SD:บทที่ 61 : เธอถูกลักพาตัวไปแล้ว
ไม่มีซึ่งการลังเลใด ๆ ทั้งสิ้น ซู ฉิวไป่ กด กู่ ฉิวไป่ ลงโดยสัญชาตญาณ พร้อมกับย่อหัวตัวเองลง
ชั่วไม่กี่อึดใจ ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงกระจกรถแตก ชัดเจนว่าต้นเหตุคือกระสุนปืนจากชายคนนั้น อย่างไรก็ดี นั่นกลับไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่สุดในตอนนี้… เมื่ออยู่ดี ๆ ระบบการนำทางซึ่งไม่ต่างอะไรจากเจ้ากรรมนายเวรของเขา มันดันส่งเสียงขึ้นมาเสียอย่างงั้น!
“ระบบการนำทางกำลังเริ่มต้น แรงกดดันจากภายนอกสูงเกินไป… คำเตือน ระบบเกิดเหตุขัดข้อง… ดำเนินการกลับสู่การทำงานตามปกติ!”
เมื่อได้ยินประโยคสุดท้าย ซู ฉิวไป่ ในที่สุดจึงยอมเงยหน้าขึ้น ภายนอกหน้าต่างรถยนต์ ไม่ปรากฏซึ่งชายมือสังหารถือปืนคนนั้นให้เห็น
เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าในเพียงหนึ่งวินาที… เดี๋ยวสิ กู่ ชิงเหมย หายไปไหนแล้วเนี่ย! โถ่เว้ย… ตะกี้ก็ยังอยู่นี่ไม่ใช่รึไง แล้วตอนนี้เธอหายไปไหนแล้วเนี่ย
เขายันตัวนั่งขึ้นด้วยสีหน้าว่างเปล่า ซู ฉิวไป่ ไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ณ ตอนนี้ เขายังคงมึนงงและหัวหมุนด้วยความสับสนไม่หยุด ราวกับมีใครฟาดหัวอย่างจัง
นี่มันเกมบ้าอะไรกัน
ไม่นานนัก… เขานึกจำคำเตือนที่เขาได้ยินก่อนหน้านี้จากระบบนำทางได้ เหมือนมันจะบอกว่าเกิดความผิดพลาดขึ้น!
หรือว่านั่นจะเป็นสาเหตุที่ กู่ ชิงเหมย หายตัวไป
ยิ่ง ซู ฉิวไป่ คิดทบทวนเรื่องนี้มากเท่าไร โอกาสที่มันจะเป็นไปได้ก็สูงขึ้นเท่านั้น ต่อมาที่เขาได้เห็นข้อความแจ้งเตือนความผิดพลาดบนหน้าจอแสดงผลของระบบ ชายหนุ่มรีบเปิดมันอ่านดู และเป็นต้องสับสนทันทีทันใด
ข้อความนั้นสื่อความหมายได้กระจ่างชัดเจน เนื่องจากปัญหาเมื่อก่อนหน้านี้ ช่องทางข้ามเวลาจึงเปิดออกด้วยตัวมันเอง… และมันได้ส่ง กู่ ชิงเหมย ไปสักที่หนึ่งซึ่งแม้แต่ระบบเองก็ไม่ทราบ! คนขับรถหนุ่มจ้องมองไปที่เครื่องหมายคำถามในข้อความเตือนด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีเลย!
ไอ้ระบบห่าเหวนี่ ทำพลาดส่งคนไปที่ไหนสักแห่งที่แม้แต่แกก็ไม่รู้ แต่ดันให้มาแค่เครื่องหมายคำถามบ้า ๆ เนี่ยอะนะ
ถามตัวเองไปสิวะ!
หัวใจเขาระเบิดลุกเป็นเพลิงไปด้วยความร้อนรน… เธอไม่ผิดอะไรเลยแท้ ๆ แต่ฉันกลับทำให้เธอหายไปซะได้ แล้วฉันควรเอาไงต่อดีล่ะทีนี้
ชายคนขับรถไม่คิดใส่ใจเรื่องที่นักฆ่าเหมือนจะวิ่งหนีไปแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการพา กู่ ชิงเหมย กลับมาให้เร็วที่สุด โชคยังดี เขารู้จากการอ่านข้อความแจ้งเตือนมาว่าถึงแม้ กู่ ชิงเหมย จะถูกส่งไปในสถานที่อันระบุไม่ได้ แต่หญิงสาวก็จะปลอดภัยแน่นอนภายใต้การคุ้มครองของระบบ และหากเขาจะช่วยเธอกลับมา ซู ฉิวไป่ ต้องผ่านการสอบใบขับขี่ของคนขับรถให้ได้ใบขับขี่ระดับ D
จากที่ระบบได้กล่าวไว้แล้ว เขาจะได้รับความสามารถใหม่ ๆ อีกมากจากใบขับขี่ระดับ D นี้… เยี่ยม ความสามารถใหม่ ๆ !
ฉะนั้นแล้ว ซู ฉิวไป่ จึงไม่มีทางเลือก สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงแค่เลื่อนขั้นระดับใบขับขี่ของเขาให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ไปช่วยหญิงสาว แม้เขาจะรู้สึกผิดที่ต้องทิ้งเธอไว้คนเดียวก่อนก็เถอะ ทว่าเมื่อเขาหันไปมองยังที่นั่งข้างคนขับซึ่ง กู่ ชิงเหมย เคยนั่งอยู่ก่อนหน้านี้นั่นเอง ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะพินิจเศษกระจกจากหน้าต่างรถที่แตกร้าว และร่องรอยของกระสุนปืนที่ฝังแน่นเข้าไปในพนักพิง
นัยน์นาเขาเปล่งประกายด้วยแสงระยิบของความแน่วแน่ ชายหนุ่มพึมพำขึ้น “กู่ ชิงเหมย ก่อนที่ฉันจะหมดลมหายใจ ฉันจะล้างแค้นให้เธอ และทำตามคำขอสุดท้ายของเธอให้จงได้!”
ถ้า กู่ ชิงเหมย ได้ยินที่ ซู ฉิวไป่ พูดไปล่ะก็ เธอคงด่าเขาไม่ยั้งแน่!
บ้าอะไรเนี่ย…ฉันยังไม่ตายย่ะ! อีกอย่าง ไอ้คนที่ทำให้ฉันถูกส่งมาที่ไหนไม่รู้ ก็นายเองไม่ใช่เหรอ!
จะอย่างไรก็ดี กู่ ชิงเหมยไม่มีทางที่จะรู้เรื่องนี้แน่ หญิงสาวยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน…
ในตอนนั้นเอง เฉา ตั้วเฟย ก็วิ่งมาหาชายคนขับรถพอดี ก่อนหน้านี้ เด็กหนุ่มคอยอยู่ห่างจากรถแท็กซี่พอสมควรเลยทีเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่ทันเห็นชายที่พยายามฆ่า กู่ ชิงเหมย ปืนพกกระบอกนั้นคงมีที่เก็บเสียงเป็นแน่
เดิมทีเขาคิดว่า ซู ฉิวไป่ และ กู่ ชิงเหมย คงพูดคุยกันเสร็จเรียบร้อยดี แต่เมื่อเขาเข้าใกล้กระจกรถแล้ว…
อ้าวเฮ้ย! กู่ ชิงเหมย หายไปไหนแล้ว ไหงกระจกรถถึงแตกได้ล่ะ
“ลูกพี่… อยู่นี่คนเดียวเหรอ งั้น กู่ ชิงเหมย อยู่ไหนเนี่ยครับ”
เฉา ตั้วเฟย แรกเริ่มทีวางแผนจะทำเป็นว่าเขาไม่รู้เกี่ยวกับการประชุมเจรจานี้ ทว่าสถานการณ์ที่เห็นตรงหน้าเขามันพิลึกพิลั่นเกินกว่าที่เขาจะเมินไปได้ เด็กหนุ่มจึงไม่คิดยั้งตัวเองไว้
“เธอ… ถูกลักพาตัวไป ฉันไม่แน่ใจน่ะ”
หลังจากที่เขาอธิบายให้ เฉา ตั้วเฟย ฟังอย่างบริสุทธิ์ใจ ชายหนุ่มก็ลงจากรถอย่างเก้ ๆ กัง ๆ และชำเลืองดูรอบข้างอย่างระมัดระวัง เขาไม่เห็นนักฆ่าคนนั้นที่ไหนเลย มันคงไปแล้วมั้ง
ดูเหมือนว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ การพยายามลอบสังหารหญิงสาวเกี่ยวข้องกับการลอบฆ่าที่ กู่ ชิงเทียน และพวกคนซึ่งสำคัญกับชายคนนั้นต้องประสบก่อนหน้านี้ โดยทั้งหมดนั่นเป็นส่วนหนึ่งของการสมรู้ร่วมคิดกันทำลายล้างสมาคมนักแข่งรถให้สิ้นซาก
แต่ในเมื่อ กู่ ชิงเหมย หายตัวไป พวกมันคงยอมยกเลิกแผนสังหารนี้แล้ว
ถึงอย่างไร เพื่อความปลอดภัยแล้ว ซู ฉิวไป่ ตั้งใจจะไม่เสี่ยงไปที่ห้องผู้ป่วยของเซี่ยวเซี่ยว ชายหนุ่มยัดถุงเกาลัดเคลือบน้ำตาลและขนมของโปรดอย่างอื่นของน้องสาวเขาจากหลังรถใส่มือของ เฉา ตั้วเฟย ซึ่งรับทุกอย่างไปด้วยความสับสน
“นายช่วยขึ้นไปและเอานี่ไปให้เซี่ยวเซี่ยวที บอกเธอด้วยว่าฉันมีธุระต้องทำ เดี๋ยวจะกลับมาถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว”
เฉา ตั้วเฟย ยังพินิจพิจารณาอยู่ว่าเขาพลาดไม่เห็น กู่ ชิงเหมย ไปได้อย่างไรทั้งที่เขาจับตาดูพวกนั้นอยู่ตลอด แต่ตอนนี้ กลับมีกองขนมอยู่ในอ้อมแขนเขาที่เด็กหนุ่มแบกไปอย่างทุลักทุเล
ซู ฉิวไป่ ติดเครื่องรถแท็กซี่ของตน และเขาพร้อมจะออกรถไปอยู่แล้ว
“ลูกพี่ จะไปไหนครับ นี่ตกลงเข้าร่วมการแข่งของพรุ่งนี้มั้ย”
น่าเสียดายที่เด็กหนุ่มถูกเมินเสียสนิท เขาได้แต่ยืนอยู่กับที่ พลางจ้องมองรถแท็กซี่ขับออกไป
เมื่อ ซู ฉิวไป่ ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ท่าทีของเขาดูหนักแน่นขึ้นมาชัดเจน ประกายวาบของความเด็ดเดี่ยวฉายในดวงตา!
“พวกปีศาจต่างชาตินั่นก็เหลือเกินนะ หยิ่งยโสและโหดร้ายขนาดจะฆ่าคนได้ แกคิดอยากหยุดยั้งไม่ให้ทางสมาคมนักแข่งรถเข้าร่วมการแข่งนานาชาติใช่มั้ย ได้ ฉันจะหยุดพวกแกด้วยตัวเอง! ถ้าคิดอยากจะเล่นไม้นี้ล่ะก็… ฉันเล่นด้วยก็ได้!”
รถแท็กซี่คันดังกล่าวหายลับตาไปในกลางค่ำคืน
……
ภายในคฤหาสน์อันหรูหราของเขา คาร์ลนั่งเอกเขนกบนโซฟาหนังอย่างดี ในมือถือแก้วใส่ไวน์แดงชั้นดี ชายชาวต่างชาติเพิ่งจะได้ยินข่าวดีล่าสุด นังผู้หญิงคนนั้นได้รับการจัดการเรียบร้อย สมาคมนักแข่งรถนั้นจะจบเห่โดยสมบูรณ์!
ไม่มีใครที่สามารถเข้าร่วมการแข่งในเกมพรุ่งนี้ได้ ไม่มีใครเอาชนะฉันได้!
ด้วยความคิดเช่นนั้น คาร์ลอดไม่ได้ที่จะสมเพชพวกนั้นสักเล็กน้อย จะอย่างไรก็ตาม แต่ผู้หญิงที่งดงามเช่น กู่ ชิงเหมย ก็เป็นของหวานล่อตาล่อใจชายทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่หากจะให้แผนขององค์กรประสบความสำเร็จแล้วล่ะก็ น่าเสียดายที่เขาต้องยั้งตัวเองเอาไว้! ชายจากต่างแดนเข้าใจจุดประสงค์ของการแข่งขันในวันต่อไปดี ในทางใดทางหนึ่ง เพื่อองค์กรนี้ของเขาแล้ว… มันเปรียบเป็นก้าวแรกในการบรรลุเป้าหมายสูงสุดของเขาเอง!
เช่นนั้นเอง คืนที่เงียบสงบคืนหนึ่งก็ผ่านพ้นไป
รุ่งอรุณของวันต่อมา ภายนอกอาคารสมาคมนักแข่งรถนั้นก็แออัดไปด้วยผู้คนเสียแล้ว มีมากมายตั้งแต่ผู้เข้าร่วมการขับรถแข่งเอง ไปจนถึงผู้ที่สนใจในการแข่งครั้งนี้ บ้างถ่อมาไกลจากต่างประเทศทีเดียว
ข่าวลือทางออนไลน์ซึ่งแพร่หลายรวดเร็วราวกับไฟป่า บัดนี้เนื้อหากลับเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่คำให้สัมภาษณ์ของคาร์ลหลุดออกมาจากงานแถลงข่าวซึ่งถ่ายทอดออกไปแล้ว ประชาชนจำนวนมาก แม้แต่เหล่าคนที่แสดงความคิดเห็นของตนไม่บ่อยนัก พากันกล่าวประกาศความโกรธแค้นของพวกตนในส่วนความคิดเห็นของข่าวอย่างอารยชน
อาทิเช่น ไปตายซะไป ไอ้ห่านี่…
สำหรับเหตุผลที่พวกเขาจะไม่เข้าร่วมแข่งกับคาร์ลด้วยตนเองแล้ว…
บ้ารึไง ประเทศที่ใหญ่โตดังเช่นของพวกเรา มันมีความจำเป็นด้วยเหรอที่ฉันต้องออกมาคนโง่เขลาอย่างแกเป็นการส่วนตัว รอดูเถอะ… ไม่มีประเทศไหนในโลกที่สามารถเอาชนะพวกเราได้ในด้านของการเป็นเสือซ้อนเล็บและมังกร… อืม… ซ่อนเขี้ยว? ซ่อนปีก? มังกรมันซ่อนอะไรได้นะ
เอาเถอะ ยังไงพวกเราก็จะไม่มีวันขาดคนกล้าเด็ดขาด!
ด้วยประการฉะนี้ คนจำนวนมากจึงทยอยกันมาเพื่อสนับสนุนการแข่งเท่าที่ตนจะทำได้ ในวันของการแข่งเอง ผลการค้นหาสิบอันดับสูงสุดนั้น มากกว่าครึ่งเกี่ยวข้องกับเกมการแข่งครั้งนี้ทั้งสิ้น
เฉา ตั้วเฟย เองก็อยู่ในระหว่างการนำพรรคพวกตนหาทำเลเหมาะ ๆ ในการนั่งชมการแข่ง
“พี่เฟย ลูกพี่เค้าจะเข้าร่วมด้วยมะ”
ใครคนหนึ่งตะโกนถาม เฉา ตั้วเฟย สุดเสียง
“ไม่รู้เหมือนกัน ลองถามแล้วแต่ดันเมินกันซะงั้น ลูกพี่เค้าขับรถหนีไปเลย โทรศัพท์เจ้าตัวก็ปิดอีก”
ริมฝีปากของเด็กหนุ่มกระตุกจากความวิตกกังวล เขาเองก็ไม่แน่ใจว่า ซู ฉิวไป่ จะเข้าร่วมการแข่งของวันนี้ด้วยหรือไม่
ณ บริเวณหลังอัฒจันทร์ เด็กสาวขายาวโย่งคนหนึ่งในกางเกงยีนส์แบบคาวบอย รองเท้าบูทส้นสูง และหมวกแก๊ปบนหัวกันแดดจ้า ยืนคุยอยู่กับเพื่อนสาวอีกหลายคน สายตาพวกเธอต่างจับจ้องไปยังลู่สนามแข่ง
“เฉิงหยา คนขับรถที่เธอพูดถึงน่ะ… เขาเก่งงั้นเลยเหรอ”
คนที่ถามเธอเป็นเด็กสาวรูปร่างจ้ำม่ำ ครอบครัวของเธอเป็นหนึ่งในตระกูลอันร่ำรวยของเมืองตงไห่
“นั่นสิเนอะ ตอนแรกฉันแค่จะมาการแข่ง แต่คิดไปคิดมา ก็อยากเห็นคนขับรถที่ว่าด้วยสองตาตัวเองเหมือนกัน ก็เฉิงหยาอวดเขาไว้ซะดีนักดีหนาอ่ะนะ” เด็กสาวอีกคนลอบพูดขึ้น
กู่ เฉิงหยา ไม่ตอบพวกเธอ มุมปากของเด็กสาวเพียงยกขึ้นคลี่เป็นรอยยิ้มบาง สาเหตุที่เธอมาที่นี่ ก็เพราะพวกเพื่อนของเธอนั่นแหละที่เอ่ยชวนเธอมาสนุกกัน อันเนื่องในโอกาสที่เธอเพิ่งหายจากโรคร้ายประจำตัว อย่างไรก็ดี ในความคิดเห็นของเธอแล้ว หลังจากที่ได้เป็นพยานซึ่งทักษะในการขับรถอันเหนือกว่าของเขา นายหญิงแห่งตระกูลกู่หมดความสนใจในการแข่งประเภทอื่นทั้งสิ้น
นอกจากนี้ หมู่คนจำนวนมากเริ่มทยอยกันเข้ามาในสนามแข่งอย่างเห็นได้ขัด และดูจะมีมากกว่านี้ได้อีก ผู้ชมบางส่วนถือธงและป้ายประกาศด้วยความเต็มใจ เนื้อหาของป้ายเหล่านั้นล้วนประกาศซึ่งเจตนารมณ์ในการรักษาและเพิ่มพูนความภาคภูมิใจแห่งชาติผืนแผ่นดินจีน บ้างถึงกับเป่าแตรดังลั่นและกรีดร้องดังสนั่น!
คาร์ล ผู้ที่เตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว ยิ้มหยันขึ้นเมื่อเห็นฉากตรงหน้า
ชายชาวต่างชาตินึกใคร่รู้นัก สมาคมนักแข่งรถจะประกาศหรือไม่ว่าเกมการแข่งของวันนี้จะถูกยกเลิก เพราะวว่าพวกนั้นหาตัวแทนแข่งเข้าร่วมไม่ได้
อา นั่นคงน่าสนใจไม่น้อยเลย!
จากนั้นเอง เขาจึงขึ้นรถยนต์ของตน และขับรถด้วยใจจดจ่อไปยังสนามแข่ง
เมื่อเห็นรถของชายจากต่างแดน ผู้ชมเริ่มโห่ไล่พร้อมกับกวาดตาดูทั่วทั้งสนาม อีกเดี๋ยวผู้เล่นฝั่งเราก็คงมาแล้วล่ะ
จำนวนคนนับกว่าหมื่นคนที่มารวมกัน ณ สถานที่นั้น จู่ ๆ กลับเงียบลงโดยฉับพลัน
แม้แต่คาร์ลที่คิดจะพูดเยาะเย้ยพวกนั้นเสียหน่อยก็ต้องตกตะลึง คำพูดของตนจุกอยู่ในลำคอ ใช่ว่าเขาจะไม่อยากพูด แต่เขาตกใจมากเกินกว่าจะทำได้!
ตรงหน้าสองตาของเขาผู้ยังกังขาอยู่นั้น คือรถเฟอร์รารี่สีดำที่ขับออกมาจากอีกลู่หนึ่ง!