ดยุคแดร๊กคูล่าจ้องมองพอลกับเจสเตอร์อยู่ครู่หนึ่งดวงตาสีฟ้าเข้มคู่นั้นเต็มไปด้วยความตกใจ ประหลาดใจ และไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น! ใบหน้าเหี่ยวย่นนั้นปรากฏร่องรอยของความตื่นเต้นที่ไม่อาจปิดบังไว้ได้..
ร่างของดยุคแดร๊กคูล่ายังคงลอยอยู่กลางอากาศหลังจากจ้องมองพอลกับเจสเตอร์อยู่ราวสองสามวินาที ร่างสูงใหญ่นั้นจึงพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว!
ไป๋เซียนเอ๋อเห็นเช่นนั้นจึงคิดว่าดยุคแดร๊กคูล่าต้องการที่จะเริ่มการจู่โจมนางจึงคำรามออกมาพร้อมกับยกมือเรียวงามทั้งสองข้างขึ้น จากนั้นจึงซัดลูกไฟขนาดใหญ่ในมือสองลูกเข้าใส่ร่างของดยุคแดร๊กคูล่าทันที!
ลูกไฟสีแดงเพลิงทั้งสองลูกพุ่งเข้าใส่ร่างของดยุคแดร๊กคูล่าอย่างรวดเร็วจนเกิดสะเก็ดไฟเป็นทางยาว..
ลูกไฟทั้งสองลูกของไป๋เซียนเอ๋อนั้นไม่ต่างจากดวงอาทิตย์สองดวงทันทีที่ปรากฏขึ้น ภายในบ้านก็ร้อนระอุขึ้นมาทันที ทำให้เหล่ามาร์ควิสที่บินอยู่กลางอากาศนั้นถึงกับต้องหลับตาทันที และเวลานี้แต่ละตนก็ได้สร้างกำแพงโลหิตขึ้นมาปิดกั้นไว้..
“แม่สาวน้อย..ของเด็กเล่นพวกนี้ใช้กับข้าไม่ได้ผลหรอก!”
ท่าทางของดยุคแดร๊กคูล่าดูไม่รีบร้อนนักร่างของมันค่อยๆ เคลื่อนลงมาจากกลางอากาศอย่างช้าๆ ในขณะที่มือซีดขาวข้างหนึ่งก็ยกขึ้นปัด แล้วลูกไฟทั้งสองก็หายวับไปทันที..
ดยุคแดร๊กคูล่ายังไม่จู่โจมผู้ใด..มันเคลื่อนตัวลงมาอยู่ในระดับความสูงเดียวกันกับเจสเตอร์และพอล ก่อนจะจงใจบินลงให้ร่างของตนเองอยู่ต่ำกว่าแวมไพร์ทั้งสองตน แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองพวกมันทั้งคู่แทน..
ดยุคแดร๊กคูล่าจ้องมองพอลกับเจสเตอร์อีกครั้งและครั้งนี้ดูเหมือนมันจะยิ่งตกใจมากกว่าเก่า สีหน้าบ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเองปรากฏขึ้นอีกครั้ง จากนั้นแววตาของมันก็เปลี่ยนจากตกใจมาเป็นเคารพผสมผสานกับความรู้สึกอิจฉา..
พอลกับเจสเตอร์เองก็เช่นเดียวกัน..จู่ๆ ความรู้สึกกดดันที่เกิดขึ้นจากการปรากฏตัวของดยุคแดร๊กคูล่า และความหวาดกลัวในความแข็งแกร่งของดยุคแดร๊กคูล่าก็อันตธานหายไปในทันที จากนั้นแวมไพร์หนุ่มสองตนก็ได้แต่หันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง..
ดยุคแดร๊กคูล่าแย้มริมฝีปากยิ้มให้กับพอลและเจสเตอร์พร้อมกับยกแขนข้างหนึ่งวางไขว้หลัง ส่วนอีกข้างหนึ่งวางไว้ที่หน้าท้องน้อย แล้วค่อยๆ โค้งตัวลงคำนับกลางอากาศ เวลานี้ดยุคแดร๊กคูล่ากำลังทำความเคารพพอลกับเจสเตอร์ตามแบบธรรมเนียมตะวันตก!
“ดยุคแดร๊กคูล่าจากรัฐเทนเนสซี่ประเทศสหรัฐอเมริกา วันนี้นับเป็นเกียรติของข้ายิ่งนักที่มีโอกาสได้พบเจอกับลอร์ดแวมไพร์ทั้งสองท่านที่นี่!”
พอลกับเจสเตอร์ถึงกับงุนงง!
แวมไพร์หนุ่มทั้งสองตนที่กำลังขยับปีกไปมาอยู่ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิดนั้นถึงกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ และได้แต่หันไปมองหน้ากันด้วยความงุนงง ต่างฝ่ายต่างก็เห็นแววตาตกใจ และประหลาดใจของกันและกัน แต่ถึงกระนั้นก็แฝงไว้ด้วยความภาคภูมิใจ!
แวมไพร์หนุ่มทั้งสองตนผู้ซึ่งมาจากแวมไพร์ขั้นบารอนที่ต่ำต้อยและไม่รู้จักแม้กระทั่งสายเลือดของตนเองนั้น เวลานี้กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้รับการทำความเคารพจากแวมไพร์ที่สืบสายเลือดบริสุทธิ์โดยตรงอย่างดยุคแดร๊กคูล่า!
ในโลกของเหล่าแวมไพร์..ก่อนหน้านี้สายเลือดแวมไพร์อย่างพอลกับเจสเตอร์นั้น อย่าว่าแต่จะได้รับความสนใจจากแวมไพร์ขั้นดยุคเช่นนี้เลย แม้แต่แวมไพร์ขั้นไวส์เคานต์กับขั้นบารอนที่ต่ำต้อย ยังมองพวกมันทั้งคู่ราวกับมดตัวเล็กๆตัวหนึ่งเท่านั้น!
แล้วดยุคแดร๊กคูล่าเป็นใครน่ะหรือ
แดร๊กคูล่าเป็นชื่อตระกูลและตระกูลแดร๊กคูล่าก็เป็นหนึ่งในสิบสามตระกูลแวมไพร์ที่เก่าแก่ของแวมไพร์ฝั่งตะวันตก สายเลือดแวมไพร์ตระกูลแดร๊กคูล่านั้นเป็นสายเลือดแวมไพร์บริสุทธิ์ สืบเชื้อสายมาจากชนชั้นขุนนาง อีกทั้งภายในตระกูลแดร๊กคูล่ายังมีแวมไพร์ขั้นอื่นๆอีกมากมาย..
แต่เวลานี้ท่านดยุคแดร๊กคูล่าที่ยิ่งใหญ่กลับเป็นฝ่ายบินลงต่ำกว่าพวกตนทั้งสองอีกทั้งยังทำความเคารพตามแบบธรรมเนียมตะวันตกอีกด้วย..
ทั้งพอลและเจสเตอร์ต่างก็ปลื้มปิติอย่างที่สุด!
พอลกับเจสเตอร์เพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยรับการทำความเคารพจากดยุคแดร๊กคูล่าก่อนจะเหลือบมองไปทางค่ายกลลวงตา แววตาของแวมไพร์หนุ่มทั้งสองตนนั้นเปี่ยมไปด้วยความเคารพและศรัทธา เพราะภายในค่ายกลแห่งนั้นมีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่นั่นเอง..
และคนผู้นั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหลิงหยุน– เจ้านายที่แวมไพร์ทั้งสองตนเคารพยิ่ง!
ทั้งพอลกับเจสเตอร์มีเกียรติสูงส่งเช่นนี้ก็เพราะหลิงหยุนเป็นผู้มอบให้!
แวมไพร์ทั้งสองตนนั้นรู้ดีว่าที่พวกมันทั้งสองได้รับเกียรติเช่นนี้ไม่ใช่เพราะขั้นไวส์เคานต์ของตนเอง หรือเป็นเพราะตนแข็งแกร่งในสายตาของดยุคแดร๊กคูล่าเลย แต่เป็นเพราะสายเลือดในตัวของพวกตนทั้งคู่นั่นเอง..
สายเลือดของพวกมันทั้งสองเวลานี้เป็นสายเลือดใหม่จากหลิงหยุน และเวลานี้พวกมันก็ไม่ใช่แวมไพร์ต่ำต้อยอีกต่อไป แต่เป็นถึงลอร์ดแวมไพร์..
แม้ว่าจะยังไม่ได้เป็นลอร์ดแวมไพร์ในตอนนี้แต่ในวันข้างหน้าพวกมันสองตนต้องได้เป็นอย่างแน่นอน!
แต่ถึงกระนั้นทั้งพอลกับเจสเตอร์ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนและไม่รู้ว่าควรจะวางตัวกับดยุคแดร๊กคูล่าเช่นใดดี
แต่ระหว่างที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเบาๆ อยู่ข้างหูของพอลกับเจสเตอร์..
-สั่งให้พวกมันกลับไป!–
แน่นอนว่ามันคือเสียงของหลงหยุนนั่นเอง..
พอลกับเจสเตอร์กระอักกระอ่วนใจและไม่กล้าที่จะออกคำสั่งกับดยุคแดร๊กคูล่า แต่ในเมื่อหลิงหยุนสั่งให้ทำเช่นนั้น ทั้งคู่จึงไม่กล้าขัดคำสั่ง..
เจสเตอร์จ้องมองดยุคแดร๊กคูล่าที่อยู่ต่ำกว่ามันเผยอริมฝีปากสีแดงพร้อมกับร้องตะโกนออกไปว่า
“กลับไป!”
ดยุคแดร๊กคูล่าได้ฟังคำสั่งของเจสเตอร์ก็ถึงกับควันออกหูมันเงยหน้าขึ้นมองแวมไพร์หนุ่มทั้งสองตนพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา..
“ดูท่าท่านลอร์ดแวมไพร์ทั้งสองคงจะเข้าใจเจตนาของข้าผิดไปมาก..”
“พวกท่านทั้งสองมีดวงตาสีม่วงและยังมีปีกสีม่วงอีกด้วย.. แน่นอนว่าในวันข้างหน้าพวกท่านทั้งสองต้องได้เป็นลอร์ดแวมไพร์อย่างแน่นอน แต่เวลานี้อย่าลืมว่าพวกเราต่างก็เป็นศัตรูกัน!”
“อภัยให้ข้าด้วย..ข้าคิดว่าพวกท่านทั้งสองต่างก็เคยเป็นแวมไพร์ต่ำต้อยมาก่อน แต่เวลานี้กลับสามารถพัฒนาสายเลือดเป็นลอร์ดแวมไพร์ได้ เห็นได้ชัดว่าภายในร่างกายของพวกท่านต้องมีบางอย่างที่พิเศษ..”
ดยุคแดร๊กคูล่าหลับตาลงช้าๆพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึก แต่แล้วสีหน้าของมันก็เปลี่ยนเป็นไม่สู้ดีนัก ก่อนจะพูดต่อว่า
“ข้าสัมผัสได้ถึงความร้อนในตัวของพวกท่านทั้งสอง..เวลานี้ร่างกายของพวกท่านทั้งสองมีความอบอุ่น และสำหรับแวมไพร์อย่างพวกเรา.. นี่เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก!”
“ข้ายังเห็นอีกว่า..ภายในร่างกายของพวกท่านทั้งสองนั้น มีโลหิตไหลเวียนอยู่ มันเป็นเลือดที่มีความอุ่น และดูเหมือนจะมีปริมาณมากกว่าเลือดในร่างของแวมไพร์ขั้นไวส์เคานต์ปกติถึงสิบเท่า มันเกือบจะใกล้เคียงกับเลือดในกายของมนุษย์..”
“ข้าได้ยินมากระทั่งว่าพวกท่านทั้งสองมีชีพจรเต้นด้วย..อีกทั้งตอนนี้พวกท่านก็ไม่หวาดกลัวต่อลูกไฟทั้งสองเมื่อครู่ด้วย..”
ดยุคแดร๊กคูล่ามีท่าทีตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นมันขยับจมูกโด่งงุ้มราวกับปากนกอินทรีย์ไปมา จากนั้นจึงลืมตาขึ้น!
“พวกท่านทั้งสองไม่เพียงแค่กำลังกลายพันธุ์เป็นลอร์ดแวมไพร์แต่ยังเป็นลอร์ดแวมไพร์ชนิดพิเศษด้วย ร่างกายของพวกท่านทั้งสองยังคงสามารถพัฒนาไปได้อีกเรื่อยๆ..”
“และดูเหมือนพวกท่านทั้งสองกำลังจะคืนชีพ!”
“ท่านลอร์ดแวมไพร์..พวกท่านทั้งสองกำลังทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ พวกท่านสามารถพัฒนาสายเลือดแวมไพร์ได้!”
แต่แล้วดยุคแดร๊กคูล่าก็สั่นเทิ้มไปทั้งร่างใบหน้าเหี่ยวย่นนั้นแดงก่ำ และจู่ๆ ก็ร้องตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล..
“สายเลือดลอดร์ดแวมไพร์ที่ล้ำค่าเช่นพวกท่านเหตุใดจึงมาอาศัยอยู่ในประเทศที่เต็มไปด้วยอันตรายเช่นประเทศจีน แล้วเหตุใดจึงต้องลดเกียรติลงไปปกป้องมนุษย์ที่ต่ำต้อยเหล่านั้นด้วย?”
ดยุคแดร๊กคูล่าโกรธจนไม่สามารถควบคุมอาการได้อีกเขาก้มลงมองไปยังพื้นด้านล่าง และจ้องมองไปทางปีศาจภัยแล้งที่กำลังร้องคำราม แล้วจึงหันไปมองไป๋เซียนเอ๋อ ฉินตงเฉี่วย และคนอื่นๆที่อยู่ในค่ายกล..
นี่เป็นครั้งแรกที่ดยุคแดร๊กคูล่าจ้องมองไปยังเหล่ามนุษย์ผู้ต่ำต้อยตั้งแต่มาถึงบ้านเลขที่-1แววตาของมันเต็มไปด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ และเย้ยหยัน…ไอลีนโนเวล.
“ข้าจำเป็นต้องพาพวกท่านทั้งสองออกไปจากประเทศที่อันตรายนี้และจะพาพวกท่านกลับไปยังสถานที่ซึ่งเป็นต้นตระกูลของเหล่าแวมไพร์ ที่นั่นพวกท่านทั้งสองจะได้เป็นลอร์ดแวมไพร์ผู้ยิ่งใหญ่ และจะได้เป็นผู้นำของพวกเราเหล่าแวมไพร์ต่อไป!”
ในที่สุดดยุคแดร๊กคูล่าก็ร้องบอกวัตถุประสงค์ของตนเองให้พอลกับเจสเตอร์รับรู้แล้วจึงพูดต่อว่า
“แต่ข้ารู้ดีว่าพวกท่านทั้งสองจะต้องปฏิเสธความหวังดีของข้าดังนั้นข้าคงต้องทำให้พวกท่านทั้งสองขุ่นเคืองใจแล้ว..”
“ด้วยอำนาจแห่งซาตาน..กรงปีศาจจงปรากฏขึ้น!”
ดยุคแดร๊กคูล่าร้องตะโกนออกไปพร้อมกับยกมือขึ้นชี้ไปทางพอลกับเจสเตอร์และเลือดหนึ่งหยดจากนิ้วชี้ของดยุคแดร๊กคูล่าก็พุ่งไปทางพอลกับเจสเตอร์ทันที!
พอลกับเจสเตอร์ทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจนักแต่ก็ไม่รู้ว่าจะรับมือเช่นใด จึงรีบกระพือปีกใหญ่ยักษ์เตรียมหลบทันที..
ฐานะส่วนฐานะะความแข็งแกร่งก็ส่วนความแข็งแกร่ง..
ทั้งพอลกับเจสเตอร์ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของดยุคแดร๊กคูล่าทั้งคู่ไม่สามารถหนีรอดได้ และถูกกรงเลือดขนาดใหญ่ครอบไว้..
แวมไพร์หนุ่มทั้งสองดิ้นรนอยู่ในกรงยักษ์ทั้งสองต่างก็กระพืบปีกใหญ่ยักษ์บินกระแทกกรงไปทางซ้ายทีขวาที และพยายามที่จะทลายกรงปีศาจออกไปให้ได้ แต่กรงนั้นก็ค่อยๆหดเล็กลงเรื่อย และในที่สุดร่างของแวมไพร์หนุ่มทั้งสองก็ได้กลายเป็นค้างคาวตัวเล็กสองตัว..
ดยุคแดร๊กคูล่ายิ้มพร้อมกับยกมือหงายขึ้นแล้วกรงขนาดเท่าฝ่ามือก็ค่อยลอยกลับมาอยู่ในฝ่ามือของมันทันที!
ดยุคแดร๊กคูล่าถือกรงไว้ด้วยมือข้างหนึ่งส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้กรงไปมาเบาๆพร้อมกับพูดยิ้มๆ แต่ก็แฝงไว้ด้วยความเคารพ..
“ท่านลอร์ดแวมไพร์ทั้งสองหลังจากสะสางปัญหาเล็กๆน้อยๆที่นี่เรียบร้อยแล้ว ข้าจะรีบพาพวกท่านกลับประเทศของเราทันที!”
ปัญหาเล็กน้อยที่ดยุคแดร๊กคูล่าพูดถึงก็คือทุกคนที่อยู่ภายในบ้านเลขที่-1นั่นเอง!
ดยุคแดร๊กคูล่าก้มลงไปมองที่พื้นด้านล่างอีกครั้งครั้งนี้สายตาของมันจับจ้องอยู่ที่ร่างของเฉินเจี้ยนกุ่ยซึ่งนอนราวกับตายอยู่บนพื้น..
เฉินเจี้ยนกุ่ยถูกหลิงหยุนตัดปีกและถูกทำร้ายจนไม่รู้ว่ากระดูกภายในร่างกายหักไปกี่ท่อน เวลานี้ไม่เพียงไม่สามารถขยับเนื้อขยับตัวได้ แม้กระทั่งเห็นดยุคแดร๊กคูล่า ยังไม่มีแม้แต่เสียงร้องที่จะตะโกนขอความช่วยเหลือเลย..
“โอ้..เด็กน้อยผู้น่าสงสาร! เหตุใดเจ้าจึงมีสภาพเช่นนี้”
ดยุคแดร๊กคูล่าถอนหายใจพร้อมกับพึมพำออกมาเบาๆจากนั้นจึงยกฝ่ามือขึ้นหันไปทางร่างของเฉินเจี้ยนกุ่ย..
“ด้วยอำนาจแห่งซานตาน..จงหาย!”
แล้วแสงสีดำก็พุ่งเป็นทางยาวทอดลงไปยังร่างของเฉินเจี้ยนกุ่ยทันทีที่แสงสีดำปกคลุมร่างของมัน อาการบาดเจ็บสาหัสก็หายเป็นปลิดทิ้งทันที!
ภายใต้แสงสีดำของดยุคแดร๊กคูล่าปีกใหญ่ยักษ์ของเฉินเจี้ยนกุ่ยกลับงอกขึ้นมาใหม่ มันยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะกระพือปีก แล้วบินขึ้นไปหาดยุคแดร๊กคูล่าทันที!
การเปลี่ยนแปลงภายในชั่วพริบตาของเฉินเจี้ยนกุ่ยนั้นทำให้ไป๋เซียนเอ๋อกับฉินตงเฉี่วยถึงกับตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก..
ดยุคแดร๊กคูล่าไม่เพียงไม่กลัวไฟแต่ยังจับพอลกับเจสเตอร์ขังกรงไว้ และยังสามารถรักษาเฉินเจี้ยนกุ่ยได้ราวกับคืนชีพ..
เช่นนี้แล้วใครเล่าจะรับมือกับดยุคแดร๊กคูล่าผู้น่ากลัวนี้ได้