ตอนที่ 2011
ใช้กับฉันไหมล่ะ?
หลินเฟิงตรงเข้าไปแย่งมือถือจากอวิ๋นหู่อย่างไม่ลังเล ยิ่งปกปิด สีหน้า
ก็ยิ่งมีพิรุธชัด ส่วนอวิ๋นหู่แค่เลิกตา จ้องคนที่ยืนอยู่ด้วยแววตาเข้มข้น
ดูท่าจะจริงแฮะ กะจะปล้ำเขาจริง ๆ ?
หลินเฟิงโดนจ้องจนไอออกมาเบา ๆ เริ่มปากแข็งอธิบาย “ฉันแค่
อ่านดู ก็คนมีแฟนแล้วจะต้องรู้ก่อนว่าขั้นตอนมันเป็นมาอย่างไร ยิ่ง
ฉันเป็นพวกชอบเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ด้วย ไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็จะมี
คุณสมบัตินี้นะ”
เอาคำว่าชอบเรียนรู้ทุกอย่างมาใช้ในด้านนี้ด้วย อวิ๋นหู่เชื่อสนิทใจว่า
อีกฝ่ายเฉไฉอย่างมีพิรุธ “นายอยากรู้ว่าขั้นตอนเป็นยังไง ฉันสอนนาย
ได้นะ” อวิ๋นหู่เดินเข้ามาใกล้อีกฝ่าย กลิ่นเหล้าอ่อน ๆ ผสมผสานกับ
ลมหายใจ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้หอมอย่างนี้
แต่ด้วยเหตุนี้แหละ หลินเฟิงยิ่งรู้สึกอันตราย “นายไม่ต้องสอน ฉันรู้
แล้ว” บ้าอ่ะดิ คิดว่าเขาเป็นไอ้โง่ที่ใคร ๆ ก็หลอกได้งั้นเรอะ เขาเคย
สอบถามมาก่อนแล้วว่า ถ้าอยู่ ๆ มีคนมาบอกว่าจะสอนขั้นตอนให้
เรา ห้ามตกลงเด็ดขาด เพราะพอมีความสุขกันไป ๆ เราก็จะกลายเป็น
ฝ่ายรับโดยไม่รู้ตัว เรื่องนี้เขารู้ดี!
“เหรอ? เป็นหมดแล้ว” อวิ๋นหู่ขยับเข้ามาใกล้อีก “งั้นนายลองใช้กับ
ฉันดีไหม?”
ชัวร์อยู่แล้ว! เสนอตัวเองนะ! ต้องบอกว่าเจ้าหู่รู้ตัวดีเหมือนกันนี่!
หลินเฟิงยิ้มก่อนจะพาดแขนไว้ที่บ่าอีกฝ่ายอย่างเป็นเพื่อนซี้กันมาก
“นายก็คิดว่าเราควรจะมากำหนดตำแหน่งกันแล้วใช่ไหม”
การใกล้ชิดกันเหมือนเป็นเพื่อนซี้ไม่ได้ทำให้อวิ๋นหู่รู้สึกผิดปกติ
เพราะอีกฝ่ายก็เป็นผู้ชาย อย่าหวังว่าเขาจะเขินอายแต่อย่างใด “ใช่
เราควรต้องวางตำแหน่งกันสักที” อวิ๋นหู่ฉวยจังหวะหันหน้าไปมอง
ด้วยแววตาลึกซึ้ง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดความสัมพันธ์ลึก
ล้ำขึ้น เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้ชายของแท้ กลัวว่าตัวเองจะทำให้ความ
สัมพันธ์พังทลาย แต่เพื่อดูอย่างนี้แล้ว เจ้านั่นดูเหมือนไม่วิตกแต่
อย่างใด และหากยังไม่ฉวยจังหวะดี ๆ อย่างนี้อีก ต่อไปจะมีโอกาส
อีกเหรอ การทำให้อีกฝ่ายกลายเป็นของตัวเองเป็นสิ่งที่เขาคิดมานาน
แล้ว อวิ๋นหู่คิดได้เช่นนั้น แววตาก็ยิ่งลุ่มลึก ร่างกายพลอยขยับ “แต่
จะต้องไปซื้อของบางอย่างก่อน”
หลินเฟิงรู้สึกขึ้นมาทีเดียวเลยว่าตัวเองเป็นคนมองการณ์ไกล “ไม่
ต้อง ฉันซื้อมาหมดแล้ว”
“ซื้อมาหมดแล้ว” อวิ๋นหู่เลิกคิ้ว
หลินเฟิงคิดว่า การให้อีกฝ่ายรู้ความคิดของเขาก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร
เลย ต่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ การจัดวางตำแหน่งให้เรียบร้อยจึง
ไม่ใช่เรื่องเสียหน้าแต่อย่างใด แต่ก่อนเขาคิดมากเกินไป ตอนนี้เขา
ปลงตกแล้ว จึงเอาถุงมาวางตรงหน้าอวิ๋นหู่ “ทั้งหมดอยู่ในนี้ ครบ
ถ้วนทุกอย่าง”
อวิ๋นหู่กวาดตามองถุงนั่น พอจะรู้จักของที่อยู่ด้านในอยู่บ้าง เพราะ
สิ่งที่หลินเฟิงเสิร์จหา เขาก็เคยเสิร์จเหมือนกันเมื่อตอนเรียนหนังสือ
นับตั้งแต่อยากได้ใครบางคน เขาก็ทำการบ้านมาก่อน ไม่คิดเลยจริง ๆ
ว่าภาพที่เจ้านั่นโพสลงในโมเมนต์ของวีแชท จะเป็นการเสิร์จหา
ล่วงหน้า อ้อ คิดอะไรกับเขางั้นเหรอ? แววตาของอวิ๋นหู่เข้มขึ้นทุกที ๆ
มีบางอย่างที่เก็บซ่อนมานาน ได้ถูกปลดปล่อยออกมา…
ตอนที่ 2012
พวกเรามาเริ่มกันเถอะ
“ของที่ซื้อมาไม่เลวนี่” อวิ๋นหู่เข้าไปรื้อของ แต่คิดอะไรในใจไว้เยอะ
ทีเดียว
หลินเฟิงได้ยินคำชมตัวเองก็เหลิงเข้าไปใหญ่ อะไรที่ควรตกลงกัน
ก่อนย่อมต้องคุยกัน “แหงสิ เฮียเจ้าของร้านเป็นคนแนะนำเองนะ
นักกีฬาอีสปอร์ตมืออาชีพอย่างฉันไปซื้อของอย่างนี้ที ไม่ให้ผ้าปิด
ปากหลุดเลยสักนิด”
ถึงได้แต่งตัวอย่างนี้ใช่ไหม อวิ๋นหู่พอจะเดาออก
“ฉันไม่รู้ว่านายจะคิดอย่างนี้กับฉัน”
หลินเฟิงได้ยินแล้วไอเล็กน้อย “เรื่องตำแหน่งอะ ยังไงก็ต้องคุยกัน
อยู่ดี ไม่ช้าก็เร็ว”
อวิ๋นหู่ได้ยินอีกฝ่ายพูดแล้ว นึกถึงข้อความที่แบล็กพีชส่งให้ตัวเอง
ด้วยความเข้าใจที่เขามีต่อเจ้านี่ หากไม่มีใครกระตุ้นละก็ รับรองคิด
เองไม่ได้เด็ดขาด ท่าทางหลังจากวันนี้เขาจะต้องเลี้ยงข้าวแบล็กพีช
เสียหน่อยแล้ว
หลินเฟิงอ่านความคิดของอวิ๋นหู่ไม่ออก รู้สึกแค่ว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว
ขาดแต่ลมตะวันออกที่จะทำให้สำเร็จ จึงต้องว่ากันตามกระบวนการ
“พวกเราจะแยกย้ายไปอาบน้ำกันก่อนไหม”
“ได้” อวิ๋นหู่ยิ้ม คนเขาอุตส่าห์เสนอตัวมาขนาดนี้ ย่อมไม่มีเหตุผล
ให้ปฏิเสธ
หลินเฟิงเห็นอีกฝ่ายตอบตกลงอย่างว่าง่าย ก็หาชุดนอนแล้วโยนให้
อวิ๋นหู่ ส่วนตัวเองไปที่ห้องน้ำอีกห้อง เขาอ่านเรื่องบทเรียนด้านนี้
อีกรอบ เตรียมทุกอย่างพร้อมมูลแล้วพูดกับตัวเองในกระจกว่า “ทั้ง
รุกทั้งเท่แบบนี้ เจ้าหู่ต้องรับมือไม่ไหวแน่”
หากป๋อจิ่วได้ยินในสิ่งที่เขาพูดต้องหัวเราะใส่แน่ แต่น่าเสียดาย
เท่น่ะใช่
แต่รุก?
ขอโทษด้วย ไม่ใช่สักนิด
หลินเฟิงเดินออกมาอย่างมั่นใจ หมายมั่นว่าจะปล้ำอวิ๋นหู่ให้สำเร็จ
กระทั่งท่าเดินยังดูเท่ ทว่าความเท่ที่ว่ากลับเหมือนลูกโป่ งที่ถูกเจาะ
ในทันทีเมื่อมาอยู่ตรงหน้าอวิ๋นหู่
อวิ๋นหู่ก็เดินออกมาพอดี เขาสวมชุดนอนที่มีขนาดเล็กกว่าตัวเล็กน้อย
จึงไม่ได้กลัดกระดุมบนถึงสองเม็ด ปล่อยให้เปิดอ้าจนเห็นร่อง
กล้ามเนื้อที่สวยน่าชม จนหลินเฟิงเห็นแล้วรู้สึกริษยา
เจ้าหู่ทำไมแข็งแรงอย่างนี้ล่ะ เป็นพวกเล่นลีกส์อาชีพด้วยกันแท้ ๆ ที่
น่าจะขาวมาก แถมไม่ค่อยมีแรงด้วยสิ แต่ดันมามีรูปร่างเลิศเพอร์เฟกต์
ช่างไม่มีคุณสมบัติของพวกเล่นลีกส์อาชีพเอาเสียเลย ไหนบอกว่า
เป็นพวกชอบอยู่บ้านที่เอาแต่เล่นเกมไง
หลินเฟิงลืมว่าอีกฝ่ายมีสถานะอย่างไร และเวลาที่อยู่หอพัก อวิ๋นหู่
จะต้องให้ตัวเองออกมาวิ่งทุกเช้า
ตอนนั้นเขาตอบว่ายังไงนะ ‘ขอนอนอีกหน่อย’ ประมาณนี้ เพราะ
รู้สึกว่าการตื่นเช้าไม่ใช่วิสัยของพวกเล่นลีกส์อาชีพ ดูอย่างหัวหน้า
สิ! เป็นคนขี้โมโหแต่เช้าตัวต้นแบบเลยล่ะ ใครกล้าปลุกแต่เช้านะ
รับรองว่าต้องโดนลงโทษให้ซ้อมเพิ่มหนึ่งชั่วโมง
แต่หลินเฟิงก็เข้าใจ หากมีอะไรกัน การวิ่งในตอนเช้าย่อมมีประโยชน์
มาก!
ด้วยเหตุที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมสีดำของอวิ๋นหู่จึงยังเปียกชื้น หยดน้ำ
ไหลมาเกาะที่ใบหน้า จากนั้นก็ค่อย ๆ ไหลไปยังซอกคอ ดวงตาเขา
ในเวลานี้ดูลุ่มลึกขึ้น
หลินเฟิงรู้สึกว่าจู่ ๆ หัวใจพลันก็แรงขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ ทั้งที่เมื่อ
กี้ยังไม่รู้สึกอะไรเลย แต่เวลานี้ อวิ๋นหู่ก้าวเข้าไปหาแล้วหลุบตามอง
“พวกเราเริ่มกันเลยไหม หือ?”