บทที่****148: ย่ำยีนางสวรรค์
เมื่อชายหนุ่มได้ยินที่เจ้าอ้วนกล่าว เขาโกรธจนแทบจะอกแตกตายพร้อมร่ำร้องในใจ ‘ข้าได้ย่ำยีศักดิ์ศรีของตนเอง ยกยอปอปั้นเจ้า แต่เจ้ากลับไม่คิดจะช่วยเหลือข้าอีกทั้งยังมีความตั้งใจจะสังหารข้าอีก ไขมันสารเลวชื่อนี้เหมาะกับเจ้ายิ่งนัก!’
ทว่าตอนนี้ชีวิตตกอยู่ในกำมือเจ้าอ้วน แม้ว่าเขาจะโกรธสักแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจแสดงมันออกมาได้แม้แต่น้อย ดังนั้นเขารีบกล่าวอย่างอ้อนวอน “ศิษย์พี่ ศิษย์พี่ซ่งฟังข้าก่อน ชีวิตของน้องชายผู้นี้ไร้ค่ายิ่งนัก ตราบใดที่ท่านยินดีจะช่วยเหลือ ข้ายินดีจะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ท่าน!”
“ฮ่าฮ่า!” เจ้าอ้วนเผยยิ้มกว้าง พร้อมกันเขาหยิบกระเป๋ามิติของชายหนุ่มขึ้นมาพร้อมกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเจ้างั้นหรือ? ทำไมข้าไม่เห็นว่าจะมีสิ่งใดน่าสนใจเลยล่ะ? อืม อย่าบอกนะว่าสิ่งของที่ต้องสูญเสียในการสู้รบนั้นคือสมบัติของเจ้า?”
“คือว่าเรื่องนั้น…” เมื่อเห็นการกระทำที่น่ารังเกียจของเจ้าอ้วน เขาแทบจะกระอักเลือดตายอยู่ตรงนั้น ณ ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและทรัพย์สินทั้งหมดถูกฉกฉวยไปแล้ว ตอนนี้เขากำลังเผชิญหน้ากับไขมันบัดซบผู้น่ารังเกียจ ไม่ว่าจะมองในมุมไหนก็ชัดเจนว่ามีแต่ความตายที่รออยู่!
แต่ชายหนุ่มผู้นี้เป็นถึงศิษย์แห่งสำนักพันปีศาจ แน่นอนว่าเขาย่อมมีปัญญาที่ดีพอสมควร ในพริบตาคล้ายคิดอะไรดีงามได้ จากนั้นจึงกล่าวออกมาอย่างอ่อนน้อม “ข้าขอถามศิษย์พี่ซ่งสักคำ บิดาของท่านคือผู้ที่จะได้รับการสืบทอดตำแหน่งจ้าวสำนักเสวียนเทียนใช่หรือไม่?”
“หืม?” ในขณะที่เขาได้ยินเจ้าเด็กนี่กล่าวถึงบิดาของเขา มันทำให้เขาตกใจไปชั่วครู่หนึ่ง จากนั้นเขาตอบกลับพร้อมขมวดคิ้วแน่น “อืมถูกต้องแล้ว บิดาของข้าเป็นเด็กกำพร้าถูกรับเลี้ยงโดยจ้าวสำนัก ทำไมเจ้าจึงถามเรื่องนี้?”
“ฮี่ฮี่!” ชายหนุ่มยิ้มสดใส จากนั้นเขาจึงกล่าวออกมาอย่างมีเลศนัย “ศิษย์พี่ซ่ง ครอบครัวของท่านสูญหายไปอย่างลึกลับเมื่อสิบปีที่แล้ว ท่านทราบรายละเอียดเชิงลึกหรือไม่?”
“หืม?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าพลันเปลี่ยนสีพร้อมคำรามออกมาเสียงดัง “อย่าบอกนะว่าเจ้ารู้!?”
“ฮี่ฮี่!” เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าเจ้าอ้วนเริ่มควบคุมตนเองไม่ได้ เขารู้ได้ทันทีว่านี่คือจุดอ่อน ตอนนี้เขาเลิกกังวลว่าเจ้าอ้วนจะสังหารอีกต่อไป จากนั้นเขากล่าวต่อด้วยความเริงร่า “ศิษย์พี่ซ่ง ตราบใดที่ท่านคืนสิ่งของพวกนั้นให้กับข้า และสาบานว่าจะปล่อยข้าไป ข้าสัญญาว่าจะเล่าทุกอย่างที่ข้ารู้ให้ท่านฟัง!”
ขณะที่เจ้าอ้วนได้ยินที่สหายผู้สารเลวตรงหน้ากล่าวเงื่อนไขเหล่านี้ออกมา เขารู้สึกหงุดหงิดและกล่าวตอบอย่างรังเกียจ “แน่นอนว่าทรัพย์สินของเจ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับข้า แต่ข้ากังวลว่าข้าจะได้รับเพียงข่าวเล็กน้อย!” เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าเจ้าอ้วนไม่ได้แยแสมากนัก เขารีบกล่าวทันที “เป็นไปไม่ได้ นอกเหนือจากข้าแล้วมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อีกทั้งหลังจากที่เราออกจากหุบเขาแห่งนี้ศิษย์ทั้งหมดจะกลับเข้าสำนักของตนเองเพื่อฝึกฝน และท่านไม่อาจค้นหาพวกเขาพบ! ศิษย์พี่ซ่ง ถ้าหากท่านละเลยโอกาสเช่นนี้ ท่านจะไม่พบเบาะแสอื่นอีกเลย! อย่าบอกนะว่าท่านไม่เต็มใจที่จะชำระแค้นให้กับบิดาของตนเองเพียงเพราะต้องการทรัพย์สมบัติของข้า?”
“เหอะ แน่นอนว่าสักวันข้าจะต้องค้นพบเรื่องราวของครอบครัวข้าอย่างแน่นอน สำหรับความลับพวกนั้นข้าจะต้องค้นพบมันได้แน่!” เจ้าอ้วนกล่าวพร้อมหัวเราะเสียงเบา “เหอะ ข้าต้องขออภัยที่ไม่อาจรับข้อเสนอ เรื่องราวเหล่านี้มันจะต้องถูกเปิดเผยในสักวัน!”
“เป็นไปไม่ได้ ข้าขอกล่าวอะไรกับท่านสักอย่างนะศิษย์พี่ซ่ง พวกเราที่เกิดมาในสำนักปีศาจนั้นพบความยากลำบากมามากมายนัก ถ้าคิดว่าเราจะส่งข้อมูลให้ท่านเพียงแค่ท่านจับพวกเรามาทรมาน! แม้ว่าท่านจะสังหารข้า ข้าก็จะไม่มีวันเอ่ยออกมา!” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเคร่งเครียด
“เหอะ อย่ากังวลไปเลย ข้าไม่ต้องใช้วิธีนั้นหรอก แต่เจ้าจะบอกกับข้าด้วยตนเอง!” ในขณะที่เจ้าอ้วนกล่าวเช่นนั้น เขาโบกมือขึ้น หลังจากนั้นปรากฏรูปร่างที่คลุมเครือขึ้นตรงหน้าของชายหนุ่ม
เนื่องจากเขามาจากสำนักพันปีศาจ เขาย่อมรู้ทันทีว่านี่คือรูปร่างไร้ตัวตนของภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้า ในขณะที่เขาเห็นเจ้าอ้วนเผยไผ่ตายออกมา เขารีบกล่าวออกมาอย่างกระวนกระวาย “ปีศาจเทวะ! นี่คือปีศาจเทวะในภาพแห่งหญิงงามทั้งเก้างั้นหรือ? สวรรค์ช่วย เจ้าครอบครองมันได้ยังไงกัน!”
“ข้าเพียงแค่สังหารสหายน้อยยู่เฟิงก็เท่านั้น!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “เอาล่ะ ตอนนี้ถึงเวลาที่เจ้าควรจะพักผ่อนได้แล้ว!” ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น ปีศาจเทวะเข้าควบคุมร่างกายของชายหนุ่มทันทีตามคำสั่งของเจ้าอ้วน
ชายหนุ่มร่ำไห้ออกมาทันที แต่มีเพียงเสียงเล็กน้อยเท่านั้นที่สามารถเล็ดลอดออกมาได้ จากนั้นเขาถูกควบคุมโดยสมบูรณ์ “นายท่าน ข้าสามารถควบคุมได้แล้ว!”
“ดีมาก ช่วยค้นหาความทรงจำเรื่องครอบครัวของข้าที!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาอย่างสบายอารมณ์
“ข้าค้นพบแล้ว!” นักบวชสาวตอบกลับอย่างรวดเร็ว “นี่คือเรื่องที่ข้าค้นพบ ในสองสามปีที่ผ่านมา เขาผู้นี้ได้พูดคุยกับอาจารย์ของเขา อาจารย์เล่าให้ฟังว่าได้เข้าซุ่มโจมตีผู้ฝึกตนสองคนที่กำลังจะได้รับสืบทอดให้เป็นจ้าวสำนักคนต่อไปของสำนักเสวียนเทียน!”
“ซุ่มโจมตีงั้นหรือ?” เจ้าอ้วนรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกประหลาด เห็นได้ชัดว่าสำนักพันปีศาจล่วงรู้มาก่อนว่าครอบครัวของเขาจะต้องไปที่นั่น จากนั้นพวกเขาจึงถูกสังหารอย่างไร้ร่องรอย โดยตอนนี้ยังไม่ทราบว่าพวกเขาทั้งสองหายไปไหน สำนักเสวียนเทียนระบุว่าพวกเขาตายตกไปเพราะหยกประจำตัวของพวกเขาแตกสลาย แต่ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม้แต่ร่างกายของพวกเขาก็ยังไม่มีใครค้นพบ
เจ้าอ้วนรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้คล้ายซับซ้อนยิ่งกว่าที่เห็น ภายในเทือกเขามีผู้ฝึกตนจำนวนมากที่ตายตกไปไม่ทราบสาเหตุ แม้ว่าเจ้าอ้วนอยากจะตรวจสอบเรื่องครอบครัวของตนมากเพียงใด แต่มันก็ไม่เคยมีเบาะแสเลย ในตอนนี้เขาไม่เคยคาดคิดว่าฆาตกรจะมาจากสำนักพันปีศาจ สิ่งที่ทำให้เจ้าอ้วนประหลาดใจมากที่สุดคือคำว่า ซุ่มโจมตี แน่นอนว่าคำนี้ทำให้เขาคิดได้เพียงอย่างเดียวว่าครอบครัวเขาถูกทรยศจากเหล่าคนใน ถ้าหากไม่ใช่เช่นนั้น คนจากสำนักพันปีศาจคงไม่อาจค้นพบตำแหน่งของพวกเขาได้
เมื่อคิดได้ ความโกรธของเจ้าอ้วนพวยพุ่ง เขาพยายามควบคุมอารมณ์ของตนไว้พร้อมถามออกไปอีกครั้ง “อาจารย์ของมันชื่ออะไร?”
“นามว่าเมิ่งซู ฉายาคือวิญญาณร้าย เป็นผู้ฝึกตนระดับจินตันขั้นกลาง!” นักบวชสาวตอบ
“เจ้าทราบหรือไม่ว่าสารเลวตัวนั้นมันอยู่ที่ใด?” เจ้าอ้วนถามออกไปอีกครั้ง
“ไม่ทราบ เรื่องนี้ได้ยินเพียงครั้งเดียวตอนอาจารย์เมาสุรา หลังจากนั้นอาจารย์ไม่เคยกล่าวสิ่งใดอีกเลย หลังจากเหตุการณ์นั้นอาจารย์ยังเตือนว่าไม่ให้เหล่าศิษย์แพร่กระจายเรื่องนี้ออกไป ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมา!” นักบวชสาวตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ปัญหาใหญ่ยักษ์กำลังจะล้มทับมัน!” เจ้าอ้วนกล่าวอย่างเคียดแค้น “ตอนนี้ข้ารู้เรื่องแล้ว ไอ้สารเลวนั่นไม่มีวันจะอยู่อย่างเป็นสุขอีกต่อไป!”
“จะว่าไป เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดพวกมันจึงต้องซุ่มโจมตีครอบครัวข้า?” เจ้าอ้วนพลันนึกบางสิ่งได้จึงถามออก “เป็นถึงผู้ฝึกตนระดับจินตัน เหตุใดมันจึงสนใจครอบครัวของข้า? มันพยายามซุ่มโจมตีมือใหม่ทั้งสองคนเพื่อสิ่งใดกัน? พวกมันไร้ซึ่งยางอายหรืออย่างไร การกระทำเช่นนี้เท่ากับการคุกคามสำนักเสวียนเทียน ไม่ว่าข้าจะมองอย่างไรมันดูไม่มีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้!”
นักบวชพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ร่างกายนี้ไม่ทราบสิ่งอื่นใดอีก!”
“งั้นก็ปล่อยมันไป ความดีงามของมันคือมอบข้อมูลให้แก่ข้า เท่านี้นับว่าเพียงพอแล้ว ให้มันเจ็บปวดน้อยที่สุดแล้วกัน!” เจ้าอ้วนกล่าวออกมาสั้น ๆ
“ได้ตามที่นายท่านต้องการ!” นักบวชสาวตอบกลับ จากนั้นนางควบคุมชายหนุ่มให้ยกมือขึ้นและโจมตีเข้าใส่ศีรษะ พร้อมกันนั้นเสียงระเบิดจึงดังออก
เจ้าอ้วนมองฉากนี้อย่างไม่แยแสพร้อมหยิบกระเป๋ามิติทั้งสามใบออกมา คล้ายโชคหลุดลอย ท่ามกลางผู้ฝึกตนทั้งสามกลับครอบครองผลไม้วิญญาณเพียงแค่สองผล
เรื่องนี้ยิ่งทำให้เจ้าอ้วนหดหู่ยิ่งกว่า แต่เขาปรับอารมณ์ของตัวเองอย่างรวดเร็วเมื่อนักบวชอีกคนได้ส่งข่าวใหม่มาให้ ตอนนี้นางสามารถควบคุมหานปิงเอ๋อได้แล้ว และทำให้ดาบเทวะจิตวิญญาณเหมันต์สงบลงอีกด้วย มันนอนนิ่งอยู่บนพื้นและหยุดการปกป้องหานปิงเอ๋อโดยสมบูรณ์
นักบวชสาวที่ควบคุมหานปิงเอ๋อได้กล่าวออกมาอย่างอ่อนโยน “นายท่าน ข้าทำสำเร็จแล้ว! ข้ารอท่านอยู่ที่นี่เพื่อให้ท่านมารื่นรมย์!” ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น นางใช้มือของตนเองเปิดเสื้อผ้าบริเวณหน้าอก เผยให้เห็นเนินขาวสองลูกที่ซ่อนอยู่ภายใน แม้ว่าขนาดของนางไม่อาจเทียบเท่ากับเหล่าปีศาจเทวะ แต่ความงามแบบสาวแรกรุ่นนั้นน่าหลงใหลเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นหานปิงเอ๋อซึ่งจัดอยู่ในบุคคลชั้นสูง มันทำให้เจ้าอ้วนรู้สึกตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
พอเจ้าอ้วนเห็นดังนั้น ก็รีบพุ่งเข้าหาโดยทันที คล้ายได้รับอิสระภาพแห่งกามอารมณ์ เจ้าอ้วนใช้ริมฝีปากเพลิดเพลินไปกับร่างกายที่งดงามอย่างเต็มที่
กลิ่นหอมจากร่างของนางทำให้เจ้าอ้วนอารมณ์พลุ่งพล่านจนถึงที่สุด คลื่นแห่งความปรารถนาอัดแน่นเต็มท้องของเขา ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้ไม่อาจบรรยายออกมาได้
ลมหายใจที่หอบอย่างหนักทำให้เจ้าอ้วนไม่สามารถควบคุมตนเองได้อีกต่อไป เขาฉีกเสื้อผ้าทั้งหมดของนางออก ร่างกายที่งดงามอย่างไร้ที่ติถูกเปิดเผยอยู่ตรงหน้า เจ้าอ้วนได้พบหญิงงามมากมายหลายคนในช่วงชีวิตที่ผ่านมา แต่ไม่มีผู้ใดบริสุทธิ์เช่นนี้ ร่างกายของนางเปรียบกับเทพธิดาที่ร่วงหล่นจากสรวงสวรรค์ นี่คือสิ่งที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน
ในขณะนั้นเจ้าอ้วนเสียการควบคุมตนเองอย่างสมบูรณ์ เขาคำรามพร้อมเดินหน้ากระทำการเช่นนั้นอย่างเต็มกำลัง มือและปากของเขาไม่ว่างจะทำสิ่งอื่นใดนอกจากคุกคามร่างกายอันงดงาม อีกทั้งเหล่านักบวชสาวยังมาช่วยเจ้าอ้วนถอดเสื้อผ้าเปลี่ยนให้เขากลายเป็นพยัคฆ์ไร้เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว
แต่ในขณะที่เขากำลังจะใช้อาวุธพิเศษเพื่อจัดการกับนาง มันกลับยากลำบากเพราะนี่คือครั้งแรกของหานปิงเอ๋อ แต่แล้วกลับมีภาพปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา นั่นคือภาพของหญิงสาวที่งดงามกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ศิษย์พี่ซ่ง ให้อภัยนางแม้ว่านางจะทำผิดต่อท่าน!”
เจ้าอ้วนตื่นขึ้นจากไฟแห่งราคะ เพราะนั่นคือภาพสุดท้ายที่ฉุ่ยจิ้งทิ้งไว้ เขาส่ายหัวพร้อมตบหน้าตนเองและกล่าวอย่างขำขัน “โอ้ ข้าทำไม่ได้! แม้ว่าข้าจะมีความแค้นกับสตรีนางนี้ แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ดีหากข้าจะข่มขืนนางโดยเหตุผลเพียงเท่านี้ ข้าทำไม่ได้ ถ้าหากทำเช่นนั้นข้าคงไม่ต่างจากเหล่าอสูรกาย!” เมื่อเห็นว่าเจ้าอ้วนหยุดมือลง ปีศาจเทวะทั้งเก้าอยู่ในสภาวะมึนงงไปวูบ หนึ่งในนั้นถามออกมา “นายท่าน นางก็เป็นหญิงสาวหรือไม่ใช่? แล้วมันจะเกิดสิ่งใดขึ้นถ้าหากท่านข่มขืนนาง มันจะสร้างปัญหาใหญ่งั้นหรือ?”
“อย่าบอกนะว่านายท่านกลัวปัญหาที่จะตามมาในอนาคต? ท่านไม่ต้องกังวล พวกเราจะลบความทรงจำของนาง อีกทั้งเรายังสามารถทำให้นางเงียบได้ตลอดชีวิต เท่านี้ก็จะไม่มีผู้ใดทราบเรื่องแล้ว นายท่านไม่ต้องกังวลสิ่งใด!”
“ไม่ใช่!” เจ้าอ้วนส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า “ข้าไม่ได้กลัวปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ข้าเกรงว่าข้าจะไม่สามารถตอบตนเองในอนาคตต่างหาก พวกเราล้วนแต่เป็นผู้ฝึกตนที่มีอนาคตอันสดใสรออยู่ ถ้าหากข้าไม่สามารถผ่านการทดสอบนี้ได้ ข้าคงจะต้องถูกทำลาย! อีกทั้งข้าคงไม่อาจฝันถึงอนาคตอันสวยงามได้!”
ในขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาลุกขึ้นพร้อมกับแต่งตัว “ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงเท่านี้! แม้ว่าซ่งจงจะไม่ได้เต็มไปด้วยพรสวรรค์ แต่ข้าจะไม่กระทำตนน่ารังเกียจเช่นนี้เด็ดขาด ความแค้นทั้งหมดสิ้นสุดลงแล้ว!”
“จบลงเท่านี้?” เหล่าหญิงสาวถามออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “นายท่าน นางแทบจะทำให้ท่านพิการ! ท่านจะปล่อยนางไปแบบนั้นได้อย่างไรกัน?”
“ใช่แล้ว!” สตรีนางอื่นเห็นด้วยพร้อมถามกลับ “แม้ว่าท่านจะไม่ข่มขืนนาง แต่นางควรต้องตอบแทน!”
“ตอบแทน?” เมื่อเจ้าอ้วนได้ยินเช่นนั้น เขาขมวดคิ้วพร้อมถามต่อ “ยังไงกันล่ะ?”
“เหตุใดนายท่านไม่ให้พวกเราจัดการเสียล่ะ?” จากนั้นเหล่าปีศาจเทวะแนะนำแผนการให้กับเจ้าอ้วน
เดิมทีเจ้าอ้วนมีปมในใจกับหานปิงเอ๋อเป็นการส่วนตัว แต่เขาไม่อยากให้เรื่องราวเลยเถิดเพราะการแก้แค้น เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้นดวงตาของเขาสว่างขึ้นมาพร้อมคิดกับตนเอง ‘นี่เป็นแผนที่ดี มันทำให้ข้าได้ระบายความโกรธได้บ้าง อีกทั้งยังไม่ใช่เรื่องราวใหญ่โตอีกด้วย’
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เจ้าอ้วนพยักหน้าและยอมรับแผนของเหล่าปีศาจเทวะ หลังจากนั้นเขาหยิบเอาชุดชั้นในของนางออกมาพร้อมละสายตาจากร่างกายของนางอย่างไม่เต็มใจนัก เขาหันหลังพร้อมกับถอนหายใจ แม่มดเหล่านี้จะจัดการให้เขาเองโดยที่เขาไม่ต้องทำสิ่งใด สองชั่วโมงถัดมาหานปิงเอ๋อตื่นขึ้น นางรู้สึกว่าได้รับความเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกายโดยเฉพาะร่างกายส่วนล่าง นางรีบลืมตาขึ้นพร้อมกับตรวจสอบความเจ็บปวดของตนเองทันที
ในขณะนั้นเองนางพบว่าตนเองนอนเปลือยเปล่าอยู่กับพื้น บนร่างกายที่ขาวราวกับหิมะของนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ โดยเฉพาะหน้าอกคู่นั้นของตนที่เต็มไปด้วยรอยฟันมากมาย! นอกจากนั้นสิ่งที่ทำให้หานปิงเอ๋อรู้สึกโกรธจัดในตอนนี้คือความเจ็บปวดที่บริเวณนั้นของตนเอง
หญิงสาววัยแรกรุ่นจะเข้าใจเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร ในเมื่อนางไม่เคยพบเจอมันมาก่อน? สิ่งแรกที่นางคิดคือนางได้สูญเสียความบริสุทธิ์ของตนเอง มันถูกทำลายโดยสัตว์ร้ายบางตน ด้วยความโกรธจัด ทำให้นางละเลยสิ่งเล็กน้อยที่ว่าเลือดบนบริเวณนั้นมันไม่ใช่ของนาง
สิ่งเหล่านี้ถูกละเลยเพียงเพราะความโกรธ หานปิงเอ๋อรู้สึกคับแค้นใจอย่างยิ่ง นางเป็นถึงศิษย์ผู้แข็งแกร่งที่สุดภายในหอเฉวียนจี้ อีกทั้งไม่เคยเผยจุดอ่อนกับผู้ใดมาก่อน ตอนนี้สิ่งที่นางทำได้คือลุกขึ้นและล้างคราบเลือดออกช้า ๆ พร้อมกับแต่งตัวใหม่อีกครั้ง นางหยิบดาบเทวะจิตวิญญาณเหมันต์ขึ้นมาพร้อมแตะเบา ๆ ด้วยจิตสังหารที่เต็มเปี่ยม “ร่างกายที่ไร้ตัวตนของภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้างั้นหรือ ยู่เฟิงจากสำนักพันปีศาจและเหล่าปีศาจเทวะของมันสินะ ข้าจะทำให้เจ้ากลายเป็นศพไร้ญาติ!”