แดนนิรมิตเทพ บทที่ 922
เดิมทีกำลังเครียดว่าจะหาเหตุผลอะไรไปสั่งสอนเฉินโม่ ไม่คิดเลยว่าเฉินโม่จะเสนอหน้าออกมาเอง

ในงานมีเสียงหัวเราะดังขึ้น ภาพที่เฉินโม่นั่งหลับตาบำรุงจิต มีคนเห็นหลายคน บางคนถึงขั้นถ่ายรูปเฉินโม่ไว้ด้วย

ดังนั้นเมื่อได้ยินพิธีกรพูดหยอกล้อ จึงมีหลายคนเข้าใจว่าเป็นมายังไง

หานทงมองเฉินโม่อย่างตกใจ แล้วยิ้มเยาะสมน้ำหน้า “ดูแล้วไอ้นี้คงจะหลับจนเบลอไปแล้วจริงๆ แม้แต่การกล่าวสุนทรพจน์ระดับอาจารย์และระดับนักศึกษายังแบ่งแยกไม่ออก”

“พี่หาน เจ้านี้ยังกล้ามาพูดจาอวดดีใส่พี่ มันรอคุกเข่าขอโทษพี่ได้เลย!” รุ่นน้องคนหนึ่งของหานทงพูดประจบ

“ฮ่าๆ!” หานทงสีหน้าได้ใจ แล้วหัวเราะสะใจออกมา

ตำแหน่งผู้ชมด้านหลัง อานเข่อเยว่และหมิงเจ๋อเสวียนเองก็รู้สึกตะลึงเล็กน้อย

“ทำไมมันถึงเสนอหน้าออกมาละ?” อานเข่อเยว่สีหน้างุนงง เธอไม่มีทางคิดว่าเฉินโม่ลับจนเบลออย่างที่ว่าจริงๆ

หมิงเจ๋อเสวียนมองเฉินโม่ สีหน้ามีความดูถูก “เธอไม่ได้ยินพิธีกรพูดงั้นหรอ? คงจะนอนจนเบลอไปแล้วนั่นแหละ!”

“เป็นไปไม่ได้ ฉันรู้จักเขาดี เขาไม่มีทางทำผิดพลาดในเรื่องอย่างนี้แน่นอน!” อานเข่อเยว่พูดอย่างมั่นใจ

หมิงเจ๋อเสวียนหรี่ตา “ความหมายของเธอคือ…เขาถูกแนะนำโดยศาสตราจารย์เสิ่นจากมหาวิทยาลัยหัวหนานคนนั้น?”

เฉินโม่ไม่ได้สนใจคำเยาะเย้ยของพิธีกร แต่ตอบกลับนิ่งๆว่า “ผมเป็นตัวแทนกล่าวสุนทรพจน์แทนศาสตราจารย์เสิ่น”

ทุกคนเหมือนว่ายังไม่ทันตั้งสติ สถานการณ์เงียบกริบ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็ตั้งสติได้

ทันใดนั้น สถานการณ์ก็วุ่นวายทันที

“อะไรนะ!เขาเข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ระดับอาจารย์แทนศาสตราจารย์เสิ่น!”

“เจ้านี้มันบ้าไปแล้วหรือไง!ดูอายุของเขาแล้วน่าจะเป็นนักศึกษาปีหนึ่ง เขามีสิทธิ์อะไรเข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ระดับอาจารย์แทนศาสตราจารย์?”

สายตาของทุกคน หันไปมองที่ตำแหน่งของมหาวิทยาลัยหัวหนานทันที สายตาเฉียบคม มองทะลุศาสตราจารย์เสิ่น

“หากว่าเจ้าคนนี้ไม่ได้พูดโกหก อย่างนั้นก็คือได้รับการแนะนำมาจากอาจารย์จริงๆ”

เห็นได้ชัดว่า ความเป็นไปได้ของตัวเลือกหลังมีมากกว่า

แต่ว่า ศาสตราจารย์คนหนึ่งแนะนำนักศึกษาปีหนึ่งมาเป็นตัวแทนของตัวเอง เข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ระดับอาจารย์ต่อหน้าผู้มีพรสวรรค์ระดับต้นทางด้านชีววิทยามากมายเช่นนี้

ถือเป็นการก่อกวนไม่ใช่หรือไง?

มีคนมากมาย รู้สึกไม่พอใจศาสตราจารย์เสิ่น แต่เมื่อศาสตราจารย์เสิ่นยังไม่ได้ให้คำตอบด้วยตัวเอง พวกเขาทำได้แค่เก็บความไม่พอใจไว้เท่านั้น

“นักศึกษา นายมั่นใจว่าได้รับการแนะนำมาจากอาจารย์จริงๆ? หรือว่านายตัดสินใจเอง?” พิธีกรถามอย่างสงสัย

เฉินโม่ตอบด้วยสีหน้านิ่งเฉยว่า “คุณคิดว่าถ้าไม่ผ่านการแนะนำจากอาจารย์ ผมจะมายืนอยู่ตรงนี้งั้นหรอ?”

เฉินโม่พูดจบ ศาสตราจารย์ฮั่วที่เพิ่งเดินลงเวทีลุกขึ้นยืน และตะคอกว่า “บ้าบอ!”

“ไม่ดูหน่อยว่าวันนี้คืองานอะไร รีบลงไปซะ!” คำพูดนี้ของศาสตราจารย์ฮั่วเหมือนว่ากำลังพูดกับเฉินโม่ แต่ว่าสายตาของเขามองไปที่ศาสตราจารย์เสิ่น มีความหมายที่ต้องการต่อว่า

ศาสตราจารย์ฮั่วและศาสตราจารย์เสิ่นมีความแค้นกันเพราะหญิงสาวคนหนึ่ง ทั้งสองคนแข่งขันกันมานานหลายปี ต่างก็มีแพ้มีชนะ

ตอนนี้ศาสตราจารย์ฮั่วนำเอาผลงานที่วิจัยมาสิบกว่าปีออกมา เตรียมจะเหยียบย่ำศาสตราจารย์เสิ่นในงานแลกเปลี่ยนครั้งนี้

แต่ว่า เมื่อถึงคิวศาสตราจารย์เสิ่นขึ้นเวที แต่กลับมีเฉินโม่โผล่ออกมาวุ่นวาย ศาสตราจารย์ฮั่วจะไม่โมโหได้อย่างไร?

หลังจากที่ศาสตราจารย์ฮั่วออกมาต่อว่าเฉินโม่ สถานการณ์ก็เงียบกริบทันที เพียงแต่ทุกสายตา ล้วนหันไปมองศาสตราจารย์เสิ่น

ภายในหอประชุม บรรยากาศมีความอึดอัด มีความครึ้มฟ้าครึ้มฝน

หานทงมองศาสตราจารย์ฮั่วที่อยู่ข้างกาย แววตามีความได้ใจ ดูแล้วแม้แต่พระเจ้าก็กำลังช่วยเขา เห็นได้ชัดว่าศาสตราจารย์ฮั่วเองก็กำลังเพ่งเล็งมหาวิทยาลัยหัวหนาน

อานเข่อเยว่และหมิงเจ๋อเสวียนเองก็ยิ้มสะใจออกมา ดูแล้วมีคนที่อยากจะให้มหาวิทยาลัยหัวหนานอับอายไม่น้อยเลยทีเดียว!