หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน …

” โอ้ก…. โอ้ก….

 

” อุแหวะ… อุแหวะ อุแหวะ….”

 

จวินโม่เซี่ยหันมองไปยังทิศทางของเสียง มีสองคนที่กำลังสำรอกอยู่  ความจริง ดูเหมือนพวกเขากำลังสำรอกลำไส้ออกมา  จากนั้น เสียงของการสำรอกเริ่มดังขึ้น และไม่นานดูเหมือนว่ามีอีกหลายคนกำลังสำรอก ….

 

” ผู้เฒ่าผัง ทำอย่างไรกับการอาเจียนเหล่านี้ … ? “

 

” ทำอย่างไรหรือ ?  มันคือ อ้วก … ไร้หนทางแก้ไขได้  กลับไป …. อุแหวะ …. ”

 

” ความแข็งแกร่งของคุณชายน้อยน่าประหลาดใจนัก  แต่ กลยุทธิของเขาช่าง … อุแหวะ … โหดร้าย … สวรรค์ … อุแหวะ … ”

 

” เจ้า หุบปาก !  เราจักคุยเรื่องนี้ทีหลัง !  อุแหวะ …. ”

 

เป็นน้ำเสียงที่หม่นหมอง  คนราวสิบออกมาจากที่หลบซ่อน และแสดงตัว  ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือก และมุมปากของพวกเขาเปียกโชก  เมื่อเพ่งมองไปยังใบหน้าของพวกเขาก็เพียงพอจักบอกได้ว่า พวกเขาผ่านการอาเจียนมาอย่างหนัก

 

ดูเหมือนว่ามีใครบางคนออกคำสั่งพวกเขา และจากไปอย่างเงียบเฉียบ  อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ไม่แสดงตัวออกมาเลย ตั้งแต่ต้นจนจบ ความจริง เกือบจะเหมือนว่าคนเหล่านั้นมิได้อยู่ในสถานที่นี้ตั้งแต่แรก …

 

ม่านแห่งราตรีมืดมิดร่วงโรย  พวกมันปกปิดโศกอนาถกรรม และเหตการณ์นองเลือด …

 

บรรยากาศเริ่มสงบ และเงียบอีกครั้ง

 

จวนสกุลจวิน

 

แม้นเลยเที่ยงคืนมาแล้ว ตอนนี้ห้องหนังสือของปู่จวินยังคงสว่างอยู่

 

จวินโม่เซี่ยและคนของเขากำลังกลับถึงบ้านอย่างเงียบๆ เมื่อเห็นเข้ากับแสงไฟนั้น และรู้สึกสุนทรีย์ขึ้นในใจ ดังนั้น เขาจึงขับร้องขึ้นในใจ

ค่ำคืนเงียบสงบ ดาราแจ่มจรัสบนฟากฟ้า   แสงยังคงส่องสว่างจากหน้าต่างของห้องปู่เบื้องบน … เขาทำงานอย่างหนักเพื่อศึกษาคนคว้าสิ่งสำคัญ  ร่างสูงใหญ่ส่องสะท้อนในใจข้า …

 

คุณชายน้อยจวิน มีวิธีการจักมีความสุขในตัวเอง  เขาไปถึงยังห้อง และหลับไป

 

สองกลุ่มคนของเขาพักผ่อน และฟื้นฟู รักษา  นอกจาก หน้าไม้สามร้อยห้าสิบ และ คันศรเจ็ดพัน พวกเขายังพบเงิน สองถึงสามหมื่นตำลึงเงิน  จวินโม่เซี่ย แบ่งให้กับคนกว่าสองร้อยของเขา ผู้ที่บาดเจ็บสาหัสจักได้รับเพิ่ม ห้าสิบตำลึง  สิ่งนี้ทำให้ทุกผู้มีความสุข และพอใจ ยาของเขารักษาบาดแผลและการบาดเจ็บของคนของเขาอย่างรวดเร็ว

 

นี่เป็นเรื่องธรรมดาเนื่องจากคุณชายน้อยจวินมีฝีมือการปรุงยาสูงส่ง  กองกำลังของเขาได้รับการบาดเจ็บมากมายในการต่อสู้  พวกเขาบางคนได้รับการบาดเจ็บที่รุนแรง  และ ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่รุนแรงอย่างมากที่อาจทำให้ถึงตายได้  อย่างไรก็ตาม การบาดเจ็บที่รุนแรงนี้จักเกินกว่าที่ ยาของคุณชายน้อยจวินจักสามารถจัดการได้ ?  เห็นได้ชัดว่ามันได้รับการรักษาให้หายภายในเวลารวดเร็ว

 

 

องค์จักรพรรดิ สูญเสียงทหารของพระองค์ เงิน และ หน้าไม้  จวินโม่เซี่ยสั่งให้คนของเขาใช้วิธีการอื่นเพื่อป้องกันและโจมตีศัตรู  หน้าไม้เหล่านี้ใช้เพียงเพื่อปกป้องตัวเอง

อย่างไรก็ตาม พวกเราจักต้องกำหราบเถียรฟาก่อน  พวกเรามิจำเป็นต้องกลัวว่าพวกเราจักถูกพบหากเราใช้หน้าไม้เหล่านี้ในเถียรฟา

 

จวินโม่เซี่ยเพิ่งจักนั่งลง  ผู้เฒ่าผัง นำกองกำลังของเขากลับยังจวนสกุลจวินอย่างเงียบเฉียบ  ใบหน้าของพวกเขาเขียว และริมฝีปากซีดเผือก  กองกำลังของพวกเขาอ่อนเพลีย

 

ภายในห้องสมุด

 

” นายท่าน … พวกเรากลับมาแล้ว  ลูกน้องของท่านอาเจียนจนเกือบตาย …. ”

ผู้อาวุโสผังสูดอากาศอย่างยากลำบาก

 

” เกิดอันใดขึ้น ? “

ปู่จวินงุนงงยิ่งนัก

 

” เป็นคุณชายน้อยจวิน  กลยุทธ์ของเขา … โหดร้ายยิ่งนัก … อุแหวะ ! ”

ผู้อาวุโสผังเอ่ยต่อไปแม้นเขาจักรู้สึกคลื่นไส้

 

” โหดร้าย ?  เรื่องอันใดกัน ?  บอกข้ามาอย่างละเอียด ”

ปู่จวินยิ่งงุนงงมากขึ้น  ผู้เฒ่าผังมาจากสกุลนักรบ อยู่เคียงข้างเขามานานหลายสิบปี  ใช้เวลามากมายในสมรภูมิกับจวินวูอี้  ความจริงแล้ว ไม่เป็นการเกินจริงเลยหากจักบอกว่าเขาผ่านมานับร้อนสมรภูมิ  ความโหดร้ายอันใดที่เขายังไม่เคยพบเห็น ?  เขาสังหารนักรบมานับร้อยเป็นอย่างน้อย  และ เป็นแค่เพียงการประมาณเท่านั้น  เช่นนั้น อันใดที่ทำให้เขามีอาการเช่นนี้ได้ ?

 

” อุแหวะ ! ”

ผู้เฒ่าผังผะอืดผอมขณะที่เขาพยายามเอ่ย  แต่ในที่สุดเขาก็สามารถ

” นายท่าน ข้าเห็นคนถูกสังหาร  ข้าสังหารคนมามากาย  แต่ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดทารุณคนอื่นจนตายเช่นนี้… และจากนั้นเอามือแทงเข้าไปจนทะลุด้านหลังพร้อมด้วยหัวใจที่อยู่ในกำมือ  และ สำหรับคนอีกสอง ศพของพวกเขามิอาจเรียกได้ว่าเป็น ศพของคน  พวกเขาเป็นเหมือนดั่งเนื้อต้มยิ่งนัก  โดยไม่จำเป็นต้องเอาไปสับอีก ท่านยังต้องการให้ข้าอธิบายรายละเอียดเพิ่มหรือไม่ …​? “

 

” อุแหวะ !  อย่าพูดถึงมัน … เงียบซะ และรีบออกไปอาเจียนข้างนอก !  ไปให้พ้น !  อุแหวะ ! ”

เขายังมิทันเอ่ยจบ แต่ปู่จวินก็สามารถจินตนาการถึงฉากนั้นได้  เขามิอาจกลั่นการอยากอาเจียนได้

 

แผนการช่วยร้ายของ ผู้เฒ่าผังได้รับชัย  เขาหัวเราะอย่างชั่วร้าย และหายออกไปราวกับหมอกควัน

มิใช่การดีหากต้องเอาเจียนเพียงลำพัง  ทุกคนควรอาเจียนด้วยกัน  ทุกคนควรได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม  นี่คือความยุติธรรมและเท่าเทียม

 

อย่างไรก็ตาม ปู่จวินก็ยังเป็นขุนพลอันสูงส่ง  เขาเพียงอยากอาเจียนชั่วคราวเท่านั้น  จากนั้น เขาก็กลับเป็นปกติ  ความจริง เขาอดยิ้มขณะพึมพัมกับตัวเองไม่ได้

” ปิศาจน้อยผู้นี้เต็มไปด้วยเรื่องน่าประหลาดใจ !  เป็นพิษนั่นจริงๆ … ข้ามิอาจบอกได้เลยว่าเขามีไพ่ตายซ่อนไว้มากมายเท่าไหร่ ! “

 

อย่างไรก็ตาม ยอดฝีมือผู้หนึ่งในสกุลจวิน หดหู่อย่างมาก

 

ยอดฝีมือผู้นี้คือผู้เดียวกับผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำไปยังป่าเถียรฟา จวินวูอี้ เขานำคนไปยัง ศาลานีฉางด้วยตัวเอง เพื่อจับกุมและสังหารยี่เอ๋อ และคนอื่นๆ  ท้ายที่สุด หน้าไม้ก็มาถึง และภารกิจของพวกเขาก็เริ่มขึ้น  ดังนั้น ยี่เอ๋อ และคนอื่นๆก็เป็นประโยชน์ได้นานขึ้น

 

นี่คือส่วนหนึ่งของแผนการจวินโม่เซี่ย

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขารีบมุ่งหน้าไปยังสถานที่นั้นแลพบว่ามันว่าเปล่า  พวกเขาสอบถามและพบว่า ยี่เอ๋อ หายไปในตอนรุ่งอรุณพร้อมคนอื่นๆ  และนางหายไปโดยไร้ร่องรอยใด

 

จวินวูอี้ผิดหวังอย่างมาก

 

เขาใช้ภูเขาทุบไข่  แม้ว่าหินธรรมดาก็สามารถใช้ทุบไข่ได้ …​แต่เขาก็ล้มเหลว เขาเศร้าหมอง … เศร้าหมองอย่างแท้จริง

ข่าวรั่วไหลไปได้อย่างไร … ?

คำถามนี้ทำให้เขางุนงง

 

จวินโม่เซี่ยยืนอยู่รอบนอกในการรวมตัวกันของเช้าวันรุ่งขึ้น

 

เขาแยกออกไปพร้อมทหารในช่วงบ่าย  ดังนั้น จวินโม่เซี่ยจึงต้องแข่งกับเวลา

 

” เจ้าอ้วน ข้าจักตามไปทีหลัง  ดูแลหอชนชั้นสูงให้ดี  แบกรับความรับผิดชอบเหล่านั้นแทนข้า  อีกทั้งข้าจักจัดหายาบางตัวให้เจ้า  จัดการประมูลสำหรับพวกมันเป็นช่วงๆ  และ ประมูลมันในจำนวนนน้อยๆ  ทำให้แน่ใจว่าเจ้าปกป้องความลับของข้อมูล  และสำหรับเงินที่เจ้าได้จากการประมูล อย่าลังเลที่จักใช้มันเพื่อส่วนผสมหายาก  เจ้าไม่จำเป็นต้องพยายามหากส่วนผสมสามัญอีกแล้ว  และ อย่าจัดหาสมุนไพรด้วยวิธีที่เจ้าใช้ก่อนหน้านี้อีก ! ”

 

จวินโม่เซี่ยมอบขวด ยาฟื้นฟูหลากหลาย ยาหยินขาดหาย และ ยาหยางลึกลับเพื่อให้นำไปหากำไร  เขาจักมิขาย ยากทศวรรษ อย่างไรก็ตาม ยาสามตัวนี้เพียงพอจักทำให้เกิดการตื่นตาเป็นวงกว้าง

 

” หยางมู่น้อย เจ้ามิจำเป็นต้องมีส่วนในการรายงานและทำงานวันต่อวันของหอชนชั้นสูง  อย่างไรก็ตาม หากเชื้อพระวงศ์บางคนมายื่นข้อเสนอบางอย่าง ไม่ว่ามันจักมีเหตุผล หรือมากมายหรือไม่ เจ้าจักจัดการมันทั้งหมด  ท้ายที่สุด ตัวถังหยวนจักไม่สะดวกในเรื่องนี้  เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? “

 

 

” แต่ .. แต่ … ”

หยางมู่น้อยลังเลเล็กน้อย

 

” ไม่แต่ !  มันคือการตัดสินใจไปแล้ว ! ”

จวินโม่เซี่ยตัดบท  จากนั้น เขาเอ่ยส่วนสุดท้าย

” รีบกลับไปหาพ่อของเจ้า พระเชษฐา เพื่อขอคำแนะนำหากเจ้ามิสามารถรับมือกับมันได้อีก  อืม !  เรื่องนี้ถูกตัดสินใจไปแล้ว  พวกเรามิต้องพูดถึงมันอีก ! ”

 

การจัดสินใจนั้นชัดเจน  เช่นนั้น หยางมู่ จึงหมดสิ้นความกังวลในใจ  จากนั้น จวินโม่เซี่ยหับไปหา ถังหยวน

” มอบกิจธุระทั้งหมดเกี่ยวกับราชวงศ์ให้แก่หยางมู่  ไม่ว่าเราจักต้องสูญเสียเท่าใหร่ก็ตาม  ความจริง ข้ามิสนใจว่าเราต้องเสียไปเท่าไหร่  ชัดเจนหรือไม่ ? “

 

” ไม่ชัดเจน  เหตุใดเจ้าทำเช่นนี้ ?  หากมีบางคนจากราชวงศ์มา และเจ้าปิศาจน้อยผู้นี้มิอาจรับมือได้ … นั้นมิใช่ว่าเราจักโชคร้ายอย่างนั้นหรือ ? “

สีหน้าของถังหยวนคัดค้าน  เขาไม่เข้าใจการตัดสินใจของจวินโม่เซี่ย

 

” ข้ามิได้ขอให้เจ้าเข้าใจ  ข้าเพียงขอให้เจ้าทิ้งมันไป ! ”

จวินโม่เซี่ยจ้องมองด้วยโทสะ  ครอบครัวของ พระเชษฐามิได้เข้าร่วม พิธีฉลองนักปราชญ์ทองคำ อย่างไรด็ตาม พระองค์ก็มิได้กระตุ้นการกระทำอย่างตั้งใจหรือมิตั้งใจของจวินโม่เซี่ยเลย  ทุกสิ่งดูเหมือนเป็นเช่นนั้น

 

อาจบอกได้ว่า พระเชษฐาสามารถสงบปากได้อย่างแน่นอน  อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวนั้นไม่สามารถใช้การได้สำหรับจวินโม่เซี่ย

แล้ว เจ้าจักเงียบ ?  ดี !  ข้าจักเติมเชื้อไฟ !

 

เจ้าคิดหรือว่าเจ้าแค่วางเงินลงบนโต๊ะแล้วซื้อหุ้นได้ … และจากนั้นคุณชายน้อยผู้นี้จักทำเงินให้เจ้า ?  มันจักง่ายอย่างนั้นได้อย่างไร ?  อะไรที่ทำให้ข้ามอบเงินมากมายเช่นนั้นให้แก่เจ้าได้ หากข้ามิอาจผูกครอบครัวของเจ้ากับรถม้าสกุลจวินได้ ?

 

นี่มิได้เปิดเผย  และนี่ถือได้ว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากเด็ก  อย่างไรก็ตาม ข้ามอบจักมอบจักรพรรดิทั้งหมดให้แก่เจ้าหากลูกชายเจ้าสามารถทำได้ดี !

 

ผู้ใดจักมิพึงพอใจในสิ่งนั้นกัน ?

 

ถังหยวนยังคงมิเข้าใจในเจตนาของเขา  อย่างไรก็ตาม เขายังคงเงียบปากเมื่อเห็นว่าจวินโม่เซี่ยมีโทสะ  เช่นนั้น เขาจึงเพียงแสดงความเห็นด้วย  ในความเป็นจริง เขาเองมิได้คิดถึงมัน … เมื่อใดกันที่สหายแต่เด็กของเขา ที่เป็นพวกเสเพล กลายมาเป็นจอมเผด็จการและอยู่เนือเขา ?

 

” ซ้งฉาง เจ้าต้องหมักสุราระหว่างเวลานี้ และมอบมันให้สกุลของเรา เจ้าเข้าใจหรือไม่ ?  เจ้าจักได้รับผิดชอบดูแล หอชนชั้นสูง ในช่วงค่ำคืน  ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีเหตุร้ายใดเกิดขึ้น ! ”

 

” ข้าเข้าใจนายท่าน ”

 

” ไฮ่เฉินเฟิง ข้าต้องการให้เจ้ารวมพวกใต้ดินให้เป็นหนึ่งในระวหว่างที่ข้าไม่อยู่  จำนวนนักสู้ที่เจ้าสามารถรวบรวมมาได้นั้นไม่สำคัญสำหรับข้า  แต่ข้าอยากให้เจ้ารวบรวมสายข่าวให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้  เจ้าเข้าใจหรือไม่ ?  อย่างเช่น ขอทานบนถนนในนครหลวง ผู้คนในร้านอาหาร ชายเบริการสุรา แมงดาในซ่อง คนเฝ้าประตูของสกุลทรงอำนาจ และอื่นๆ …. ใช้ประโยชน์จากความสามารถที่ซ่อนอยู่ของพวกเขา ค้นหาข่าวกรองที่มีค่า และบันทึกไว้  ข่าวกรอง คือความสำคัญอันดับหนึ่งที่นี่  เจ้าสามารถจัดการกับปัญหาเรื่องกำลังทหารได้เมื่อเจ้ามีข่าวกรองที่ดี  เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? “

 

แสงเยือกเย็นเปล่งประกายในดวงตาจวินโม่เซี่ย  เขาเอ่ยทั้งหมดออกมาในคราวเดียว  มันเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการควบคุมก๊ก  ดังนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ ไฮ่เฉินเฟิง จักต้องเข้าใจอย่างเหมาะสม

 

” ข้าเข้าใจ  คุณชายน้อยสบายใจได้  ข้า ไฮ่เฉินเฟิง จะรวมก๊กแห่งนครเทียนเชียงเป็นหนึ่ง และสร้างสายข่าวอย่างรัดกุม ”

ไฮ่เฉินเฟิงเอ่ยเคร่งขรึม  เขาเข้าใจความคิดของจวินโม่เซี่ยอย่างชัดเจน

 

” อืม !  ดี  ตอนนี้ เรามาว่ากันอีกเรื่องหนึ่ง  เรื่องนี้มีความสำคัญสูงสุด  มันเป็นสิ่งที่ข้ามิอาจผ่อนปรนได้ และนั้นคือความปลอดภัยของสกุลจวิน  ไฮ่เฉินเฟิง และ ซ้งฉางเจ้าทั้งสองจักต้องดูแลเรื่องนี้  ข้าจะเอ่ยแค่สั้นๆ ข้ามิต้องการให้เกิดเหจุอันใดขึ้น  ไม่ว่าอันใดก็ตาม !  ห้ามมีแม้แต่น้อย !  ไม่ว่าสถานการณ์ใด!  เจ้าเข้าใจหรือไม่ ?! “

 

” สบายใจได้ นายท่าน !  ผู้ใดประสงค์ก่อกวนสกุลจวินจักต้องข้าวศพพวกเราไปก่อน ! ” ไฮ่เฉินเฟิง และ ซ้งฉางเอ่ยพร้อมเพียง

 

” อืม !  เช่นนั้น ข้าก็สบายใจ !

จวินโม่เซี่ยพยักหน้าเบาๆ  จากนั้นเขาเอาขวดอีกใบออกมา

” ในนี้มียาสามเม็ดสำหรับเจ้าแต่ละคน  กินมัน  ยานี้จักช่วยเจ้าเพิ่มขั้นการบำเพ็ญปราณเชวียน สิบปี !  ถังหยวน เจ้าเป็นผู้ช่วย ไฮ่เฉินเฟิง ในเรื่องนี้ได้  และ อีกหนึ่งสิ่ง เรื่องนี้ต้องเป็นความลับสูงสุด  พวกเจ้าทุกคนห้ามแพร่งพรายออกภายนอก ! ”

 

คนทั้งสามตอบกลับพร้อมเพรียงด้วยความเลื่อมใสในดวงตา

สามารถเพิ่มการบำเพ็ญปราณเชวียนได้สิบปี !

ปกติแล้วถังหยวนไม่สนใจเรื่องความแข็งแกร่งและการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม เขาก็มิได้โง่เง่ามากจนมิสนใจเรื่องนี้ และตื่นเต้นกับมัน  ไฮ่เฉินเฟิง และ ซ้งฉาง ทั้งสองเป็นยอดฝีมือสวรรค์เชวียน  พวกเขาเข้าใจเรื่องนี้อย่างล้ำลึก

 

” เจ้าทั้งหมดออกไปก่อน  เร็วสิ  ข้าจักไปสนามรบตอนบ่าย  ไม่จำเป็นต้องเห็นข้าออกไป ! ”

จวินโม่เซี่ยสบัดมือ  ดวงตาของเขาเผยถึงบางสิ่งแปลกประหลาดขณะเอ่ยต่อเชื่องช้า

” การเดินทางครั้งนี้หากทุกสิ่งเป็นไปได้อย่างราบรื่น … เมื่อเรากลับมา … ฮี่ฮี่ …. ”

เขาหัวเราะด้วยทีท่าล้ำลึก  ดวงตาเปล่งประหายด้วยแสงอันเยือกเย็นคล้ายดั่งแสงที่สะท้อนออกมาจากขอบกระบี่

 

ผู้ที่เห็นสิ่งนี้มิอาจกลั้นมิให้ตัวสั่นได้

คุณชายน้อยมีแผนการอันใด ?  และ สีหน้าของเขาน่าหวาดกลัวเช่นนั้นได้อย่างไร ?

 

พระอาทิตย์เคลื่อนคล้อยไปทางตะวันตกเล็กน้อย กลองรบลั่นเลื่อนสะเทือนปฐพี  เสียงสะท้อนก้องสะท้อนสวรรค์

 

ส่วนใหญ่ขุนพลเลือกเวลายามเช้าเพื่อไปยังสมรภูมิพร้อมดวงตะวัน  พวกเขาถือเอาดวงตะวันเป็นสิริ  อย่างไรก็ตาม คำสาบบานของทหารถูกนำขึ้นเวลาเที่ยงวันในครั้งนี้  สิ่งนี้ต่างออกไปจากปกติ  และมิใช่เรื่องดีที่จักพูดในเรื่องนี้  มันจักดีได้อย่างไรหากตะวันเคลื่อนไปตะวันตกรวดเร็ว ?  แต่ องค์จักรพรรดิแห่งเทียนเชียงได้ตัดสินพระทัยแล้ว และไม่มีผู้ใดอาจหาญสงสัยถึงเหตุผล

 

สายลมเย็นยะเยือกแห่ง สาทรฤดูพัดขึ้นเหนือผืนแผ่นดิน  บุรุษจักมีอันใดให้เสียใจหากเขาได้ทำสำเร็จ ?

 

ให้กองกำลังอันงดงามของทหารและม้าติดตามข้ามาอย่างกระตือรือล้น !  ไปข้างหน้าอย่างไม่มีข้อยกเว้น ไม่สนใจแม้นความเป็นตาย !

 

ภูมิแห่งปิติตะโกนก้องราวมหาคลื่น  ท่ามกลางเสียงรื่นเริงนี้จวินวูอี้นั่งอยู่บนเก้าอี้เลื่อน และหันไปเผชิญหน้าองค์จักรพรรดิ  เขาประมือ

” พระองค์ จวินวูอี้ขุนนางผู้ต่ำต้อยขอลาพระองค์เพื่อนำทัพ ”

 

” ข้าให้เจ้าไป ”

สีหน้าองค์จักรพรรดิแดงขณะ เพลงสรรค์เสริญดังขึ้น

 

” บรรเลงดนตรี  ส่งเหล่าผู้กล้าสู่สมอรภูมิ ! ”

ปู่ ตู่กู้ซ้งเฮง เดินขึ้นหน้า และประกาศลั่นและคำรามสูงส่ง

 

กลองรบสะท้อนก้องราวสายน้ำหลั่งเนื่องด้วยบรรเลงอย่างกระตือรือล้น

 

ทหารม้าแปดนาย สวมชุดพร้อมรบส่องประกายพร้อมด้วยธงบนไม้เท้า พวกเขานำม้าทั้งแปดไป

 

สายลม สาทรฤดูอันหนาวเหน็บพัดผ่านธง และทำให้มันยกขึ้น  ธงนั้นเป็นสีเลือด และมีกระบี่หนึ่งเล่ม ” จวิน ”

 

ดวงตาของทหารผู้มีประสบการณ์มีน้ำตาคลอ

 

ธงศึกแห่งสกุลจวิน

 

ธงนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะสูงส่ง !  ธงนี้เป็นป้ายแห่งเลือดและเหล็ก !  ในที่สุดมันถูกชักขึ้นอีกครั้งหลังหายไปนับสิบปี !  แต่ มันก็ยังทำให้จิตวิญญาญของทุกผู้ตื่นเต้น เหมือนดั่งที่ผ่านมา !  ยังคงโบกสะบัดในสายลม ดั่งเช่นแต่ก่อน

 

เสียงกีบเท้าเคลื่อนที่ออกมาอย่างเป็นระเบียบ  ก้องสะท้อนขึ้นขณะที่ทหารม้าแต่ละกองซึ่งสวมเกราะที่เปล่งประกายเคลื่อนที่จัดขบวน และค่อยๆก่อตัวเป็นดั่งกระแสน้ำที่เชี่ยวกราดอย่างเชื่องช้า ขณะที่พวกเขาควบม้าท่ามกลางสายลม

 

กระบี่ชี้ตรงไปยัง อาณัติแห่งสวรรค์ กระบี่ชี้ไปยัง เถียรฟา วีรบุรุษแห่งร้อยสมรภูมิได้เคลื่อนพลแล้ว  และเลือดของวีรบุรุษยังมิได้เย็นชา

 

เถียรฟา !  ข้ามาแล้ว !