ตอนที่ 923 - ซ้อนแผน

The Divine Nine Dragon Cauldron

DND.
  กงซุนหวูซื่อกำหมัดด้วยความโกรธพวกนางเดินตามข้างกายซือหยู
  แม้ว่าจะถูกบังคับมันก็สมเหตุสมผลที่พวกนางจะปลอมตัวเช่นนี้ เมื่อมาถึงหมู่บ้าน เด็กคนหนึ่งกำลังเล่นอยู่บนถนน เหล่าสัตว์กลับเข้ากรง มันเป็นภาพที่พวกเขาไม่เห็นมานาน
  การมาของพวกซือหยูทำให้ทุกคนสนใจเพราะสามคนนี้มีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย
  “พี่สาวน้องสาว แล้วคุณลุง พวกท่านเป็นใครหรือ?”
  เด็กชายตัวน้อยที่สวมกางเกงขาดๆถามเขาดูเป็นธรรมชาติและบริสุทธิ์
  ปิงหวูชิงกล่าว
  “มีโรคระบาดในหมู่บ้านที่พวกข้าอาศัยอยู่หลายคนตายไปแล้ว พวกเราหนีมาจนถึงที่นี่ พ่อแม่พวกเจ้าอยู่ที่ใดหรือ? พวกเขาอยู่บ้านหรือไม่? พวกข้าอยากจะพักค้างสักคืนในหมู่บ้านนี้ พาข้าไปหาพ่อแม่เจ้าได้ไหม?”
  เด็กชายพยักหน้า
  “ได้เลย!พ่อแม่ข้าอยู่ในบ้าน พ่อแม่ข้าต้องยินดีรับพวกท่านแน่ ตามข้ามา!”
  เขาวิ่งนำพวกซือหยูไปที่บ้าน
  “หมู่บ้านนี้สงบสุขนัก…”
  กงซุนหวูซื่อเหลือบมองรอบๆ
  ซือหยูจ้องด้านหนามุมปากขยับเล็กน้อย
  “จะใช่หรือ?”
  เด็กชายนำพวกเขามาถึงสวนเล็กๆที่ดูสะอาดเรียบร้อยต้นไม้ในสวนนั้นถูกดูแลอย่างดี ดูเหมือนว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้จะเป็นคนที่ขยัน
  หลังจากผลักประตูเด็กชายชี้ที่ตัวบ้าน
  “พี่สาวน้องสาว คุณลุง เข้ามาสิ! พ่อแม่ข้าอยู่ข้างใน”
  กงซุนหวูซื่อมองบ้านประตูหน้าต่างปิดสนิทจนนางรู้สึกแปลกๆ
  “ยังไม่ทันค่ำก็ปิดประตูหน้าต่างกันแล้วหรือ?”
  ใบหน้าเด็กชายเศร้าหมอง
  “แม่ข้าป่วยหนักนางโดนลมไม่ได้ ประตูหน้าต่างเลยปิดอยู่ตลอด”
  “ถ้าอย่างนั้นคนอย่างข้าจะต้องช่วยแม่เจ้าได้แน่นอน”
  กงซุนหวูซื่อหัวเราะเพราะเมื่อใช้พลังชีวิตรักษามนุษย์ ความเจ็บไข้ส่วนมากจะถูกรักษาได้
  รอยยิ้มเบ่งบานบนใบหน้าเด็กชาย
  ปิงหวูชิงเคาะประตู
  แต่…ไร้การตอบสนองปิงหวูชิงเริ่มใจร้อนและผลักประตูไป น่าแปลกใจที่นางเปิดได้ง่ายๆ
  แต่ทันใดนั้นก็มีสายลมพัดพวกนางไปด้านหน้ามีกลิ่นเหม็นลอยคละคลุ้ง
  ปิงหวูชิงตะโกน
  “ระวัง!มีคนตายข้างใน จากกลิ่น…คนข้างในตายมาสิบวันแล้ว!”
  “เดี๋ยวสิ!เด็กคนนั้นน่ะ!”
  ปิงหวูชิงร้องตะโกน
  แต่เมื่อหันไปมองก็ไม่พบเด็กชายในสวนแล้ว!เขาวิ่งไปที่นอกสวนตั้งแต่ก่อนที่พวกนางจะรู้ตัว ใบหน้าบริสุทธิ์น่ารักของเด็กชายเปลี่ยนไป เขาถอนหายใจแรง
  “เจ้าเป็นใคร?”
  ปิงหวูชิงแววตาเยือกเย็น
  เด็กชายกอดอกความเยือกเย็นเช่นนี้ไม่เหมาะสมกับอายุของเขา เสียงของเขาดูแหบพร่า
  “พวกเจ้าไม่ได้มาตามหาข้าหรอกหรือ?”
  ทั้งสามตกใจพวกเขาอ้าปากค้างพร้อมกัน
  “เจ้าคือ…มั่วหยางงั้นเรอะ?”
  เด็กชายหัวเราะอย่างชั่วร้าย.novel-lucky.
  “เจ้าคิดว่ายังไงเล่า?ดีใช่ไหมล่ะ! ข้ากลืนกินจ้าวเทวะระดับสี่สองคนกับระดับห้าอีกคนเพื่อลอกคราบครั้งที่แล้ว ตอนนี้ยังมีพวกเจ้าอีกสามคน! ข้ารอเจ้ามานานแล้ว ปิงหวูชิง ข้าอยากจะลิ้มรสเลือดเจ้า!”
  ปิงหวูชิงตะโกน
  “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าคือปิงหวูชิง?”
  พวกเขาไม่ได้พบกันมาก่อนและปิงหวูชิงก็ขลุกอยู่แต่ในตำหนัก นางแทบจะไม่ได้ออกไปไหน นางไม่รู้เลยว่ามั่วหยางรู้จักนางได้ยังไง!
  “ฮ่าๆๆๆแน่นอน…ข้าเป็นคนบอกยังไงล่ะ”
  เสียงอันคุ้นเคยดังขึ้น
  จากนั้นชายแก่ที่หน้าผากมีรอยแผลเป็นยาวที่หูขวาขาดวิ่นก็ปรากฏตัวที่เหนือพวกเขาเขาลอยมือไพล่หลัง เขากำลังมองลงมาและยิ้ม
  “เอ้อหลิงเจ้าวางแผนกับมั่วหยางงั้นรึ? พวกเจ้าล่อศิษย์จากตำหนักโลหิตมาที่นี่!”
  ปิงหวูชิงตระหนักได้ว่าต้องกับดักเข้าแล้ว!
  เอ้อหลิงหัวเราะเขายิ้มอย่างชั่วร้าย
  “รู้ตัวตอนนี้ไม่สายไปหน่อยหรือ?”
  ถ้าข่าวเรื่องนี้ไปถึงตำหนักมันก็จะต้องสร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งเมือง! ไม่มีใครจะเชื่อได้ว่าเจ้าเมืองที่ปกครองพวกเขาจะสมคบคิดกับมั่วหยางเพื่อทำร้ายศิษย์ของตำหนักโลหิต! และกลิ่นเหม็นของโลหิตที่โชยมาจากในบ้านก็อาจจะเป็นของศิษย์ในชุดที่แล้วที่มาล่ามั่วหยาง!
  ปิงหวูชิงถามด้วยใบหน้าเย็นชา
  “พวกเจ้าคิดเช่นนั้นรึ?เจ้าคิดว่าร่วมมือกับมั่วหยางแล้วจะฆ่าพวกข้าได้รึ?”
  มั่วหยางในร่างเด็กชายหัวเราะอย่างเยือกเย็น
  “เจ้ายังไม่รู้ตัวอีกรึว่าพวกเจ้าต้องตาย!เอ้อหลิง อย่าไปเสียเวลา…เริ่มกันเลย!”
  เอ้อหลิงหัวเราะแววตาของเขาดูชั่วร้ายขึ้น
  “ปิงหวูชิงข้ายอมรับว่าข้าไม่ใช่คู่มือของเจ้า แต่เจ้าคงลืมบางอย่างไปสินะ!”
  จากนั้นเขาก็ใช้มือตบอกตัวเอง เขาทำให้เครื่องรางสีม่วงแสงปรากฏขึ้นมา
  “ฮ่าๆๆข้าลืมบอกพวกเจ้า สร้อยสุเมรุใจหายมีผลข้างเคียงนอกจากปกปิดพลังด้วย นั่นก็คือ…”
  เอ้อหลิงยิ้มอย่างเยือกเย็น
  ปิงหวูชิงกับกงซุนหวูซื่อชักสีหน้าเมื่อพยายามจะนำเครื่องรางออกแต่มันก็สายไปแล้ว!
  จู่ๆอกของปิงหวูชิงก็เป็นตะคริวความเยือกเย็นทะลวงถึงวิญญาณ มันแช่แข็งแขนขาและเส้นโลหิตทั้งหมดของนางไป! นางอยากจะใช้พลังออกมาต้านทาน แต่เมื่อพลังชีวิตสัมผัสกับความเย็น มันก็แข็งตัวอยู่อย่างนั้น!
  ปิงหวูชิงทั้งตกใจและหวาดกลัว
  “นี่มันความเย็นอะไรกัน?ทำไมถึงน่ากลัวอย่างนี้?”
  กงซุนหวูซื่อหน้าซีดเกิดชั้นน้ำแข็งปกคลุมผิวของนาง นางปากสั่น
  “นี่ไม่ใช่ความเย็น…มันคือ…พิษน้ำแข็ง…”
  ในตอนนั้นทั้งสองได้กลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งในไม่กี่ลมหายใจ พวกนางยืนนิ่งไร้การเคลื่อนไหวในที่เดิม ความหวาดกลัวยังคงอยู่ในแววตา
  พิษน้ำแข็งยังคงไม่หยุดพวกมันรุกล้ำร่างกายของทั้งสองต่อไป ไม่นานหลังจากนั้น สติของพวกนางก็หลุดลอย ภาพที่มองเห็นดำมืดก่อนที่พวกนางจะหลับใหล
  เอ้อหลิงหัวเราะอย่างชั่วร้าย
  “ฮ่าๆๆ!พวกนี้ถูกเรียกว่าศิษย์ชั้นยอดแห่งตำหนักโลหิต! พวกมันหลอกง่ายนัก!”
  เด็กชายหัวเราะและจ้องมองปิงหวูชิงด้วยความตื่นเต้นเขาเลียริมฝีรปาก
  “โลหิตปิงหวูชิงได้รับสืบทอดมาจากท่านผู้นั้นได้ดื่มไปย่อมได้ผลอันน่าอัศจรรย์!”
  เอ้อหลิงตาร้อนด้วยความปรารถนา
  “ข้าก็ช่วยเจ้าด้วยให้เลือดข้าซักครึ่งสิ!”
  “ไม่มีปัญหา!”
  เด็กชายหัวเราะเบาๆ
  ในตอนนั้นเสียงหนึ่งแล่นเข้าหูทั้งสอง
  “พวกเจ้าแบ่งของกันเช่นนี้…มันไม่หยามข้าไปหน่อยรึ?”
  คำพูดนี้ทำให้ทั้งสองตกใจเด็กชายเลิกคิ้ว
  “เอ้อหลิงเจ้าทำงานแบบนี้เรอะ? ทำไมเจ้านี่ถึงไม่เป็นอะไร?”
  ปิงหวูชิงกับกงซุนหวูซื่อกลายเป็นน้ำแข็งเพราะพิษน้ำแข็งแต่ซือหยูกลับยังยืนอยู่ที่เดิมโดยไร้รอยขีดข่วน!
  เอ้อหลิงตกใจ
  “ข้าไม่รู้!เด็กนี้แปลกนัก! ข้าเห็นว่ามันประทับสร้อยด้วยตาข้าเอง! แต่ข้าก็คิดว่าภูติระดับห้าคนนี้มาเพื่อเติมคนให้เต็มเท่านั้น พวกเราก็แค่ต้องจัดการมันเอง”
  ซือหยูยิ้มอย่างใจเย็นรอยยิ้มของเขาดูไม่แยแสต่อสิ่งใด เขายักไหล่
  “เจ้าคิดอย่างนั้นหรือ?”