บทที่****134: ดาบทลายภูผา
สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกหมดหวังในตอนนี้คือ สมบัติวิเศษของนางเป็นประเภทไม้ ทว่าฝูงผึ้งกลับเป็นพวกโลหะ ไม้ไม่อาจต่อต้านโลหะ ความจริงนี้ทำให้นางแพ้พ่ายโดยสมบูรณ์ ตอนนี้สมบัติวิเศษของนางกำลังถูกกดดันอย่างหนัก อีกทั้งยังเผาผลาญปราณจิตวิญญาณของนางจนแทบหมดสิ้น หากนางไม่อาจหาทางออกให้กับสถานการณ์นี้ ชัดเจนนักว่าอีกไม่ช้านางต้องตายแน่!
แน่นอนว่าด้วยอายุของนางคงยังไม่เคยพบเจอสถานการณ์ยากลำบากเช่นนี้ พิษตอนนี้อาบไล้อยู่ทั่วแผลบนไหล่ของนาง จิตสังหารของผึ้งทั้งฝูงต่างทำให้นางคล้ายคนโง่งม เมื่อนางคิดว่าตนอาจต้องตายอยู่ที่นี่ น้ำตาแห่งความอัดอั้นพลันระเบิดออกมาอย่างไม่อาจถ่วงรั้ง
เจ้าอ้วนผู้ที่เฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ ไม่อาจคาดคิดว่าหญิงสาวที่ดูชาญฉลาดในครั้งนั้น จะจัดการสถานการณ์ตรงหน้าด้วยการร้องไห้ออกมา ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเก็บอารมณ์ได้อีกต่อไป โดยทันทีเขาจึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ขณะที่เขายังคงหัวเราะ แน่นอนว่าหญิงสาวหันควับมองมาทันที ในตอนนี้นางหวังเพียงสิ่งเดียวก็คือการมีคนมาช่วยนางออกไป ในขณะที่นางได้ยินเสียงหัวเราะของเขา นางใช้หยกกระจกส่องไปที่ต้นเสียงทันที ด้วยรังสีของลำแสง ทำให้เวทมนตร์ม่านหมอกที่เจ้าอ้วนร่ายไว้จางหายไป ทันทีที่นางเห็นว่าเป็นเขา นางรู้สึกมีความสุขอย่างยิ่ง เพราะนางรู้ว่าเจ้าอ้วนนั้นแข็งแกร่งเพียงใด ถึงขั้นที่ต่อสู้กับศิษย์พี่หญิงของนางได้อย่างเท่าเทียมกัน! แน่นอนว่าในตอนนี้เขาสามารถช่วยนางได้ ดังนั้นนางจึงรีบตะโกนขอความช่วยเหลือทันที “อ้วน เจ้าอ้วน ช่วยข้าที!”
ในขณะที่เจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาแทบกระอักเลือดตายไปพร้อมกับความโกรธ พร้อมคิดในใจ ‘การเรียกข้าว่าเจ้าอ้วนมันคืออะไร นี่คือวิธีการขอร้องของเจ้างั้นหรือ?’
ดังนั้นเจ้าอ้วนกรอกตาไปมาราวกับว่าไม่สนใจนางพร้อมกล่าวอย่างขุ่นเคือง “หือ เจ้าอ้วนที่ไหนกัน? ทางนั้นรึ ตรงโน้นรึเปล่า?” ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาก็ทำท่ามองไปรอบ ๆ
ต่อให้นางจะโง่เขลาเพียงใด แต่นางรู้ได้ทันทีว่านางได้ทำผิดร้ายแรงเสียแล้ว! ขณะนั้นนางเกรงว่าเจ้าอ้วนจะปล่อยนางทิ้งไว้ใต้หน้าผาแห่งนี้ นางรีบตะโกนอย่างรวดเร็ว “ศิษย์พี่ ศิษย์พี่ฟังข้าก่อน ข้าผิดไปแล้ว ได้โปรดช่วยเหลือข้าที!”
“อา จากเจ้าอ้วนกลายเป็นศิษย์พี่ ข้าได้รับการเลื่อนตำแหน่งรวดเร็วเสียจริง!” เจ้าอ้วนพูดแหย่ “ข้าทราบถึงความผิดของตนเองแล้ว ได้โปรดเลิกแกล้งข้าเถิด! รีบช่วยข้าออกไปที!” สาวน้อยกล่าวออกมาอย่างกังวลใจ
“ย่อมได้ ข้ารับการขออภัย!” เจ้าอ้วนทำท่าจริงจังพร้อมกล่าวว่า “การขออภัยอันแสนจริงใจของเจ้านั้น ทำให้ข้ารู้สึกตื้นตันเป็นอย่างยิ่ง แน่นอนว่าบุรุษผู้นี้ยอมยกโทษให้หญิงสาวผู้ไร้เดียงดาและทำไปเพราะไม่รู้ตัว!”
“ขอบคุณ ขอบคุณศิษย์พี่อย่างยิ่ง เร็วเข้า! รีบช่วยข้า!” หญิงสาวกล่าวอย่างรีบร้อน
“หืม ช่วยเจ้า?” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างรังเกียจ “ข้าเพียงกล่าวว่าข้ายกโทษให้กับเจ้า นั่นหมายความว่าหนี้เก่าที่เราติดค้างกันอยู่ได้ถูกชำระล้างแล้ว ข้าไม่ได้พูดสักนิดว่าข้าจะช่วยเหลือเจ้า! อีกทั้งข้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นด้วย!”
“เจ้า เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” เมื่อนางได้ยินเช่นนั้น ความหวังของนางแทบจะเลือนหายไปพร้อมกับตัวตนของนาง “ไม่ใช่อาวุโสฮัวอวิ๋นบอกหรือว่าหลังจากที่เราเข้ามาอยู่ในที่แห่งนี้ เราคือครอบครัวเดียวกันไม่ใช่หรือ? แต่เจ้ากลับคิดจะปล่อยข้าไว้แบบนี้?”
“นับเป็นเรื่องที่ดี ที่เจ้ารู้ว่าใครกล่าวสิ่งใดไว้ แต่มันไม่มีผลอะไรกับข้า!” เจ้าอ้วนยักไหล่อย่างไม่แยแส
“บัดซบ แน่นอนว่าข้าจะร้องเรียนเรื่องนี้กับนักบวชฮัวอวิ๋นเมื่อข้ากลับไป!” หญิงสาวตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“ฮ่าฮ่า ตกลง ถ้าหากเจ้าสามารถเอาชีวิตรอดออกไปได้ ข้ายินดีให้เจ้าร้องเรียนเรื่องนี้กับเขา!”
“เจ้า!” และแล้วนางก็เข้าใจสถานการณ์ของตนเองและรู้ทันว่านางจะต้องตายอยู่ที่แห่งนี้ถ้าเจ้าอ้วนไม่ช่วยเหลือนาง เมื่อคิดเช่นนั้น นางเริ่มร้องไห้อีกครั้งและกล่าวว่า “เจ้าคนเลว เจ้าข่มเหงข้า!”
“เหอะ!” เจ้าอ้วนถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ใช่ว่าเจ้าเคยข่มเหงข้าหรือในหลายวันก่อนหน้านี้?”
“แล้วข้าไม่ยอมรับความผิดของข้างั้นหรือ? อีกอย่างเจ้าเป็นบุรุษ เหตุใดจึงใจคอคับแคบเช่นนี้!” นางกล่าวออกมาอย่างคับแค้นใจ
“โอ้ ดูเหมือนว่าข้าจะเป็นคนใจแคบนิดหน่อยนะ แต่หลังจากที่ข้าได้ถูกข่มเหงโดยเจ้าและถูกรังแกโดยศิษย์พี่ของเจ้าจนเกือบจะพิการ แน่นอนว่าข้าจะต้องชำระล้างความโกรธแค้นทั้งหมดนี้!” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มปีศาจ “สำหรับเรื่องนี้ หากเจ้ายอมเรียกข้าว่าพี่ชาย ข้าอาจยอมลืมเรื่องราวในอดีต จากนั้นอาจจะช่วยเหลือเจ้า หากเจ้ายอมทำให้ข้าได้สุขสันต์ล่ะก็นะ!”
“ว่าอะไร? เจ้าคาดหวังให้ข้าเรียกเจ้าเช่นนั้นได้อย่างไร?” หญิงสาวตอบกลับอย่างอับอาย
“ถ้าหากเจ้าไม่เรียกข้าเช่นนั้น ข้าต้องขอโทษด้วยที่ไม่อาจช่วยเหลือเจ้าได้!” เจ้าอ้วนกล่าวเสริม “แบบนั้นแล้วก็จงรอคอยผึ้งเหล่านี้จับตัวเจ้าได้และกินเจ้าอย่างช้า ๆ! ข้ามั่นใจอย่างยิ่งว่าพวกมันได้สุขสันต์กับงานเลี้ยงมื้อนี้อย่างแน่นอน แต่ข้าไม่อาจทราบได้ว่าพวกมันจะกินหัวหรือเท้าของเจ้าก่อน!”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจ้าอ้วน หญิงสาวยิ่งหวาดกลัวอย่างหนักและเริ่มร้องไห้อีกครั้ง “หยุดกล่าววาจาเช่นนั้นได้แล้ว ข้าจะเรียกเจ้าว่าพี่ชาย! พี่ชาย พี่ชายได้โปรดช่วยชีวิตข้าด้วย!”
“ไม่ใช่แบบนั้น เจ้าต้องเรียกข้าว่าพี่ชายที่แสนดี พี่ชายสุดที่รัก!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างสนุกสนาน ในขณะที่นางได้ยินเช่นนั้น นางแทบจะเป็นบ้าตาย แต่เพียงแค่เรียกเขาว่าพี่ชาย อีกทั้งชีวิตของนางกำลังตกอยู่ในอันตราย นางจึงไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับสิ่งอื่น นางตะโกนออกมาสุดเสียง “พี่ชายที่แสนดี พี่ชายสุดที่รัก ได้โปรดช่วยชีวิตข้าด้วย! ถ้าหากท่านไม่รีบช่วยข้าในตอนนี้ ข้าตายแน่! อ๊ะ!”
ในขณะที่นางกำลังตะโกนเช่นนั้น ลำแสงที่ปกป้องนางไว้ไม่อาจต้านทานได้อีกต่อไป มันแตกหักอย่างสมบูรณ์ วินาทีต่อมาเหล่าผึ้งทั้งหลายพุ่งเข้าหาร่างกายของนางราวกับดาวตก ขณะนั้นใบหน้าของนางสิ้นหวังพร้อมกับหลับตาลงรอคอยความตายที่กำลังจะมาถึง
แต่ในขณะนั้น เจ้าอ้วนเริ่มขยับร่างกาย ประการแรกคือเขาสร้างคลื่นดาบยาวร้อยฟุตออกมากวาดไปทั่วบริเวณที่มีผึ้งบินอยู่ ธาตุไฟสามารถต่อกรกับโลหะได้ อีกทั้งดาบแห่งธาตุทั้งห้าทำให้ผึ้งตายไปมากมายจากแสงดาบที่ถูกส่งออกมา
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียวที่เจ้าอ้วนกระทำ เขาโยนสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคคีออกมานับสิบลูก รังผึ้งทั้งหมดที่อยู่รอบ ๆ ระเบิดออกทันทีและเผาไหม้ทั่วบริเวณจนกลายเป็นพื้นที่สีแดง แม้ว่ากล่องหยกจะกระเด็นไปไกล เจ้าอ้วนดึงมันกลับมาได้ทันทีด้วยลำแสงของดาบเขา
เพียงอึดใจเดียว เจ้าอ้วนสามารถช่วยชีวิตนางไว้ได้ พร้อมสังหารผึ้ง ทำลายรังของพวกมันทั้งหมดและได้รับสมบัติ กระบวนการทุกอย่างราบลื่นดั่งน้ำไหลในลำธารอีกทั้งยังแสดงพลังของผู้ฝึกตนประเภทสายฟ้าด้วย หญิงสาวที่มองอยู่ด้านข้างตกตะลึงทันที เมื่อสักครู่นี้นางยังอยู่ในสภาวะสิ้นหวังรอคอยความตาย แต่ในเวลาถัดมา ทุกอย่างกลับจบลงอย่างรวดเร็ว จนนางไม่อาจเชื่อสายตาของตนเองว่านี่คือเรื่องจริง
หลังจากที่นางกำลังตกใจอยู่ นางเห็นเจ้าอ้วนกำลังโยนกล่องหยกเล่น ดวงตาของนางเบิกโพลงขึ้นพร้อมกับร้องไห้และกล่าวกับเจ้าอ้วนว่า “พี่ชายที่แสนดี ท่านช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก! ท่านทำให้ข้าประหลาดใจอย่างมาก!”
เมื่อหันมองตามน้ำเสียง หญิงสาววิ่งตรงไปที่เจ้าอ้วนพร้อมกับจับมือของเขาด้วยใบหน้าที่ตื้นตัน
ในขณะนั้นเสื้อผ้าของนางเปียกและแสดงให้เห็นถึงส่วนโค้งเว้าและผิวที่เนียนเรียบของนาง เมื่อเจ้าอ้วนเห็นดังนั้น คลื่นแห่งความปรารถนาถาโถมเข้ามาภายในใจเขาอย่างท่วมท้น ก่อนที่เขาจะฟื้นจากความรู้สึกเหล่านี้ เขารู้สึกว่ามือของเขามีแสงขึ้นมาพร้อมกับกล่องหยกถูกฉกฉวยไป จากนั้นหญิงสาวก็หายตัวไปอย่างลึกลับราวกับว่านางไม่เคยอยู่ที่นี่มาก่อน
นี่เป็นความสามารถของสมบัติวิเศษงั้นหรือ? เจ้าอ้วนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ออกมาดี เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะถูกหลอกโดยหญิงสาวผู้นี้มาก่อน
ในขณะนั้น หญิงสาวที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ ๆ ก็ยังไม่ลืมที่จะข่มขู่เขา “เจ้าก้อนไขมันบัดซบ เจ้าใช้ประโยชน์จากสถานการณ์เช่นนั้นจริง และยังบังคับให้ข้าต้องกล่าวคำอันน่ารังเกียจ คนเช่นเจ้าสมควรตายสักหมื่นครั้ง! แต่วันนี้ข้าอารมณ์ดี ข้าจะไม่ลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับเจ้า จงจำไว้ว่าเจ้าต้องขอบคุณข้าและอย่าสร้างปัญหาให้กับข้าอีกในอนาคต ไม่อย่างนั้น… ข้าจะ….” หลังจากที่นางกล่าวเช่นนั้น นางนิ่งเงียบไป ซึ่งในตอนนี้นางต้องการจะข่มขู่เขาแต่ดูเหมือนว่านางจะไม่อาจทำได้
เจ้าอ้วนจึงถามออกมาพร้อมหัวเราะเบาๆ “ถ้าไม่อย่างนั้นอะไรหรือ? เจ้าจะทำอะไรกับข้า?”
สวรรค์ หญิงสาวไม่อาจกล่าวสิ่งใดนอกจาก “ถ้าไม่เช่นนั้น ข้าจะเรียกให้ศิษย์พี่หญิงหานปิงมาเจาะตันเถียนของเจ้าให้กลายเป็นคนพิการไปจริง!” ขณะที่เจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของเขาแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที “สิ่งที่เจ้าต้องการนั่นคือการทำลายข้างั้นหรือ?”
นางรู้ทันทีว่าตอนนี้ได้กล่าวสิ่งที่ไม่เหมาะสมออกไปจึงรีบหนีไปพร้อมกับกรีดร้องดังลั่น
เมื่อเห็นว่านางหนีไปแล้ว เจ้าอ้วนหัวเราะออกมาอย่างขื่นขม สิ่งที่แย่ที่สุดในตอนนี้คือเขาไม่มีสมบัติวิเศษที่จะทำลายเวทมนตร์ปกปิดที่นางใช้ได้เลย เขาจึงทำได้เพียงมองดูฝ่ายตรงข้ามหนีไปเท่านั้น
อีกทั้งเจ้าอ้วนมีความมั่นใจอย่างมากในการล่าครั้งนี้ จุดประสงค์ของเขาคือการได้รับผลไม้วิญญาณเก้าผล สามชิ้นสำหรับเขา เจ้าลิงและหานหลินเฟิง มันไม่สำคัญว่าหญิงสาวผู้นั้นจะหนีเขาไปอย่างไร สำหรับเขาแล้วเขาไม่สนใจที่จะฉกฉวยผลไม้วิญญาณจากผู้หญิง
เจ้าอ้วนไม่ได้เดินออกจากน้ำตกในทันที เขาใช้ดาบบินเพื่อบินไปตรงกลางของน้ำตกและเฉือนเอาต้นชาที่อยู่ตรงนั้นมาวางไว้ในมิติของเขา
หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น เจ้าอ้วนพบว่าในตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว และเขาควรจะหยุดพักอยู่ที่นี่ก่อน และไปต่อในเช้าวันรุ่งขึ้น
เป้าหมายต่อไปของเขาคือการไปยังจุดนัดพบ แม้ว่าเขาจะต้องการละทิ้งภารกิจของนักบวชฮัวอวิ๋น แต่เขาไม่อาจละทิ้งเป้าหมายสำคัญของสำนักได้ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจตามล่าผลไม้วิญญาณได้ดั่งใจที่คิดไว้ ในตอนนี้เขาอยู่ใกล้กับจุดนัดพบและมันมีผลไม้วิญญาณซ่อนอยู่สองผล
แม้ว่าสถานที่แห่งนั้นจะว่างเปล่า แต่เขาก็ยังคงมีความหวังในใจเล็กน้อยว่าเขาอาจจะได้รับมันอยู่