บทที่ 128**: พ่ายแพ้**
เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาของหานปิงเอ๋อเปล่งประกายพร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ศิษย์พี่ซ่ง ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังควบคุมสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองไม่ค่อยได้นะ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ทำไมไม่ให้ศิษย์น้องผู้นี้สั่งสอนล่ะ!” ขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น มือที่เรียวงามของนางได้ส่งคลื่นดาบปราณเย็นออกมาอีกครั้ง เพียงอึดใจเดียว คลื่นดาบปราณเย็นพุ่งฉีกผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว ความเย็นที่แผ่ออกมาจากคลื่นดาบทำให้บริเวณรอบข้างถูกแช่แข็งไปกว่าร้อยฟุต
เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีอย่างต่อเนื่อง เจ้าอ้วนทำได้เพียงส่งสายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์ที่เขามีออกไปเท่านั้น เขาอาศัยธาตุดินที่จะเอาชนะธาตุน้ำได้ ซึ่งในตอนนี้เขาแทบจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีเหล่านี้ได้เลย แต่สิ่งที่ทำให้เขากังวลมากกว่าคือจำนวนสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ที่เขาใช้ออกไปนั้นมากกว่าฝ่ายตรงข้ามถึงสองเท่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป แน่นอนว่าเขาจะต้องอกแตกตายเพราะความเสียใจ คลื่นดาบปราณเย็นของฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่ต้องใช้สิ่งใดมากในการสร้างมันขึ้นมา ทั้งหมดเป็นพลังของดาบเทวะจิตวิญญาณเหมันต์ แต่ทว่าสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาผลิตมันขึ้นมาด้วยตนเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าในท้ายที่สุดเขาจะพ่ายแพ้
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่เด็ดขาดของหานปิงเอ๋อ เจ้าอ้วนรู้สึกหงุดหงิดที่เขาถูกบังคับเช่นนี้ ในตอนนี้เขาเริ่มโกรธจัดแล้ว พร้อมกับเปล่งเสียงออกมาอย่างเยือกเย็น “ศิษย์น้อง เจ้าต้องเข้าใจนะแม้ว่าข้าจะอ่อนแอเรื่องการควบคุมสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ แต่ทว่าพลังของมันไม่ได้อ่อนแอตาม แม้แต่เจ้าก็ยังสามารถป้องกันได้ลำบาก เราไม่มีความเป็นปฏิปักษ์ต่อกันและข้าไม่อยากจะเป็นคนที่ไร้ความเมตตา โปรดหยุดการกระทำของเจ้าในตอนนี้ซะ อย่าบังคับข้า!” นี่เป็นคำเตือนสุดท้ายที่เขากล่าวกับหานปิงเอ๋อ ถ้าหากนางยังคงยืนยันจะโจมตีต่อไป เจ้าอ้วนจะเริ่มการต่อสู้ของจริงทันที
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของเจ้าอ้วนไร้ความหมาย หานปิงเอ๋อไม่ใส่ใจเรื่องนี้แม้แต่น้อยพร้อมตอบกลับอย่างเย็นชา “ศิษย์พี่ ถ้าหากเจ้ามีความสามารถก็จงแสดงมันออกมา! นั่นคือสิ่งที่ข้าต้องการ!”
เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาโกรธจนใบหน้าสั่นไหว จากนั้นเขาจึงหัวเราะออกมาอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ขอให้ศิษย์น้องเตรียมรับมือการโจมตีของข้าบ้าง!” ขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น มือเขาของเขาสะบัดไข่มุกสีทองออกมาอย่างรวดเร็วและเกิดเป็นสายฟ้ายิงออกมาอย่างต่อเนื่อง สายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์ป้องกันการโจมตีของดาบปราณเย็นได้อย่างดี พร้อมด้วยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีที่พุ่งออกมาราวกับมังกรวิ่งเข้าหาหานปิงเอ๋อ อีกทั้งวารีอสนีขั้วลบที่คืบคลานเข้ามาทางด้านหลังของหานปิงเอ๋ออย่างเงียบเชียบ
ดาบปราณเย็นชนเข้ากับสายฟ้าแห่งปฐพีศักดิ์สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง สนามต่อสู้ในตอนนี้ยุ่งเหยิงอย่างถึงที่สุด บวกกับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีและอสนีวารีขั้วลบที่อันตราย ดังนั้นจึงไม่แปลกถ้าหากจะบาดเจ็บจากเหตุการณ์เช่นนี้ ในตอนนี้หานปิงเอ๋อไม่ทันสังเกตอันตรายที่อยู่ด้านหลังของตน สมาธิของนางทั้งหมดจดจ่ออยู่กับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคี นางส่งคลื่นดาบปราณเย็นออกไปเพื่อป้องกันตนเองจากสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีก่อนที่มันจะทำอันตรายนางได้
อย่างไรก็ตามเจ้าอ้วนใช้โอกาสนี้เพื่อปลดปล่อยพลังของอสนีวารีขั้วลบที่อยู่ด้านหลังของนางทันที กว่าที่นางจะรู้ตัวสายฟ้าที่อันตรายอยู่ห่างจากนางเพียงไม่กี่ฟุตเท่านั้น ซึ่งระยะทางเพียงแค่นี้คือรัศมีการระเบิดของมันแล้ว
ทันทีที่หานปิงเอ๋อสังเกตุเห็นอสนีวารีขั้วลบ นางตกใจมากและร่างกายหยุดนิ่งชั่วขณะ นางใช้ปราณจิตวิญญาณกลับมาเพื่อป้องกันตนเองอย่างรวดเร็ว ในวินาทีสุดท้ายนางไม่อาจป้องกันอสนีวารีขั้วลบทั้งหมดได้ นางจึงดึงพลังของดาบเทวะจิตวิญญาณเหมันต์ออกมาช่วยเหลือทันที แต่ทว่าความเสียหายในครั้งนี้มากเกินไป ในขณะที่ดาบปรากฏออกมา สภาพแวดล้อมในรัศมีหนึ่งหมื่นฟุตถูกเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิให้ติดลบทันที ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบสนามต่อสู้จึงต้องปรับลมปราณของตนเองเพื่อปรับอุณหภูมิร่างกายอย่างรวดเร็ว
สำหรับอสนีวารีขั้วลบ มันระเบิดทันทีเมื่อปะทะกับปราณเย็นที่ถูกส่งออกมา เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่บนเกราะป้องกันของหานปิงเอ๋อ ร่างกายของนางสั่นไหว จากนั้นมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากเรียวบางของนาง เห็นได้ชัดเจนว่านางได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถ้าหากนี่เป็นการซ้อมแบบตัวต่อตัว ถือว่าเจ้าอ้วนได้รับชัยชนะแล้ว แต่ทว่าทั้งนักบวชฮัวอวิ๋นและเทพธิดาฮ่าวยังคงปิดปากของพวกเขาอย่างเงียบเชียบ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการให้หานปิงเอ๋อสู้ต่อไป มันเป็นเพียงความประมาทเท่านั้นที่ทำให้นางได้รับบาดเจ็บ ถ้าหากปล่อยให้สู้กันต่อ นางจะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดจะปล่อยเจ้าอ้วนไปง่าย ๆ เช่นนี้ ทั้งคู่จึงทำตัวเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นและปล่อยให้การต่อสู้ดำเนินต่อไป
ในขณะนั้น ใบหน้าที่ซีดขาวของหานปิงเอ๋อได้กลับมาเด็ดเดี่ยวอีกครั้ง นางเช็ดเลือดที่ริมฝีปากพร้อมกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ศิษย์พี่ซ่ง ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าเจ้าจะมีสายฟ้าถึงสามประเภททั้งปฐพี อัคคี และวารี แน่นอนว่ามันเกินความคาดหวังของน้องสาวผู้นี้อย่างมาก”
“ช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน!” เจ้าอ้วนขมวดคิ้วพร้อมกล่าวต่อว่า “ศิษย์น้อง นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พี่ชายผู้นี้จะปรับแต่งสายฟ้าเหล่านี้ได้และข้าไม่ต้องการจะใช้มันกับเจ้า เราควรพิจารณาการต่อสู้ในครั้งนี้ได้แล้วหรือไม่?”
“ไร้สาระ!” หานปิงเอ๋อตอบกลับอย่างรวดเร็ว “สิ่งที่ศิษย์พี่ยังไม่ทราบก็คือน้องสาวผู้นี้ช่างดื้อรั้นอย่างถึงที่สุดและไม่มีวันจะยอมรับความพ่ายแพ้นี้ได้ แต่ที่ข้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากศิษย์พี่ในวันนี้ ทำให้ข้าเข้าใจว่าไม่ควรประมาทเจ้าเกินไป และหัวใจของข้ายังไม่อาจยอมรับได้ว่าจะต้องพ่ายแพ้คนเช่นเจ้า!”
“เจ้าหมายความว่าการต่อสู้ของเราในวันนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อมีผู้ใดตายตกไป?” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างขุ่นเคือง “ไม่จำเป็น!” หานปิงเอ๋อตอบกลับอย่างจริงจัง “แค่ในตอนนี้ศิษย์พี่ได้สั่งสอนน้องสาวผู้นี้อย่างมากมาย แม้ว่าข้าจะไม่อาจยอมรับมันได้ แต่ข้าก็จะไม่ต่อสู้อย่างไร้เหตุผล สำหรับเรื่องนี้ ข้าจะโจมตีอีกหนึ่งครั้งเท่านั้น ไม่ว่าศิษย์พี่จะป้องกันได้หรือไม่ การต่อสู้ทั้งหมดจะจบลงในวันนี้”
ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น แล้วเจ้าอ้วนจะพูดสิ่งใดได้? เขาหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นพร้อมตอบกลับว่า “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ได้โปรดสั่งสอนข้าเถิด!”
“ถ้าเช่นนั้น ขอศิษย์พี่โปรดระวัง!” เมื่อนางกล่าวจบ นางสูดหายใจเข้าและปลดปล่อยคลื่นปราณเย็นออกมา ทุกคนโดยรอบรู้สึกตัวทันทีราวกับว่าพวกเขากำลังเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างฉับพลัน เห็นได้ชัดว่าหานปิงเอ๋อปลดปล่อยพลังออกมาอย่างสุดกำลังและนี่คือการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของนาง
ในขณะนั้น นางค่อย ๆ ยกมือขวาขึ้นและปรากฏหมอกจางบนอากาศ เกิดเป็นแสงสีขาวจางออกมาหลอมรวมกันเป็นกลุ่มก้อน จากนั้นหานปิงเอ๋อตะโกนออกมา “คมดาบเยือกแข็ง!”
สิ้นสุดเสียงของนาง เกิดเป็นดาบมากมายยิงออกมานับไม่ถ้วนจากมือของนาง พวกมันทั้งหมดบดบังท้องฟ้าและยิงไปที่เจ้าอ้วนราวลูกศรนับพันดอก
ในขณะนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดของเจ้าอ้วนในตอนนี้คือระฆังลมทองแดง แต่ก่อนหน้านี้เขากล่าวไว้ว่าจะใช้เพียงมือขวาเท่านั้น แม้ว่าเขาจะมีใบหน้าที่หนาเตอะ แต่ก็ไม่อาจกลืนน้ำลายตนเองได้ ดังนั้นเขาจึงใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดที่มีเพื่อป้องกันการโจมตีนี้
ผ่านไปเพียงชั่วครู่ สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นับสิบถูกส่งออกไปโดยเจ้าอ้วน เมื่อมันปะทะกับดาบปราณจึงเกิดการระเบิดขนาดใหญ่ ผู้ชมรอบข้างต่างมองเห็นประกายไฟมากมายจากการระเบิดครั้งนี้
ผู้คนในที่นี้ไม่มีใครอ่อนแอ เมื่อมองเห็นรัศมีการต่อสู้เพิ่มขึ้นพวกเขาสามารถหลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว ความตกใจทั้งหมดถาโถมขึ้นภายในใจและคิดในใจ ‘แม้กระทั่งการต่อสู้ของผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิยังไม่อาจรุนแรงถึงเพียงนี้ อีกทั้งพวกเขายังคงไม่ได้ใช้เทคนิคสังหารใดอีกด้วย ถ้าหากพวกเขาใช้มือทั้งสองข้าง การต่อสู้นี้จะน่ากลัวเพียงใด? เกรงว่ามันจะกลายเป็นการต่อสู้ที่เทียบเท่าผู้ฝึกตนระดับจินตัน!’
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนไม่อาจทำสิ่งใดได้นอกจากคิดในใจเงียบ ๆ เท่านั้น ก่อนอื่นที่ต้องรู้คือในอดีตที่ผ่านมา แม้ว่าความแข็งแกร่งของเหล่าสำนักต่าง ๆ จะมีมากเพียงใด แต่ศิษย์ที่มีพรสวรรค์เช่นนี้หาได้ยากยิ่ง เนิ่นนานกว่าพวกเขาจะปรากฏตัวขึ้น ผลไม้วิญญาณสามสิบชิ้นจึงเพียงพอที่จะแบ่งให้พวกเขาทั้งหมดได้
แต่ในปีนี้ มีคนสองคนที่ดื้อด้านอยู่ในที่แห่งนี้ อีกทั้งเหล่าศิษย์ผู้อื่นที่ครอบครองสมบัติวิญญาณ พวกเขาทั้งหมดมีคุณสมบัติที่จะต่อสู้เพื่อแย่งชิงผลไม้วิญญาณ ไม่ว่าพวกเขาจะมาจากสำนักใด ถ้าหากแย่งชิงผลไม้วิญญาณไปได้ ก็ถือว่าไม่ผิดกฏ
นอกจากนี้เหล่าชนชั้นสูงที่มาจากสำนักเสวียนเทียนและหอเฉวียนจี้ ทั้งสองสำนักนี้มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ถ้าหากพวกเขาได้รับผลไม้วิญญาณจะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งอย่างไร้ขีดจำกัด ซึ่งทำให้สำนักอื่นกังวลใจอย่างมาก
ทุกคนในที่แห่งนี้ล้วนแต่เป็นผู้นำคนสำคัญของสำนักตนเอง พวกเขามองเห็นปัญหาที่อยู่ในสถานการณ์นี้แล้ว ซึ่งมันอันตรายต่อสำนักของพวกเขา เหล่าคนเจ้าเล่ห์ทั้งหลายจึงวางแผนการต่อต้านสำนักเสวียนเทียนและหอเฉวียนจี้อย่างลับ ๆ พวกเขาติดต่อกันด้วยสัมผัสทางจิตวิญญาณเพื่อคุยกัน สำนักใหญ่ทั้งสองที่กำลังต่อสู้ไม่ได้ระแคะระคายเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้เลย
พวกเขาวางแผนอย่างเงียบเชียบ ในตอนจบเจ้าอ้วนใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ไปนับร้อยลูก เกิดเป็นปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่บนภูเขาแห่งนี้ ในที่สุดเขาก็ป้องกันการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้ทั้งหมด
ในขณะเดียวกัน หานปิงเอ๋อยังใช้คลื่นดาบปราณเย็นเพื่อดึงดูดความสนใจของเจ้าอ้วนและแอบใช้พลังของดาบเทวะจิตวิญญาณเหมันต์อย่างลับ ๆ และปรากฏคลื่นพลังออกมาจากใต้ดินตรงหน้าของเจ้าอ้วนและระเบิดทันที เจ้าอ้วนที่ไม่ได้ตั้งตัวถูกระเบิดเข้าอย่างรุนแรงจนไม่อาจต้านทานไว้ได้
แม้ว่ากล้ามเนื้อและกระดูกของเจ้าอ้วนจะแข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้า แต่ก็ไม่อาจหยุดพลังของสมบัติวิญญาณได้ ดาบแทงทะลุตัวของเจ้าอ้วนเกิดเป็นรูขนาดเท่าหัวแม่มือ จากนั้นเลือดก็เริ่มซึมออกมาอย่างฉับพลัน
เมื่อเห็นว่าการโจมตีของนางสำเร็จ หานปิงเอ๋อหยุดมือทันทีพร้อมกล่าวอย่างสงบ “ศิษย์พี่ซ่ง ข้าชนะแล้ว!” ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น นางหันหลังกลับพร้อมเดินจากไป
“พี่ชายอ้วน!” เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ หงหยิงตะโกนออกมาพร้อมกับรีบเข้าไปพยุงเขาทันที นางมองเขาที่ได้รับบาดเจ็บ นางโกรธจัดพร้อมกระโดดออกมาด้านหน้าและตะโกนว่า “หานปิงเอ๋อ เจ้าช่างร้ายกาจนัก! พี่ชายอ้วนเพียงแสดงความเมตตาต่อเจ้าแต่เจ้ากลับทำร้ายเขาเช่นนี้!”