรือไม่ อย่าไรก็ตาม ทุกสิ่งจักชัดเจนขึ้นเมื่อพวกเรากำจัด เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวไปแล้ว ความจริง พวกเราสามารถจบเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากภัยคุกคามตามธรรมชาติของพื้นที่นั้น เมื่อพวกเราปราบปรามการปฏิวัติของ สัตว์เชวียน “
” เช่นนั้น น้องสองจึงเสนอว่า เราจักรอคอยและจัดการเรื่องนี้หลังจากการปฏิวัติของสัตว์เชวียนถูกจัดการไปแล้ว ? “
เป็นน้ำเสียงที่อาวุโสและคุ้นเคย จวินโม่เซี่ยฟัง และมันเป็นของผู้อาวุโสสาม
” เช่นนั้น ! ยอดปรมาจารย์ทุกคนรวมตัวกันในครั้งนี้ เช่นนั้นหากพวกเราเคลื่อนไหวและโจมตียอดปรมาจารย์ก่อนเรื่องทางใต้จักได้รับการจัดการ … ข้ากลัวว่ายอดปรมาจารย์ที่เหลือจักโต้กลับนครพายุหิมะสีเงิน ด้วยเหตุนี้ พวกเราจักจัดการกับเขาหลังจากสถานการ์นี้ได้รับการจัดการแล้ว “
เซี่ยวปู้หยูเอ่ยขึ้นพร้อมด้วยความชั่วร้าย
” นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของ ที่มาและความสามารถของชายสวมหน้ากากชุดดำนั่น “
เซี่ยวปู้หยูเอ่ยด้วยทีท่าอ่อนโยน
” เขาขโมย หยกเสริมวิญญาณที่เป็นสัญลักษณ์ของสกุลเซี่ยวเรา ไม่นานเขาเข้าใจถึงความสำคัญของมัน จากนั้น เขาจักรู้ว่าหยกถูกสวมใส่โดย เฟิงวู แล้ว เขาก็ยังขโมยมันไป สิ่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก เฟิงวูอยู่เพียงผู้เดียว พวกเราจักทำให้สะดวกสบายสำหรับเขาเท่าที่ทำได้ “
เขายิ้มอย่างชั่วร้ายอีกครั้ง
” นี่อาจเป็นโอกาสของคนที่จักต้องตายหาก หยกชิ้นนั้นอยู่ในมือของ ผู้อาวุโส เช่นนั้น พวกเราจึงมิอาจยอมเสี่ยง อย่างไรก็ตาม เฟิงวูจักเป็นเป้าหมายที่ง่ายดาย และเขามิชอบรู้สึกว่าถูกคุกคาม ดังนั้น เขาจักไม่ทำรายเด็ก อาวุโสผู้นี้เป็นได้สำเร็จการสกัดสวรรค์แล้ว ข้าสามารถตรวจจับกลิ่นอายวิญญาญของเขาได้ในระยะ ห้าร้อยลี้ เซี้ยงฉุน จักเตรียมพร้อมเสมอ ดังนั้น เขาจึงมิอาจหลบหนีเราไปได้หากเขาขโมยหยกนั่นไป พวกเราจักหาแม้นว่าเขาจักหนีไปสุดขอบโลก ! จากนั้น พวกเราจักเพิ่มความแข็งแกร่ง ไล่ล่าเขา และแก้ไเขเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว พวกเราจักสามารถยึดคืน หยกเสริมวิญญาณ สองชิ้นกลับมาได้ ! “
” เป็นความคิดที่ดี น้องสอง ! “
ทุกคนหึกเหิมเมื่อได้ฟังแผนการ กระนั้น จวินโม่เซี่ยตะลึง
นั่นคือแผนการของพวกเขาหรือ ? พวกเรายอมรับมันอย่างง่ายดาย ?
อาจบอกได้ว่า แผนการของ เซี่ยวปู้หยู มีผลอย่างมากในการจัดการกับทุกคน แม้น จุ้นเป้ยเฉิน ก็มิอาจมองข้ามเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม มันไร้ค่าในสายตาของจวินโม่เซี่ย …
แผนการนี้ดูเหมือนกับ นารีพิฆาตร แต่เหมือนถูกใช้กับ ชายผู้ถูกตอนแล้ว อุปมานี้ฟังดูหยาบคาย … แต่ผลลัพธ์ของเรื่องนี้จกพิสูจน์
ทันใดนนั้น อาวุโสทุกผู้เรื่องขึ้นตกใจ
” น้องสอง ท่าสามารถใช้ แก่นวิญญาณ? เจ้าบรรลุไปยังขั้นเทพเชวียนสี่แล้ว ! “
” ฮี่ฮี่ … “
เซี่ยวปู้หยูมีน้ำเสียงพึงพอใจชัดเจน
” ข้าละอายใจ ที่ใช้เวลาเกือบสิบปีเพื่อบรรลุสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม นี่จึงเป็นเหตุผลที่ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถจับตัว ชายสวมหน้ากากลึกลับนั่นได้ “
” ยินดีกับความสำเร็จนี้ด้วย น้องสอง ! “
ทุกผู้เอ่ยขึ้นพร้อมเพรียง อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยหัวเราะในใจ
มั่นใจ ? เจ้าเอ่ยว่ามั่นใจต่อหน้าคุณชายน้อยผู้นี้ ? เจ้าทำตัวโง่ๆเช่นนั้นได้อย่างไร ? เคล็ดสกัดสวรรค์ของเจ้าจำกัดที่หาร้อยลี้ มันมีค่าเพียงการผายลมของคุณชายน้อยผู้นี้
” อะแฮ่ม … ห้ามผู้ใดแพร่งพรายหากพวกเราสามารถจัดการกับสสกุลจวินได้สำเร็จ … เข้าใจหรือไม่ ? “
มีพลังแผ่ออกมาจากดวงตาของ เซี่ยวปู้หยูขณะที่เขามองไปรอบๆ
” ชัดเจนเช่นนั้น ! ! มิฉะนั้น เจ้าเหนือหัวของนครจักกล่าวโทษพวกเราทุกคน และผลที่ตามมาจักมิน่าพึงพอใจนัก นอกจากนี้ สกุลจวินมี สกุลต้งฝ๋าง คอยหนุนหลัง เช่นนั้น ทุกผู้จักต้องทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเป็นความลับ “
ทุกผู้พยักหน้าขณะพวกเขาถกเรื่องนี้กัน
สิ่งนี้ทำให้จวินโม่เซี่ยมีโทสะยิ่ง
สกุลเซี่ยวชั่วร้ายนัก ! คุณชายน้อยผู้นี้จักดูว่าผู้ใดจักถูกถอนรากถอนโคนเมื่อพวกเราทั้งหมดอยู่ทางใต้
” น้องสอง กับเรื่องของสัตว์เชวียนนี้ … ชัดเจนว่ามันเป็นสิ่งที่ผิดปกติอย่างมาก เป็นได้ได้ไหมว่า ราชันแห่งป่าเถียนฟาตัดสินใจจักแทรกแทรงในเรื่องนี้ ? มิเช่นนั้นจักเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่หลวงเช่นนี้ได้อย่างไร ? ยอดปรมาจารย์ทุกคนมารวมตัวกัน พี่สอง ท่านคิดว่า แปดยอดปรมาจารย์คนใดจักตอบรับการเรียกตัวนี้ ? “
นี่คือเสียงของ ผู้อาวุโสเก้า
” นั่นมิใช่เรื่องยากจักตัดสิน ไม่มีผู้ใดเคยพบเห็นร่องรอยของ จุ้นเป้ยเฉิน มาหลายปี ข้ากลัวว่าคราวนี้จักเป็นเช่นเดียวกัน จากนั้น ปรมาจารย์สีคราม เมิงฮ้งเฉิน อยู่ห่างไกลจากป่าเถียนฟา เขามิอาจไปได้แม้นว่าเขาจักได้รับข่าวทันเวลา แต่ ปรมาจารย์เลือดเย็น เล้ยวูเบ้ย และ เหยี่ยวผู้โดดเดี่ยวจักต้องไปเป็นแน่ ท้ายที่สุด พวกเขาก็ได้มาอยู่ใน นครเทียนเชียง พวกเขามิอาจหันหลังกลับได้แม้พวกเขาอยากจักทำ เช่นเดียวกัน ผู้ที่ได้รับการเชิญนี้ คือ ฉีฉางเซี่ยว ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ คฤหัสฉือฮั่น ลีจื้อเทียนอาจจะกลับมายัง คฤหัสน์ของเขาเนื่องจากสิ่งนี้คุกคามสกุลของเขามากที่สุด ข้าคาดการว่า จักมี สี่ในแปดยอดปรมาจารย์มา สำหรับนครพายุหิมะสีเงิน … พวกเราจักไป และทำหน้าที่แทนเจ้าเหนือหัว และบางที พวกเราอาจเป็นที่สุดในเรื่องของความแข็งแกร่ง และสำหรับ ยอดปรมาจารย์ เหวินเทียน ข้ามิอาจเอ่ย เขาอาจจะไป หรือไม่ แต่ข้าคิดว่าความแข็งแกร่งของทั้งหมดนี้เพียงพอจักจัดการกับการปฏิวัติของสัตว์เชวียน แม้ว่าจักไม่มี ปรมาจารย์เหวินเทียนร่วมด้วย “
เซี่ยวปู้หยูยิ้มด้วยมั่นใจยิ่ง
” การลุกฮือของสัตว์เชวียนนั้นแปลกประหลาดนัก บางผู้กล่าวว่าพวกเขามุ่งเป้าโจมตีไปยัง คฤหัสฉือฮั่น พี่สอง ข้ามิจำได้เลยว่า คฤหัสฉือฮั่น และ ป่าเถียนฟานั้นมีเรื่องบาดหมางอันใดกัน “
ผู้อาวุโสสามขมวดคิ้ว
” จักต้องมีเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการที่สัตว์เชวียนตัดสินใจออกจากป่าเถียรฟาและโจมตี คฤหัสฉือฮั่น พวกเราจักได้รู้หลังจากไปถึงที่นั่น “
เซี่ยวปู้หยูเอ่ยแผ่วเบา แววตาของเขาแสดงว่าเขามิประสงค์จักสนทนาในเรื่องนี้
ทุกผู้เงียบลง
ทุกคนสับกับเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการ ลุกฮือของสัตว์เชวียน แม้นจักอยู่ใต้ดิน จวินโม่เซี่ยพอดรู้คร่าวๆว่าเหตุใด …
คุณชายน้อยจวินยิ้มเล็กน้อย
” หากการคาดการข้าถูกต้อง … ข้าอาจมีสิ่งมากมายต้องทำกับการลุกฮือของสัตว์เชวียนนี้ “