เวลานี้ดูเหมือนปีศาจภัยแล้งจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากถึงสองเท่า!
ในใจของหลิงหยุนเต็มไปด้วยความสงสัย!แม้เขาจะรู้อยู่แล้วว่าปีศาจภัยแล้งนั้นทั้งแข็งแกร่งแล้วก็ดุร้ายมาก แต่ก็ไม่ควรที่จะมีพละกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้!
อีกทั้งปีศาจภัยแล้งยังไม่รู้จักการถนอมรักษาพละกำลังทุกครั้งที่ปะทะกับศัตรู มันก็จะจู่โจมอย่างสุดกำลังเสมอ!
แต่ถึงกระนั้น..ปีศาจภัยแล้งกลับไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หรือหมดเรี่ยวแรงเลย!
แต่แล้วจู่ๆหลิงหยุนก็นึกถึงนักบวชเลี่ยยื่อที่ยังคงนอนหมดสติอยู่..
นักบวชเลี่ยยื่อน่าจะสอนปีศาจภัยแล้งตนนี้ให้สามารถบ่มเพาะพลังจากหยางบริสุทธิ์แต่เพราะเขาเองก็เกรงว่ามันจะนำความหายนะ และอันตรายอย่างยิ่งยวดมาสู่มวลมนุษยชาติ จึงได้ทำการใช้เวทย์มนต์คาถา หรืออำนาจพิเศษบางอย่างสะกดควบคุมปีศาจตนนี้ไว้..
และแน่นอนว่าสิ่งที่สามารถสะกดควบคุมปีศาจภัยแล้งตนนี้ไว้ได้นั้นก็ไม่ใช่ยันต์สีเหลืองที่ร่วงหล่นมาจากศรีษะของมัน แต่เป็นตัวนักบวชเลี่ยยื่อเอง..
แต่เวลานี้..นักบวชเลี่ยยื่อได้รับบาดเจ็บสาหัสจากฝีมือของหลิงหยุน และยังคงนอนหมดสติอยู่อีกด้วย มันจึงหลุดพ้นจากการควบคุม และสามารถแสดงความดุร้ายออกมาได้มากขึ้นเรื่อๆย
หลิงหยุนได้แต่แอบคิดอยู่ในใจว่าหากปล่อยให้เป็นเช่นนนี้ต่อไป คืนนี้เขาคงจะต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน เพราะแม้แต่วิชาพลังมังกรที่เพิ่มศักยภาพในการต่อสู้ให้หลิงหยุนถึงสิบเท่านั้น ก็ยังไม่สามารถทำอันตรายปีศาจภัยแล้งตนนี้ได้เลยแม้แต่น้อย อีกทั้งมันยังแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมถึงสองเท่า และดูท่าว่าจะยังคงสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้อีกเรื่อยๆ
และหากปล่อยไปเช่นนี้..ใครเล่าจะสามารถรับมือกับปีศาจภัยแล้งตนนี้ได้อีก!
เวลานี้..ปีศาจภัยแล้งไร้ผู้สะกดควบคุม และกำลังกลับคืนสู่ความดุร้ายป่าเถื่อนตามสัญชาติญาณดั้งเดิมของมัน แม้แต่วิชาพลังมังกรที่ทำให้หลิงหยุนแข็งแกร่งกว่าเดิมถึงสิบเท่านั้น ก็ยังทำได้เพียงแค่รับมือมันได้เท่านั้น!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หลิงหยุนก็ถึงกับเหงื่อตก!
เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงๆอย่าว่าแต่ไป๋เซียนเอ๋อเลย ทุกคนในบ้านเลขที่-1 ก็ยากที่จะมีชีวิตรอดได้ และเมืองจิงฉูทั้งเมืองก็คงจะโกลาหลวุ่นวายอย่างมาก และจะต้องมีผู้คนล้มตายเพราะปีศาจภัยแล้งอีกมากมายเท่าไหร่ก็ยังไม่อาจรู้ได้
แต่เจ้าปีศาจภัยแล้งก็ไม่ปล่อยให้หลิงหยุนครุ่นคิดนานนักมันพุ่งเข้าใส่หลิงหยุนอย่างรวดเร็ว และไม่หวาดกลัวกระบี่โลหิตแดนใต้ในมือของหลิงหยุนเลยแม้แต่น้อย มันไม่สนใจคนอื่นๆ และจ้องเล่นงานหลิงหยุนแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น!
“นี่เจ้าติดใจอะไรข้านักหนา!ให้ข้าได้พักหายใจหายคอบ้างสิ!”
หลิงหยุนร้องตะโกนบอกเสียงดังพร้อมกับเปลี่ยนมาจับกระบี่โลหิตแดนใต้ไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง จากนั้นจึงพุ่งปลายกระบี่ทิ่มเข้าใส่ใบหน้าที่โหดร้ายดุดันของปีศาจภัยแล้งอย่างไม่ปราณี!
เคร้ง..
เสียงคล้ายโลหะปะทะกันดังขึ้นและร่างที่แห้งราวกับไม้ตายของปีศาจภัยแล้งก็ถูกหลิงหยุนแทงเป็นรู ครั้งนี้เกิดเป็นแผลทั้งลึกและยาวกว่าครั้งใหนๆ แต่กลับไม่มีเลือดไหลออกมาเลยแม้แต่หยดเดียว..
แต่แล้ว..หลิงหยุนก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อถูกปีศาจภัยแล้งสวนกลับจนร่างของเขาลอยละลิ่วออกไปไกล..
ปีศาจภัยแล้งอ้าปากกรีดร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับสะบัดหัวไปมาอย่างรุนแรง และไม่สนใจร่างของหลิงหยุนที่ลอยกระเด็นออกไปอีกเลย..
ดวงตาที่คมกริบของหลิงหยุนเห็นได้อย่างชัดเจนว่าบาดแผลบริเวณริมฝีปากด้านบนของปีศาจภัยแล้งที่เขาเพิ่งแทงกระบี่ลงไปนั้น กลับหายเป็นปลิดทิ้งในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตา นับว่าการฟื้นตัวของมันนั้นรวดเร็วอย่างน่ากลัว หากมันเป็นปีศาจที่ฆ่าไม่ตายเช่นนี้ หลิงหยุนก็ยังคิดไม่ออกว่าจะรับมือกับมันเช่นไรดี
“หลิงหยุนระวัง!”
เหล่าสาวงามที่เห็นร่างของหลิงหยุนลอยละลิ่วออกไปเช่นนั้นทุกคนต่างก็ไม่สามารถซ่อนเร้นความกังวลใจไว้ได้อีก แล้วต่างคนต่างก็ร้องอุทานออกมาพร้อมกัน!
“ไม่ต้องห่วง..ผมไม่เป็นอะไร!”
ระหว่างที่จ้องมองร่างของปีศาจภัยแล้งที่เคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วนั้นหลิงหยุนก็เฝ้าสังเกตผิวเปลือกไม้แห้งที่แตกระแหงของมันด้วยอาการสงบนิ่ง และจู่ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา..
‘เอาล่ะ..ข้าคงต้องลองลดอุณหภูมิในตัวของเจ้าดู!’
ครั้งนี้หลิงหยุนไม่ใช้กระบี่เหมือนเช่นเคยเขาจัดการเรียกยันต์ธาราออกมาสามแผ่น จากนั้นจึงนำไปติดบนร่างของปีศาจภัยแล้ง และรีบกระโดดถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับร้องตะโกนสั่งให้ยันต์ออกฤทธิ์
สิ้นเสียงสั่งยันต์..ลูกบอลน้ำขนาดใหญ่สามลูกก็ปรากฏขึ้นเหนือศรีษะของปีศาจภัยแล้ว ก่อนจะแตกออกกลายเป็นน้ำปริมาณมากมายพุ่งรดร่างที่แห้งผากของมันทันที!
เสียงร้องคำรามของปีศาจภัยแล้งดังขึ้นมันดิ้นรนไปมา และดูเหมือนจะได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก..
“ได้ผล..”
แววตาของหลิงหยุนเป็นประกายสดใสขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด..
แต่เพียงแค่ประเดี๋ยวเดียว..สิ้นเสียงร้องคำรามด้วยความโกรธของปีศาจภัยแล้ง ร่างของมันก็กลับกลายประหนึ่งว่าเป็นหินแมกม่าที่ร้อนแรง และจัดการทำให้น้ำเหล่านั้นระเหยกลายเป็นไอไปอย่างรวดเร็ว!
และเมื่อเห็นเช่นนั้นหลิงหยุนก็ถึงกับสันหลังเย็นวาบขึ้นมาทันที..
แต่ไม่ใช่เพราะหวาดกลัว..หลิงหยุนกำลังใช้วิชาพลังเย็น และพลังหยินบริสุทธิ์ ทำให้อุณหภูมิรอบตัวเขานั้นลดลงทันที จนเวลานี้อุณหภูมิรอบๆตัวอยู่ที่ -10 องศา..
หลิงหยุนสะบัดข้อมือพร้อมกับซัดยันต์ธาราสามแผ่นเข้าไปที่ร่างของปีศาจภัยแล้งอีกครั้งจากนั้นลูกบอลน้ำทั้งสามก็แตกออกรดร่างของมันทันที ปีศาจภัยแล้งกรีดร้องออกมาเสียงดังสนั่นไปหมด..
“ปีศาจภัยแล้งกลัวน้ำนี่เอง!”
“พอล..เจสเตอร์.. เจ้าสองคนเฝ้าพวกมันทั้งสามไว้ให้ดี ส่วนคนอื่นๆตามข้าไปที่สวนหน้าบ้าน!”
เหตุใดจึงต้องไปที่สวนหน้าบ้านอย่างนั้นหรือนั่นเพราะที่สวนหน้าบ้านเลขที่-1 ของหลิงหยุนนั้น มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่นั่นเอง!
หลิงหยุนได้แต่กรีดร้องอย่างดีอกดีใจ“เหตุใดข้าจึงลืมไปได้ว่าปีศาจภัยแล้งกลัวน้ำ!”
หลิงหยุนนึกขึ้นมาได้ว่า..เมื่อครั้งที่หลิงหยุนพาไป๋เซียนเอ๋อนั่งเรือไปกลายร่างที่เกาะเตียวหยูนั้น เขาเห็นไป๋เซียนเอ๋อมีอาการหวาดกลัวน้ำทะเลอย่างมาก และแทบไม่ต้องพูดถึงปีศาจภัยแล้ง!
ทุกคนต่างก็วิ่งตามหลิงหยุนไปที่สวนหน้าบ้านส่วนพอลกับเจสเตอร์ทำหน้าที่เฝ้าซือกงวู่จี๋ นักบวชเลี่ยยื่อ และเฉินเจี้ยนกุ่ยอยู่ที่สวนด้านหลัง..
หลิงหยุนเดินนำปีศาจภัยแล้งที่กำลังโกรธมากนั้นไปที่สวนด้านหน้าทันทีและเพียงพริบตาเดียวก็ไปยืนอยู่ที่ทางเดินรอบสระว่ายน้ำ..
แต่เมื่อปีศาจภัยแล้งกระโดดตามหลิงหยุนมาถึงสวนหน้าบ้านและพบว่ามีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ สีหน้าของมันก็ปรากฏความหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด!
หลิงหยุนไม่รีรอ..เขากระโดดเข้าไปหาปีศาจภัยแล้งพร้อมกับใช้กระบี่ฟันลงไปที่ศรีษะของมันอย่างรุนแรง จากนั้นจึงวิ่งหนีไปที่สระว่ายน้ำอย่างรวดเร็ว
และด้วยไอคิวของปีศาจภัยแล้งไม่มีเหตุผลที่มันจะไม่หลงกลหลิงหยุน ภายใต้ความโกรธที่ปะทุขึ้น.. มันจึงวิ่งไล่ตามหลิงหยุนไปทันที!
“หลิงยู่..ใช้วิชาคลื่นคงคาเร็วเข้า!”
“ค่ะพี่ใหญ่..!”
หนิงหลิงยู่คิดไม่ถึงว่าในคืนแห่งการต่อสู้ที่ดุเดือดเช่นนี้เธอกลับจะมีโอกาสช่วยหลิงหยุนต่อสู้กับปีศาจภัยแล้ง หนิงหลิงยู่ตื่นเต้นอย่างมากจนแทบทำอะไรไม่ถูก แต่หลังจากตั้งสติได้.. นิ้วในมือของหนิงหลิงยู่ก็ขยับไปมา และน้ำในสระก็เริ่มกระเพื่อมเป็นคลื่นคล้ายกับมีลมพัด ก่อนจะพุ่งขึ้นเป็นสาย และซัดเข้าใส่ร่างของปีศาจภัยแล้งที่ยืนอยู่ข้างขอบสระจนเปียกโชกทันที!
นิ้วมือของหนิงหลิงยู่ยังคงเคลื่อนไหวไปมาไม่หยุดและสายน้ำที่พวยพุ่งขึ้นราวกับมังกรน้ำสองตัว ก็พุ่งใส่ร่างที่แห้งผากของปีศาจภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง!
ระหว่างนั้น..หลิงหยุนเองก็เดินพลังหยินบริสุทธิ์ภายในร่างกายทันที และใช้วิชาพลังเย็นทำการแช่แข็งร่างของปีศาจภัยแล้ง!
ในค่ำคืนกลางฤดูร้อนเช่นนี้เมืองจิงฉูจึงมีอุณหภูมิสูงถึงสามสิบแปดองศา แต่อุณหภูมิรอบๆตัวหลิงหยุนกลับลดลงจนติดลบสิบกว่าองศา และความเย็นก็ค่อยๆ แผ่ขยายออกไปรอบๆ จนเวลานี้ภายในบ้านของหลิงหยุนอุณหภูมิลดลงไปเกือบจะศูนย์องศาแล้ว!
อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันเช่นนี้ถังเมิ่ง เกาเฉินเฉิน และคนอื่นๆที่ไม่มีวรยุทธ ต่างก็ไม่สามารถทานทนได้ สีหน้าของทุกคนถึงกับซีดขาว และเริ่มหนาวจนฟันกระทบกันดังกึกๆ
หลิงหยุนสังเกตเห็นอาการของทุกคนจึงรีบร้องตะโกนสั่งไป๋เซียนเอ๋อทันที “เซียนเอ๋อ เจ้าพาเฉินเฉิน ถังเมิ่ง แล้วก็คนอื่นๆ ออกไปให้ห่างข้า แล้วก็คอยคุ้มครองพวกเขาด้วย!”
“เมิ่งหาน..คุณมาช่วยผมจัดการกับปีศาจภัยแล้งเร็วเข้า!”
ไป๋เซียนเอ๋อรีบพาถังเมิ่งเกาเฉินเฉิน และคนอื่นๆถอยห่างออกไป ส่วนหลินเมิ่งหานนั้นกระโดดเข้าไป และใช้วิชาพลังเย็นช่วยหลิงหยุนจัดการกับปีศาจภัยแล้งทันที..
แม้ว่าหลิงหยุนจะแข็งแกร่งมากในเวลานี้แต่ปีศาจภัยแล้งกลับแข็งแกร่งยิ่งกว่า แม้น้ำในสระจะยังคงพุ่งเข้าใส่ร่างของมันอย่างต่อเนื่อง แต่ร่างของปีศาจภัยแล้งก็ร้อนแรงอย่างมากเช่นกัน มันก็ดิ้นรนไปมาทำให้น้ำแข็งที่ครอบร่างอยู่แตกออก ทำให้ไม่สามารถแช่แข็งมันได้เสียที!
และนี่คือการปะทะกันระหว่างน้ำกับไฟความเย็นกับความร้อน!
แม้ว่าหลิงหยุนจะยังไม่สามารถแช่แข็งปีศาจภัยแล้งได้แต่อย่างน้อยมันก็ยังจู่โจมเขาไม่ได้..
เวลานี้หลิงหยุนกับหลินเมิ่งหานร่วมมือกันภายใต้อุณหภูมิที่ลดต่ำอย่างต่อเนื่อง ที่พื้นจึงเริ่มีน้ำแข็งหนาขึ้นเรื่อยๆ และน้ำในสระก็ค่อยๆ กลายเป็นน้ำแข็งหนาเตอะ ทำให้หนิงหลิงยู่ไม่สามารถใช้วิชาคลื่นคงคาควบคุมน้ำในสระได้อีกแม้ว่าจะพยายามอย่างเต็มที่แล้ว..
หลินเมิ่งหานเองก็เป็นเช่นเดียวกัน..หลังจากใช้วิชาพลังเย็นไปครู่หนึ่ง พลังปราณในร่างกายของเธอก็เริ่มหมด และไม่สามารถฝืนต่อไปได้อีก..
หลิงหยุนได้แต่นึกกังวลใจอยู่เงียบๆหากวิธีนี้ยังไม่สามารถควบคุมปีศาจภัยแล้งไว้ได้ ก็คงยากที่จะทำอะไรได้อีกแล้ว..
ในขณะนั้น..โม่วู๋เตาเองก็มองดูการต่อสู้ของทุกคนอยู่ห่างๆ และได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างผิดหวังที่ตนเองไม่สามารถช่วยอะไรได้ พร้อมถอนหายใจก่อนจะร้องตะโกนบอกหลิงหยุน
“เฮ้อ..ปีศาจภัยแล้งตนนี้แข็งแกร่งมาก อีกทั้งยังมีพลังพิเศษ.. หากท่านไม่มีของวิเศษที่จะใช้จัดการกับมันแล้วล่ะก็.. ทุกอย่างก็คงต้องจบ..”.novel-lucky.
‘เดี๋ยวก่อน..ของวิเศษงั้นรึ’
หลิงหยุนฉุกคิดขึ้นมาในใจทันทีและได้แต่คิดว่าในแหวนพื้นที่ของเขายังมีสมบัติพุทธองค์อยู่หลายชิ้น!
เมื่อคิดได้เช่นนี้หลิงหยุนก็เรียกเอาสร้อยประคำออกมา และจัดการคล้องลงไปที่คอของปีศาจภัยแล้งทันที!
เปรี้ยง!
แล้วภายในบ้านเลขที่-1ก็ปรากฏแสงสีทองสว่างไสวไปทั่วทั้งบริเวณ!
ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของปีศาจภัยแล้งหลังจากดิ้นทุรนทุรายอยู่ครู่หนึ่ง มันก็พยายามเอื้อมมือที่มีเล็บยาวนั้นจับสร้อยประคำเพื่อที่จะดึงออก แต่ทันทีที่นิ้วของมันสัมผัสกับสร้อยประคำ มันก็จะสะดุ้งและรีบชักมือออกทันที!
หลิงหยุนเห็นเช่นนั้นจึงไม่รีรอที่จะสาธยายมนต์ที่เคยได้ยินมาในทันที“โอม มา นี แปะ มี ห่ง”
จากนั้นจึงปรากฏแสงสีทองเป็นวงกลมวงแล้ววงเล่าครอบร่างของปีศาจภัยแล้งไว้ทันทีจนไม่สามารถดิ้นรนได้อีกจากนั้นแสงสีแดงในร่างของมันก็ค่อยๆหรี่ลง และในที่สุดหลิงหยุนก็สามารถสะกดปีศาจภัยแล้งไว้ได้ด้วยสร้อยประคำ!
และในเวลานั้นเองหลิงหยุนก็จัดการแช่แข็งปีศาจภัยแล้งได้ในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว!
หนิงหลิงยู่ถึงกับอ่อนระทวยและทรุดลงไปกองกับพื้นทันทีฉินตงเฉี่วยจึงรีบวิ่งเข้ามาประคองร่างของหนิงหลิงยู่ขึ้นจากพื้น!
ส่วนหลินเมิ่งหานนั้นใช้พลังปราณในร่างกายไปจนหมดหลิงหยุนจึงต้องรีบถ่ายเทพลังปราณในร่างกายของตนเองลงไปในร่างของหลินเมิ่งหานทันที และเขาก็มีพลังปราณมากมายพอที่จะสามารถฟื้นฟูร่างกายให้กับหลินเมิ่งหานได้..
“ขอบคุณภรรยาที่ช่วยเหลือในครั้งนี้!”หลิงหยุนพูดพร้อมกับขยิบตาให้
หลินเมิ่งหานยิ้มตอบพร้อมกับพูดเบา“ด้วยความยินดี! ฉันเองก็ดีใจที่ได้ช่วยสามี!”
หลังจากที่หลินเมิ่งหานดีขึ้นแล้วหลิงหยุนจึงขอให้เธอไปช่วยดูแลหนิงหลิงยู่ต่อ..
จากนั้นหลิงหยุนก็ใช้เท้าเตะร่างของปีศาจภัยแล้งที่ถูกแช่แข็งไปที่สระว่ายน้ำแล้วใช้กระบี่โลหิตแดนใต้ทำการเจาะน้ำแข็งในสระให้เป็นหลุม ก่อนจะนำร่างของปีศาจภัยแล้งฝังลงไป!
หลังจากนำร่างของปีศาจภัยแล้งใส่ลงไปในหลุมที่ขุดแล้วหลิงหยุนก็อัดน้ำแข็งทับเข้าไปอีกชั้นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำการแช่แข็งร่างของปีศาจภัยแล้งไว้เช่นนั้น!
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วหลิงหยุนจึงใช้เนตรหยิน-หยางมองทะลุแผ่นน้ำแข็งด้านบนลงไป พร้อมกับจับตาดูปีศาจภัยแล้งที่ถูกฝังอยู่ด้านล่าง..
ร่างของปีศาจภัยแล้งที่ถูกสะกดด้วยสร้อยประคำและถูกแช่แข็งอยู่ด้านล่างนั้น ปรากกฎว่าเวลานี้แสงสีแดงที่ค่อยๆหรี่และดับไปนั้น เวลานี้ได้กลับสว่างขึ้นมาอีกครั้ง!
ครั้งนี้หลิงหยุนถึงกับตกใจสุดขีด!
‘นี่ยังไม่สามารถสะกดปีศาจภัยแล้งไว้ได้อย่างสมบูรณ์หรอกหรือนี่มันยังมีพลังต้านทานอยู่อีกงั้นรึ?’
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นและร้องตะโกนถามออกไปทันที “ผมใช้เวลาในการต่อสู้ไปนานเท่าไหร่แล้ว”
หลิงหยุนจำเป็นต้องรู้ว่าเขาใช้เวลาในการต่อสู้ไปนานเพียงใดแล้วเพราะต้องการดูว่าวิชาพลังมังกรจะยังมีผลใช้ได้อีกนานเท่าไหร่
เกาเฉินเฉินตอบกลับในทันที“สองนาทีที่สวนด้านหลัง และสิบสามนาทีที่สวนหน้าบ้าน รวมแล้วนายใช้เวลาในการต่อสู้ไปทั้งหมดสิบห้านาทีแล้ว!”
หลิงหยุนใจหายเพราะเหลือเวลาที่จะใช้วิชาพลังมังกรได้อีกเพียงแค่สิบห้านาทีเท่านั้น!
หลิงหยุนเรียกตะเกียงน้ำมันออกมาและจัดการวางไว้เหนือศรีษะของปีศาจภัยแล้ง!
หลิงหยุนเองก็ไม่รู้ว่าตะเกียงนี้จะสามารถใช้ได้ผลกับปีศาจภัยแล้งหรือไม่แต่ก็ต้องลองดู!
“พอล..เจสเตอร์.. พวกเจ้ามาเฝ้าปีศาจภัยแล้งไว้! และคอยป้องกันตะเกียงน้ำมันไว้ด้วย!”
“เมิ่งหาน..คุณใช้วิชาพลังเย็นทำหน้าทีควบคุมอุณหภูมิไว้อย่าให้น้ำแข็งละลาย ไม่จำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมด แค่อย่าให้น้ำแข็งละลายก็พอ!”
และเพียงกระโดดแค่ครั้งเดียวหลิงหยุนก็ไปยืนอยู่หน้ายอดฝีมือขั้นเซียงทียน-9 ทั้งสองคน จากนั้นจึงนั่งลงขัดสมาธิอยู่ตรงกลางระหว่างร่างของทั้งคู่ แล้ววางฝ่ามือซ้ายขวาไว้ที่จุดตันเถียนของพวกเขาทันที..
“น้าหญิง..ท่านช่วยคุ้มกันให้ข้าด้วย!”
ฉินตงเฉี่วยร้องถามออกมาทันที“เจ้าเด็กดื้อ.. นี่เจ้าคิดจะทำอะไร”
หลิงหยุนกัดฟันตอบไปว่า“ข้าต้องเร่งเข้าสู่ขั้นพลังชี่!”