บทที่406

ผู้แปล : N.

ทั้งสี่คนจากบริษัทไทกวาง แม็กเนติก แมททิเรียล ถึงกับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างก็คิดว่าจะพยายามหาทางปฏิเสธการร่วมมือครั้งนี้ยังไงดี แต่มาตอนนี้พวกเขากับได้ลืมเรื่องที่พวกเขาคุยกันไปหมดแล้ว

สีมาจินและคนอื่นๆรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝันไป! คำพูดที่พวกเขาต่างก็เตรียมเอาไว้ในใจได้กลายเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ไปอย่างสมบูรณ์

“คุณ … คุณสร้างวัสดุชนิดใหม่ขึ้นมาจริงๆเหรอ?” วังไก่ไม่สามารถคิดคำพูดอื่นออกอีกแล้วนอกจากประโยคนี้

“ แน่นอนสิ! นี้คุณคิดว่าผมจะเอาเรื่องสำคัญมาพูดล่อเล่นหรือไงกัน?” ลูชินได้ตอบกลับไปอย่างใจเย็น

“คุณสร้างมันขึ้นมาได้จริงเหรอ?” เฟิงหว่างเองก็ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็น เขาที่เป็นถึงผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุใหม่นั้นรู้ดีว่าการพัฒนาวัสดุประเภทใหม่ขึ้นมามันยากขนาดไหน และสิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือคนนั้นจะต้องมีโชคอย่างมากด้วย ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะต้องใช้เวลานานอย่างมากกว่าจะวิจัยวัสดุใหม่สำเร็จได้!

อาจพูดได้ว่าไม่มีใครในโลกที่สามารถทำการวิจัยได้เร็วเท่ากับบริษัทลู่เทคโนโลยีอีกแล้ว!

“นี่ … ” สีมาจินไม่รู้จะพูดอะไรดี เขาจึงพูดขึ้นว่า: “วังไก่ เฟิงหว่าน พวกนายรีบทำการตรวจสอบมันเดี่ยวนี้ “

“คุณลู! มันจะเป็นอะไรไหมถ้าผมจะขอยืมห้องปฏิบัติการของคุณ เพื่อที่จะทำการทดสอบเจ้าวัสดุใหม่นี้” เฟิงหว่านได้รีบพูดขึ้นมาทันที

“ แน่นอน! นายช่วยพาพวกเขาไปยังห้องทดสอบที” ลูชินได้หันไปด้านหลังของเขา ก่อนที่เขาจะได้สั่งพนักงานคนหนึ่งมาพาพวกสีมาจินไปทำการตรวจสอบด้วยตนเอง!

หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาทั้งสี่คนก็ได้รับผลลัพธ์ที่เหมือนกับก่อนหน้านี้ทุกอย่าง นั้นยิ่งทำให้พวกเขาต่างก็รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก

ต้องรู้ว่าในแง่ของการวิจัยวัสดุแบบใหม่นั้น ขนาดบริษัทชั้นนำระดับโลก ยังไม่กล้าพูดเลยว่าพวกเขาจะทำแล้วประสบความสำเร็จแบบนี้ และยิ่งในประเทศจีนแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง

“พวกเขาเป็นอัจฉริยะ! เป็นอัจฉริยะจริงๆ!” วังไก่อดไม่ได้ที่จะพูดชื่นชมออกมา

“ฉันบอกได้เลยว่าตอนนี้ในอุตสาหกรรมนี้! ไม่มีใครสู้บริษัทลู่เทคโนโลยีได้อีกแล้ว”

เฟิงหว่านเองก็ได้หมดข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของอีกฝ่ายทันที กลับกันตอนนี้เขากับเต็มไปด้วยความนับถือที่มีให้อีกฝ่ายอย่างสุดหัวใจ และมันก็ทำให้เขาเกิดสงสัยขึ้นว่ากระบวนการผลิตมันทำได้อย่างไร มันจะเป็นไปได้ไหมถ้าเกิดเขาสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ภายใต้ชื่อบริษัทของตัวเอง

แต่เมื่อความคิดนี้ปรากฏขึ้น เขาก็รู้ได้ทันที่ว่าสิทธิบัตรของเทคโนโลยีได้ตกเป็นของบริษัทลู่เทคโนโลยีแล้ว ถ้าเขาต้องการใช้เทคโนโลยีนี้ ทางเขาก็จะต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้มันมา

“คุณลู! ผมรู้สึกทึ่งมากกับสิ่งที่คุณทำ” สีมาจินที่ได้หายจากความตกใจแล้วก็ได้เดินกลับมาหาลูชิน พร้อมกับพูดว่า “ผมได้เห็นแล้วว่าบริษัทของคุณนั้นมีความแข็งแกร่งมากขนาดไหน! ขนาดเรื่องที่ยากที่สุดอย่างการวิจัยวัสดุตัวใหม่ พวกคุณก็ยังสามารถทำมันขึ้นมาได้อย่างง่ายๆ”

“ดังนั้นผมจึงคิดว่าการร่วมมือกันครั้งนี้ของเรานั้นจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน !”

เหมือนว่าสีมาจินจะยังคงกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมกับพูดเพิ่มเติมว่า: “คุณลู่! หากเราสามารถบรรลุข้อตกลงความร่วมมือนี้ได้ ผมสามารถรับประกันได้ว่าบริษัทไทกวาง แม็กเนติก แมททิเรียล จะทำการปรับเปลี่ยนแผนงานทั้งหมด และจะเริ่มผลิตตัวนำยิ่งยวดนี้ทันที! “

ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าพวกคนจากบริษัทไทกวาง แม็กเนติก แมททิเรียล ไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของอีกฝ่ายอีกต่อไป ตอนนี้ในใจของพวกเขาต่างก็ต้องการเกาะต้นขาของบริษัทลู่เทคโนโลยีเอาไว้เท่านั้น

หลังจากนั้นการเจรจาก็ได้ผ่านไปได้ด้วยดี อาจจะพูดได้ว่ามันดีกว่าที่ลูชินคาดคิดเอาไว้ด้วยซ้ำ

โดยที่ทางนั้นได้ให้สัญญาว่าทันทีที่พวกเขาได้ทำการจัดเตรียมอุปกรณ์การผลิตและสร้างสายการเสร็จสมบรูณ์แล้วนั้น พวกเขาจะเร่งทำการผลิตให้ทันที

……

“ไม่คิดว่าบริษัทลู่เทคโนโลยีจะหันไปจับมือกับบริษัทไทกวาง แม็กเนติก แมททิเรียล แบบนั้น ” ข่าวเรื่องการร่วมมือกันครั้งนี้ของทั้งสองบริษัทได้ถูกรายงานมาทางสหรัฐอเมริกาอย่างรวดเร็ว

ทางสมาคมอเมริกัน คอมพิวเตอร์ แอสโซซิเอชั่น วอลเตอร์และสมาชิกคนสำคัญหลายคนต่างก็หัวเราะกับรายงานที่เขาได้รับมา: “ฮ่าฮ่าฮ่า! ก็รู้ๆกันอยู่ถ้าพูดถึงเรื่องของความชำนาญแล้ว พวกนั้นเป็นได้แค่ระดับสองเท่านั้น มันยังห่างจากบริษัทของเราอีกมาก”

“พวกนั้นคงหมดหวังแล้วจริงๆ ถึงได้เลือกร่วมมือกับพวกนั้นแบบนี้”

“เห็นที่ว่าเราคงกำจัดคู่แข่งนี้ไปได้แล้วละ!”

หลังจากนั้นพวกเขาต่างก็ได้หันความสนใจของพวกเขากลับมายังเรื่องของพวกฮาร์ดแวร์แทน ที่เป็นแบบนั้นก็เนื่องมาจากพวกเขาได้รับข่าวจากสายของพวกเขามาว่า ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ครั้งต่อไปของบริษัทลู่เทคโนโลยีนั้นจะเกี่ยวข้องกับพวกซอฟต์แวร์

ซึ่งในด้านนี้บริษัทที่ถือว่าเป็นอันดับหนึ่งนั้นก็คือ บริษัทไมโครซอฟท์ ผู้ให้บริการด้านซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาโดยตลอด

“INDOS เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!” วิศวกรพัฒนาซอฟต์แวร์ได้พูดเน้นย้ำต่อว่า “ดังนั้นเราไม่ต้องกังวลกับระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทลู่เทคโนโลยี เห็นได้ชัดว่าข่าวนี้เป็นเพียงเรื่องหลอกล่วงเท่านั้น”

สำหรับเรื่องนี้ ทางบริษัทไมโครซอฟท์มีความมั่นใจอย่างมาก เนื่องจากระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ INDOS7 นั้นถือว่าเป็นรุ่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาอย่างดีแล้วเท่านั้น แต่ในตลาดตอนนี้ยังไม่มีบริษัทคู่แข่งเจ้าไหนที่สามารถสร้างระบบปฏิบัติการได้ดีเท่ากับของพวกเขาได้เลย!

และผู้ใช้คอมพิวเตอร์เองก็คุ้นเคยกับระบบปฏิบัติการนี้ของพวกเขามานานแล้ว ดังนั้นในแง่นี้พวกเขาจึงถือว่าได้เปรียบอย่างมาก

“การที่บริษัทลู่เทคโนโลยีได้สร้างสมองควอนตัมขึ้นมา และการที่พวกนั้นอ้างว่าจะเปิดตัวบริการอัจฉริยะส่วนบุคคล(ปัญญาประดิษฐ์) ซึ่งมันเป็นแสดงให้เห็นว่าพวกเขานั้นมีความสามารถในการแข่งขันกับเราได้ ถ้าพูดถึงในแง่ของการเรียนรู้แล้วผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ … “

“แต่ในแง่ของการแพทย์แล้วปัญญาประดิษฐ์ของพวกนั้นถือว่าเป็นเด็กเท่านั้น เมื่อเทียบกับเรา ดังนั้นผมจึงเห็นว่าพวกนั้นไม่มีความสามารถในการแข่งขันกับเราอย่างเด็ดขาด”

“ ส่วนข้อดีที่สุดของพวกนั้นผมก็เห็นเพียงผู้ช่วยอัจฉริยะเท่านั้น”

“ในเรื่องนี้ แผนกที่รับผิดชอบของเราได้พยายามวิจัยเกี่ยวกับมันมาโดยตลอด แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นกับไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร”

“การใช้งานร่วมกันระหว่างระบบปัญญาประดิษฐ์อย่างเรทคลาวด์ กับพวกเครื่องจักรเองก็มีความเข้ากันได้อย่างดี ในด้านนี้เราเองก็พยายามพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ของเราให้ใกล้เคียงมากที่สุด แต่มันคงต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยสองถึงสามปีกว่าได้เห็นผล”

พวกเขาต่างก็ได้ทำการวิเคราะห์ข้อดีและข้อเสียของทั้งสองฝ่ายทีละข้อ ก่อนที่พวกเขาจะนำการวิเคราะห์เหล่านั้นไปทำการปรับปรุงแผนการของพวกเขาต่อไป

ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมามีบริษัทมากมายที่ได้เกิดขึ้นและได้ตายลงในอุตสาหกรรมนี้ แต่มีเพียงบริษัทไมโครซอฟท์เท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดอยู่กับเทคโนโลยีการพัฒนาซอฟต์แวร์นี้ได้ และนั้นจึงทำให้พวกเขาได้ถูกเลือกให้เป็นบริษัทชั้นนำของโลก และในที่สุดตอนนี้พวกเขาก็พร้อมต้อนรับผู้ท้าชิงที่ไม่เคยมีมาก่อนแล้ว