จวินโม่เซี่ย จำได้ว่ามีการตกลงกับ กระเรียน และ หมีใหญ่ว่า หากพวกเขาสามารถสร้างความวุ่นวายที่ คฤหัสน์ฉือฮั่น และหักขาของคุณชายน้อยพวกนั้นได้ เขาจักช่วยพวกเขาพัฒนาการฝึกฝนและทลายปัญหาคอขวด สิ่งนี้จักเป็นรางวัลสำหรับการจัดการกับ คฤหัสน์ฉือฮั่น
พวกเขาเอ่ยวาจาไว้ว่าจักใช้เวลาครึ่งเดือนเพื่อจัดการงานนี้ให้สำเร็จ แต่ เขาได้ลดหย่อนกำหนดเวลาให้เป็นหนึ่งเดือน เขาคาดการณ์ว่าพวกเขาจักทำงานได้สำเร็จภายในเวลาอันสั้นยิ่งเนื่องจากพวกเขาเอ่ยถึงเรื่องนี้ด้วยท่าทีเรียบง่าย อย่างไรก็ตาม เขามิได้รับข่าวจากพวกเขาเลยมาระยะหนึ่ง ดังนั้น เขาจึงเริ่มรู้สึกประหลาด
และตอนนี้สัตว์เชวียนเกิดการลุกฮือขึ้นมิคาดคิด ผู้ใดอื่นจักอยู่เบื้องหลังได้นอกจากสองผู้นั้น ?
ข้าเพียงขอให้พวกเขาตรวจสอบ คฤหัสน์ฉือฮั่น เพียงชั่วคราวเท่านั้น มิเคยขอให้พวกเขากระทำรุนแรงเช่นนี้ และตอนนี้ สถาณการณ์เกือบเป็นการสงครามแล้ว สองสิ่งนี้เหมือนกันได้อย่างไร ?
เรื่องนี้ยังคงเป็นเงื่อนงำสำหรับจวินโม่เซี่ย ไม่ว่าเขาจักครุ่นคิดเพียงใด
มีการเดิมพันมากมายในเรื่องนี้ พวกเขามิรู้เรื่องนี้ ? แต่ เหตุใดพวกเขาจึงทำเช่นนี้ ? พวกเขามีเหตุผลอื่นใดหรือเบื้องหลังสิ่งนี้ ?
จวินโม่เซี่ยยอมรับว่ามิได้รู้อันใดมากถึงการลุกฮือของสัตว์เชวียน ราชันแห่งสัตว์เชวียนทั้งสองทำให้เขาสิ้นหวังในการลงทุนกับทางใต้ยิ่งนัก
แผนการของสวรรค์เข้ามาแทนที่แผนการของเรา !
ราวกับว่าการจัดการกับยอดฝีมือของคฤหัสน์ฉือฮั่นนั้นมิได้เป็นการใหญ่สำหรับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขามิได้งเผชิญหน้ากับศัตรู พวกเขาเพียงแต่ก่อให้เกิดความวุ่นวายเล็กน้อย นั่นก็มากเพียงพอแล้ว
แต่พวกเขามิรู้ว่าการปรากฏตัวของพวกเขาในนครเทียนเชียงนั้นจักเป็นการเตือนซีฉางเซี่ยว ปรมาจารย์แห่งความเป็นตาย หลังจากการต่อสู้เพื่อแกนเชวียนจบลง ฉีฉางเซี่ยวออกไปยัง คฤหัสน์ฉือฮั่นทางใต้เพื่อเสาะหาข้อมูลเช่นกัน …
การที่ราชันแห่งป่าเกียรฟาแสดงตัวมา จักมิใช่เรื่องเล็กน้อยได้เช่นไร ?
ป่าเถียรฟานั้นตั้งอยู่ใกล้เคียงคฤหัสน์ฉือฮั่น ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องแปลกหากคฤหัสน์ฉือฮั่นมิได้เตือนภัยเมื่อ ราชันแห่งสัตว์เชวียน ออกจากป่าเถียรฟา จากนั้น ความบังเอิญอันแปลกประหลาดเกิดขึ้นอีก ปรมาจารย์ ลีจื้อเทียนผู้เป็นเลิศ กำลังเดินทางกลับไปยัง คฤหัสน์ฉือฮั่นหลังจากเดินทางท่องเที่ยว …
สิ่งที่จักเกิดอย่าแน่นอน ..และสิ่งที่มิควรเกิดขึ้นนั้น เกิดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้ก่อให้เกิดความสับสนยิ่งใหญ่
กระเรียน และ หมีใหญ่มุ่งหน้าตรงไปยัง คฤหัสน์ฉือฮั่น พวกเขาตัดสินใจทำตามคำขอของจวินโม่เซี่ยอย่างมุ่งมั่น จากนั้น พวกเขาทำลายประตูคฤหัสน์ และถล่มพวกมัน สิ่งแรกพวกเขารื้อค้นทั่วทั้งพื้นที่ และโจมตียอดฝีมือในจวน พวกเขาจักหยุดลงเมื่อสร้างปัญหาได้มากเพียงพอให้คำขอแรกนั้นสำเร็จ จากนั้น พวกเขาจึงมุ่งไปยังข้อที่สอง พวกเขาเริ่มมองหา คูณชายน้อยแห่งคฤหัสน์ฉือฮั่นเนื่องจากต้องการหักขาของเขา พวกเขาวางแผนจับตัวเด็กหนุ่มผู้นั้น เตะก้น และออกไปจาก คฤหัสน์
คฤหัสน์ฉือฮั่นจักตอบโต้เช่นไร ? ผู้ที่พวกเขาเรียกว่า เจ้าเหนือหัว จักต้องอับอายเนื่องด้วยเรื่องนี้
ราชัญแห่งสัตว์เชวียนทั้งสองนั้นมีการบำเพ็ญในขั้นสุดยอด และร่างกายพวกเขาแข็งแกร่งยิ่งนัก คฤหัสน์ฉือฮั่น มียอดฝีมือเทพเชวียน และ ยอดฝีมือสวรรค์เชวียนมากมาย แต่ ฝ่ายตรงข้ามที่ทรงพลังทั้งสองนั้น มิอาจเอามาเปรียบได้
ปรมาจารย์ คือ ปรมาจารย์ และ ราชันคือราชัน หมีใหญ่ และ กระเรียนเปรียบดั่ง เสือสองตัวในฝูงแกะ ทั้งสองต่อสู้ด้วยพลังอันแรงกล้า และ มิได้ยั้งมือ พวกเขาภาคภูมิในต้นกำเนิด และเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าพวกเขาสามารถเผชิญหน้ากับยอดปรมาจารย์ได้ ดังนั้น พวกเขาจึงใช้โอกาสในความวุ่นวายนี้ เข้าสู้คฤหัสน์ฉือฮั่น ทำลายกำแพงทางทิศตะวันออก และจุดไฟเผาทางฝั่งตะวันตก ยอดฝีมือเทพเขวียนแห่ง คฤหัสน์ฉือฮั่นเดือดดาลเนื่องด้วยสิ่งนี้ อย่างไรก็ตาม พวกเขามิอาจจรับมือกับภัยคุกคามนี้ได้เนื่องด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขามิได้รวมเป็นหนึ่ง พวกเขาถูกโจมตี แทนที่จักจัดการกับผู้บุกรุก
พวกเขาทั้งสองเป็นดั่งปิศาจชั่วร้ายผู้ที่สำราญกับความวุ่นวาย แต่กระนั้น พวกเขาก็มิอาจสำราญได้เนิ่นนานนัก …
ปรมาจารย์แห่งความเป็นตาย ฉีฉางเซี่ยว ผู้ซึ่งมุ่งหน้ามายัง คฤหัสน์ฉือฮั่นอย่างร้อนรน เขามาถึงได้ทันเวลา และได้พบกับสถานการณ์นี้ เขาเลือกคู่ต่อสู้ และ เริ่มต่อสู้กับ หมีใหญ่ ในขณะนั้น ยอดฝีมือที่เหลือ ร่วมมือกันกละเผชิญหน้ากับ กระเรียน ความวุ่นวายนำไปสู่การต่อสู้อันยิ่งใหญ่ และสถานการณ์แปรเปลี่ยนไปในทันที กระเรียน และ หมีใหญ่ เสียท่าลงในไม่ช้านาน
จึงมิใช่เรื่องสำคัญ หากราชันแห่งสัตว์เชวียนทั้งสองจักตัดสินใจล่าถอนในตอนนั้น งานของพวกเขาสำเร็จไปแล้วในส่วนใหญ่ แต่ พวกเขาเป็นราชญแห่งสัตว์เชวียน เช่นนั้น พวกเขาจักเสียหน้าเช่นนได้ได้อย่างไร ?
พวกเขามิอาจหันกลับได้ง่ายดายถึงเพียงนั้น พวกเขาจักพบหน้า ยอดฝีมือลึกลับผู้ที่สัญญาจักช่วยพวกเขาทะลวงผ่านขีดจำกัดได้เช่นไรเมื่อพวกเขายังมิสามารถทำงานได้ลุล่วง ? พวกเขาเพียงแค่วางเผลิงบ้านเพียงไม่กี่หลัง มันจักถือเป็นการทำลายล้างได้เช่นไร ?
นอกจากนี้ พวกเขายังถูกขอให้หักขาของ ลี่เติ้งหยวน กระนั้น พวกเขาก็ยังมิอาจระบุที่อยู่ของเขาได้ในตอนนี้ พวกเขาจักหลอกลวง ปรมาจารย์ลึกลับผู้นั้นได้ง่ายดายเชียวหรือ ?
จักต้องเอ่ยว่า ปิศาจเหล่านั้นมีหัวใจที่จริงแท้ พวกเขาตัดสินใจยึดมั่นในงานที่ได้รับมาจากปรมาจารย์ลึกลับ
ฉีฉางเซี่ยวเป็นเพียงคนผู้หนึ่งมิใช่หรือ ? พวกเราจักกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้หากต้องพ่ายในวันนี้ จากนั้นเราจัดมาดูกันว่าผู้ใดจักจัดการผู้ใด !
มนุษย์เช่นพวกเจ้าจักสามารอดทนได้เท่าสัตว์เชวียนเช่นพวกเราหรือ ? ไร้สาระยิ่ง !
นอกจากสัตว์เชวียนทั้งสอง จักมีผิวหนังที่หนายิ่งแล้ว การโจมตีที่รุนแรงก็มิอาจทำอันตรายได้นัก พวกเขาเคยถูกล้อม แต่พวกเขาก็ต่อสู้อย่างห้าวหาณ และสังหารผู้คนเพิ่มได้อย่างง่ายดาย สัตว์เชวียนกระทำลงไปโดยไร้ซึ่งปราณี และยังคงกระทำต่อไปด้วยความกระหายที่จักทำลาย … ในขณะที่มิได้สนใจ ฉีฉางเซี่ยวแต่น้อย
จากนั้น …
พวกเขาจึงล่าถอยเพื่อรักษาชีวิตไว้ และกลับมาสร้างความหายนะใหม่ในเช้าวันต่อมา สัตว์เชวียนทั้งสองตัดสินใจว่าพวกเขาจักไม่หยุดจนกว่าจักสามารถสำเร็จภารกิจได้ลุล่วง ! พวกเขาทั้งสองมีความแข็งแกร่งในเรื่องนั้นอย่างแน่นอน
แต่ นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เหล่าเทพเชวียนในคฤหัสน์ฉือฮั่นไม่พอใจ มียอดฝีมือ เทพเชวียนมากมายใน คฤหัสน์ฉือฮั่น แต่พวกเขามิอาจปกป้องประตูหรือลานบ้านได้เลย และสัตว์เชวียนชั้นเลิศทั้งสอง ยังคงลอบโจมตีปีกทางตะวันออกและตะวันตกอย่างต่อเนื่อง แม้แต่พระเจ้าก็มิอาจหยุดยั้งพวกเขาได้ …
ยอดฝีมือมากมายสามารถประมือกับพวกเขาได้ แต่มิได้แข็งแกร่งเพียงพอจักต้านทานได้เนิ่นนาน มิต้องกล่าวถึงการสังหารพวกเขา …
เหล่ายอดฝีมือเริ่มอ่อนแรง ขณะที่สัตว์เชวียนทั้งสองมีชีวิตชีวาขึ้น การต่อสู้ทีผ่านมาหลายวันนี้ ทำให้พวกเขาปิติยิ่ง
ลีจื้อเทียน กลับไปยังคฤหัสน์ ท่ามกลางความสันสบนี้
ผู้ใดจักจินตนาการได้ว่า ยอดปรมาจารย์ที่สองจักเกรี้ยวกราดเมื่อเขากลับไปถึง ? เขาออกไปท่องโลกหลายปี แต่เมื่อกลับมากลับต้องพบว่าบ้านของเขาถูกปิดล้อม ทุกสิ่งรอบคฤหัสน์ในระยะ สามร้อยหลากลายเป็นเถ้าธุลี ทุกสิ่งถูกทำลายลงทุกที่ และมีบางสิ่งล้มคว่ำ
นี่คือ คฤหัสน์ฉือฮั่น จริงหรือ ? นี่คือสิ่งที่ข้าอุสาหะสร้างสมมานานปี ?
คล้ายดั่งที่หลบภัย !
การตอบโต้ของ ลีจื้อเทียน นั้นพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้สัตว์เชวียนสิ้นใจได้
ราชัญแห่งสัตว์เชวียนทั้งสองผู้ที่ ดุร้ายยิ่ง และสำราญกับการต่อสู้ แต่มิอาจเทียบกับ ลีจื้อเทียน ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาได้ใช้พลังหมดไปกับการหยอกล้อกับฝ่ายตรงข้ามก่อนหน้านี้ ทำให้พวกเขาเหนื่อยอ่อนยิ่งนัก
แต่ พรสวรรค์ของ สองราชันสัตซ์เชวียนั้นคือร่างกายที่แข็งแกร่ง พวกเขาร่วมมือกัน และไม่นานก็สามารถรับมือกับ ลีจื้อเทียนได้ แม้นว่าจักยากลำบาก
ผลการต่อสู้ในที่สุด สองสัตว์เชวียนก็สามารถหลบหนีออกไปได้หลังจากได้รับบาดเจ็บรุนแรง ในขณะที่ คฤหัสน์ฉือฮั่นมีชัย
แต่กระนั้น มันจักเกินจริงไปสักหน่อยหากจักเรียกว่าชัยชนะ บางสิ่งบางอย่าง ที่ลีจื้อเทียนมุมานะสร้างมันขึ้นมากว่าครึ่งชีวิต … เกือบพังทะลาย ยอดฝีมือเทพเชวียนจำนวนมากล้มลงพร้อมการบาดเจ็บรุนแรง ลีจื้อเทียนเอาชนะ สองราชันแห่งสัตว์เชวียนได้ แต่ชัยชนะนี้ถือได้ว่าคือ โศกนาฏกรรม
กระนั้น ฉีฉางเซี่ยว ยังคงไปเยี่ยมเยือนพวกเขา เมื่อปรมาจารย์อาวุโสของพวกเขากลับมา และ สองราชันแห่งสัตว์เชวียนเกือบพ่ายแพ้ จึงต้องมีการเฉลิมฉลอง อย่างไรก็ตาม เคราะห์ร้ายก็ตกลงสู่หัวของพวกเขาอีกครั้ง ในเย็นแห่งงานเฉลิมฉลอง
ฝูงสัตว์เชวียน ปรากฏขึ้นจากสุดสายตา และมาถึงโดยมิได้มีปัญญาญใด
ชั้นต่ำ ชั้นกลาง ชั้นสูง … สิ่งใดๆก็ตามที่มิอาจมีผู้ใดคาด … อยู่ที่นั่น
สิ่งที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่านั้น .. ฝูงหมาป่าปิศาจกระหายเลือดพุ่งเข้าใส่พวกเขาราวกับคลื่นโหมกระหน่ำ ยิ่งไปกว่านั้น ฝูงหมาป่านี้มิอาจคาดจำนวนได้ …
แต่ ฝูงหมาป่านี้กระทำตัวแตกต่างยิ่ง และล่าถอยไปหลังจากสร้างความเสียหายให้แก่ คฤหัสน์ฉือฮั่น อย่างหนัก ความจิรงแล้ว เหล่าปิศาจเหล่านั้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเขารู้สึกว่าโชคเข้าข้าง …
ทุกผู้เริ่มผ่อนคลาย … แต่ ในช่วงเวลานั้น ฝูงมดทองกินมนุษย์แห่งป่าเถียรฟาปรากฏขึ้น
พวกเขามิได้โชคดีนัก … ในความจริง พวกเขาโชคร้ายยิ่งกว่า !
พวกเขาเกือบสามารถรับมือกับเหล่าฝูงมดทองกินมนุษย์ได้แล้ว ในขณะที่เหล่าปิศาจเชวียนที่บินได้จู่โจมเข้ามา
จักเอ่ยได้ว่า มิอาจมีแสงตะวันส่องถึง คฤหัสน์ฉือฮั่น เป็นเวลาถึงสองวัน
สองราชันแห่งสัตว์ชเวียนมิอาจยอมรับความพ่ายแพ้ได้ดีนัก และได้กระตุ้นให้เกิดการลุกฮือของสัตว์เชวียน
นี่มิใช่เรื่องของการสำเร็จภารกิจของปรมาจารย์ลึกลับแล้ว แต่กลับกลายเป็นเรื่องของศักดิ์ศรี สถานการณ์ก่อให้เกิดความเกลียดชังยิ่ง สองราชันแห่งสัตว์เชวียนถูกบังคับให้วิ่งหางจุดตูด หลังจากถูกมนุษย์ปราบปราม … สัตว์เชวียนถูกเอาชนะ ! พวกเขาจักเรียกตัวเองว่าราชันได้อย่างไร หากพวกเขามิอาจลบล้างความพ่ายแพ้นี้ได้ ?
ยิ่งไปกว่านั้น ยอดฝีมือแห่ง คฤหัสน์ฉือฮั่น มีกำลังใจยิ่งเมื่อ ลีจื้อเทียนสามารถเอาชนะ สองราชันแห่งสัตว์เชวียนได้ ทั้งสองกลั่นแกล้งพวกเขามานาหลายวัน แต่ในที่สุดกลับต้องถูดเจ้าเหนือหัวของพวกเขาขับไล่ไป ความยินดีนี้ มิใช่สิ่งที่รื่นหูนักสำหรับสองราชันแห่งสัตว์เชวียน การต่อสู้กับ ลีจื้อเทียน อาจมิสามารถสังหารสองราชันผู้นี้ได้ แต่พวกเขาเกือบสิ้นใจหลังงจากได้ยินเสียงกู้ร้องของยอดฝีมือจาก คฤหัสน์ฉือฮั่น
ดังนั้น สองราชันแห่งสัตว์เชวียนจึงเดือดดาลยิ่ง ความจริงแล้ว พวกเขาเกือบถลกขนตัวเองเนื่องจากโทสะนี้
จากนั้น อีกเหตุการณ์ที่มิอาจคาดจึงเกิดขึ้นในป่าเถียรฟา และทำให้ราชันแห่งสัตว์เชวียนทั้งสองไร้ยางอายยิ่งขึ้น มันเรียกว่า ไม่มีเสือในหุบเขา … ดังนั้นลิงจึงกลายเป็นราชา ดังนั้น พวกเขาจึงใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ พวกเขาจักจัดการกับปัญหาใหญ่ได้เช่นไร หากพวกเขามิอาจรับมือได้กับสถานการณ์เล็กน้อยเช่นนี้ ?
ด้วยเหตุนี้ การกบฏของสัตว์เชวียนจึงเกิดขึ้นราวพายุคลั่ง และกลืนกินทุกสิ่งที่ขวางทาง
แม้แต่ลี่จื้อเที่ยนก็ไร้ทางเลือกจำต้องล่าถอยเมื่อเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม สองสัตว์เชวียนก็มิได้ยอมรับสิ่งนั้นในตอนท้าย ราวกับพวกเขามิเต็มใจปล่อยให้เขาอยู่รอด ราวพวกเขาต้องการทำลายให้หมดสิ้นทุกสิ่ง
แต่กระนั้น พวกเขาทั้งสองก็คิดถึงเพียงสิ่งเดียว
ผู้อาวุโส พวกเราเพียงต้องการให้เจ้าส่งตัวลูกชายเจ้ามา พวกเราจักหักขาของเขาและจากไป เจ้ามิเข้าใจคำขอที่ง่ายดายเพียงนี้หรือ ? พวกเรามิได้ต้องการบดขยี่ขาของเขา … พวกเราจักหักมันอย่างนุ่มนวล … เจ้าจักสามารถต่อมันกลับไปได้เพียงเวลาไม่กี่เดือน ! เป็นเพียงธรรมเนียมที่พวกเราจำต้องกระทำเพื่อ ปรมาจารย์ลึกลับผู้นั้น ! เป็นเพียงแค่คำของที่เรียบง่าย เหตุใดเจ้าต้องทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องเป็นตาย …