บทที่ 626 ทำไมถึงได้เหมือนเสด็จพี่หญิงเช่นนี้

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 626 ทำไมถึงได้เหมือนเสด็จพี่หญิงเช่นนี้
“ได้”

กู้ชูหน่วนช่วยนางเช็ดน้ำตาตรงหางตา พยุงนางขึ้นมาด้วยตัวเอง ไล่คนมามุงดูความสนุกเหล่านั้นให้ถอยไป

“เจ้าร้องไห้จนตาบวมหมดแล้ว ข้าช่วยเจ้าประคบหน่อยละกัน”

“ใช้ไข่เหรอ?”

“ก่อนหน้านี้องค์หญิงก็เคยใช้ไข่ได้ประคบมาก่อนเหรอ?”

“เมื่อก่อนเสด็จพี่หญิงมักจะใช้ไข่ไก่ช่วยประคบให้ข้าบ่อยๆ” แต่เสด็จพี่หญิงใส่ยาเพิ่มลงไปบนไข่ไก่ ตอนประคบก็จะเย็นสบายมาก

แต่หลังจากที่ไม่มีเสด็จพี่หญิงแล้ว ตำรับยานั่นก็หายไปแล้ว และไม่มีผู้ใดใช้ไข่ไก่มาช่วยนางประคบอีก

องค์หญิงตังตังมองดูกู้ชูหน่วนจูงมือน้อยๆของนางด้วยความตะลึง

เดิมทีนางควรจะสลัดทิ้ง แต่ไม่รู้ทำไม นางได้ตามกู้ชูหน่วนไปอย่างคุมตัวเองไม่ได้แล้ว

ราวกับว่า ขณะที่กู้ชูหน่วนจับมือนางนั้น เป็นความรู้สึกคุ้นเคยชนิดหนึ่ง

กู้ชูหน่วนก็คิดไม่ถึงว่า องค์หญิงตังตังที่โดยปกติแล้วจะมีนิสัยเอาแต่ใจดื้อดึง จะให้นางจูงมืออย่างว่านอนสอนง่าย

ขณะที่จะออกจากโรงเรียน นางเห็นกู้ชูหยุนแล้ว

กู้ชูหยุนยังคงงดงามต้องตาผู้คนเหมือนเมื่อก่อนเช่นนั้น

เพียงแต่ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกว่าบนตัวของนางมีความชั่วร้ายเพิ่มขึ้นมารางๆ

ความรู้สึกชั่วร้ายเช่นนี้ทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก มักจะรู้สึกว่าอันตรายมากเสมอ เหมือนได้เผชิญหน้ากับรองหัวหน้าผ่าซือคงของเผ่าเทียนเฟิ่นเช่นนั้น

แต่เป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่แวบเข้ามาแล้วผ่านไป

เมื่อนางได้ทำการสังเกตอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งจริงๆ กู้ชูหยุนก็ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างงดงามหยาดเยิ้ม เหมือนเมื่อก่อน ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไป

“เจ้าดูอะไรอยู่? ข้าถามเจ้าอยู่นานแล้วว่า วันนี้อาจารย์ซ่างกวนจะปรากฏตัวหรือไม่”

องค์หญิงตังตังคิดว่านางกำลังมองหาอาจารย์ซ่างกวนในฝูงชน จึงอดกัดฟันพูดขู่ไม่ได้ “ข้าจะบอกเจ้า อาจารย์ซ่างกวนเป็นของข้า ใครก็ห้ามมาแย่งกับข้า เจ้าก็ไม่ได้”

“ด้วยบุญของเจ้า ข้ามีเสด็จอาเย่จิ่งหานของเจ้าคนเดียวก็พอทนแล้ว ยังจะกล้ายั่วยุอาจารย์ซ่างกวนอีกที่ไหนกันล่ะ ยิ่งกว่านั้น แม้ว่าเจ้าจะยกอาจารย์ซ่างกวนให้ข้า ข้าก็ไม่เอา”

“เชอะ เจ้าเลิกคิดซะเถอะ เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะยกอาจารย์ซ่างกวนให้เจ้า”

กู้ชูหน่วนเอามะเหงกให้นาง “ทำตัวให้เรียบร้อยหน่อย ข้าเป็นเสด็จอาสะใภ้ของเจ้า อย่าเชอะบ่อยๆ นิสัยไม่ดี”

องค์หญิงตังตังเบ้าตาแดง กำลังคิดจะร้องไห้เสียงดังอีกครั้ง กู้ชูหน่วนตกใจทันที รีบปลอบใจองค์หญิงตังตังยกใหญ่ จูงนางออกไปอย่างรวดเร็ว

“ทูนหัวของข้า เจ้าอย่าร้องไห้อีกเลย ถ้ายังร้องต่อไป เสด็จแม่และเสด็จพี่ของเจ้าคงคิดว่าข้าไปทำอะไรเจ้าอีก”

“งั้นต่อไปนี้เจ้าก็อย่าเขกหัวข้าอีกสิ ข้าเป็นถึงองค์หญิงเชียวนะ”

“ได้ เพียงแค่เจ้าไม่ร้องไห้ต่อ ข้าสาบาน ต่อไปนี้ข้าจะไม่แขกอีก”

“……”

ทุกคนตะลึงอ้าปากค้างจนกรามแทบหลุด

องค์หญิงตังตังกับกู้ชูหน่วนไม่ได้เป็นคู่ทะเลาะที่หนักหน่วงเอาการที่สุดหรอกหรือ?

คนทั้งพระนครผู้ใดจะไม่รู้ พวกนางสองคนเป็นคู่อริกัน แค่เจอหน้ากน ก็จะต้องทะเลาะกันยกใหญ่

แต่ตอนนี้เป็นสถานการณ์ไหนอีก?

ทันทีที่องค์หญิงตังตังร้องไห้ กู้ชูหน่วนก็กลัวแล้ว?

หลิวเยว่และอวี่ฮุยก็รู้สึกเหลือเชื่อ

นี่เป็นลูกพี่ของพวกเขาจริงๆหรือ?

ทำไมพวกเขาถึงได้รู้สึกเหมือนว่าลูกพี่และองค์หญิงตังตังเป็นพี่น้องกัน พอองค์หญิงตังตังโกรธ ลูกพี่ก็รีบปลอบทันที?

ที่มุมหนึ่งของศาลาในวัง กู้ชูหน่วนใช้ไข่ต้มสุกสองสามฟอง แช่ไว้ในยาน้ำแล้วปอกเปลือก ช่วยองค์หญิงตังตังกลิ้งประคบไปมาบนตาด้วยตัวเอง

การเคลื่อนไหวของนางอ่อนโยน ระมัดระวัง เหมือนกับกลัวว่าองค์หญิงตังตังจะเจ็บ การกระทำที่คุ้นเคยนั้นราวกับเคยช่วยคนอื่นประคบมาก่อนหลายครั้งแล้ว

“ดูเจ้าสิ เรื่องเล็กๆแค่นี้ก็ร้องไห้จนกลายเป็นมนุษย์น้ำตา ตาบวมไปหมด คาดว่าคงต้องประคบสักสองสามวันแล้วล่ะ”

“หากว่าเจ้าไม่รังเกียจ พรุ่งนี้มาที่จวนอ๋องหานรอบหนึ่ง ข้าช่วยเจ้าประคบอีกทีละกัน”

หลังจากที่กู้ชูหน่วนช่วยนางประคบตาด้วยไข่ไก่แล้ว องค์หญิงตังตังก็เหมือนดั่งถูกฟ้าผ่าไปทั้งคน ตะลึงอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานาน หมกมุ่นอยู่กับกลิ่นยาสมุนไพรอันคุ้นเคยบนไข่ไก่ที่เหลือไว้

กลิ่นไข่ไก่ผสมสมุนไพรแบบนี้ ทำไมถึงได้คล้ายกับของเสด็จพี่หญิงขนาดนั้น?