สึบ สึบ!!
ซึ่งคำเตือนด้วยความหวังดีของเย่เทียนแต่กลับกลายเป็นความหยิ่งทะนงและการดูถูกในสายตาของคุณอารองเซว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คุณอารองเซวโกรธจนลุกเป็นไฟและพุ่งเข้าใส่เย่เทียนทันที
นิ้วมือห้านิ้วทั้งสองข้างของเขาเปลี่ยนทรงเป็นกรงเล็บนกอินทรี ดูะเหมือนว่ามันจะสามารถตัดผ่านทุกอย่างทุกขวางหน้า เสียงหวีดหวิวทะลวงผ่านอากาศ และเขาก็ฟันไปที่แขนของเย่เทียนอย่างดุดัน
ดวงตาสีเข้มของเย่เทียนหรี่ลง ในใจของเขารู้สึกหมดหนทางที่จะถอยจริงๆ เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ทำเพื่อการเข้าไปในบ้านตระกูลเซว แต่แค่เรื่องของพ่อเขา เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะถอยแล้ว
เมื่อนึกถึงจุดนี้ เย่เทียนก็ตั้งสติ แทนที่จะถอยกลับ แต่เขากลับพุ่งเข้าใส่คุณอารองเซวที่อยู่ตรงหน้า
ฝึบ!
เงาร่างพุ่งผ่านด้วยความเร็วสายฟ้า คุณอารองเซวถึงกับเกาปากของเขา และดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาก็อดไม่ได้ที่จะมองด้วยความประหลาดใจ
“ไอ้หนุ่ม ดูไม่ออกจริงๆ นะว่าเอ็งจะเร็วขนาดนี้!”
เมื่อได้ยินเสียงลมหวีดหวิวผ่านหู คุณอารองเซวก็หลบอย่างไม่ลังเล และทำให้เขาหลบการโจมตีกลับของเย่เทียนได้อย่างเฉียดฉิว
“คุณอารองเซว การโจมตีครั้งแรกจบลงแล้วนะครับ!”
แม้ว่าจะพลาดหมัดไป แต่เย่เทียนไม่ได้ฉวยโอกาสในการโจมตีซ้ำ เขาได้แต่ยืนอยู่ที่เดิมและแสดงรอยยิ้มให้กับคุณอารองเซว
เมื่อเห็นสีหน้าความได้ใจของเย่เทียน ดวงตาของคุณอารองเซวก็หรี่ลงและพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ไอ้หนู เอ็งอย่าเพิ่งได้ใจไป นี่แค่การจู่โจมครั้งแรกเท่านั้น!”
จากนั้นคุณอารองเซวกระทืบเท้าแล้วพุ่งเข้าหาเย่เทียนอีกครั้ง แต่ความเร็วในครั้งนี้มันเร็วกว่ารอบแรกไม่น้อย
เย่เทียนก็ตกใจเช่นกัน เขาไม่คิดเลยว่าคุณอารองเซวจะเร็วได้ขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ใช้กำลังภายในเลย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาไม่คิดจะประมาทเลยแม้แต่น้อย เขาขยับเท้าอย่างไม่หยุด และร่างของเขาก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ การต่อสู้ระหว่างทั้งสองที่หน้าประตูบ้านตระกูลเซวเป็นไปอย่างดุเดือดและรุนแรงมาก
แต่ว่าเย่เทียนไม่มีทีท่าว่าจะเผชิญซึ่งๆ หน้ากับคุณอารองเซวเลย เขาขยับเท้าครั้งแล้วครั้งเล่า และทุกครั้งก็สามารถหลบหลีกการโจมตีของคุณอารองเซวได้เสมอ
คุณอารองเซวยิ่งสู้ก็ยิ่งโมโห เขาอดไม่ได้ที่จะตวาดเสียงดังว่า “ไอ้หนู นี่เอ็งหมายความว่าไง? เมื่อกี้ยังพูดจาโอ้อวดอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมตอนนี้เอาแต่หนีล่ะ?”
“คุณอารองเซวจะพูดแบบนี้ไม่ได้นะ คุณบอกแค่ว่าผมล้มคุณได้ก็พอ แต่คุณไม่ได้บอกผมว่าห้ามหลบการโจมตีของคุณ จนทำให้คุณหมดแรงไม่ใช่เหรอ?”
เย่เทียนหลบอย่างว่องไวไปด้วยและยิ้มตอบไปด้วย และคำพูดของเขาทำให้คุณอารองเซวหมดคำบรรยายจริงๆ
หยุนเหมิงหยานที่หลบอยู่หลังประตูได้แต่ขมวดคิ้วแน่นๆ เธอไม่คิดเลยว่าเย่เทียนจะฉลาดแกมโกงขนาดนี้ เพราะเขาไม่คิดจะสู้กับคุณอารองเซวเลยด้วยซ้ำ
แม้แต่หยุนเหมิงหยานที่เป็นผู้ชมยังคิดแบบนี้ แล้วนับประสาอะไรกับคุณอารองเซวที่กำลังต่อสู้ล่ะ?
ความรู้สึกนั้นมันเหมือนกับชกหมัดไปที่สำลีจนทำให้เขาหงุดหงิดมาก เขาโกรธจนอยากหั่นเย่เทียนเป็นชิ้นๆ แล้วโยนให้หมากิน!
แต่เขาต้องยอมรับจริงๆ ว่าคำพูดของเย่เทียนทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกเลย เพราะเขาแก่กว่าเย่เทียนอยู่แล้ว หากใช้กำลังโดยที่ไม่ได้ใช้กำลังภายในแบบนี้ คนที่แพ้จะต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน
ที่สำคัญคือ ถ้าเขาใช้กำลังภายในแล้วเอาชนะเย่เทียนได้ และเมื่อข่าวนี้ถูกแพร่ออกไป เขาจะถูกตำหนิว่าเป็นผู้ใหญ่ที่รังแกเด็ก และจะต้องอับอายขายหน้าอย่างแน่นอน!
“ไอ้หนุ่ม ตอนนี้ข้าขอเปลี่ยนใจก็แล้วกัน เอ็งต้องเอาชนะข้าภายในสามสิบกระบวนท่าเท่านั้น ไม่อย่างนั้นอย่าหวังจะได้ข่าวของพ่อเอ็งจากข้า!”
จากนั้น ด้วยประสบการณ์ในการต่อสู้อันโชกโชนของคุณอารองเซว เขาจึงไตร่ตรองอย่างละเอียดและเสนอความคิดนี้ขึ้นมาทันที
“ให้ตายสิ! คุณอารองเซว คุณอายุมากขนาดนี้แล้ว แต่ทำไมเปลี่ยนใจง่ายๆ แบบนี้ได้ พูดอย่างทำอย่าง แล้วความน่าเชื่อถือของคุณยังมีไหม?”
สีหน้าของเย่เทียนหม่นหมองทันที และเขาอดไม่ได้ที่จะพูดจาหยาบคายออกมา
“ก็ข้าอยากเปลี่ยนใจกะทันหัน แล้วทำไม? ถ้าเอ็งไม่พอใจ เอ็งก็ไปจากที่นี่สิ!”
คุณอารองเซวแสยะยิ้มและภูมิใจในการถือไพ่ที่เหนือกว่าของเขา
หยุนเหมิงหยานก็แอบดีใจมาก ถ้าสถานการณ์ยังคงเป็นไปแบบนี้ เชื่อว่าเย่เทียนจะต้องถูกคุณอารองเซวเล่นงานอย่างไม่เป็นท่าแน่!
แต่แน่นอน เธอไม่ได้เป็นคนไร้เหตุผลขนาดนั้นอยู่แล้ว เพราะเย่เทียนเป็นถึงตัวแทนของเขตทหารเจียงหนันในการเข้าร่วมการแข่งขันการคัดเลือกของทีมสายฟ้า ถ้าหากจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาจริงๆ เธอต้องออกมาห้ามในทันที
“คุณอารองเซว ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ เห็นทีว่าผมจะต้องล้มคุณภายในสามสิบกระบวนท่าให้ได้แล้วสินะ!”
เมื่อได้ยินคำพูดของคุณอารองเซว สีหน้าของเย่เทียนก็กลายเป็นความจริงจัง และเขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ถอยอีกต่อไป
มุมปากของคุณอารองเซวโค้งขึ้นอย่างได้ใจ “อวดดี! เก่งจริงก็ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน!”
หลังจากพูดจบ คุณอารองเซวก็ขยับเท้าอีกครั้ง และเขาสาบานกับตัวเองในใจว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะอัดเด็กที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ให้รู้จักสำนึกผิด ใครให้มันอวดดีขนาดนี้ล่ะ?!
แต่การจู่โจมของคุณอารองเซวในครั้งนี้ เย่เทียนก็ตั้งตัวได้อย่างทันท่วงที คัมภีร์หวงในร่างเขาเริ่มทำงานและไหลลงสู่สองเท้าของเขา ทำให้เขาหลบการโจมตีของคุณอารองเซวด้วยความเร็วสายฟ้า
“เป็นไปได้ไง?!”
คุณอารองเซวถึงกับตกใจและอดไม่ได้ที่จะหลุดปากออกมา เพราะการเคลื่อนไหวของเย่เทียนนั้นเร็วเกินไป เร็วจนเขาไม่อาจตามทันได้
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอก!”
แต่ไม่รู้ว่าเย่เทียนมาโผล่อยู่ข้างคุณอารองเซวตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมยังยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์อีกด้วย
“แก!”
คุณอารองเซวตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมองไปที่เย่เทียนที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงครึ่งเมตร ดวงตาของเขาเบิกกว้างทันที และเขาพยายามจะใช้กำลังภายในของเขาให้เร็วที่สุด
“คุณอารองเซว ระวังด้วยครับ!”
เย่เทียนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จากนั้นเท้าขนาดใหญ่ของเขาก็เตะออกไปอย่างรุนแรง แต่เป้าหมายของเขานั้นกลับเป็นจุดสูญพันธุ์ของคุณอารองเซว!
คุณอารองเซวมองเห็นได้ชัดเจนและในใจก็อยากต่อต้านมาก แต่ร่างกายของเขาไม่สามารถตอบสนองต่อปฏิกิริยาของเส้นประสาทของเขาได้ ทำได้เพียงเบิกตากว้างแล้วเฝ้าดูขาขนาดใหญ่ของเย่เทียนที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
ผัวะ!
เสียงกระแทกดังขึ้น ใบหน้าของคุณอารองเซวกลายเป็นสีแดงทันที และเสียงกรีดร้องที่น่าสมเพชก็หลุดก็ออกมาจากปากของเขา
“อ๊าก!!!”
แม้เย่เทียนจะเอียงตำแหน่งของเขาในวินาทีสุดท้ายก่อนที่ขาของเขาจะกระแทกกับจุดสำคัญของคุณอารองเซว แต่มันก็ยังเตะเข้าที่ต้นขาด้านในของคุณอารองเซวอย่างจัง ทำให้คุณอารองเซวเจ็บปวดจนต้องรีบกุมเป้าด้วยสองมือของเขาและล้มทั้งยืนอย่างน่าสงสาร
หยุนเหมิงหยานที่แอบซ่อนตัวอยู่ก็ตกใจจนตัวสั่น เธอจึงรีบวิ่งออกมาหมอบลงข้างๆ คุณอารองเซวแล้วถามอย่างรีบร้อนใจว่า “คุณอารอง เป็นยังไงบ้างคะ? ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”
“เย่เทียน! คุณทำอะไรของคุณ? คุณเตะจุดสำคัญของคุณอารองได้ยังไงกัน?”
ก่อนที่คุณอารองเซวจะตั้งตัวได้ หยุนเหมิงหยานก็หันกลับมาแล้วดุว่าเย่เทียนอย่างโกรธเคือง
“ก็ ถ้าผมจะบอกว่าผมไม่ได้ตั้งใจ แล้วคุณจะเชื่อผมไหมล่ะ?”
แต่เย่เทียนรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหยุนเหมิงหยานกำลังแอบมองอยู่ เขาจึงจงใจยักไหล่แล้วพูดอย่างรู้สึกผิด
“ไม่ได้ตั้งใจ? นี่คุณไม่ได้ตั้งใจจริงเหรอ?”
หยุนเหมิงหยานแอบมองอยู่ด้านหลังอย่างเต็มตา แล้วจะเชื่อได้อย่างไรว่าเย่เทียนไม่ได้ตั้งใจ?
ในเวลานี้ คุณอารองเซวก็เริ่มบรรเทาจากความเจ็บปวดแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากหยุนเหมิงหยาน เขาจึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ดวงตาที่ขุ่นมัวของเขาหันมองไปที่เย่เทียนและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโชคดี
เขาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าเย่เทียนจะเร็วขนาดนี้ และหากไม่ใช่เย่เทียนหักเลี้ยวในวินาทีสุดท้าย ไข่สองฟองของเขาคงแตกไปนานแล้ว!
“คุณอารองเซว ผมบอกคุณตั้งแต่แรกแล้วนะครับว่าหมัดกับเท้ามันไม่มีตา เชื่อว่าคุณจะไม่โทษผมนะครับ?”
“ไอ้หมอนี่ ยังไม่รีบมาพยุงข้าอีก!”
คุณอารองเซวเพ่งมองไปที่เย่เทียน แต่ในขณะที่พูด เขายังอดสูดปากด้วยความเจ็บปวดไม่ได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขายังรู้สึกทรมานอยู่…