บทที่****144: พบผู้ฝึกตนปีศาจครั้งแรก

หลังจากที่มั่นใจในข้อเท็จจริงแล้ว เจ้าอ้วนถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก พร้อมกันเขาหยิบเสื้อผ้าออกมา ในขณะที่กำลังจะสวมใส่ สิ่งเหล่านี้ถูกหญิงสาวทั้งเก้าฉกฉวยไปอย่างรวดเร็ว พวกนางใช้โอกาสนี้เพื่อบริการเจ้าอ้วนด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าให้ราวกับเป็นหญิงรับใช้ส่วนตัว อีกทั้งยังช่วยเช็ดคราบเหงื่อตามร่างกายของเจ้าอ้วนอีกด้วย แต่การกระทำเช่นนี้คล้ายปลุกไฟสวาทในร่างกายของเจ้าอ้วนขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขากระทำมันซ้ำอีกรอบ จากนั้นทั่วบริเวณนี้จึงเต็มไปด้วยคลื่นอารมณ์แห่งความสุขสม

หลังจากพวกนางแต่งตัวให้เจ้าอ้วนเรียบร้อย หญิงสาวกล่าวกับเจ้าอ้วนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “นายท่าน เสียงระฆังของท่านเมื่อวานนี้ช่างทรงพลังยิ่งนัก! มันแทบทำเอาพวกเราทั้งหมดเกือบตายตก พวกเราไม่เคยพบเห็นสมบัติที่แข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน! อย่าบอกนะว่ามันคือสมบัติในตำนาน?”

ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น ดวงตาทั้งหมดของพวกนางจ้องมองไปที่ระฆังทองแดงที่ถูกปกคลุมด้วยลมทองแดงแล้วครึ่งหนึ่งในตอนนี้ เจ้าอ้วนยักไหล่พร้อมตอบกลับอย่างไม่แยแส “ใครจะไปรู้? ข้าก็ไม่รู้เช่นกันว่าต้นกำเนิดของมันคืออะไร! ข้าได้รับมันมาโดยบังเอิญ”

“งั้นคงกล่าวได้ว่านายท่านได้รับพรจากสวรรค์!” หญิงสาวอีกนางหนึ่งกล่าวออกมาอย่างตื่นเต้น “มันจะต้องเป็นสมบัติในตำนานอย่างแน่นอน นอกจากนั้นข้าก็ไม่สามารถมองเห็นสมบัติใดที่สามารถปราบปรามพวกเราในฐานะผู้ฝึกตนระดับเฟินเสินได้แล้ว!”

“ใช่แล้ว ต้องเป็นเช่นนี้อย่างแน่นอน มันคือสมบัติในตำนาน!”

“นายท่านช่างโชคดียิ่งนัก!” หญิงสาวร่วมพูดคุยกันอย่างร่าเริง

“ฮี่ฮี่” เมื่อมองเห็นเหล่าสตรีทั้งหลายกำลังยกยอ เจ้าอ้วนไม่อาจเก็บความภูมิใจนี้ไว้ได้จึงหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน

ในขณะนั้นหญิงสาวนางหนึ่งถามเขาออกมา “นายท่าน เหตุใดท่านจึงต้องปกปิดมันเช่นนั้นกันล่ะ?” เห็นได้ชัดว่านางหมายถึงลมทองแดง

เจ้าอ้วนไม่คิดปิดบังเหล่าทาสรับใช้พวกนี้ เขาจึงตอบอย่างตรงไปตรงมา “มันสะดุดตาผู้อื่นเกินไป ทุกคนสามารถมองมันแล้วรู้ได้ทันทีว่ามันคือสมบัติล้ำค่า แต่ทว่าข้าเป็นเพียงมือใหม่อยู่ในระดับเซียนเทียนเท่านั้น แน่นอนว่าข้าคงไม่อาจปกป้องมันได้ ดังนั้นข้าจึงเอาลมทองแดงมาปกคลุมมันไว้เพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าด้านในคือสิ่งใด!”

“โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว ท่านเป็นคนที่น่าประหลาดใจอย่างแท้จริง นอกจากนี้ท่านยังใช้ระฆังใบนี้ตบตาเจ้านายเดิมของพวกเราและซุ่มโจมตี จนเขาต้องเข้าไปอยู่ภายใต้ระฆังใบนี้อีกด้วย!” หญิงสาวอีกนางหนึ่งกล่าวอย่างรวดเร็ว

“ช่างวิเศษ แสร้งทำตนเป็นสุกรเพื่อสังหารพยัคฆ์! นายท่านฉลาดและเจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว!” หญิงงามคนอื่นเริ่มจะทำการสรรเสริญเขาต่อไป

เจ้าอ้วนรู้สึกได้ว่าพวกนางกล่าวออกมาจากใจ เพราะจิตวิญญาณเชื่อมต่อกันอยู่ เขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อได้ยินคำว่าขี้โกงอยู่ในคำเยินยอเหล่านั้นด้วย แต่มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่เขาไม่เก็บมาใส่ใจ ดังนั้นเขาจึงหัวเราะอย่างขื่นขมพร้อมกล่าวว่า “นั่นเป็นเพียงมาตราการฉุกเฉินเท่านั้น!”

“จริงหรือนายท่าน แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นงานหนักนะ ให้พวกเราช่วยท่านเถอะ!” หญิงสาวกล่าวออกมาอย่างจริงใจ

“ใช่แล้ว ให้พวกเราช่วยนะนายท่าน” หญิงสาวผู้อื่นกล่าวเสริม เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาตอบกลับอย่างประหลาดใจ “อะไรนะ? พวกเจ้ารู้วิธีที่จะอำพรางมันด้วยงั้นหรือ?”

“แน่นอน มันไม่ใช่วิธีการปรับแต่งที่ง่ายที่สุดงั้นหรือ? พวกเรารู้ทุกสิ่ง นอกเหนือจากระดับการฝึกฝนและทักษะการใช้ดาบ เรายังสามารถปรับแต่งยาอายุวัฒนะและปรับแต่งอุปกรณ์ได้อีกด้วย!” หญิงสาวตอบกลับ

“เพียงแค่ระดับขั้นการฝึกฝนของพวกเราถูกจำกัดไว้ในระดับปฐมภูมิเท่านั้น ดังนั้นเราจึงสามารถใช้ทักษะการปรับแต่งได้ในระดับนี้ แต่สำหรับการวางลมทองแดงบนสมบัติในตำนานของนายท่าน ทักษะของพวกเราในตอนนี้เพียงพอแล้ว!” หญิงสาวตอบกลับอย่างร่าเริง

“ฮ่าฮ่า ประเสริฐยิ่งนัก!” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที จากนั้นเขาตอบกลับอย่างรวดเร็ว “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ข้าขอฝากเรื่องนี้ไว้กับพวกเจ้าทุกคน ถ้าหากลมทองแดงมีไม่เพียงพอ เจ้าสามารถรื้อมันได้จากหุ่นลมทองแดงทั้งสามสิบตัวตรงนั้น!” ขณะที่เขากล่าว ก็ชี้ไปยังหุ่นลมทองแดงที่อยู่ใกล้ ๆ

“รับทราบแล้ว!” หญิงสาวทั้งเก้าตอบกลับอย่างร่าเริง

ในขณะนั้น เจ้าอ้วนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาไม่เต็มใจที่จะผลักดันหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนออกไปสักเท่าไหร่นัก จึงกล่าวว่า “พวกเจ้าจงจัดการเรื่องพวกนี้อยู่ที่นี่ ตอนนี้ถึงเวลาที่ข้าจะต้องออกเดินทางแล้ว!”

“นายท่าน มีอสูรกายมากมายที่ด้านนอก มันไม่ปลอดภัยถ้าหากว่าท่านออกไปคนเดียว เหตุใดจึงไม่พาพี่น้องของเราออกไปด้วยสักสองสามคน พวกเราสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างโดยไร้สสารได้ อีกทั้งยังสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องเกรงกลัวอสูรกายเหล่านั้น!” หญิงสาวรีบทักท้วงเขาอย่างรวดเร็ว “ถูกต้อง พวกเราสามารถเตือนท่านได้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิด! ถ้าหากเราพบกับศัตรู พวกเราสามารถช่วยท่านสังหารมันได้!” หญิงสาวคนอื่นรีบกล่าวเสริมอย่างรวดเร็ว

“เป็นเช่นนั้น!” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยิน เขาถูกล่อลวงโดยคำพูดเหล่านั้นทันที แม้ว่าเขาจะรู้ความต้องการของพวกนางที่อยากออกไปด้านนอก แต่นี่ก็เป็นความคิดที่ไม่เลว แต่เขาก็ยังมีข้อที่หนักใจอยู่ เจ้าอ้วนจึงกล่าวออกมาว่า “พวกเจ้าต้องเข้าใจว่าการที่ข้าครอบครอบภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้าจะต้องถูกเก็บไว้เป็นความลับ แล้วข้าจะทำเช่นไรหากมีผู้อื่นพบเห็นพวกเจ้าล่ะ?”

“อย่ากังวลไปเลยนายท่าน รูปแบบร่างกายที่ไร้สสารทั้งแข็งแกร่งมาก แม้ว่าพวกเราจะเป็นผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิ แต่ทว่าแม้แต่ผู้ฝึกตนระดับจินตันก็ไม่อาจค้นหาพบถ้าหากพวกเราต้องการจะหลบซ่อน เราสัญญาว่าจะไม่ทำให้ท่านเสียแผนเด็ดขาด!” หญิงสาวผู้หนึ่งอธิบายให้เจ้าอ้วนฟัง พร้อมกับใช้หน้าอกที่นางมีบดขยี้แขนของเจ้าอ้วนอย่างออดอ้อน

เจ้าอ้วนหัวเราะออกมาอย่างไม่อาจทำอะไรได้ “ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ให้เหล่านักบวชตามข้าออกไปด้านนอก พวกเจ้าที่เหลือช่วยข้าปกปิดระฆังใบนี้”

ในตอนแรกเจ้าอ้วนคิดว่าเหล่าหญิงสาวที่ไม่ถูกเลือกจะไม่พอใจ แต่ทว่าพวกนางเหล่านี้กลับมีเหตุผลมากกว่าที่เขาคิด นักบวชทั้งสี่ที่จะได้ออกไปข้างนอกโห่ร้องอย่างตื่นเต้น สำหรับผู้ที่ไม่ได้ถูกเลือกพวกนางไม่ได้แสดงอาการโศกเศร้าแต่อย่างใดถึงแม้จะรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง พวกนางทั้งหมดเชื่อฟังเจ้าอ้วนอย่างดีซึ่งนั่นทำให้เจ้าอ้วนรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง

หลังจากนั้น เจ้าอ้วนเริ่มออกเดินทางไปยังทิศเหนืออีกครั้ง แต่ในขณะนี้เขาไม่ได้เดินทางคนเดียวอีกแล้ว เขามีนักบวชสาวสองคนอยู่ด้านข้าง และอีกสองคนอยู่ที่ด้านหน้าเพื่อตรวจสอบศัตรู เจ้าอ้วนเดินทางอย่างรวดเร็วในขณะที่พวกนางคอยช่วยเหลือ เพราะว่าเขาสามารถเข้าใจสถานการณ์โดยรอบอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นอสูรกายอยู่ตรงไหน สถานที่ตรงไหนที่เต็มไปด้วยหมอกพิษ หนองน้ำ เขาจะได้รับข้อมูลอย่างรวดเร็วจึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการถูกซุ่มโจมตีอีกต่อไป

อีกอย่างนักบวชที่เดินตามหลังเขาทั้งสองคนได้เตรียมตัวอย่างดีเพื่อคอยปกป้องเขาในยามฉุกเฉิน แต่ทว่าคำพูดที่แสนอ่อนโยนของพวกนางทำให้เจ้าอ้วนแทบจะหยุดอารมณ์ปรารถนาภายในใจไว้ไม่ไหว สองถึงสามครั้งที่เขาถูกล่อลวงให้เล่นบทสวาทกับพวกนางบนหลังของพยัคฆ์ปีกแหลม! เนื่องด้วยวัยที่ยังหนุ่มแน่น เขาจึงรู้สึกอับอายที่จะต้องทำมันในเวลากลางวันเช่นนี้ ดังนั้นในขณะที่เขาตั้งแคมป์สำหรับกลางคืน ความปรารถนาของเขาที่สะสมมาทั้งวันแทบจะระเบิดออก เหตุการณ์ต่อมาคือหญิงสาวทั้งเก้าเงียบลงในขณะที่เขาทำมันจนสาแก่ใจแล้ว

ในตอนนี้หยกสีเขียวเตือนเขาถึงวันเวลาที่ใกล้จะหมดลง เจ้าอ้วนเสพความสุขจนสำลักและลืมเลือนหน้าที่หลักที่ต้องทำจนแทบหมดสิ้น วันเวลาผ่านไปสามวันในชั่วพริบตา บ่ายวันนี้เขาอยู่บนหลังของพยัคฆ์ปีกแหลมและดื่มเหล้ากับนักบวชสาว ทันใดนั้นเขาได้รับคำเตือนจากนักบวชที่อยู่ด้านหน้าว่ามีผู้ฝึกตนปีศาจสองคนกำลังเดินมาทางนี้

ในขณะที่เจ้าอ้วนได้ยินว่าเป็นผู้ฝึกตนปีศาจ ดวงตาของเขาถูกกระตุ้นทันทีพร้อมกับจิตสังหารที่แผ่ออกมาอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเขานั้นมาจากสำนักแห่งความชอบธรรมและในช่วงเวลาที่เขาเติบโตมานั้น เขาได้ยินเรื่องราวที่น่ารังเกียจของเหล่าคนจากสำนักปีศาจมามากมายนับไม่ถ้วน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความยุติธรรม อีกทั้งสถานที่แห่งนี้คือสถานที่สำหรับค้นหาผลไม้วิญญาณ ทุกคนสามารถฆ่ากันเพื่อแย่งชิงมันได้ สำหรับพวกเขาที่ยังอยู่รอดมาได้ถึงวันนี้ แน่นอนว่าสมควรมีสมบัติอยู่ในมือบ้างแล้ว สิ่งนี้ไม่เกี่ยวว่าจะเป็นความชอบธรรมหรือเรื่องส่วนตัว แต่เจ้าอ้วนไม่อาจปล่อยให้ทั้งสองคนนี้รอดไปได้

แต่ว่าเจ้าอ้วนไม่เคยต่อสู้กับผู้ฝึกตนปีศาจมาก่อน ดังนั้นเขาค่อนข้างกังวลในการสู้รบครั้งแรกของตนเอง หนึ่งเป็นเพราะว่าผู้ฝึกตนปีศาจนั้นแตกต่างจากผู้ฝึกตนชอบธรรม ผู้ฝึกตนที่เดินบนเส้นทางแห่งความชอบธรรมจะกระทำการต่าง ๆ ตามกฎแห่งสวรรค์ แม้ว่าพวกเขาจะต่อสู้แต่ก็ไม่อาจละทิ้งกฎเหล่านี้ได้ สำหรับผู้ฝึกตนปีศาจ พวกเขาจะทุ่มเททุกสิ่งที่มี เช่น เวลา การเรียนรู้ทักษะ หรือสิ่งใดที่เสริมสร้างความแข็งแกร่ง และทำทุกหนทางเพื่อให้ได้รับชัยชนะ

ดังนั้นผู้ฝึกตนปีศาจมักจะมีวิธีการที่หลากหลาย ดังเรื่องเล่าที่เคยมี ผู้ฝึกตนปีศาจต่อสู้กับผู้ฝึกตนแห่งความชอบธรรม ในขณะที่พวกเขาเผชิญหน้ากัน จะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ถ้าหากประมาทเพียงนิดเดียวจะถูกสังหารไปจากมือที่มองไม่เห็น

แม้ว่าในตอนนี้เจ้าอ้วนจะแข็งแกร่งมาก แต่อีกฝ่ายมีถึงสองคน ถ้าหากต้องเผชิญหน้ากัน เขาอาจจะเสียเปรียบ!

เมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนไม่ตัดสินใจสักที นักบวชที่ยืนอยู่ด้านข้างราวกับว่าเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังคิด นางกล่าวออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นายท่าน ในตอนนี้ท่านคิดจะจัดการเขาทั้งสองคน แต่ว่าท่านไม่ต้องการทำมันด้วยตนเองใช่หรือไม่?”

“ใช่!” เจ้าอ้วนพยักหน้าพร้อมตอบกลับ “เจ้าก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายมีทักษะมากเกินไป พิษ แมลง คำสาป มันยากมากถ้าต้องป้องกันสิ่งเหล่านี้ ความกลัวเล็กน้อยสมควรมี!”

“ฮ่าฮ่า ท่านจะกลัวเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร? ท่านเพียงแค่บอกให้พี่น้องของเราทั้งสองที่อยู่ด้านหน้าจับเขาไว้เพียงเท่านั้นเอง!” นักบวชกล่าวออกมาอย่างสนุกสนาน

“จริงหรือ?” เจ้าอ้วนอุทานด้วยความสงสัยใคร่รู้ “ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ได้รับเลือกจากสำนัก ทั้งหมดเป็นชนชั้นสูง ผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิยังไม่อาจเอาชนะได้ แม้ว่าพวกนางจะแข็งแกร่ง ทว่าระดับของพวกนางเทียบเท่าผู้ฝึกตนระดับปฐมภูมิเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มีอุปกรณ์วิเศษใด แน่ใจงั้นหรือว่าสามารถเอาชนะพวกมันได้โดยง่าย?”

“นายท่าน ได้โปรดฟังข้า เรื่องนี้ไม่มีทางผิดพลาด!” นักบวชคนหนึ่งกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ “ถ้าหากเราไม่สามารถจัดการเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ได้ พวกเราคงเป็นได้เพียงขยะเปียกเท่านั้น แล้วพวกเราจะกล้าหาญกล่าวออกไปได้อย่างไรว่าเราคือสมบัติวิญญาณขั้นเก้า?”

เมื่อมองเห็นความมั่นใจของนาง เจ้าอ้วนจึงไม่รั้งรออีกต่อไป เขาบอกนักบวชทั้งสองคนที่อยู่ด้านหน้าให้จับเป็นผู้ฝึกตนปีศาจโดยทันที ในขณะนั้นเขาคิดกับตนเอง ‘มันไม่สำคัญว่าพวกนางจะล้มเหลวหรือไม่ อย่างมากที่สุดข้าก็แค่เพียงส่งพวกนางออกไปอีกไม่กี่คน ข้าไม่เชื่อว่าสองคนนั้นจะต้านทานการโจมตีของเหล่าปีศาจเทวะทั้งเก้านี้ได้ เว้นเสียแต่ว่าพวกมันมีสมบัติวิญญาณที่ระดับสูงกว่าภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้า!”