ตอนที่ 102-4 ตายทั้งเป็น

จำนนรักชายาตัวร้าย

“เช่นนั้นก็ดีเลย มีทั้งเตียงไม้ไผ่ มีทั้งเก้าอี้เอน เจ้าเลือกได้เลยหนึ่งอย่าง หากว่าตอนกลางคืนเขาตื่นขึ้นมาต้องการทำธุระส่วนตัว ไม่มีใครคอยดูแลจะไม่ดี!”

 

 

อวี้เฟยเยียนกล่าวยิ้มๆ

 

 

ถึงแม้ว่าตี้อู่เฮ่ออีจะมีอาการทึ่มๆ ไปบ้าง หัวแข็งไปบ้าง แต่เขาก็เป็นคนมีน้ำใจเชื่อถือได้ ทั้งยังมีความรักใคร่ในชนเผ่าบ้านเกิดและซื่อสัตย์ เห็นได้ชัดว่าเนื้อแท้เขาเป็นคนดีคนหนึ่ง!

 

 

อวี้เฟยเยียนคิดว่าตี้อู่เฮ่ออีและเชียนเยี่ยเสวี่ยสามารถสร้างความรู้สึกดีๆ ต่อกันได้

 

 

อย่างน้อยที่สุด หลังจากที่เผชิญกับเรื่องราวมากมายมาด้วยกัน มุมมองในเรื่องความรักเชียนเยี่ยเสวี่ยก็คงจะย่ำแย่อย่างที่สุด จึงต้องการคนที่เด็ดขาดหนักแน่น มาเปิดประตูหัวใจของนางออก

 

 

ยิ่งกว่านั้นตี้อู่เฮ่ออีก็มิใช่คนที่มากรักหลายใจ ได้คนรักที่เป็นพวกรักเรียนอยู่ในกรอบเช่นนี้ เชื่อถึงได้อย่างแน่นอน!

 

 

เพียงแต่ไม่รู้ว่าตี้อู่เฮ่ออีอยู่มีฐานะใดในเผ่าตาน ไม่รู้เขาว่าแต่งงานกับคนนอกชนเผ่าได้หรือไม่…

 

 

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม นางก็อยากลองเป็นแม่สื่อแม่ชักดูสักครั้ง!

 

 

อวี้เฟยเยียนรู้ว่านิสัยทั้งสองคนส่งเสริมซึ่งกันและกัน จับคู่กันขึ้นมาน่าสนใจยิ่งนัก!

 

 

“ไม่ต้องลำบากนางหรอก!”

 

 

อวี้เฟยเยียนกล่าวออกมาตรงๆ ทำเอาตี้อู่เฮ่ออีถึงกับหน้าแดงรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน

 

 

“ข้าดื่มน้ำให้น้อยก็พอแล้ว…”

 

 

“อากาศร้อนถึงเพียงนี้ดื่มน้ำน้อย ท่านอยากเป็นไตอักเสบหรืออย่างไร” อวี้เฟยเยียนกอดอกกล่าวต่อว่า “เรื่องนี้ตกลงตามนี้แหละ เจ้าช่วยชีวิตนางเอาไว้ นางตอบแทนเจ้าก็เป็นเรื่องที่สมควร!”

 

 

คำพูดอวี้เฟยเยียน เชียนเยี่ยเสวี่ยเห็นด้วยเป็นอย่างมาก

 

 

ก่อนหน้านี้นางเคยสาบานเอาไว้ ส่วนเงื่อนไขตี้อู่เฮ่ออีก็คือขอให้นางช่วยสืบข่าวตี้อู่หงเยี่ยขณะที่อยู่ในฉินจื้อ

 

 

แต่ตอนหลังตี้อู่หงเยี่ยถูกซย่าโหวฉิงเทียนกำจัดไป เรื่องนี้นางจึงทำให้เขาไม่ได้แล้ว

 

 

เชียนเยี่ยเสวี่ยไม่ชอบติดค้างอะไรใครเสียด้วย ตี้อู่เฮ่ออีกับนางพบกันโดยบังเอิญ ติดค้างหนี้ชีวิตเขา ข้อนี้เองทำให้เชียนเยี่ยเสวี่ยมิอาจทำใจยอมรับได้

 

 

บุญคุณในครั้งนี้ จะต้องตอบแทน!

 

 

“เจ้าทึ่มเจ้าไม่ต้องพูดแล้ว ทำตามที่ช่าช่าบอก ช่าช่าให้ทำเช่นนี้ เจ้าก็ต้องทำเช่นนี้ สำหรับเรื่องอื่น เจ้าไม่ต้องกังวลใจ ข้าจะดูแลเจ้าเอง!”

 

 

เชียนเยี่ยเสวี่ยยิ่งรู้สึกว่าอวี้เฟยเยียนช่างเป็นสมกับเป็นพี่น้องของนางจริงๆ!

 

 

อวี้เฟยเยียนรู้ว่านางติดค้างน้ำใจตี้อู่เฮ่ออี จึงให้นางตอบแทนคืนเขาด้วยวิธีนี้!

 

 

สิ่งที่ตอบแทนคืนยากที่สุดนั่นก็คือ ติดค้างน้ำใจของผู้อื่น!

 

 

นางไม่อยากจะติดค้างตี้อู่เฮ่ออีตลอดชีวิตหรอกนะ!

 

 

เชียนเยี่ยเสวี่ยไหนเลยจะรู้ว่าที่อวี้เฟยเยียนทำเช่นนี้ก็เพื่อจะจับคู่นางและตี้อู่เฮ่ออี

 

 

แน่นอนกว่าที่เชียนเยี่ยเสวี่ยจะรู้ตัว ต้นรักก็คงงอกงามในใจของคนทั้งสองไปแล้ว

 

 

หลังจากดูแลตี้อู่เฮ่ออี เชียนเยี่ยเสวี่ยจึงได้รู้ว่าการดูแลคนป่วยนั้นมันยากลำบากเพียงใด

 

 

ถึงแม้ว่าตัวนางจะดูแลตัวเองมาตั้งแต่เล็ก ไม่ได้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างตามใจ แต่การดูแลผู้อื่นเช่นนี้นี่เป็นครั้งแรก

 

 

ตี้อู่เฮ่ออียังถือว่าเป็นคนป่วยที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขาไม่เจตนาแกล้งนางแม้กระทั่งการจะไปทำธุระส่วนตัวหรือหากอั้นไม่อยู่จริงๆ จึงจะยอมแบกหน้าแดงๆ มาบอกกับนางว่า

 

 

“ข้าอยากจะไปเข้าห้องน้ำ”

 

 

ครั้งแรกที่เขาต้องการไปห้องน้ำนั่นก็คือช่วงบ่ายหลังจากที่เย็บแผล

 

 

ในตอนนั้นตี้อู่เฮ่ออีกลั้นเอาไว้จนแทบแย่

 

 

เมื่อนึกถึงว่าเชียนเยี่ยเสวี่ยเป็นผู้หญิง เขาจึงมิกล้าจะเอ่ยปากแม้กระทั่งว่าตนเองกำลังลำบาก

 

 

แต่อวี้เฟยเยียนก็ยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ว่าจ้างบ่าวชายเด็ดขาด

 

 

หลังจากข้อเสนอตนถูกอวี้เฟยเยียนปฏิเสธ ตี้อู่เฮ่ออีจึงต้องขอความช่วยเหลือจากเชียนเยี่ยเสวี่ย

 

 

แต่สิ่งที่อยู่นอกเหนือจากสิ่งที่ตี้อู่เฮ่ออีคิดไว้นั่นก็คือ เชียนเยี่ยเสวี่ยมิได้คิดว่าเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าเขินอายแต่อย่างใด นางกลับประคองตี้อู่เฮ่ออีไปห้องน้ำด้วยความระมัดระวัง

 

 

“ให้ข้าเข้าไปช่วยประคองท่านข้างในด้วยหรือไม่”

 

 

เมื่อเดินมาถึงที่หน้าประตู เชียนเยี่ยเสวี่ยจึงกล่าวขึ้น

 

 

ทว่าคำพูดนี้ของนาง ตี้อู่เฮ่ออีกลับตีความหมายเป็นอื่น เช่นนั้นเขาจึงรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธนางทันที

 

 

“ไม่ละ! มือข้ามิได้บาดเจ็บ ประคองเองได้…”

 

 

เมื่อเขาพูดเช่นนี้เชียนเยี่ยเสวี่ยจึงได้เข้าใจว่าตี้อู่เฮ่ออีคิดไปอย่างไร ดังนั้นจึงสบถออกมาคำหนึ่ง

 

 

“เจ้าทึ่ม เจ้าคิดอะไรอยู่ ข้าจะประคองเจ้า ไม่ใช่ประคองมันสักหน่อย!”

 

 

ในขณะที่พูด ดวงตาเชียนเยี่ยเสวี่ยก็กวาดมองลงไปที่ส่วนล่างของตี้อู่เฮ่ออี ทำเอาตี้อู่เฮ่ออีรีบปิดประตูแทบไม่ทัน

 

 

กุลสตรีแข็งแกร่งเช่นนี้ เขารับไม่ค่อยจะไหวจริงๆ!

 

 

ได้ยินเสียงปลดทุกข์ที่ดังแว่วออกมาจากห้องน้ำ ก็คิดว่าตี้อู่เฮ่ออีคงจะอั้นเอาไว้จนหน้าดำหน้าแดง เชียนเยี่ยเสวี่ยก็รู้สึกขบขันยิ่งนัก

 

 

เจ้าทึ่มนี่ก็น่าสนใจเหมือนกันนี่นา!

 

 

ทึ่มขนาดหนักจริงๆ!

 

 

รอจนกระทั่งตี้อู่เฮ่ออีออกมา เชียนเยี่ยเสวี่ยก็เข้าประคองเขา กล่าวถามหนึ่งประโยค

 

 

“ให้ข้าหากระโถนเตรียมไว้ในห้องสักใบหรือไม่ เจ้าจะได้ไม่ต้องเขินอาย!”

 

 

ในบ้านชาวบ้านทั่วไป มักจะวางกระโถนเอาไว้ข้างเตียง เช่นนี้ตอนกลางคืนจึงไม่ต้องออกมาข้างนอก

 

 

มองดูใบหน้าที่จริงจังของเชียนเยี่ยเสวี่ย ตี้อู่เฮ่ออีก็ส่ายหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย

 

 

“ไม่ต้องหรอก! อากาศร้อนเช่นนี้ ไว้ในห้องจะเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์!”

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก เจ้าฉี่ออกมาได้เลยข้าช่วยเอาไปเทให้เอง…”

 

 

เชียนเยี่ยเสวี่ยกล่าวตอบด้วยสีหน้าไม่ยี่หระแต่อย่างใด แล้วยังกล่าวว่า

 

 

“อีกอย่าง นั่นเป็นห้องของข้า ต่อให้เหม็นก็ไม่เป็นไร!”

 

 

แม่นาง เจ้าอย่าได้ผ่าเผยเช่นนี้ได้หรือไม่!

 

 

เจ้าเป็นสตรีที่เข้มแข็งเช่นนี้ ทำเอาข้ากลายเป็นไก่อ่อนปวกเปียกไปเลย!

 

 

ตี้อู่เฮ่ออีเกือบจะร้องไห้ออกมา

 

 

“ไม่ต้องหรอก ข้าไปห้องน้ำอย่างเดิมนั่นแหละ!”

 

 

เห็นตี้อู่เฮ่ออียืนยันเช่นนั้น เชียนเยี่ยเสวี่ยก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก กล่าวเพียงประโยคสุดท้าย

 

 

“เจ้าวางใจได้เลย ขณะที่เจ้าเข้าห้องน้ำ ข้าไม่แอบมองอย่างแน่นอน!”

 

 

“หุบปากนะ!”

 

 

ในที่สุด ตี้อู่เฮ่ออีที่แสนดีก็ทนไม่ไหวสบถออกมา ดังนั้นเรื่องที่จะวางกระโถนเอาไว้ในห้องก็เป็นอันจบไปด้วยประการละฉะนี้

 

 

ในคืนนั้น เชียนเยี่ยเสวี่ยที่กำลังหลับๆ ตื่นๆ พลันก็ได้ยินเสียงวัตถุหนักร่วง ‘ตุ๊บ’ ลงบนพื้น

 

 

กระทั่งนางจุดตะเกียงก็พบตี้อู่เฮ่ออีสูดปากนอนอยู่ที่พื้น  ทำเอานางตกใจจนต้องรีบเข้าไปประคองเขาขึ้นมาทันที

 

 

“เจ้าทึ่ม เจ้าเป็นอะไร”

 

 

“ข้า ข้าอยากจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ไม่กล้าเรียกเจ้า ก็เลยจะไปเอง!”

 

 

ในตอนที่กำลังไปเองนั้น ตี้อู่เฮ่ออีก็คลำหาทางอย่างระมัดระวังยังดีที่ไม่เป็นอะไร

 

 

แต่เมื่อเขาเดินมาจนถึงข้างเตียง ด้วยความที่มองไม่เห็นเขาจึงสะดุดล้มลงไป

 

 

ตี้อู่เฮ่ออีรู้สึกเจ็บบาดแผลที่บริเวณเอวเป็นอย่างมาก เมื่อเชียนเยี่ยเสวี่ยเลิกเสื้อผ้าออกดู ก็พบว่ามีเลือดซึมออกมาจากบาดแผล ทำให้เชียนเยี่ยเสวี่ยตกอกตกใจเป็นอย่างมาก

 

 

“เจ้านอนลงดีๆ อยู่ตรงนี้นะ กลับมาค่อยมาคิดบัญชีกับเจ้า!”

 

 

ถึงแม้ว่าจะโกรธเคือง แต่เชียนเยี่ยเสวี่ยก็รีบไปตามอวี้เฟยเยียนมาก่อนเป็นอันดับแรก

 

 

อวี้เฟยเยียนทำแผลให้กับตี้อู่เฮ่ออีใหม่ หลังจากทายาให้แล้ว นางก็กำชับอีกครั้ง จนเชียนเยี่ยเสวี่ยรับรองว่านางจะดูแลเขาอย่างดี อวี้เฟยเยียนถึงได้ออกไป

 

 

เมื่อประตูปิดลง เชียนเยี่ยเสวี่ยก็พับแขนเสื้อของตนเอง เดินอาดๆ ไปที่ข้างเตียงด้วยท่าทางน่ากลัว

 

 

“เจ้าจะทำอะไร”

 

 

ตี้อู่เฮ่ออีรู้สึกไม่ชอบมาพากล ทว่ายังมิทันที่เขาจะหลบซ่อนตัว ก้นเขาก็ถูกฝ่ามืออรหันต์ฟาดลงมาที่ก้นอย่างแรงสองครั้ง

 

 

ในตอนนั้น เขาถึงกับตกตะลึงอึ้งไปเลยทีเดียว

 

 

โตๆ กันแล้ว ไม่เพียงแต่ถูกตีก้นทั้งยังถูกสตรีตีก้นอีก นับเป็นการลบหลู่เขาอย่างแรง!

 

 

“เชียนเยี่ยเสวี่ย เจ้า เจ้า…”

 

 

ตี้อู่เฮ่ออีถึงกับพูดจาตะกุกตะกัก ปากสั่นตัวสั่น

 

 

“เจ้า เจ้า เจ้าอะไร! ที่ข้าจะตีก็คือเจ้านั่นแหละ!”

 

 

“ตี้อู่เฮ่ออี ข้าขอเตือนเจ้านะ! ตอนนี้เจ้าคือคนป่วย เจ้าก็ต้องเป็นคนป่วยที่มีคุณภาพ นี่จึงถือเป็นการตอบแทนที่ดีที่สุดให้กับหมอที่รักษาเจ้า หากยังมีคราวหน้าอีกละก็ ข้าจะไม่เกรงใจเจ้าอีกต่อไป!”

 

 

เดิมทีเชียนเยี่ยเสวี่ยก็ทรงอำนาจดุดันอยู่แล้ว ยิ่งมากล่าวเช่นนี้ยิ่งแล้ว ตี้อู่เฮ่ออีเองก็รู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นเพราะตัวเขาที่ไร้เหตุผล

 

 

ทว่าถูกหญิงสาวตีก้นนี้ ทำให้ตี้อู่เฮ่ออีถึงกับเสียความมั่นใจอยู่เป็นนาน

 

 

“รู้ว่าผิดหรือยัง คราวหน้าหากต้องการจะไปเข้าห้องน้ำ รู้ว่าจะต้องเรียกคนหรือยัง”

 

 

เชียนเยี่ยเสวี่ยนั่งลงที่ข้างเตียง กำชับตี้อู่เฮ่ออีอีกครั้ง

 

 

“รู้แล้วน่า”

 

 

ตี้อู่เฮ่ออีกล่าวตอบอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

 

 

“เสียงเบาเกิน ข้าไม่ได้ยิน!” เชียนเยี่ยเสวี่ยดึงใบหูตนเองเบาๆ