SD:บทที่ 52 โอ้ไม่….
บรรยากาศในห้องผู้ป่วยแปลกไปเล็กน้อย เซี่ย หรงหรง สังเกตเห็นว่า ซู เซี่ยวเซี่ยว มีทัศนคติแตกต่างไปจากเมื่อสักครู่อย่างชัดเจน นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านี้เธอคิดว่า เซี่ย หรงหรง เป็นเพียงเพื่อนของพี่ชายของเธอ แต่ในตอนนี้มีโอกาสสูงที่ เซี่ย หรงหรง อาจจะได้เป็นพี่สะใภ้ของเธอ! เธอจะปฏิบัติตัวเหมือนเดิมได้อย่างไร!
สาวๆต่างพูดคุยกันอย่างสนุกสนานในขณะที่ ซู ฉิวไป่ ถูกทิ้งไว้ด้านหลัง เขาส่ายหัวอย่างไม่สนใจ ในขณะที่เขากำลังคิดว่าจะทำอะไรต่อไปทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงรถสปอร์ตดังมาจากข้างนอก เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นพวกของ เฉา ตั้วเฟย และแก๊งของเขา
ซู เซี่ยวเซี่ยว ได้แจ้งให้เขารู้ก่อนหน้านี้ว่า เฉา ตั้วเฟย และแก๊งของเขาถูกสั่งให้ไปพักที่โรงแรมโดย เซี่ย หรงหรง เมื่อคืน หลังจากพวกเขาตื่นขึ้นพวกเขารีบลงมาที่โรงพยาบาลทันที
หลังจากนั้นไม่นานเสียงฝีเท้าก็ดังก้องตามทางเดิน เฉา ตั้วเฟย ค่อยๆผลักประตูห้องผู้ป่วยเข้ามาเมื่อเขาเห็น ซู ฉิวไป่ นั่งอยู่บนเตียงเขาตะโกนขึ้นว่า
“บอส” เหล่าผู้ชายที่เดินอยู่ด้านหลังรู้สึกเต็มไปด้วยความสุขเช่นกัน
เมื่อคืน เฉา ตั้วเฟย ได้จัดประชุมแก๊งของเขาทั้งคืนที่โรงแรม กลุ่มเยาวชนเหล่านี้ได้รับการเล่าเรื่องเกี่ยวกับชายผู้กล้าหาญจากเขาเหลียงซานซึ่งก่อให้เกิดความโกลาหลในสระมังกร แหล่งถ้ำเสือ เกี่ยวกับ หลีขุย และขวานคู่ที่เตรียมจะตัดหัว เซียว ซิวเหวิน คนที่อยู่ในห้องพักโรงแรมต่างตื่นเต้นกับเรื่องเล่านี้ พวกเขาคุยกันเสียงดังมากจนแขกที่โรงแรมรายงานเกี่ยวกับความประพฤติของพวกเขา
อย่างไรก็ตามเยาวชนพวกนี้ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการรายงานความประพฤติของพวกเขามากนัก สิ่งที่พวกเขาได้ยินเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมากพวกเขาอดไม่ได้ตะโกนออกมาสัก 2 -3 ครั้งพวกเขาคงรู้สึกอึดอัดตาย
ดังนั้นเมื่อรุ่งสางมาถึงพวกเขาเริ่มเดินทางมายังโรงพยาบาล
เฉา ตั้วเฟย ยังคงเป็นห่วง ซู ฉิวไป่ เนื่องจากเขาไม่สามารถติดต่อ ซู ฉิวไป่ ได้ทางโทรศัพท์ได้ และเมื่อเห็น ซู ฉิวไป่ อยู่ที่ห้องพักผู้ป่วย เฉา ตั้วเฟย รู้สึกโล่งใจ
“ทุกคนเบาๆกันหน่อยมีผู้ป่วยคนอื่นอยู่ที่นี่”
เซี่ย หรงหรง บ่น เฉา ตั้วเฟย และแก๊งของเขาเมื่อพวกเขาเห็น เซี่ย หรงหรง จ้องมองพวกเขารีบปิดปากทันที พวกเขาต่างคุ้นเคยกับ เซี่ย หรงหรง แม้กระทั่ง เฉา ตั้วเฟย ที่ใช้ชีวิตดื้อรั้นและยังลักพาตัว เซี่ย เซี่ยวมู่ น้องชายของ เซี่ย หรงหรง เขาก็ยังไม่สามารถที่จะต้านทานความกดดันที่เซี่ยหรงหรงแสดงออกมาได้
ทั่วทั้งเมืองชิงเหอ พวกเขาทุกคนได้รับคำเตือนจากครอบครัวว่าห้ามยั่วยุ เซี่ย หรงหรง เด็ดขาด นี่คือเหตุผลที่เธอสามารถสั่งให้ผู้ชายเหล่านี้กลับไปยังโรงแรมและไม่มีใครกล้าต่อต้านคำสั่งของเธอ
ทันใดนั้นห้องจะเงียบลง ซูเซี่ยวเซี่ยว และ จางเหวิน รู้สึกแปลกๆ พวกคนเหล่านี้ไม่เพียงแต่ขับรถหรูหราที่มีราคาหลายล้านหยวนเท่านั้นแต่พวกเขายังคงหยิ่งทะนงและดื้อรั้น เพียงแค่ประโยคเดียวของ เซี่ย หรงหรง สามารถทําให้ทุกคนเงียบสงบลงได้อย่างไร
ซู ฉิวไป่ ไม่แปลกใจกับเรื่องนี้เขารู้เกี่ยวกับภาพลักษณ์ของ เซี่ย หรงหรง ดีในตอนที่อยู่ต่อหน้าคนอื่น ที่ไม่ใช่เขา
ซู ฉิวไป่ หัวเราะอย่างมีความสุข จากนั้น ซู ฉิวไป่ ก็พาพี่น้องของเขาลงไปชั้นล่างปล่อยให้ผู้หญิงทั้งหลายอยู่ในห้องพัก ในตอนแรกเขานึกถึงคำพูดในระหว่างที่เดินแต่พี่น้องของพวกเขาทุกคนใส่ชุดสูทสีดำทำให้คนเดินผ่านไปมาแอบถ่ายรูปพวกเขา
นี้มัน…ถ้าภาพถูกอัพโหลดไปยังอินเตอร์เน็ตคงมีข้อความว่า:
ชายอันธพาลและแก็งของเขารวมตัวที่โรงพยาบาลเพื่อก่อปัญหา ดูเหมือนจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นอีก
พวกเขาเดินลงบันไดลงไป ฝนยังคงพรั่งพรูอยู่ด้านนอก อย่างไรก็ตามมันยังคงเบาลงเล็กน้อยกว่าตอนแรก ท้องฟ้ายังคงเป็นสีเทา
“บอส คุณต้องการที่จะแข่งขันสมาคมรถแข่งไหม ให้เซี่ย หรงหรงดูแลเซี่ยวเซี่ยวอยู่ที่นี่รับรองว่าจะไม่เกิดปัญหาใดๆ”
เฉา ตั้วเฟย พูดกับ ซู ฉิวไป่
คนขับรถแท็กซี่จ้องมองเหล่าเยาวชนเหล่านั้นและสังเกตเห็นดวงตาของพวกเด็กๆเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น พวกเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการแข่งขันรถมา 2-3 วันเนื่องจากเรื่องของ ซู เซี่ยวเซี่ยว แต่ตอนนี้เธอสบายดีแล้วและวัยรุ่นกลุ่มนี้ยากที่จะต่อต้านการล่อลวงของการแข่งขันรถยนต์ได้อย่างไร
สำนักงานใหญ่ของกลุ่มพันธมิตรการแข่งขันรถยนต์อยู่ที่เมืองตงไห่ พวกเขามีสนามแข่งที่สมบูรณ์และรถแข่งระดับโลก ใครก็ตามที่นักการแข่งขันจะต้องไปดูอย่างแน่นอน แม้แต่ ซู ฉิวไป่ เองก็ไม่มีข้อยกเว้นเห็นได้ชัดว่าการที่เขาเลือกเป็นคนขับรถแท็กซี่เพราะเขาชื่นชอบการขับรถ
เขาเกือบจะตอบตกลงในทันทีในเมื่อเขาอยู่ในเมืองตงไห่อยู่แล้ว แต่เขาก็ระลึกได้ว่า เซี่ย หรงหรงนั้นขับรถมาจากเมือง ชิงเหอ เพื่อมาดูแล ซู เซี่ยวเซี่ยว ตลอดทั้งคืนจนไม่ได้พักผ่อน เรื่องนี้ทำให้ ซู ฉิวไป่ รู้สึกละอายเล็กน้อย
ดังนั้น ซู ฉิวไป่ จึงจ้องกลับไปในดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวังของ เฉา ตั้วเฟย และส่ายหัวเบาๆ
“พวกนายไปกันเถอะ ผมยังรู้สึกเป็นกังวล ไว้ผมจะไปกับพวกนายในครั้งต่อไป”
ซู ฉิวไป่ รู้สึกผิดเล็กน้อยที่เห็นความผิดหวังในสายตาของ เฉา ตั้วเฟย สุดท้ายแล้วพวกเขารู้จักพี่น้องเหล่านี้มาช่วงระยะเวลาหนึ่งและเขาก็ชื่นชอบที่จะใช้เวลากับคนเหล่านี้ แต่ตอนนี้เขาควรที่จะอยู่ในโรงพยาบาล
“ OK…งั้นพวกเราจะไปกันก่อน ไว้คราวหน้าลูกพี่ห้ามพลาดนะ”
พวกเด็กๆยอมรับคำพูดของ ซู ฉิวไป่ ยังไม่ค่อยเต็มใจพวกเขากล่าวอำลาและเดินออกจากโรงพยาบาลไปยังรถของพวกเขา หลังจากที่พวกเขาออกเดินทางกันไปแล้ว ซู ฉิวไป่ ก็กลับขึ้นมายังห้องพักของ ซู เซี่ยวเซี่ยว
ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า มีเพียง เซี่ย หรงหรง และ ซู เซี่ยวเซี่ยว อยู่ในห้อง จางเหวินและเสี่ยวหลี่ได้กลับไปแล้ว
ซู เซี่ยวเซี่ยว อธิบายว่าพวกเธอมีธุระที่มหาวิทยาลัย นอกจากนี้พวกเธอยังช่วยเคลียร์ปัญหาเกี่ยวกับการเรียนของ ซู เซี่ยวเซี่ยว ที่มหาวิทยาลัยอีกด้วย
ซู ฉิวไป่ รู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจสำหรับเด็กผู้หญิงทั้งสองคน เขาบอกกับ ซู เซี่ยวเซี่ยว ว่าเขาจะเชิญพวกเธอมาทานอาหารเย็นทันทีเมื่อพวกเธอว่าง
ซู เซี่ยวเซี่ยว เองก็เห็นด้วย
ห้องพักผู้ป่วยกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ซูเซี่ยวเซี่ยว และ เซี่ย หรงหรง ยังคงพูดคุยกันในขณะที่ ซู ฉิวไป่ นั่งอยู่บนขอบเตียงอย่างเงียบๆเพื่อฟังพวกเธอ
หลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีโทรศัพท์ของ เซี่ย หรงหรง ก็ดังขึ้น เธอหยิบและเดินออกไปคุยโทรศัพท์หลังจากเธอกลับมาการแสดงออกของเธอไม่ค่อยดีนัก
“เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรอ?” ซู ฉิวไป่ สังเกตเห็นและถามทันที
“ไม่มีอะไร เป็นเพียงปัญหาการทำงาน..”หลังจากที่ เซี่ย หรงหรง พูดออกมาเธอมองไปที่ ซู เซี่ยวเซี่ยว และยิ้ม
“เซี่ยวเซี่ยว พักผ่อนให้มากๆนะ พอดีพี่ติดปัญหาบางอย่างและถ้าทำงานเสร็จพี่จะกลับมาหาเธอทันที เดี๋ยวพี่จะสั่งให้พยาบาลคอยเตือนพี่ชายของเธอในกรณีที่เขาอาจจะลืมอะไร”
ตามความเป็นจริงแล้ว ซู ฉิวไป่ ไม่เคยเห็น เซี่ย หรงหรง พูดมากเกิน 1 ลมหายใจมาก่อน และเมื่อเห็นความอ่อนโยนที่เธอแสดงต่อน้องสาวของเขามันทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่น
ซู เซี่ยวเซี่ยว พยักหน้าจากนั้นชักชวนให้พี่ชายของเธอออกไปส่ง เซี่ย หรงหรง
ในขณะที่เธออยู่ในห้องพักผู้ป่วยเพียงลำพังและให้ ซู ฉิวไป่ ออกไปส่ง เซี่ย หรงหรง ด้านนอก ทั้งคู่เงียบตลอดทางจนถึงชั้นล่าง เซี่ย หรงหรง กำลังรอให้ ซู ฉิวไป่ พูดอะไรบางอย่าง แต่เขากลับไม่พูดอะไรออกมา
ในที่สุดเธอก็เริ่มวิตกกังวลเมื่อเธอกำลังเดินเข้าใกล้รถของตัวเอง
“เกิดอะไรขึ้น?คุณต้องการให้ผมช่วยเหลืออะไรไหม?”
ซู ฉิวไป่ ถาม เซี่ย หรงหรง ที่ยืนนิ่งจากนั้นเธอหันหน้ามาหาเขาแล้วพูดว่า
“มันเป็นเพียงปัญหาของบริษัท เกี่ยวกับการลงทุน ฉันจะกลับไปตรวจสอบอีกครั้งและจะกลับมาที่นี่เมื่อทำงานเสร็จแล้ว”
ความเงียบสงบของเธอทำให้หัวใจของ ซู ฉิวไป่ รู้สึกเป็นกังวล
“คุณไม่ต้องกลับมาที่นี่ก็ได้ ผมจะดูแลเซี่ยวเซี่ยวเอง ตอนนี้เธอดีขึ้นแล้ว แต่คุณควรที่จะพักผ่อนและดูแลตัวเอง”
เซี่ย หรงหรง พยักหน้าและหันหลังกลับไปแต่ในไม่ช้าเธอก็หยุดนิ่งอีกครั้งแล้วหันหน้ามาเผชิญกับ ซู ฉิวไป่
“ ครั้งต่อไป…อย่าปิดโทรศัพท์นะ”
เมื่อเธอพูดเสร็จเธอก็เข้าไปในรถทิ้งให้ ซู ฉิวไป่ ยืนอย่างงุนงง เมื่อรถของ เซี่ยหรงหรง เคลื่อนที่ออกจากโรงพยาบาลในที่สุด ซู ฉิวไป่ ก็ตั้งสติได้ เขาเข้าใจว่าทำไมเธอถึงพูดอย่างนั้นมันทำให้เขารู้สึกผิด เขาปิดโทรศัพท์หลังจากยืมเงินของเธอและรีบค้นหาที่อยู่ของตระกูลเซี่ยว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เซี่ย หรงหรง ต้องเป็นห่วงอย่างมากจนเธอต้องขับรถมาจากเมืองชิงเหอ จากนั้นเมื่อได้ยินข่าวว่าเซี่ยวเซี่ยวรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเธอจึงได้มาดูแลน้องสาวของเขา….
ซู ฉิวไป่ เคยปฏิบัติต่อ เซี่ย หรงหรง ในฐานะเพื่อนของเขาแต่ในตอนนี้ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอนั้นเริ่มเปลี่ยนไป
เขาจุดบุหรี่สูบสักครู่ ในขณะที่เขาเตรียมที่จะขึ้นไปยังชั้นบน ก็มีรถมาหยุดอยู่ใกล้ๆกับเขา เมื่อ ซู ฉิวไป่ จ้องมองเขาก็เห็นว่าชายคนที่อยู่ในรถนั้นคือ กู่ เชียนซาน!
หลังจากขบคิดสักพัก ซู ฉิวไป่ ก็รู้ว่าชายคนนี้จะต้องมาอย่างแน่นอน เพราะในตอนนี้ กู่ เฉิงหยา ยังคงเจ็บปวดอยู่กับความเจ็บป่วยของเธอ
ในขณะที่ กู่ เชียนซาน กำลังคิดหาคำพูดคุยกับ ซู ฉิวไป่ แต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากที่ ซู ฉิวไป่ เห็นเขา ซู ฉิวไป่ นี่วิ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
“คุณซู เอ่อ…ไม่ได้เจอกันนานนะครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดของ กู่ เชียนซาน ซู ฉิวไป่ แทบพูดไม่ออก
บ้าหรือป่าว….พวกเราเพิ่งเจอกันเมื่อคืน!
อันที่จริงแล้ว กู่ เชียนซาน ไม่ได้ที่จะเล่นตลกแต่เขาเป็นกังวลเกินไป และเมื่อเห็นสภาพของ กู่ เฉิงหยา ที่แย่ลงเมื่อคืนเธอหมดสติลงไปแล้ว หมอหลายคนได้ถูกเชิญโดยปู่กู่มายังบ้านของพวกเขา แต่พวกหมอไม่สามารถหาวิธีช่วยเหลือเธอได้อย่างนั้น ซู ฉิวไป่ จึงเป็นความหวังสุดท้ายของตระกูลกู่
“ผมเคยพูดแล้วว่า ไม่ใช่เพราะผมไม่ต้องการช่วยคุณแต่ผมไม่สามารถพาชายชราทั้งสองคนกลับมาช่วยพวกคุณได้อีกแล้ว!”
ซู ฉิวไป่ ส่ายหัวอย่างไร้ประโยชน์และยอมรับความจริง คำพูดของเขาทำให้รอยยิ้มของ กู่ เชียนซาน แข็งทื่อ เขาแทบจะสาปแช่งออกมา เพราะความโง่เขลาของ กู่ จ้านชุน
ในความเป็นจริงตระกูลกู่นั้นได้รับการยกย่องมานานหลายปีดังนั้นทุกคนในตระกูลของพวกเขามักจะหยิ่งยโส
“คุณซู ผมขอร้องได้โปรดช่วยลูกสาวของผมด้วย เมื่อคืนเธออาเจียนเป็นเลือดออกมาแล้วไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย ได้โปรด..”
น้ำตาของเขาเริ่มไหลอาบแก้มในขณะที่ กู่ เชียนซาน กำลังพูด ซู ฉิวไป่ ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรเขาจึงนิ่งเงียบ ในที่สุดเขาก็หันไปมอง กู่ เชียนซาน และพูดว่า
“ถ้าอย่างนั้นผมจะลองดูอีกครั้ง”
จากนั้นเขาไม่ได้รอคำตอบของ กู่ เชียนซาน เขาเดินไปที่รถแท็กซี่ เมื่อคืนเมื่อเขาสำเร็จภารกิจเขาได้เปลี่ยนรถของเขากลับมาเป็นรถแท็กซี่อีกครั้ง ไม่อย่างนั้นตอนนี้เขาคงจะต้องขับรถบรรทุกแทน
เมื่อเขาขึ้นไปในรถเขาเริ่มเปิดระบบนำทาง
อย่างไรก็ตาม…..ระบบนำทางเสีย!
ซู ฉิวไป่ รู้สึกงุนงง ระบบนำทางเสีย…ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว…
————————————————