การกระทำของเด็กสาวผู้นี้ยอดเยี่ยมนัก แต่ คุณชายน้อยผู้นี้จักหลงเชื่อได้อย่างไรกัน ?  นางเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในเวลาต่อมา และจากนั้นนางก็กลายเป็นคนเอาแต่ใจ

คนจะได้เห็นปิศาจและไม่เกรงกลัวต่อบาปได้อย่างไร ?

จวินโม่เซี่ยถามสิ่งนี้กับตัวเองเนื่องจากเขาได้ประบสการแปรปรวนของอารมณ์เช่นนี้มาก่อน  จักเป็นการไร้เหตุผลหากข้าต้องกลายเป็นตัวตลกอีกครั้ง !

 

“บอกข้า เจ้ายังคงต้องการส่งท่านพี่สาวและข้ากลับไปยังเมืองหลวงอีกหรือไม่ ? “

ตู่กู้เซี่ยวอี้เบิกตากว้าง

พวกมันใหญ่โตและงดงาม  ดวงตาที่เบิกกว้างเหล่านั้นเคลื่อนที่ไปมา  อย่างไรก็ตาม พวกมันเริ่มคุกคาม และเปลี่ยนแปลงไปในทางร้ายอย่างรวดเร็ว

 

“พี่น้องทั้งสอง .. การมาปรากฏตัวของเจ้าเป็นเพียงการเพิ่มปัญหา บอกข้า ที่นี่เจ้าทำสิ่งใดได้บ้าง  เจ้ามีความสามารถอัดใดที่นี่ ?  เจ้าทั้งสองกล้าหรือไม่หากเจ้าต้องสังหารใครบางคน ?”

 

จากนั้น จวินโม่เซี่ยพ่นลมทางจมูกเหยียดหยาม

” ข้ากำลังบอกให้เจ้า…กลับไปดีๆ  พวกเราคุยเรื่องนี้กันจบแล้ว  นอกจากนี้ อย่าโทษข้าจับพวกเจ้าปั้นเป็นดั่งก้อนข้าวและส่งเจ้ากลับไป !  และอย่าได้คิดว่าข้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ !  อย่างไรก็ตาม  เจ้าทั้งสองจักต้องเสียหน้าหากสิ่งนั้นเกิดขึ้น ! ”

 

“เจ้ากล้าหรือ ? “

สาวน้อยตำหนิ และยิงฟันขาว  พวกมันโดดเด่นยิ่งนัก

 

” ปล่อยไปเซี่ยอี้ ไม่จำเป็นต้องขอร้องเขา  หัวใจคนผู้นี้ไร้ความเห็นใจ ”

กวนเซียงฮั่นเอ่ยขึ้นเชื่องช้าขณะที่นางยังคงยืนอยู่ที่เดิม  นางมองจวินโม่เซี่ยไร้อารมณ์แม้นว่านางจักเอ่ยกับตู่กู้เซียวอี้

” พวกเราจักไปโดยไม่ต้องมีเขา  พวกเรามิได้เดินทางร้อยกิโลเมตรมาถึงนี่ด้วยตัวเองหรอกหรือ ?  พวกเราไม่มีขาเป็นของตัวเองหรือ ?  เราจักไปยังเถียรฟาด้วยตัวเองมิได้หรือ ? “

 

” ถูกต้อง !  ทำไมเจ้าถึงได้สำคัญตัวยิ่งนัก ?  พวกเราจักไปด้วยตัวเอง ! ”

ตู่กู้เซี่ยวอี้ เชิดคางขึ้น

“เจ้ามิใช่เป็นแค่ขุนพล ? สกุลข้ามีดีกว่านี้ !  ฮึ่ม !  ข้าเจอขุนพลมากฝีมือมากมาย แม้แต่พวกเขาก็มิมีผู้ใดหยิ่งทนงเช่นเจ้า ! ”

 

สองหญิงสาวหันหลังและเริ่มจากไปหลังจากพวกนางเยาะเย้ยเขา  จวินโม่เซี่ยกังวลเล็กน้อยเมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น  .ข้าคงมิอาจหลีกเลี่ยงการโดดนด่าได้หากปล่อยให้ทั้งสองไปยังเถียรฟาโดยลำพัง … แม้นว่าพวกเขาจักไปถึงอย่างปลอดภัย  ปู่ข้า น้าสาม แม่ทัพตู่กู้ และ ตู่กู้วูตี้ … คงไม่มีผู้ใดปล่อยข้าไป

จวินโม่เซี่ยสามารถรู้ถึงวาจาของพวกเขาได้

” เจ้าปล่อยหญิงสาวผู้บอบบางเหล่านี้ไป ?  เจ้าสบายใจหรือที่หญิงสาวผู้บอบอบางเหล่านี้มีความคิดจักเดินทางไปยังเถียรฟาโดยลำพัง ฦ  เจ้าจักทำเช่นไรหากสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น ?  การไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น มิใช่ประเด็น ! ”

 

” หยุด !  ไปจับพวกเขามาให้ข้า ! ”

จวินโม่เซี่ยขบฟันและออกคำสั่ง สมาชิก กลุ่มดูดกลืนวิญญาณ  เจ็ดแปดคนเคลื่อนไหวทันที  พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างไร้ปราณี้ และ ขวางเส้นทางหญิงสาวทั้งสองไว้  จากนั้น จวินโม่เซี่ยคราง และเอ่ย

“เจ้าทั้งสองเชื่อฟังคำสั่งข้าเสียดีกว่า !  จักเป็นสิ่งทดีกับพวกเจ้า หากเชื่อห้าข้า !  ฮึ่ม !  มิเช่นนั้น …​”

 

 

จวินโม่เซี่ยหยุดหลังจากเอ่ยเช่นนั้น  การกระทำเช่นนั้นไม่เหมือนกับโจรชั่วร้ายที่ขู่เข็ญหญิงสาวใช่ไหม ?

 

” จวินโม่เซี่ยข้ายืนยันที่จะไปยังเถียรฟา  แต่หากเจ้าใช้กำลังบังคับข้าให้ล่าข้า … ข้าสัญญาว่าข้าจักฆ่าตัวตายเสียที่นี่ !  ข้า กวนเซียงฮั่น จักฆ่าตัวตายต่อหน้าเจ้า !  เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำหรือ ? “

สีหน้าของกวนเซี่ยงฮั่นซับซ้อน  แต่นางรีบหยิบมีดบินขึ้นมาไว้ที่คอหอย

 

จวินโม่เซี่ย เพียงเหตุผลเดียวที่ข้าจักไปยังเถียรฟานั้น … ก็เพื่อเจ้าและน้าสามของเจ้า  ข้ามิได้ห่วงใยเจ้าทั้งสองมาก  แต่ ข้าเป็นกังวลในเรื่องของ มณฑลฉือฮั่น จักทำให้พวกเจ้ายากลำบากเพราะข้า  เหตุใดข้าจึงต้องเดินทางไกลไปยังเถียรฟากับเจ้า ?  เจ้าคิดว่าข้าเป็นหญิงสาวที่ไม่เข้าใจถึงความรุนแรงของเรื่องนี้หรือ ?

 

เจ้าจักไม่สนใจชีวิตข้า  และเจ้าต้องการปกป้องความไร้เดียงสาของข้า เจ้าเชื่อหรือว่าข้า กวนเซียงฮั่น หญิงสาวที่หลงลืมบุญคุณ และไม่ทำสิ่งใดเมื่อเห็นเจ้าเดินเข้าถ้ำเสือ ?

 

เจ้าคิดหรือว่ามีเพียงบุรุษเท่านั้นที่สามารถปลิดชีพตัวเองด้วยความชอบธรรมได้ และหญิงสาวอย่างเราทำได้เพียงมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร้จุดหมาย  มันจักเป็นเช่นนั้น หากทุกสิ่งราบรื่นในเถียรฟา  แต่หากเป็นเช่นนั้น … กวนเซียงฮั่นผู้นี้จักทำอย่างไรกับชีวิตที่น่าสมเพชของนาง ?

 

ตู่กู้เซี่ยวอี้ ไม่หันไปมองยังสหายของนาง  แต่ นางคิดว่ากลยุทธ์ของกวนเซี่ยงฮั่นนั้นมีประโยชน์  เช่นนั้น นางจึงโอหัง และเอ่ยด้วยความพึงพอใจ

” ใช่แล้ว !  พวกเราจักปลิดชีพตัวเองหากเจ้าไม่ปล่อยให้พวกเราไปยังเถียรฟา !  เจ้าคิดว่าพวกเราไม่ทำเช่นนั้นหรือ ?  ฮึ … ฮี่ฮี่ …. ”

 

นางไม่เคยเห็นใครที่กำลังปลิดชีพตัวเองด้วยความภูมิใจเช่นนี้  วาจาของ กวนเซียงฮั่นเต็มไปด้วยอารมณ์  แต่ สาวน้อยเพียงแต่หัวเราะ เพราะนางไม่เข้าใจตั้งแต่แรก  จากนั้น นางมองไปยังสหาย และไร้วาจาไปเมือรู้ถึงความตั้งใจของเนาง …

 

จวินโม่เซี่ยรู้สึกปวดหัว  ดูเหมือนมีความขัดแย้งเกิดขึ้นในหัวของเขา

 

บางที ตู่กู้เซี่ยวอี้ ประสงค์ที่จักได้เฝ้าดูโลกมอดไหม้ด้วยความวุ่นวาย  อย่างไรก็ตาม สีหน้าของ กวนเซียงฮั่นนั้น สงบอย่างมาก  เขาบอกได้ว่า นางจักทำตามคำขู่เข็ญ !  เขารู้ว่าเขาสามารถจัดการกับศพของนางได้ หากเขาไม่ปล่อยให้นางไปยังเถียรฟา

 

ข้ามิอาจเสี่ยงได้  ข้าไม่กล้าเสี่ยงกับเรื่องนี้ !

 

” เจ้าชนะ ! ”

จวินโม่เซี่ยจ้องเขม็งไปยังแม่นางกวน  จากนั้น เขาถอนใจด้วยความเสียใจ  คุณชายน้อยจวินมั่นใจว่าเขาสามารถกอบกู้สถานการณ์ได้หากมีเพียงแค่สาวน้อย

แต่ พี่สะใภ้ของข้าก็มีลักษณ์ที่ดื้อด้านมากเกิน ข้ามิอาจทำให้นางขุ่นเคืองได้ !

จวินโม่เซี่ยรู้สึกหม่นหมองในหัวใจ  ดูเหมือนว่าเขาไม่เคยรู้สึกหม่นหมองเช่นนี้มาก่อนในชีวิต จากนั้นเขาเอ่ยขึ้นด้วยความโศกเศร้าและไม่พอใจ

” ให้ม้าสองตัวกับพวกนาง  พวกนางจักขี่ม้า ! ”

 

” นั่นไม่สำคัญกับข้า … ”

กวนเซียงฮั่นหรี่ตา และมองต่ำ  ในที่สุดนางยิ้ม  ขางเพียงแค่ขอร่วมทางไปยังเถียรฟา  นางไม่สนใจการดูลที่นางจักได้รับ  ยิ่งไปกว่านั้น ชัดเจนอย่างยิ่งว่า จวินโม่เซี่ย ยอมรับความเสี่ยงอย่างมากที่ปล่อยให้นางร่วมทาง  กฏเกณฑ์ทางหทาร ห้ามมิให้เดินทางไปทำสงครามพร้อมหญิงสาว  มันเป็นข้อห้ามในกองทัพเนื่องจากมีภัยกับชีวิตของพวกนางอยู่รอบด้าน

 

” พวกเราต้องนั่งรถม้าไป ! ”

เด็กสาวยังเยาว์และไร้ประสบการณ์  เช่นนั้น นางจึงไม่รู้สิ่งใดในเรื่องนี้  นางมีความสุขที่ได้ยินว่าคุณชายน้อยจวินยอมอ่อนข้อ และให้พวกนางเดินทางไปกับเขา  อย่างไรก็ตาม นางมองเขาอย่างเย้ยหยันและมีโทสะเมือได้ยินว่า คุณชายน้อยจวินไม่เชิญให้พวกนางเข้าไปในรถม้า และให้ม้าสองตัวกับพวกนางแทน   จากนั้น นางมองไปยังรถม้าที่งดงามอีกครั้ง และเริ่มรู้สึกเหนื่อย  นางบิดสะโพก … ไม่มีส่วนใดของนางที่ไม่เจ็บปวด เมื่อได้เห็นถึงความงดงามของรถม้า

 

” ไม่ได้ !  ข้าอนุญาตให้พวกเจ้ามากับเรา และนั้นก็มากเกินไปแล้วสำหรับพวกเจ้าทั้งสอง  และเจ้ายังต้องการจักนั่งรถม้าไปอีกหรือ ? “

จวินโม่เซี่ยคำรามทางจมูกด้วยความไม่พอใจ

” ข้าจักชอบมากหากเจ้าไม่ต้องการเดินทางเช่นนี้ .. ข้าจักให้คนของข้าส่งเจ้ากลับไปหากเจ้าไม่ชอบการเดินทางเช่นนี้  เอาน่า !  ขึ้นม้า ! “

 

” เจ้า เจ้า … ก็ได้ ! ”

ตู่กู้เซี่ยวอี้ กระสับระส่ายขณะที่นางชี้นิ้วไปที่เขา  ดวงตาของนางกรอกไปและนางดึงมีดบินออกมาอย่างรวดเร็ว นางเอามันไปไว้ที่คอ

” เจ้า เจ้า … ข้าจักปลิดชีพตัวเองต่อหน้าเจ้า หากเจ้าไม่ให้ข้าเดินทางไปบนรถม้านั่น !  เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ ?! “

 

เด็กสาวเคยเห็นกวนเซียงฮั่นขู่ด้วยการปลิดชีพ  เช่นนั้น นางจึงทำแบบเดียวกัน  และ นางก็ใส่อารมณ์เข้าไปมากขึ้นเพื่อให้เกิดผลที่ดีกว่า  นี่เป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลยิ่งนัก  ดังนั้น นางจักไม่ใช้มันได้อย่างไร ?

 

ข้าไม่กลัวที่จักใช้กลยุทธ์ที่เป็นประโยชน์นี้อีก มันใช้การได้ดียิ่งนัก

 

ใครจักคิดว่าเด็กสาจักเอ่ย

” เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้า ? “

ทันใดนนั้นก็มีเสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้น ทหารที่อยู่โดยรอบพยายามอย่างยิ่งที่จักกลั่นไม่ให้หัวเราะออกมา  ไหล่ของนักรบที่ร้ายกาจสั่นสะเทือน ชัดเจนว่าพวกเขามีความยากลำบากในการควบคุมการหัวเราะ

 

ไม่มีผู้ใดสามารถตำหนิพวกเขาได้อย่างแท้จริง  เด็กสาวตัวน้อยผู้นี้ขาดความสามารถในการทำสิ่งเหล่านี้เสียจริง  ความจริงแม้แต่ตัวตลกก็มิได้น่าขบขันเช่นนี้  กวนเซียงฮั่นขู่ที่จักปลิดชีพตัวเองเช่นกัน  แต่ นางขู่เข็ญอย่างน่าเชื่อถือ  จากนั้น ตู่กู้เซี่ยวอี้ เลียนแบบนาง  ยิ่งไปกว่านั้น นางก็ทำเช่นนั้นอีก  แต่ มันไม่เหมือนกันสิ่งที่เอ่ยก่อนหน้านี้  ยิ่งกว่านั้น นางสิ่งที่นางอ้างเพื่อปลิดชีพนี้มากเกินไป นางจักปลิดชีพตัวเองหากนางไม่ได้นั่งรถม้า ?

 

จวินโม่เซี่ยกรอกตา

” ทำตามที่เจ้าพอใจ  แต่ ข้าขอให้เจ้าไปตายให้ไกลหน่อย  อย่าได้รบกวนสายตาและหัวใจพวกเรา  ข้าขอเจ้าอย่างใจจริง  คำขอนี้คงจักไม่มากเกินไปใช่ไหม ? “

 

น้องนาง หากเจ้ารู้สึกอยากขู่ผู้คนด้วยการปลิดชีพตัวเอง … อย่างน้อยควรให้เหตุผลที่เหมาะสม …มิเช่นนั้น มันจักเป็นสิ่งที่ไม่พึงพอใจหรือ หากเราเริ่มข่มขู่ผู้อื่นด้วยเหตุผลที่ไร้สาระ ?   ข้าจักตายหากเจ้าไม่ให้ข้าเข้าไป ข้าจักตายหากเจ้ามิให้ข้ากิน ข้าจักตายหากมิให้ข้าต่อยเจ้า .. อันใดกัน ?

 

” เจ้า .. เจ้ามันน่าเกลียดชังยิ่งนัก ! ”

ตู่กู้เซี่ยวอี้ กระทืบเท้า  จากนั้น นางกระทืบเท้าเดินไปยังรถม้าโดยไม่เอ่ยอันใด ยกม่าน และเข้าไปข้างใน และนางไม่ออกมาอีกเลย  จาหนั้น นางตะโกนจากในรถม้า

” ท่านพี่จิ้งฮุ่น มานี่ เร็วเข้า !  ข้างในกว้างมาก !  และยังมีเตียงนุ่มๆอีกด้วย … ฮี่ฮี่ … ”

 

การกระทำนี้ใช้ประโยชน์ได้อย่างมาก …

 

คุณชายน้อยจวินขุ่นเคือง

 

นี่มิอาจทนได้ !  ข้าจักไปที่ใดได้หากเจ้าอยู่ที่นั่น ?  คุณชายน้อยผู้นี้จับเจ้าหน้าที่ผู้ฉ้อฉลอย่างยากลำบาก … จากนั้นข้าก็เอารถม้ามาจากเขา !  ใช้ความคิดมากมาย !  มันดูเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเจ้า ?  เจ้าจะปล้นสิ่งที่ข้าต้องใช้ความพยายามอย่างนั้นหรือ ?  ฮึ่ม .. !

 

จวินโม่เซี่ยก้าวยาวและคว้าแขวของ ตู่กู้เซี่ยวอี้

” เจ้าลงมา ! ”

 

” ..​ไม่ลง !  ข้าไม่ลง !  ข้าจักนั่งรถม้านี้ ! ”

ตู่กู้เซี่ยวอี้ ใช้มืออีกข้ารั้งผนังรถม้าเอาไว้  นางตัดสินใจดิ้นรนด้วยคาวมเกรี้ยวกราด  ใบหน้าของนางเริ่มแดง  แต่นางก็ยังไม่ยอมปล่อย

 

เงาสีขาวเปล่งประกาย จากนั้น กลิ่นหอมหวนลอยผ่าน กวนเซี่ยฮั่นก็กำลังจะเข้าไปในรถม้าเช่นกัน  จากนั้น นางตีมือจวินโม่เซี่ยและดึงออก

“ต่อสู้กับหญิงสาวเพื่อรถม้า !  นี่คือสิ่งที่คุณชายน้อยจวินจากสกุลที่ดีทำอย่างนั้นหรือ ? “

 

 

จวินโม่เซี่ย เอ่ยด้วยโทสะ

” อะไรนะ ?  ข้าต่อสู้เพื่อรถม้า ?  เจ้ากำลังเอ่ยสิ่งใด ?  ชัดเจนว่าหญิงสาวของเจ้าแย่งรถม้าข้า !  เจ้าคิดว่าคุณชายน้อยผู้นี้จักทุกข์ทนหรือไม่ ?  เจ้าทั้งสองมันกลิ้งกลอก !  นี่ไม่ไร้เหตุผลมากเกินไปหรือ ? “

 

กวนเซียงฮั่น ไม่ยั่วยุจวินโม่เซี่ยอีกต่อไป  นางเอื้มมือไปยังม่านของรถม้า และดึงลง  จากนั้น มีเสียง แกร็ก ดังขึ้น  ดูเหมือนว่า หญิงสาวทั้งสองกำลังนอนลงบนเตียง ราวกับพวกนางกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า และกำลังจะหลับนอน บางคนได้ยินเสียง ตู่กู้เซี่ยวอี้ เอ่ยอย่างพึงพอใจ

” สบายยิ่งนัก !  ในที่สุดเราก็ได้นอนหลับอย่างสะดวกสบาย … “

 

จวินโม่เซี่ยยืดหน้าอก และตำหนิความโง่เขลาของตัวเอง

ข้าพยายามเสนอความจริงต่อหน้าหญิงสาว … ข้าพยายามแนะนำเหตุผลกับหญิงสาว … นั่นมิใช่เรื่องโง่เขลา ?  แต่ข้ามิอาจเอาพวกนางออกมาได้ เนื่องจาก พี่สะใภ้ของข้าก็ก้าวเข้าไปในรถม้าเช่นกัน … ข้าจักไม่ดื้อรั้นได้อย่างไร  ข้าต้องอยู่ข้างนอกตรงนี้ ไม่ว่าข้าจักไม่ชอบความคิดนี้ขนาดใหน …

 

กองทหารเดินหน้าต่อไป  พวกเดินทางไปครึ่งวัน ในตอนที่จวินโม่เซี่ยเริ่มตัวสั่นอย่างรวดเร็ว  ม้าของเขาตัวใหญ่และทรงพลัง แต่มันมิได้สะดวกสบายดั่งเช่นรถม้า  จากนั้นเขาก็รังเกียจที่จะหันไปมองมัน  จากนั้น เขาขมวดคิ้ว และเริ่มวางแผนการชั่วร้าย

 

จวินโม่เซี่ย กระอักเลือดออมากหลังจากนั้น  เขาเอียงม้าและร่วงลงมา เขาร่วงละงกระแทกพื้นด้วยเสียง ตุ๊บ  ดวงตาของเขาปิดลง และดูเหมือนสิ้นสติ

 

ทหารร้องขึ้น  แต่ พวกเขามิได้โง่เขลา และเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น  ดังนั้น พวกเขาจึงเล่นตามเกม

” ไม่ดีแล้ว !  คุณชายน้อยเป็นลม !  อาการบาดเจ็บของเขาไม่ดีนัก … ! ”

พวกเขาร้องออกไปด้วยน้ำเสียงสลด

 

การบาดเจ็บอาการไม่ดี ?

 

การเป็นลมของจวินโม่เซี่ยเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ  .ข้าได้รับบาดเจ็บอันใดกัน ?  เอ่อ … แต่นี่ช่างมีเหตุผล … ข้าต้องยกย่องและให้รางวัลกับคนผู้นี้เมื่อข้ามีโอกาส …

จากนั้นเขาขยับตา

 

“เรื่ออันใดกัน ? “

ตู่กู้เซี่ยวอี้ ยกม่านขึ้น และถาม  ดูเหมือนนางเป็นกังวลอย่างมาก ขณะที่กวนเวี่ยงฮั่นมองไปยัง การเป็นลมของจวินโม่เซี่ยพร้อมครุ่นคิด