“ให้หล่อน?ยังกลางวันอยู่เลยหยุดเพ้อฝันได้แล้ว อีกไม่นานก็จะถึงวันเกิดพี่สาวฉันแล้ว นั่นเป็นของขวัญที่ฉันจะมอบให้พี่ต่างหาก!”
เมื่อหญิงสาวผู้ร้อนแรงได้ยินเช่นนั้นใบหน้าของหล่อนก็แสดงท่าทีอึดอัดขึ้นมาทันที แต่ไม่นานหล่อนก็ได้กลับคืนสู่ภาวะปกติและพูดด้วยรอยยิ้มที่แสนหวานว่า “เคอหลิน คุณนี่ปฏิบัติกับพี่เฉี่ยวเฉี่ยวดีจังเลยนะคะ!”
หล่อนรู้อยู่แน่ชัดว่าหล่อนเป็นแค่ของเล่นของตู้เคอหลินเท่านั้น เป็นของที่พอเล่นจนอิ่มหนำก็จะถูกโยนทิ้ง เทียบไม่ได้ตู้เฉี่ยวเฉี่ยวเลยแม้แต่น้อย
หากระเบิดอารมณ์ออกมาล่ะก็คงเป็นไปได้อย่างมากที่จะถูกคนนิสัยเสียอย่างตู้เคอหลินตบเข้าให้สักฉาดและถูกทิ้งไว้ที่นี่อย่างอับอาย
ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าหล่อนจะไม่พอใจสักเท่าไหร่ก็ต้องอดกลั้นมันเอาไว้
“แน่นอนสิ!เธอเป็นพี่สาวของฉัน ฉันจะทำไม่ดีกับเธอได้อย่างไรกัน?”
ตู้เคอหลินไม่แม้แต่จะเหลือบมองมาที่หญิงสาวผู้ร้อนแรงคนนี้เลยแม้แต่น้อยและมองดูฝูงชนที่อยู่รอบๆก่อนจะพูดอย่างหยิ่งยโสว่า “วันนี้ฉันตู้เคอหลินจะต้องชนะการประมูลสร้อยรักนิรันดร์รอบสุดท้ายนี้ให้ได้ ส่วนใครไหนที่อยากเข้าร่วมการประมูลก็ต้องรู้จักประมาณตนด้วย!”
คำพูดที่เย่อหยิ่งนี้ได้สร้างความรำคาญใจให้กับทุกๆคนและทำให้คนจำนวนไม่น้อยต่างรู้สึกโกรธขึ้นมาในทันที พวกเขาตัดสินใจที่จะปั่นเสนอราคาสร้อยคอรักนิรันดร์เพื่อที่จะทำให้ตู้เคอหลินต้องเสียเงินมากขึ้นหน่อย
พี่เหวินนั่งนิ่งไม่อยู่อีกต่อไป เขารีบวิ่งเข้ามาและพาตู้เคอหลินทั้งสองคนไปยังโซนVIPด้วยตนเอง
เมื่อเห็นใบหน้าของเฉินหวั่นชิง ดวงตาของตู้เคอหลินถึงกับค้างงัน
ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าหรือว่ารูปร่างหรือแม้แต่กิริยามารยาทก็ล้วนแต่ชนะเหนือกว่าผู้หญิงที่ร้อนแรงด้านข้างเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
ส่วนเย่เทียนที่อยู่ด้านข้างของเฉินหวั่นชิงนั้นเขาไม่แม้แต่จะเหลือบตามองเลยเสียด้วยซ้ำ
ขอเพียงแค่เขาอยากได้ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีแฟนหรือแม้แต่สามีแล้วก็ตาม!
ตู้เคอหลินปล่อยข้อมือของหญิงสาวผู้ร้อนแรงออกในทันทีพร้อมกับยิ้มออกมาอย่าหล่อเหลาและเดินไม่กี่ก้าวเข้ามาหาเฉินหวั่นชิง
“คุณผู้หญิงคนสวยครับ ผมคือตู้เคอหลิน ทายาทของตู้ซื่อกรุ๊ปแห่งตระกูลตู้ ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีเวลาว่างไปหาอะไรกินอาหารมื้อดึกกับผมไหมครับ?”
ตู้เคอหลินไม่อ้อมค้อมเลยสักนิดเดียว เขาเดินตรงเข้าไปหาในทันที
“ฉันแต่งงานแล้ว!”
เฉินหวั่นชิงนั้นรับรู้ได้ถึงแววตาของตู้เคอหลินที่จ้องมองมาที่หน้าอกของเธอ เธอจะหาความประทับใจที่ไหนจากเขากัน โทนเสียงของเธอเย็นชาถึงขั้นสูงสุด
“มันเกี่ยวอะไรกัน?!”
เมื่อตู้เคอหลินได้ยินคำพูดนั้นจึงเหลือบตามองมาที่เย่เทียนอย่างเกียจคร้านและจากนั้นก็รีบถอนสายตาออกมามองที่เฉินหวั่นชิงตามเดิม เขายักไหล่และพูดว่า “ไม่ต้องพูดเรื่องคุณแต่งงานหรอก เพราะต่อให้คุณมีลูกแล้วผมก็ไม่สน”
“ท้ายที่สุดแล้วผมก็ไม่ได้จะคบจนแต่งงานกับคุณหรอก ขอแค่ให้คุณมาอยู่เป็นเพื่อนสักคืนก็พอแล้วผมจะให้คุณหนึ่งล้านหยวน!”
“นายหมายความว่ายังไง?ฉันขอให้นายพูดขอโทษฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
ใบหน้าของเฉินหวั่นชิงมืดมน คำพูดของตู้เคอหลินนั้นเกินไปมาก เขาปฏิบัติกับเธอราวกับเธอเป็นผู้หญิงขายตัว!
“พี่ชาย นี่เป็นผู้หญิงของนายใช่ไหม?ฉันต้องการให้เมียของนายมาอยู่เป็นเพื่อนฉันหนึ่งคืน นายคิดราคามาเลย!”
น่าเสียดายที่ตู้เคอหลินไม่ได้สนใจเฉินหวั่นชิงเลยแม้แต่น้อย สายตากลับจดจ้องไปที่ร่างของเย่เทียนและพูดอย่างตรงไปตรงมา “บางทีนายอาจจะมีสถานะตัวตนอยู่บ้างแต่ฉันขอเตือนนายสักหน่อยว่าความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมากเมื่ออยู่ข้างนอก!”
เขามักจะพาผู้หญิงมาเล่นที่เกาะนกนางนวลและได้ทำการรวบรวมกลุ่มอันธพาลไว้บนเกาะมาก่อนหน้านี้แล้ว ถึงแม้ว่าเย่เทียนจะมีความสามารถอยู่บ้างแต่เขาจะทำอะไรล่ะ?
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำเรื่องแบบนี้ เหยื่อมักจะกังวลเกี่ยวกับชื่อเสียงอีกทั้งการข่มขู่จากพวกอันธพาลอีก เขาต้องสูญเสียเงินจำนวนมากและจนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นด้วย
“ไม่ได้ยินที่ภรรยาฉันพูดหรอกเหรอ?หากไม่อยากตายก็รีบขอโทษภรรยาฉันเร็วๆ!”
ใบหน้าของเย่เทียนนั้นบูดบึ้งอย่างหาที่สุดไม่ได้ ดวงตาที่จ้องมองไปที่ตู้เคอหลินนั้นราวกับมองคนตายอย่างไงอย่างงั้น
“เอ๊ะ?!”
ราวกับว่าตู้เคอหลินได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุดมา เขาทำท่าทางขบหูราวกับได้ยินไม่ชัดเจนนัก “พี่ชาย เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ พูดอีกรอบได้ไหม?”
“หากนายไม่อยากตายก็รีบขอโทษภรรยาฉันเดี๋ยวนี้!”
ดวงตาสีเข้มของเย่เทียนเปล่งประกายความเย็นชาออกมา เดิมทีเขาวางแผนที่จะใช้วิธีใจดีๆคุยกับ杜柯
霖ถึงเรื่องสถานการณ์ของแก๊งหย่งเย่แต่เขากลับพาลมาขนาดนี้ เขาจะยังมีความคิดเช่นเดิมได้ยังไงกัน
“พี่ชาย พอสักที!”
ตู้เคอหลินโกรธแต่กลับยิ้มออกมาพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้แก่เย่เทียน “นายเป็นคนแรกที่กล้าพูดกับฉันแบบนี้ หวังว่าพวกนายจะรอดออกไปจากเกาะนกนางนวลอย่างปลอดภัยนะ!”
เจ๊หยกที่นั่งอยู่โซนDเห็นเหตุการณ์นี้ ด้วยระยะทางที่ไกลกันจึงทำให้หล่อนไม่สามารถรู้ได้ว่าทั้งสองกำลังคุยอะไรกันอยู่
แต่ด้วยความที่หล่อนเป็นคนบนเกาะ หล่อนพอจะเข้าใจถึงพฤติกรรมของตู้เคอหลินและเดาว่าเย่เทียนกับตู้เคอหลินคงมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเพราะเฉินหวั่นชิงเป็นแน่
“เสี่ยวอัน รอจนการประมูลจบลง นายรีบพาพวกเขาออกไปก่อนเลย!”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เจ๊หยกจึงรีบเตือนเซ่อัน “แม้ว่าสถานะตัวตนลูกค้าทั้งสองคนของนายจะไม่เลวแต่ยังไงซะที่นี่ก็คือเกาะนกนางนวล ตู้เคอหลินรวบรวมกลุ่มอันธพาลไว้บนเกาะแห่งนี้ ไม่น่าแปลกใจที่เขาเป็นจักรพรรดิท้องถิ่น”
“เจ๊หยก วางใจได้ ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง”
สีหน้าของเซ่อันเปลี่ยนไปจริงจัง เขามาที่เกาะนกนางนวลแห่งนี้บ่อยครั้งและพอจะรู้วิธีที่ตู้เคอหลินจะทำด้วย
หรือจะพูดได้ว่า ใครก็ตามที่มารุกรานตู้เคอหลินบนเกาะนกนางนวลก็เท่ากับว่ารุกรานพญายมราช!
อย่างไรก็ตาม ของชิ้นสุดท้ายของการประมูลได้ถูกนำขึ้นมาวางบนเวทีเป็นที่เรียบร้อย ไม่รู้ว่ามีเพชรกี่เม็ดที่ฝังอยู่ในสร้อยคอเส้นนั้นถึงได้ทำให้คนตาพร่ามัวกันได้เลยทีเดียว
โดยเฉพาะจี้เพชรสีน้ำเงินที่มีขนาดพอๆกับไข่นกพิราบที่ทำให้ผู้คนต่างสะดุดตามอง แม้ว่าเหล่ามวลชนจะได้เห็นภาพที่โปรโมทลงไปแล้วแต่เมื่อมาเห็นของจริงก็ถึงกับต้องแปลกใจเลยทีเดียว
“เชื่อว่าทุกท่านคงรอกันไม่ไหวอีกต่อไป ผมจะไม่พูดอะไรให้มากความ สร้อยคอรักนิรันดร์เส้นนี้จะเป็นสินค้าประมูลชิ้นสุดท้ายของทางเราครับ!”
“น้ำหนักของจี้เพชรสีน้ำเงินตกอยู่ที่35.83กะรัต เมื่อรวมกับเพชรเม็ดเล็กน้อยใหญ่กว่า168เม็ดจึงทำให้ราคาเริ่มต้นอยู่ที่30ล้าน ในทุกๆครั้งของการประมูลจะต้องประมูลไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านหยวน!”
เมื่อเสียงของผู้ดำเนินการประมูล
สิ้นสุดลง เสียงการเสนอราคาก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ทุกๆคนต่างรู้ดีว่านี่เป็นเพียงการเพิ่มสีสันบรรยากาศ คนที่จะสามารถเป็นเจ้าของคอสร้อยคอรักนิรันดร์จะต้องเป็นคนที่นั่งอยู่ในโซนVIPเท่านั้น
เมื่อนับรวมเย่เทียนและเฉินหวั่นชิงแล้วก็จะมีหกคนที่นั่งอยู่ในโซนVIP
อย่างไรก็ตามผู้คนกว่าเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ต่างพากันเชื่อว่าสร้อยที่เรียกว่ารักนิรันดร์นี้จะต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของตู้เคอหลินเป็นแน่
นี่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ใครให้เขามีพ่อที่ดีกันล่ะ?ไม่รู้ว่าตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ก้าวล้ำหน้ากว่าคนอื่นไปเท่าไหร่
พูดอย่างไม่กล่าวเกินจริง ด้วยแนวโน้มการพัฒนาของตู้ซื่อกรุ๊ป หากไม่มีสถานการณ์ที่ใหญ่โตอะไรก็สามารถทำให้ตู้เคอหลินใช้ชีวิตได้อย่างตามใจชอบไปตลอดชีวิตยังได้