” ฮ่าฮ่าฮ่า …. ”

ทุกผู้ที่ได้เห็นฉากที่น่าขันและแปลกประหลาดยิ่งนี้อดหัวเราะลั่นมิได้  มูล่งเจียนจวิน เอ่ยวาจาเสียดสินิสัยนักเลงของจวินโม่เซี่ย  แต่ เขากำลังยิ้มผ่านน้ำหูน้ำตาที่กำลังหลั่งไหลของเขาเช่นกัน  ความจริง เขาเอามือกุมท้องไว้ตลอดเวลา

ใกล้เคียงนั้นเต็มไปด้วยผู้มากฝีมือและประสบการณ์  พวกเขาทุกคนแต่งงานแล้ว และรู้ถึงความหมายของวาจาและท่าทางของจวินโม่เซี่ย ยิ่งไปกว่านั้น ความหยาบคายเช่นนี้ค่อนข้างสามัญในช่วงชีวิตทหารของพวกเขา  อย่างไรก็ตาม การกระทำของจวินโม่เซี่ยที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ค่อนข้างน่าขัน

 

แม้แต่เหล่านายกองก็มิอาจกลั่นมุมปากให้ยกยิ้มขึ้นมาได้  และจากนั้น ปากของพวกเขาก็อ้าออกขณะที่พวกเขาหัวเราะลั่น  พวกเขาหัวเราะดังก่อน  และรู้ว่านั้นมิใช่สิ่งที่เหมาะสมจักทำ  เช่นนั้น พวกเขาจึงพยายามอดกลั่นตัวเอง  อย่างไรก็ตาม ไม่นานพวกเขาก็ได้รู้ว่ามันใช้การไม่ได้  เช่นนั้น พวกเขาจึงเริ่มหัวเราะอย่างดุเดือด

 

อย่างไรก็ตาม ไม่นาน มูล่งเจียนจวินก็พบว่าตัวเองอยู่ในความสับสนเนื่องจากเขาไม่รู้ถึงความจริงของเรื่องตลกนี้  คุณชายน้อยแห่งสกุลมูล่งรู้สึกเพียงแต่ความเจ็บปวดมิอาจทนได้บนหัวของเขา แต่ไม่รู้ถึงที่เกิดขึ้นบนนั้น  เขามิอาจกลั่นโทสะขณะที่เขาถาม

” เรื่องน่าขันอันใดกัน ?  เขาโจมตีเพื่อนทหาร ในค่าย  มันถือได้ว่าเขาทำความผิดร้ายแรง !  คุณชายน้อยผู้นี้ … ร้องขอให้ขุนพลรายงานเรื่องนี้แก่ท่านแม่ทัพ ให้จวินโม่เซี่ยต้องได้รับการลงโทษ  เฮ้ย !  พวกเจ้าหัวเราะอันใดกัน ?  มันอันใดน่าขึ้น ? “

 

ก้อนจู๋บนหัวของเขาเริ่มแดงก่ำภายใต้แสงตะวัน  ความจริงมันขยายและแข็งขึ้น  ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งเขามีโทสะ เลือดที่ไหลขึ้นไปบนหัวของเขายิ่งทำให้มันดูน่ากลัวและเด่นตระหง่าน  ก้อนเนื้อนั้นเปลี่ยนแปลงใบหน้าของบุรุษผู้สง่างามนั้นไปอย่างมาก  เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง แต่ผลของมันกลับทำให้เป็นเรื่องน่าขันยิ่งขึ้น

 

เขาขอให้ทุกคนหยุด  แต่พวกเขามิอาจอดกั้นได้และยังคงหัวเราะต่อไป  ทุกคนเอามือกุมท้องและกลิ้งไปบนพื้น

” เอ๋ !  นี่น่าขันยิ่งนัก !  ข้าอยากตาย !  ยกโทษให้ข้าด้วย  ฮ่าฮ่าฮ่า… ”

 

จวินวูอี้และเจ้าหน้าที่อันดับสูงเร่งรีบมาที่นี่ขณะที่เขาได้รับข่าวของเหตุการณ์นี้  พวกเขามีโทสะอย่างมากหลังจากได้เห็นถึงความวุ่นวาย  อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามองไปยังก้อนเนื้อที่อยู่บนหัวของ มูล่งเจียนจวิน และรู้สึกอยากระเบิดเสียหัวเราะออกมา  แต่ พวกเขาตระหนักได้ในทันทีว่า ไม่เป็นการเหมาะสมหากจักหัวเราะในตอนนี้  เช่นนั้น พวกเขาจึงรับยับยั้งตัวเอง  แต่ พวกเขาก็มิอาจทำได้ และรอยยิ้มยังคงเกิดขึ้นบนใบหน้า  ไม่นานทุกคนเริ่มกระตุกขณะที่พยายามยับยั้งตัวเอง  รวมไปถึงผู้บัญชาการจวินด้วย

 

 

จวินโม่เซี่ยอาจไม่ได้หลบหนีไปได้อย่างโชคดีนัก  เขาได้รับการลงโทษอีกครั้ง  ผู้บัญชาการจวินมีโทสะอย่างมาก  เขาเกือบจับเจ้าตัวร้ายนี้ขังคุก

 

นี่จักเป็นปัญหามากเกินไปแล้ว  เราจักทำอย่างไรกับเรื่องนี้ ?

 

นี่คือการแพร่กระจายของมารวร้ายในตำนาน !

 

อย่างไรก็ตาม การแพร่กระจายของมารร้าย ยังไม่จบสิ้น  เนื่องจากเหตุการณ์นี้ยังไม่จบลง

 

ทั้งสองฝ่ายยังคงกระทบกระทั่งกันหลังจากตั้งค่ายเสร็จ  องครักษ์สกุลมูล่งออกไปเพื่อล้างแค้นให้แก่คุณชายน้อยของพวกเขา  แล้วพวกเขาก็ทะเลาะกับคนของจวินโม่เซี่ยสองร้อยสี่สิบ

 

จวินโม่เซี่ยนั้นไร้กังวลตราบใดที่มีคนราวสองร้อยห้าสิบนี้  เขาจักมีความสุขยิ่งขึ้น หากมีคนร่วมด้วยเพิ่มอีกคน อย่างไรก็ตาม คนของเขายังบาดเจ็บเนื่องจากงานที่มีก่อนหน้านี้  เช่นนั้น คนของเขาสี่คนจึงมิอาจเข้าร่วมได้  อย่างไรก็ตาม คนที่ยังเหลืออีกสองร้อยห้าสิบที่มิได้รับบาดเจ็บ และเหมาะสมจักติดตามเขา  ดังนั้น เขาจึงสั่งให้พวกเขาสมัครเข้าร่วมกองทัพเพื่อชื่อเสียงและความรุ่งโรจน์  อย่างไรก็ตาม จวินโม่เซี่ยหดหู่ใจที่พวกเขาไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสมเนื่องจากกิจวัตรของทหาร

 

ข้าคาดว่าข้าจักต้องทำงานร่วมกับสองร้อยห้าสิบคนนี้ อ้อ สองร้อยห้าสิบรวมข้าด้วย  ทำให้กลายเป็น สองร้อยห้าสิบเอ็ด  สิ่งนี้ทำให้คุณชายน้อยผู้นี้เป็นบ้า  พวกเราควรคว้าข้าของคนและหักมันเสีย  แต่ นั่นมิใช่สิ่งที่ถูกต้อง  มันคงโง่เขลาหากเราจักหักขาเพียงข้างเดียว  อย่างน้อยพวกเราควรหักขาทั้งสองข้าง  นั่นยังไม่เพียงพอ … ท้ายที่สุด มันก็มีพวกเราเพียง สองร้อยห้าสิบเอ็ด !  เช่นนั้น เอาชนะพวกมันเถิด !

 

ผลที่ตามมาของความขัดแย้งนั้นเป็นเรื่องใหญ่  มันทำให้หลายคนทิ้งแว่นของพวกเขา  มีคนเพียง สองร้อยห้าสิบเท่านั้นที่ดุดันและดุร้าย  พวกเขาโจมตีองครักษณ์ของสกุลมูล่งห้าร้อย และทำให้พวกเขาแพ้ราบคาบ  เห็นได้ชัดว่าเหยื่อของพวกเขาครวญครางไร้สิ้นสุดเนื่องจากความโหดร้ายนั้นเกินบรรยาย  ความจริง องครักษ์สกุลมูล่งกว่าสิบคนต้องพิการ

 

นี่ทำให้เกิดความโกรธแค้นมากขึ้น  สกุลผู้มิอำนาจหลายคนกล่าวหาจวินโม่เซี่ย  และ เขาตอบโต้กลับตัวต่อตัว  ดูเหมือนว่า จักมีการนองเลือดเกิดขึ้นอีกในไม่ช้า

 

จวินวูอี้รู้ว่าการคาดการของพ่อของเขานั้นเพ้อฝันอย่างยิ่งเช่นเดียวกับเขา  จวินโม่เซี่ยก่อปัญหาในกองทหาร ความจริง เขาเป็นดั่งเนื้องอกร้าย  เช่นนั้น มันเป็นการดีที่จักกำจัดเขาอย่างเร็วที่สุดเท่าที่เป้นไปได้  ปลาเน่าจักทำให้เหม็นทั้งกระชังหากรั้งรอ

 

ช่วงบ่ายยังไม่ผ่านพ้น  แม้แต่กลางวันยังไม่หมดไป  ค่ำคืนยังไม่ผ่านเข้ามา และท้องฟ้ายังไม่มืดมิด  และ เจ้าเด็กผู้นี้ได้รับการลงโทษสามครั้งแล้ว  ยิ่งไปกว่านั้น เด็กผู้นี้ได้ทำความผิดทุกอย่างที่เขาไม่ควรทำ  เขาคงถูกตัดหัวไปสองครั้งแล้วหากข้ากระทำตามระเบียบกองทัพ

 

ดังนั้นหลังจากความขัดแย้งอีกครั้งก็ถูกสั่งลงโทษ  และตามมาด้วยการดุด่าที่รุนแรงยิ่งขึ้น …

 

” เจ้า และคนสองร้อยห้าสิบของเจ้า จักได้รับมอบหมายงานพิเศษ ”

จวินวูอี้เอ่ย

” เจ้าเหลือขอ เจ้าจักได้รับการมอบหมายงานพิเศษเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงอีกครั้ง  คำสั่งพิเศษสำหรับจวินโม่เซี่ยคือ เขาจักต้องเก็บกวาดเส้นทางเพื่อกองหน้า  เขาจักต้องเปิดเส้นทางในภูเขา และสะพาน  และ เขาต้องรับผิดชอบ หากกองทหารได้รับอันตรายจากการเดินทางครั้งนี้ เนื่องจากความหละหลวมของเขา

 

จวินโม่เซี่ย รู้สึกเหมือนเขาได้รับการอภัยเมื่อได้ยินถึงภารกิจพิเศษของเขา  จวินโม่เซี่ยดีใจอย่างยิ่ง กำมือชูขึ้นในอากาศ ดั่งเช่นคนทั่วไปที่สามารถบรรลุความสำเร็จ  เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเร่าร้อน ความจริง เขาดูเรื่องร้อนยิ่งเมื่อเขาเอ่ยตอบรับ

” ข้าต้องการ…​เอ่อ … หน้าที่นี้ … ”

 

จากนั้นเขายกมือขึ้นราวกับปีกห่าน  จากนั้นเขาเริ่มหมนไปรอบๆ  บินไปครึ่งวงกลม  และก้าวสองสามครั้งราวกำลังหลบสิ่งกีดขวาง  จากนั้น เขาเร่งฝีเท้า และบินออกไปจากกระโจม

 

ผู้คนที่อยู่ในกระโจมมิอาจไม่หันมองได้  พวกเขาอดกลันขำไม่ได้

นี่คือทายาทรุ่นที่สามของสกุลจวิน ?  เขาคือผู้สืบทอดสกุลทหาร ?

 

ผู้บัญชาการจวินเศร้าหมอง  เขาคิดวาจาออกมาได้เพียงสอง โชคร้ายของสกุล

 

จวินโม่เซี่ยทำให้ความคิดของ น้าสามหม่นหมอง

ข้าจักสร้างชื่อเสียงอันน่าอับอายในเส้นทางทหารของข้า  ข้าได้รับการลงโทษสามครั้งในเวลาเพียงครึ่งวัน  ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่มีการโต้แย้งใดเพื่อป้องกันการลงโทษเหล่านี้ได้  มันต้องใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจักไปถึง เถียรฟา  ไม่ว่าข้าจักอยู่หรือตาย … ไม่ว่าข้าจักเสียหน้าหรือไม่ … สิ่งหนึ่งที่แน่นอน … ก้อนเหล็กจักต้องสูงส่งอย่างแน่นอน

 

ข้าได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เปิดทางนับแต่จากนี้ไป  ข้าไม่ค่อยเชี่ยวชาญเรื่องการเปิดเส้นทางหรือสร้างสะพาน  แต่ โจรที่เราต้องพบเจอระหว่างทางจักต้องได้รับการจัดการอย่างดี  ไม่เหลือรอดแม้เพียงหนึ่ง !

 

นี่จักเป็นโอกาสที่ดีในการฝึกฝนทหารข้า !

 

จวินโม่เซี่ยรับคำสั่งเนื่องจากเขากลัวการเปลี่ยนแปลงคำสั่งของผู้บัญชาการ  จากนั้น เขารีบสั่งให้คนสองร้อยห้าสิบของเขาหยุดงานค่ายในเย็นวันนั้น  และหายเข้าไปสู่ความมืดราวเก่าทัณฑ์ที่แหลมคม … อย่างที่แม่ทัพจวินสั่ง  คนสองร้อยห้าสอบ และหนึ่ง หายไปอย่างไร้ร่องรอย

 

สองวันหลังจากนั้น แม่ทัพจวินพบว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมที่ส่งจวินโม่เซี่ยไปเป็นแนวหน้า  ความจริงมันเป็นการตัดสินใจที่ปราณเปรื่องและอัศจรรย์ยิ่งนัก

 

เส้นทางที่ดีที่สุดที่จักใช้คนให้ตรงความสามารถคือการนำวพกเขาไปวางไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม

 

การเดินทางราบรื่นยิ่งขึ้น  การเดินทัพเริ่มเหมือนการเดินชมนกไม้  พวกเขาติดตามหน่วยหน้าของจวินโม่เซี่ย  เช่นนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องหวาดกลัวเนื่องจากไม่มีอันตรายอันใดอยู่ข้างหน้า  สำหรับเจ้าเมืองระหว่างทาง พวกเขาต้อนรับกองหทารอย่างเต็มที่ด้วยเกรงว่าการต้อนรับเหล่านั้นไม่เป็นที่พึงพอใจ  และพวกเขาก็มามอบสิ่งของแก่กองทัพ  ไม่มีการฉ้อฉล

 

จวินโม่เซี่ยเริ่มการกวาดล้างโจรอย่างละเอียดถี่ถ้วน  ความจริง เขานำหน้าไปสองร้อยกิโลเมตรเพื่อจัดการกับพวกเขา  แนวหน้าที่นำโดยจวินโม่เซี่ยกวาดล้างผู้ร้ายทั้งหมดตลอดการเดินทาง !

 

การเดินทางทั้งหมด นองเลือดอย่างสบูรณ์

 

กลุ่มทำลายสวรรค์ และ กลุ่มดูดกลืนวิญญาณ  ของคุณชายน้อยจวิน ใช้การเดินทางแบบนองเลือดเนื้อเพื่อให้คุ้นเคยกับการนองเลือด

 

คนสองร้อยห้าสิบนี้ทำการสังหารตลอดการเดินทาง  ไม่ต้องเอ่ยถึง จวินโม่เซี่ย จินตนาการถึงบรรยากาศการสังหารที่จักเกิดขึ้นเมื่อพวกเขาไปถึงป่าเถียรฟาได้เป็นอย่างดี

 

บรรยากาศการสังหารและการกระหายเลือดถูกกำหนดให้เป็นส่วนหนึ่งในจิตวิญญาณของทั้งสองหมวด !

 

เส้นทางผ่าน มณฑลแรกยังเป็นที่ยอมรับของจวินโม่เซี่ย  อย่างไรก็ตาม  ใน มณฑลที่สองนั้นต่างออกไป  จวินวูอี้มองไปยัง เจ้าหน้าที่ปกครองและดูเหมือนว่าว่าเขาเป็นเพื่อผู้ร่วมส่งครามที่บ่นถึงเหล่าโสเภณี

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ปกครองมองไปยังจวินวูอี้ด้วยแววตาแปลกประหลาด  ดูเหมือนว่าเขาได้มองเห็นแม่ของเขาหลังจากเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ไม่ .. ควรจักเป็นพ่อ

 

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยน้ำตาและน้ำมูก

 

เจ้าหน้าที่ปกครอง ดูไม่ดีนัก ก้นของจวินโม่เซี่ยเริ่มปวกจากการนั่งบนอานม้าในตอนที่เขาไปถึงยัง มณฑลของเจ้าหน้าที่ปกครอง และดังนั้น ขบวนแห่ของเจ้าหน้าที่ปกครองก็เริ่มขึ้น …

 

อย่างแรก คุณชายน้อยจวินต้องการรถม้า … เขาต้องการความหรูหราอย่างมาก และเขาต้องการให้มันเสร็จภายในหนึ่งวัน  ต่อไปเขาต้องการให้รายงานการทำงานทุกชั่วโมง อย่างไรก็ตาม คุณชายน้อยยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น  อีกทั้ง เขายังแสดงความสามารถทางบัญชีที่น่าอัศจรรย์ของเขาที่มีอยู่ในชีวิตก่อนหน้านี้ด้วย เขาตรวจสอบบัญชีทั้งหมองของ เจ้าหน้าที่ปกครอง … บัญชีที่เขาทบมาตอลดทั้งปี

 

เจ้าหน้าที่ปกครองที่กำลังเติบโตอย่างเต็มที่ ผู้นี้นี้ตัวสั่นด้วยความกลัว  เขาเรียกรอมช่างฝีมือทั้งใกล้ไกล  สั่งให้พวกเขาสร้างรถม้าอย่างระมัดระวังและเป็นมาตราฐาน สั่งให้สร้างรถม้าที่สะดวกสะบายให้เร็วที่สุด  หลังจากนั้น เขาก็สามารถนำเสนอรถม้าที่หรูหราอย่างมากแก่จวินโม่เซี่ยได้ทันเวลา

 

ยิ่งไปว่านั้น วัสดุที่ใช้ในการสร้างรถม้า ต้องใช้เงินของ เจ้าหน้าที่ปกครอง ที่ยักยอกมาจากคลังในช่วงหลายปีที่ผ่านมา  ความจริง ค่าใช้จ่ายในการสร้างครั้งนี้สูงมากจน ทำให้ เจ้าหน้าที่ปกครองต้องหยิบยืมเงิน

 

เจ้าหน้าที่ปกครองผู้น่าสงสารตัวสั่นด้วยความกลัวขณะที่เขามารายงานถึงความสำเร็จในการสร้างแก่แนวหน้าของจวินโม่เซี่ย  จวินโม่เซี่ยกำลังถือสมุดบัญชีอยู่ในเวลานั้น  ความจริงเขาใช้มันเป็นพัด  เขาตั้งใจจักมอบความรู้ให้แก่คนผู้หนึ่ง

 

” ข้าว่า เฟ้ยจูฉาง  … ”

ชื่อของคนผู้นี้คือ เฟ้ยจูฉาง  มันหมายถึงหมูอ้วน … คุณชายน้อยจวินพบว่าเป็นการยากจักจัดการกับสิ่งนี้  เอาอด เตาะลิ้นไม่ได้

โลกนั้นกว้างใหญ่ แต่ไม่มีสิ่งใดประหลาดกว่าชื่อนี้  พ่อแม่ของชายผู้นี้คงต้องได้รับการยกย่องที่สูงขึ้น !

 

” เจ้ามิใช่มือสมัครเล่นหรือ ?  ผู้ที่เอ่ยนาวว่าเป็น จักรพรรดิสวรรค์แต่งตั้งให้เจ้าเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองเมื่อห้าปีก่อน  และเจ้า หาเงินได้เพียงห้าหมื่นตำลึงเงิน ?  น่าผิดหวังยิ่งนัก  แม่เจ้าเอ้ย !  การฉ้อฉลทำให้เจ้าดูไม่ดี  ไม่แปลก … เจ้าอายุสี่สิบ และยังเป็นเจ้าหน้าที่ปกครองไร้ค่า !  ความโลภและการฉ้อฉลของเจ้าตลอดห้าปี ทำให้ดินแดนนี้แปดเปื้อน  เจ้ากินรถม้าของข้าไปด้วยหรือ ?  นั่นคือสิ่งที่เจ้ามาบอกข้าที่นี่ ? “

จวินโม่เซี่ยพยักหน้าและถอนใจ  ชัดเจนว่าโชคร้ายและโทสะเกิดขึ้นแก่ผู้คน

 

” ข้า คือ … ท่านขุนพลถูกต้องแลว เจ้าหน้าที่ปกครองนั้นผู้นี้ไร้สามารถ ”

เจ้าหน้าที่ปกครองตอบ  เขาปาดเหลือที่หน้าผากขณะตัวสั่นด้วยความกลัว  แต่ เขาบ่นในใจ

ท่านบรรพบุรุษ !  รถม้าและล้อของมันถูกสร้างมากจากต้นจันทร์ร้อยปี  ภายในประดับไข่มุกสี่ชนิด  และ ข้าใช้เงินตัวเองจ่ายไป  ไม้จันทร์แดงที่ข้าซื้อมายังไม่เพียงพอ .. เช่นนั้น เจ้าจึงเอาประตูบ้านและแคร่งรองเตียงข้า  เจ้าต้องการสิ่งใดอีก  เหตุใดเจ้ายังหยิบยกการฉ้อฉลของข้าอยู่ ?  สกุลของข้ายากจนและทรมาณ และมีหนี้เป็นชนักติดหลัง  แล้ว เจ้ายังไม่ปล่อยให้ข้าอยู่อย่างสงบอีกหรือ ?