อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 627 ไม่คู่ควร
องค์หญิงตังตังถามด้วยความตะลึง “ตำรับยานี้ เจ้ารู้ได้ยังไง?”

“ตำรับยาอะไร?”

“อ๋อ……เจ้าพูดถึงต้มไข่ไก่ต้มกับสมุนไพรน่ะเหรอ หมอทั่วไปก็รู้กันหมด ไม่เพิ่มสมุนไพรยาจีนเข้าไป อาศัยแค่ไข่ไก่เพียงอย่างเดียวจะช่วยลดอาการบวมลงได้อย่างรวดเร็วได้ยังไง? ปวดใช่หรือไม่? ข้าเบามากแล้วนะ”

“เจ้าพูดเลอะเทอะ หมอทั้งพระนครล้วนไม่รู้ว่าใช้สมุนไพรอะไรในการแช่ไข่ เจ้าขโมยใบสั่งยาเสด็จพี่หญิงของข้าไปใช่หรือไม่”

กู้ชูหน่วนมองดูองค์หญิงตังตังที่พาลโกรธขึ้นมาดื้อๆ จะหัวเราะก็ไม่ใช่จะร้องไห้ก็ไม่เชิง

“ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือเสด็จพี่หญิงของเจ้า และจะขโมยใบสั่งยาของนางไปได้ยังไง? อีกอย่าง ข้ากู้ชูหน่วนรักษาคน จำเป็นต้องขโมยใบสั่งยาด้วยหรือ? เจ้าไม่ลองไปสืบถามดู อาการเจ็บขาของเย่จิ่งหานเสด็จอาของเจ้าผู้ใดเป็นคนรักษาจนหาย”

“แต่สมุนไพรของเจ้าเหมือนกับเสด็จพี่เป๊ะๆ”

“สมุนไพรรักษาไข้หวัดโดยมากก็เหมือนกันจะต่างกันก็เพียงเล็กน้อยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”

“แต่……”

“เจ้าจะประคบอีกหรือไม่ ไม่ประคบข้าก็จะไปแล้ว”

“นี่ เดี๋ยวก่อน เจ้าช่วยประคบให้ข้าอีกสักหน่อยสิ ครั้งหนึ่งอย่างน้อยก็ต้องประคบยี่สิบครั้ง”

“เจ้าก็ฉลาดมากนี่ ประคบจนมีประสบการณ์แล้ว? เมื่อก่อนร้องไห้ขี้มูกโป่งอยู่บ่อยๆใช่รึเปล่า?”

“ข้าเป็นถึงองค์หญิง จะร้องไห้ขี้มูกโป่งได้ยังไง”

องค์หญิงตังตังปากแข็ง ไม่ง่ายกว่าจะหยุดร้องไห้ได้ก็กลับพรั่งพรูออกมาอีกรอบแล้ว

นอกจากเสด็จพี่หญิง นางก็เป็นคนแรกที่ช่วยนางประคบตาอย่างอ่อนโยนขนาดนี้

มีชั่วพริบตาหนึ่ง นางก็แทบจะคิดว่านางเป็นเสด็จพี่หญิงแล้ว

แต่เสด็จพี่หญิงตายไปแล้ว

อีกย่างเสด็จพี่หญิงก็ดีต่อนางมาตั้งแต่เด็ก เป็นไปไม่ได้ที่จะรักแกนางเช่นนี้ได้เด็ดขาด

ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคนน่ารำคาญเหมือนกู้ชูหน่วน

กู้ชูหน่วนยิ้มเล็กน้อย แต่ไม่ได้เปิดโปงคำโกหกขององค์หญิงตังตัง

วันนี้นางไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไรถึงได้มาช่วยนางประคบยาด้วยตัวเอง

ทว่าขณะที่องค์หญิงตังตังไม่ได้ทำนิสัยองค์หญิง ก็น่ารักดี และกลับทำให้นางเกิดความรู้สึกอยากปกป้องนางขึ้นมาอย่างวู่วามโดยไม่รู้ตัว

“กู้ชูหน่วน เดี๋ยวเจ้าบอกข้าหน่อยได้หรือไม่ว่าสมุนไพรที่แช่ในไข่ไก่คืออะไร”

“ได้”

“และต่อไปนี้ไม่อนุญาตให้เจ้าแกล้งข้าอีกแล้ว”

“เจ้าเอาแต่พูดว่าข้ารังแกเจ้า แต่ข้าไปรังแกเจ้าตอนไหนกัน?”

“ครั้งแรกที่เจ้ามาเรียนที่วิทยาลัย ก็ตบหน้าข้า ทำให้ข้าเสียหน้าหมด”

กู้ชูหน่วนลูบคาง “มีหรือ ข้าจำไม่ได้แล้ว”

“มี”

แม้ว่าจะมี นั้นก็เป็นเพราะนางผยองเกินไป นางอดไม่ได้ชั่วขณะจึงได้ลงมือสินะ

“ในงานชุมนุมแข่งขันบุ๋น เจ้าชนะได้เงินข้าไปมากมาย เจ้ายังหลอกเอาหยกเสี้ยวจันทร์ของข้าอีก หลอกเอาสร้อยคอจี้รูปหัวใจของข้าไป แล้วเจ้ายังหลอกเงินของเสด็จแม่ไปอีกมากมาย ทำร้ายให้เสด็จแม่ปวดใจอยู่นาน”

“นี่ล้วนเป็นเรื่องราวในอดีตที่ผ่านไปแล้ว พวกเราเป็นคนยังไงก็ต้องมองไปด้านหน้า ไม่ควรมองอดีตอีก”

องค์หญิงตังตังกล่าวด้วยความโกรธเคือง ในใจก็เริ่มน้อยใจขึ้นมาอีก “นี่ไม่ใช่เรื่องราวในอดีตที่ผ่านไปแล้วสักหน่อย นี่เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่นาน นอกจากเรื่องเหล่านี้ ในงานประมูล เจ้าก็ยังทำให้ข้าเสียหน้าโดยสมบูรณ์อีกด้วย เจ้าจงใจโก่งราคา ให้ข้าไปประมูลหนังสืออะไรนั่น ข้าไม่มีเงิน ถูกคนที่งานประมูลจับกุมแล้ว คนทั้งโลกล้วนหัวเราะเยาะข้า ทำให้ข้าไม่กล้าออกจากบ้านอยู่ตั้งนาน”

“ยังมีอีกหรือไม่?” องค์หญิงน้อยนี่ ช่างจดจำความแค้นเกินไปแล้วล่ะมั้ง

“มี มากเชียวล่ะ ยังมี…….”

“พอแล้วพอแล้ว เรื่องเหล่านี้พวกเราไม่เอ่ยถึงแล้ว พูดถึงเสด็จพี่หญิงของเจ้าเถอะ เสด็จพี่หญิงของเจ้าเป็นคนยังไง? นางรักเจ้ามาก?”

ได้ยินว่าเสด็จพี่หญิงสองคำนี้ ความเดือดดาลทั้งหมดขององค์หญิงตังตังก็สลายไปหมดแล้ว อารมณ์หดหู่ขึ้นมาในทันที

“เสด็จพี่หญิงเป็นเสด็จพี่ที่ดีที่สุดในโลก นางเอ็นดูข้ามาก และเพื่อช่วยข้า จึง…..จึงได้ถูกคนเลวทำร้ายจนตาย เสด็จพี่หญิงเหมือนกับเจ้า เชี่ยวชาญวิชาการรักษา แต่วิชาการรักษาของนางสูงกว่าเจ้าซะอีก เจ้าหิ้วรองเท้าให้นางก็ไม่คู่ควร”

“เด็กคนนี้ เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกทำไม?”