บทที่ 121**: มีหนึ่งคนที่ต้องตาย!**
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าอ้วนตกใจสุดขีด เขาไม่รอคำตอบของหงหยิงพร้อมกับตะโกนออกไปทันที “ศิษย์น้อง เราทั้งคู่ไม่สามารถขังเขาไว้ได้อีกแล้ว! รีบออกไปจากที่นี่ซะ! ไม่อย่างนั้นเราจะตายทั้งคู่!”
เมื่อหงหยิงได้เยินเช่นนั้น ร่างกายของนางสั่นไหวพร้อมกับตะโกนกลับมาว่า “ข้ากลับมาเพื่อที่จะตายกับเจ้า!”
‘ข้ากลับมาเพื่อที่จะตายกับเจ้า!’ แม้ว่าคำพูดนี้จะดูเรียบง่ายปราศจากการปรุงแต่งใด แต่มันแสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งภายในหัวใจของหงหยิงอย่างแท้จริง! เสียงของนางไม่ได้ดังมากนัก แต่ราวกับว่ามีฟ้าผ่าลงกลางลำตัวเจ้าอ้วนทำให้รู้สึกถึงก้นบึ้งในหัวใจทันที
เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าหญิงสาวผู้สูงส่งและไม่อาจเข้าถึงได้ นางเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของจ้าวสำนัก เปรียบดั่งเทพธิดาแห่งท้องฟ้า ดูเหมือนว่าหงหยิงมาเพื่อกล่าวอะไรบางอย่างในสถานการณ์ใกล้ความตายเช่นนี้ แต่ในขณะนั้นระยะห่างภายในจิตใจของเจ้าอ้วนและหงหยิงต่างไม่มีอะไรปิดกั้นอีกต่อไป พวกเขาทั้งสองเชื่อมหัวใจเข้าหากัน นั่งสองคนนั่งนิ่งอยู่บนระฆังทองแดงและพร้อมกับจ้องมองเข้าไปในดวงตาของกันและกัน ใบหน้าของพวกเขาค่อย ๆ เคลื่อนเข้าหากันอย่างช้า ๆ ในขณะนั้นไม่ว่าจะเป็นตู๋เชียนเฉิงหรือสิ่งใดที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนโลกนี้ เหตุการณ์ทั้งหมดได้หายไปจากจิตใจของพวกเขาโดยสมบูรณ์ ภายในหัวใจของเขาทั้งสองคนตอนนี้ ไม่มีสิ่งใดอื่นนอกจากกันและกันเท่านั้น
ในที่สุด ใบหน้าของพวกเขาก็บรรจบกัน ริมฝีปากที่อ่อนนุ่มได้พบเจอกัน สัมผัสและความรู้สึกต่าง ๆ ถาโถมเข้ามาอยู่ทั่วท้องของเขาทั้งสองคน ทั้งสองคนตกใจรีบผละออกจากกันทันที
หงหยิงล้มเลิกจูบแรกของนางอย่างเขินอาย แต่นางไม่ได้ตั้งใจที่จะถอยห่างออกไปเช่นนี้ นางจึงหลับตาลงและเม้มริมฝีปากเพื่อรอคอยเจ้าอ้วน
เจ้าอ้วนที่อยู่ด้านหน้าของนางในตอนนี้ กำลังเต็มไปด้วยความสุข แต่ในขณะเดียวกัน จิตใจของเขาก็ได้ลุกโชนขึ้นมาอีกครั้ง ‘ข้าจะต้องปกป้องนาง! ข้าไม่อนุญาตให้นางต้องตายตกไปด้วยมือของตู๋เชียนเฉิงเด็ดขาด!’
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เจ้าอ้วนยิ้มกว้างพร้อมกล่าวกับหงหยิงอย่างอ่อนโยน “ศิษย์น้อง ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าตาย ถ้าหากจะมีผู้ใดต้องตายตกไป คนผู้นั้นต้องเป็นมัน!”
เมื่อหงหยิงได้ยินเช่นนั้น นางตกใจที่เจ้าอ้วนทำกับนางเช่นนี้ นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดเจ้าอ้วนจึงกล่าวออกมาในขณะที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เขายังมีความกล้าหาญที่หยุดการกระทำนี้!
เมื่อคิดเช่นนั้น หงหยิงลืมตาขึ้นมา สิ่งเดียวที่นางเห็นตอนนี้คือเจ้าอ้วนใช้มือขวาจับระฆังไว้ และอีกมือยกขึ้นไปบนฟ้า ปรากฏยันต์ขึ้นบนอากาศภายใต้การควบคุมของเขา
ในที่สุด เจ้าอ้วนคำรามออกมาดังสนั่น “ตู๋เชียนเฉิง จงตายซะ!” ขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาทุ่มพลังทั้งหมดที่เขามีฟาดลงไปบนระฆังยักษ์อย่างรุนแรง
ในเวลาต่อมา ระฆังทองแดงเปล่งเสียงกังวานกึกก้อง เสียงของมันแผ่กระจายไปไกลนับร้อยลี้ ด้วยความรู้สึกทางวิญญาณของเขา เจ้าอ้วนสามารถตรวจสอบทุกสิ่งภายในระฆังได้อย่างง่ายดาย ภายใต้การทำงานของยันต์วิญญาณ คลื่นเสียงมากมายถูกขับออกมาจากระฆังและหวนคืนกลับเข้าไปภายในอย่างมหาศาล พวกมันทับซ้อนกันอย่างบ้าคลั่ง สร้างแรงกดดันมากมายขึ้นภายในพื้นที่เล็ก ๆ
ตู๋เซียนเฉิงผู้ที่อยู่ภายในระฆังไม่อาจทำสิ่งใดได้นอกจากถูกพลังคลื่นเสียงนี้รบกวนโดยสมบูรณ์และกระดูกของเขาแหลกสลายราวกับข้าวที่โดนบดขยี้ รวมถึงดวงตาที่โหดเหี้ยมของเขา ภาพสุดท้ายคือการระเบิดเป็นผุยผงน่าสยดสยอง ตู๋เชียนเฉิงอาชญากรแห่งโลกของผู้ฝึกตนมายาวนานนับร้อยปี ในตอนนี้ได้ตายตกไปอย่างน่าสังเวช
อย่างไรก็ตาม เจ้าอ้วนที่ใช้ยันต์จิตวิญญาณเพื่อสังหารตู๋เชียนเฉิงก็ไม่ได้กระทำโดยง่าย เพื่อที่จะสังหารเขาในครั้งเดียว ปราณจิตวิญญาณของเขาทั้งหมดถูกใช้ออกไปภายในครั้งเดียว จึงทำให้เขาเหนื่อยล้าอย่างหนัก รวมไปถึงอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ของเขา แม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า แต่ในตอนนี้เขาก็ไม่อาจยืนหยัดได้ไหว
เจ้าอ้วนรู้สึกถึงคลื่นความเจ็บปวดที่ถาโถมเขามาหาเขาในขณะที่เขากำลังจะล่วงหล่นจากระฆัง ร่างกายของเขาไม่มั่นคงอีกต่อไป เขาไม่สามารถควบคุมสิ่งใดได้เลย
หงหยิงรีบคว้าเจ้าอ้วนไว้ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เขาล้มลง แต่ใบหน้าของเจ้าอ้วนซีดลงอย่างรวดเร็ว มุมปากของเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมา หงหยิงแทบคลั่งทันทีเมื่อเขาที่อยู่ในอ้อมแขนของนางมีสภาพเช่นนี้และเขย่าตัวเขาอย่างรุนแรง นางตะโกนออกมา “พี่ชายอ้วน พี่ชาย! เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า!?”
“อย่าเขย่าข้า!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะเล็กน้อย “ปราณจิตวิญญาณของข้าหมดเกลี้ยงแล้ว อวัยวะภายในก็เสียหายเล็กน้อย มีการแตกหักภายในนิดหน่อย อาจจะดูน่ากลัวแต่ว่าข้าไม่เป็นอะไรมาก ข้าจะดีขึ้นถ้าหากได้รับยาอายุวัฒนะ!”
เมื่อหงหยิงได้ยินเช่นนั้น นางรีบกล่าวออกมาทันที “ข้ามียาอายุวัฒนะลึกลับแห่งสวรรค์!”
เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น นางหยิบขวดสีแดงออกมาจากกระเป๋ามิติทันที หลังจากนั้นนางหยิบยาอายุวัฒนะรูปร่างดั่งไข่มุก มันโปร่งใสมาก มีกลิ่นหอมและสามารถแก้โรคได้ทุกชนิด
เมื่อเจ้าอ้วนเห็นเช่นนั้น เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขารีบกล่าวว่า “ข้าเพียงแค่บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ใช้เพียงยาอายุวัฒนะธรรมดาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาคุณภาพสูงเช่นนี้!”
อะไรคือยาอายุวัฒนะลึกลับแห่งสวรรค์? เป็นยาอายุวัฒนะคุณภาพสูงของสำนักเสวียนเทียน วัสดุของมันต้องใช้สมุนไพรที่มีอายุกว่าร้อยปี และต้องใช้ผู้ที่เชี่ยวชาญอย่างมาก อัตราความสำเร็จของมันก็น้อยนิดยิ่งนัก แม้ว่าสำนักเสวียนเทียนจะมีความมั่งคั่งอย่างมาก ภายในไม่กี่ร้อยปีพวกเขาสามารถผลิตยานี้สำเร็จได้เพียงสิบในร้อยเท่านั้น
ยาเช่นนี้มีค่ามากเมื่อผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินใช้มันเมื่อได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือแม้แต่พวกเขาก็ตาม เขายินดีที่จะใช้มันหากได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่สำหรับการบาดเจ็บของเจ้าอ้วนที่เล็กน้อยเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาไม่ยินยอมที่จะใช้มันเด็ดขาด
แต่หงหยิงกังวลเกี่ยวกับเจ้าอ้วนมากเกินไป อีกทั้งนางไม่เคยสนใจยาอายุวัฒนะเลย ดังนั้นนางจึงไม่ได้ฟังคำทักท้วงของเจ้าอ้วนและยัดมันเข้าปากของเขาทันที
ยาอายุวัฒนะลึกลับแห่งสวรรค์ไม่ใช่ยาธรรมดา แน่นอนว่าผลการรักษาของมันเป็นเลิศมากสำหรับผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน แม้ว่าเจ้าอ้วนจะมีร่างกายที่แข็งแกร่ง เขาก็ไม่สามารถทนต่อยาชนิดนี้ได้ ในตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนั่งสมาธิและเดินลมปราณใหม่อีกครั้งเพื่อปรับผลกระทบของยา
โชคดีที่ปฐมกาลแห่งความโกลาหลของเขาเป็นเรื่องมหัศจรรย์ รวมกับภายในของเขาบาดเจ็บหลายอย่าง เขาจึงสามารถกระจายการดูดซับของยาได้ จากนั้นเพียงแค่สิบนาที เขาสามารถดูดซึมยาชนิดนี้ได้ทั้งหมด ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บของเขาถูกรักษาอย่างสมบูรณ์ ระดับการฝึกฝนของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้เขาติดอาการตีบตันของระดับเซียนเทียนขั้นสิบสองและสามารถที่จะก้าวสู่ระดับเซียนเทียนขั้นสิบสามได้ตลอดเวลา ก่อนอื่นที่ต้องรู้คือในเดือนที่ผ่านมา เขาก้าวเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นสิบสองด้วยการฝึกตนแบบคู่กับแม่นางฉุ่ยจิ้ง และในตอนนี้เขาก็ติดอาการตีบตันแล้ว ความคืบหน้าเช่นนี้ยังไม่เคยมีบันทึกมาก่อน เห็นได้ชัดเจนว่านี่เป็นผลของยาอายุวัฒนะลึกลับแห่งสวรรค์
หลังจากที่ทำสมาธิเสร็จสิ้น เจ้าอ้วนยืนขึ้นอย่างมีความสุข แต่หงหยิงหลบไปด้านหลังอย่างละอายใจ นางอยากจะมองเขาแต่ก็ยังไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้น เจ้าอ้วนงุนงงอย่างมาก เขาจึงมองร่างกายตนเอง แล้วเขาก็เข้าใจทันทีว่าในตอนนี้เขาเปลือยท่อนบนอยู่ และท่อนล่างของเขาก็ดูน่าเวทนานัก เจ้าอ้วนรีบหยิบเสื้อคลุมลัทธิเต๋าออกมาจากกระเป๋ามิติทันทีพร้อมกับสวมใส่อย่างรีบร้อน
หลังจากที่เขาเปลี่ยนชุดเสร็จหงหยิงเคลื่อนตัวเข้ามาหาเขาพร้อมถามว่า “พี่ชายอ้วน อาการบาดเจ็บของเจ้าดีขึ้นแล้วหรือ?”
“ข้าได้รับยาอายุวัฒนะลึกลับแห่งสวรรค์เลยนะ เหตุใดข้าจึงจะไม่ดีขึ้นล่ะ?” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
“อา ดีแล้วที่เจ้าดีขึ้น!” หงหยิงถอนหายใจอย่างโล่งอก ดังนั้น นางชี้ไปที่ระฆังยักษ์พร้อมถามว่า “แล้วเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เหอะเหอะ เขาไม่ค่อยจะดูดีเท่าไหร่! เขาตายแล้ว!” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมกับหัวเราะเสียงเบา เขาเก็บระฆังยักษ์ทันที จากนั้นก็พบซากศพอยู่ที่ใต้ระฆัง
เมื่อหงหยิงมองเห็นซากศพที่น่าขยะแขยง นางเบือนหน้าหนีอย่างรังเกียจ อย่างไรก็ตาม นางสนใจกระบี่เฟิ่งหมิงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เจ้าของของมันตายตกไปแล้ว สมบัติวิญญาณจะเป็นผู้ที่เลือกเจ้าของใหม่เอง บางครั้งมันจะเลือกผู้ที่สังหารเจ้าของมันก่อนหน้านี้ แต่บางครั้งมันก็บินออกไปที่อื่น
ในขณะนี้ เห็นได้ชัดเจนว่ากระบี่เฟิ่งหมิงได้ตัดสินใจแล้ว ด้วยการสั่นของมันเล็กน้อย มันกรีดร้องออกมาและพุ่งเข้าหาหงหยิงเป็นแสงสีทอง
เมื่อเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ ใบหน้าของเจ้าอ้วนเปลี่ยนสีทันทีพร้อมกับตะโกนออกมา “ศิษย์น้อง ระวัง!” แม้ว่าเขาต้องการจะปกป้องหงหยิง แต่ความเร็วของเขาก็ไม่อาจสู้กับกระบี่เฟิ่งหมิงได้ ความเร็วของมันนั้นสมบูรณ์แบบ เขาทำได้เพียงยืนดูกระบี่เฟิ่งหมิงที่กลายเป็นแสงสีทองพุ่งหายเข้าไปในหน้าผากของหงหยิง
ขณะนั้นเจ้าอ้วนคิดว่าหงหยิงได้ตายตกไปเพราะกระบี่เฟิ่งหมิงแล้ว แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าหงหยิงไม่มีอาการบาดเจ็บใดเลย แม้ว่าหงหยิงจะตกใจเช่นกันและสิ่งที่เกิดขึ้นน่ากลัวมาก แต่นางก็ไม่ได้รับบาดเจ็บใด เห็นได้ชัดว่ากระบี่เฟิ่งหมิงไม่ได้ตั้งใจจะสังหารนาง
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เจ้าอ้วนตกใจอย่างมาก แต่เขาก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหัวเราะอย่างขมขื่น “ไม่ใช่อย่างที่ข้าคิดงั้นหรือ? อย่าบอกนะว่ากระบี่เฟิ่งหมิงต้องการเลือกเจ้าให้เป็นเจ้านายคนต่อไป?”
ตอนนี้สิ่งที่เจ้าอ้วนคิดคือความจริง หลังจากนั้นชั่วครู่ หงหยิงลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างสดใส พร้อมกับจับมือเจ้าอ้วนและตะโกนออกมา “พี่ชายอ้วน พี่ชายอ้วน กระบี่เฟิ่งหมิงเลือกข้าเป็นเจ้านาย! มันเลือกข้า! และยังสอนเคล็ดวิชาการใช้มันอีกด้วย!”
“ยินดีด้วย ยินดีด้วยจริง ๆ!” เขาทำได้เพียงตอบกลับไปเช่นนั้นพร้อมกับหัวเราะอย่างขื่นขม เขาสามารถกล่าวอย่างอื่นได้อย่างนั้นหรือ?
เมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนไม่ได้มีความสุขเท่าไหร่นัก หงหยิงรู้สึกผิดทันทีและกล่าวออกมาอย่างลำบากใจ “พี่ชายอ้วน มันเป็นความพยายามของท่านที่จะสังหารตู๋เชียนเฉิง แต่กลับเป็นข้าได้รับสิ่งวิเศษแทน!”
“ฮ่าฮ่า เด็กน้อย เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรกัน!” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขากล่าวออกมาอย่างใจกว้างทันที “ถ้าหากเจ้าไม่กลับมาช่วยข้า ข้าคงจะตายตกไปแล้วด้วยมือของตู๋เชียนเฉิง! อีกอย่างหนึ่ง กระบี่เฟิ่งหมิงเป็นสมบัติวิญญาณ มันจะเลือกเจ้าของเอง และในตอนนี้มันเลือกเจ้า หมายความว่าเจ้าโชคดีอย่างมากที่ถูกเลือก ข้ารู้สึกยินดีกับเจ้าจริง ๆ!”
ความจริงแล้ว ไม่ใช่ว่าเจ้าอ้วนไม่รู้สึกอะไรเลย แน่นอนว่าเขาโกหก นี่ไม่ใช่สมบัติที่จะพบเจอได้ง่าย ๆ มันเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในโลกของผู้ฝึกตน! แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินยังไม่อาจมีครอบครองได้ แม้แต่จ้าวสำนักผู้ยิ่งใหญ่แห่งสำนักเสวียนเทียนยังไม่มีสมบัติวิญญาณสักชิ้น! เห็นได้ชัดเจนว่าสมบัติวิญญาณนั้นมีค่ามากเพียงใด
อย่างไรก็ตาม สมบัติวิญญาณนั้นไม่ได้สนใจว่าใครจะเลือกมัน มันสนใจเพียงแค่ว่ามันเลือกใครเท่านั้น โชคชะตาเป็นสิ่งที่ไม่อาจมองเห็นแต่สามารถรู้สึกได้ หากสมบัติวิญญาณไม่ต้องการจะปฏิบัติตาม มันก็ไร้ประโยชน์หากต้องการจะบังคับมัน รวมกับการกระทำของหงหยิงที่ตั้งใจจะกลับมาและตายตกไปพร้อมกับเขา ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง ดังนั้นเจ้าอ้วนจึงไม่ได้ใส่ใจว่ากระบี่เฟิ่งหมิงนั้นตกเป็นของใคร เขาจึงแสดงความยินดีกับหงหยิงจากก้นบึ้งของหัวใจ