บทที่ 1548 มรดกที่แท้จริงสวรรค์พิภพ

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1548 มรดกที่แท้จริงสวรรค์พิภพ

แปลโดย iPAT

 

กระทั่งฟงจิวเก้อยังมึนงงเมื่อเห็นวิญญาณสติปัญญา

 

นี่คือวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า!

 

มันอยู่ในตำนานมนุษย์คนแรก มันเป็นวิญญาณหลักของเทพอมตะกลุ่มดาว มันเป็นที่รู้จักของทุกคน แต่ผู้ใดจะคิดว่ามันจะอยู่ที่นี่และอยู่ต่อหน้าฟงจิวเก้อในเวลานี้

 

“แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยามีวิญญาณสติปัญญาอยู่จริงๆ!” ฟงจิวเก้อตกใจมากและไม่สามารถควบคุมตนเอง

 

แต่ไม่นานเขาก็สงบจิตใจลง

 

ดวงตาของเขาส่องประกายสว่างไสว เขาตรวจสอบวิญญาณสติปัญาอย่างใกล้ชิดและพบว่ามันเป็นวิญญาณที่ทรงพลังมาก!

 

ความคิดหนึ่งเข้าครอบงำจิตใจของฟงจิวเก้อ นั่นคือนำวิญญาณสติปัญญาระดับเก้าออกไป!

 

ท่าไม้ตายอมตะเพลงรับสมบัติ!

 

เขากระตุ้นใช้ท่าไม้ตายนี้ด้วยพลังทั้งหมด กลิ่นอายระดับแปดปะทุขึ้น

 

เพลงรับสมบัติสามารถช่วยฟงจิวเก้อปรับแต่งวิญญาณอมตะป่าได้โดยตรง มันเป็นเพลงที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่สงบ

 

ขณะที่เขาร้องเพลง วิญญาณสติปัญญาเริ่มเคลื่อนไหว

 

“วิญญาณสติปัญญาระดับเก้า!?” ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์รู้สึกตกใจมากเมื่อตระหนักถึงสิ่งนี้

 

วิญญาณสติปัญญาถูกซ่อนไว้ที่หุบเขาเหล่านี้โดยจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ทั้งสามเผ่าพันธุ์เป็นคนนอก พวกเขาไม่เคยรู้เรื่องนี้

 

แต่ตอนนี้ฟงจิวเก้อได้ทำลายสภาพแวดล้อมและเผยการคงอยู่ของวิญญาณสติปัญญาออกมา

 

“เราไม่สามารถปล่อยให้เขานำวิญญาณสติปัญญาออกไป! ขัดขวางเขาเร็วเข้า!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยากรีดร้องและออกคำสั่งด้วยความวิตกกังวล

 

เขากล่าวเสริม “แต่ระวัง อย่าทำลายมัน!”

 

แม้เขาจะไม่เตือน แต่ผู้อมตะทั้งหมดก็เข้าใจถึงความสำคัญของวิญญาณอมตะระดับเก้าเป็นอย่างดี

 

แต่การขัดขวางฟงจิวเก้อโดยไม่ส่งผลกระทบต่อวิญญาณสติปัญญาที่อยู่ใกล้ๆ มันเป็นเรื่องที่ยากลำบาก

 

ผู้อมตะเผ่ามนุษย์กลายพันธุ์ต้องควบคุมค่ายกลวิญญาณอย่างเต็มที่เพื่อโจมตีฟงจิวเก้อ

 

ฟงจิวเก้อคำรามขณะกระตุ้นใช้นักรบเพลง

 

นักรบเพลงรับสมบัติบินเข้าไปหาวิญญาณสติปัญญาขณะที่นักรบเพลงอื่นๆช่วยป้องกันการโจมตี

 

วิญญาณสติปัญญาสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างรวดเร็ว สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอดทำให้มันบินหนีไป

 

นักรบเพลงรับสมบัติออกไล่ล่าแต่ยังไม่สามารถทำสิ่งใด

 

เหตุการณ์นี้ทำให้หัวใจของฟงจิวเก้อจมดิ่งลง วิญญาณสติปัญญาเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้าแต่เพลงรับสมบัติเป็นเพียงท่าไม้ตายอมตะระดับแปด มันไม่ส่งผลกระทบต่อวิญญาณสติปัญญา

 

‘หากไม่ได้รับก็ต้องทำลาย!’ ความคิดนี้เกิดขึ้นในใจของฟงจิวเก้อก่อนที่เขาจะปฏิเสธมันทันที นี่คือวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า การทำลายมันคือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่

 

นอกจากนั้นมันยังเป็นวิญญาณหลักของเทพอมตะกลุ่มดาว หากเขาได้รับมัน มันจะเป็นประโยชน์ต่อเขาเป็นอย่างมาก

 

ฟงจิวเก้อไม่ยินดียอมแพ้

 

“หยุด!” ฟงจิวเก้อพุ่งเข้าไปหาวิญญาณสติปัญญา

 

วิญญาณสติปัญญาบินอย่างรวดเร็วแต่ฟงจิวเก้อก็ไล่ล่าอย่างไม่ลดละ

 

วิญญาณสติปัญญารู้สึกถึงภัยคุกคามจากฟงจิวเก้อ ดังนั้นมันจึงปล่อยแสงแห่งปัญญาออกมา

 

แสงแห่งปัญญา!

 

ฟงจิวเก้อถูกแสงแห่งปัญญาปกคลุมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในทันที ความคิดนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นในใจของเขา สติปัญญาของเขาพุ่งสูงขึ้น สายตาของเขากลายเป็นเฉียบแหลม

 

คำถามและปัญหาทั้งหมดในการบ่มเพาะของเขากำลังได้รับการแก้ไข แม้เขาจะไม่ได้รับคำตอบทันที แต่ปัญหาคอขวดที่สำคัญมากมายก็ถูกทำลายไปอย่างง่ายดาย

 

“โอ้ ไม่!” ฟงจิวเก้อเป็นตัวตนในตำนาน หลังจากผ่านไปชั่วครู่ เขาก็สัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติ เขากัดลิ้นและพยายามบังคับตนเองให้ถอยห่างออกไป

 

หลังจากล่าถอยออกมา เขาทำได้เพียงมองวิญญาณสติปัญญาหลบหนีไปเท่านั้น

 

“ช่างยอดเยี่ยมนัก เพียงช่วงเวลาสั้นๆ อายุขัยของข้าก็ถูกกลืนกินไปมากแล้ว!” ตอนนี้เส้นผมของฟงจิวเก้อเปลี่ยนเป็นสีขาวไปอย่างสมบูรณ์

 

“ภารกิจในครั้งนี้คือการจับตัวฟางเจิ้งและยึดครองภูเขาตงฮัน นี่เป็นคำสั่งที่ได้รับมาจากเทพธิดาจื่อเว่ย แต่ผู้ใดจะคิดว่ามีวิญญาณสติปัญญาอยู่ที่นี่ ข้าได้พยายามเต็มที่แล้วแต่ไม่สามารถนำมันมาได้ แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยายังไม่สามารถปรับแต่งมัน มิฉะนั้นพวกเขาคงทำไปนานแล้ว!”

 

ความคิดของฟงจิวเก้อเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

 

วิญญาณอมตะทุกดวงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นของพวกมันเอง

 

วิญญาณอมตะป่าดึงดูดผู้อมตะเสมอ

 

โดยเฉพาะเมื่อวิญญาณอมตะป่าดวงนี้เป็นวิญญาณสติปัญญาระดับเก้า!

 

“หากพวกเขาปรับแต่งวิญญาณสติปัญญา ข้าคงไม่สามารถฉกชิงมันได้ แต่ตอนนี้แตกต่างออกไป ข้าต้องกลับไปแจ้งวังสวรรค์และนิกายเกี่ยวกับเรื่องนี้ คราวหน้าที่เราบุกโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เราต้องนำมันกลับไป!”

 

ฟงจิวเก้อสูดหายใจลึก เขามองไปที่วิญญาณสติปัญญาด้วยความปรารถนาก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

ท่าไม้ตายอมตะนี้ใช้วิญญาณท่องแดนอมตะระดับเจ็ดเป็นแกนกลาง มันมีชื่อว่า นำพามนุษย์ มันถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งห้วงมิติที่ยิ่งใหญ่ เหลียงเหลียง ฟงจิวเก้อไม่คุ้นเคยกับมันมากนักแต่มันก็มีประสิทธิภาพสูงมาก

 

มันสามารถขนสงผู้คนไปที่ใดก็ได้ในโลกใบนี้

 

“วูบ…”

 

ด้วยเสียงอันแผ่วเบา ฟงจิวเก้อหายไป ณ จุดเกิดเหตุ

 

หลังจากชั่วครู่ยักษ์สวรรค์ก็มาถึง

 

“บัดซบ! ฟงจิวเก้อหนีไปแล้ว! สิบนิกายโบราณของภาคกลาง ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไป!” จิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยามองแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับความเสียหายและเต็มไปด้วยความโกรธ

 

ภาคใต้ ในเขตแดนอมตะเขาวงกตโคลนทราย

 

ลั่วเว่ยหยินถอนหายใจยาว

 

ผ่านไปสามชาติภพแต่ฟางหยวนยังไม่กลับใจ

 

“ข้าคิดผิดไป”

 

“ข้าคิดว่าความเกลียดชังและความโกรธเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟางหยวนกระทำความชั่ว”

 

“แต่ความจริงก็คือเขามีอารมณ์มากมาย เขาไม่ได้ขาดสิ่งใด แม้เขาจะไล่ล่าความแข็งแกร่ง แต่เขาก็ไม่ได้หมกมุ่นอยู่กับมัน”

 

“สิ่งที่ผลักดันให้เขาทำเช่นนี้คือเป้าหมายของเขา เป้าหมายนี้ฝังรากลึกอยู่ในหัวใจของเขา แม้จะผ่านไปกี่ร้อยชาติ มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง”

 

“คนผู้นี้ไม่สามารถแก้ไข”

 

“ท่านอาจารย์…” เย่ฟานพึมพำเบาๆ

 

ในเวลานี้ไม่เพียงเขาแต่กระทั่งเฉิงซินซื่อและคนอื่นๆก็ตื่นขึ้นแล้ว

 

ทุกคนตกอยู่ในความมึนงงหลังจากผ่านไปสามชาติภพในอาณาจักรแห่งความฝัน พวกเขากำลังลิ้มรสความรู้สึกอันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

 

ลั่วเว่ยหยินมองไปรอบๆและหยุดสายตาที่เฉิงซินซื่อ

 

ดวงตาของนางแดงก่ำ นางเกือบร้องไห้ ความโศกเศร้าของนางปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน นางมีความผูกพันทางอารมณ์กับฟางหยวนอย่างลึกซึ้งทั้งสามชาติภพ

 

ลั่วเว่ยหยินลอบพยักหน้าอย่างลับๆก่อนจะกล่าวกับทุกคน “ข้าล้มเหลว ปีศาจตนนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง เขากำลังจะแหกคุกและหลบหนี ไปกันเถอะ”

 

เย่ฟานตกใจ “ท่านอาจารย์ เรามีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจน”

 

ลั่วเว่ยหยินเผยรอยยิ้มขมขื่น “ข้าพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ไปกันเถอะ”

 

ผู้ใช้วิญญาณระดับมนุษย์รู้สึกสับสนขณะที่ไท่เมี่ยนเฉินและผู้อมตะตระกูลอี้ทั้งสองมีข้อสงสัย

 

ไท่เมี่ยนเฉินถามโดยตรง “ท่านแซ่ลั่วและเชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งปฐพี ท่านเป็นผู้สืบทอดมรดกที่แท้จริงของเทพอมตะสวรรค์พิภพเช่นนั้นหรือ?”

 

ลั่วเว่ยหยินพยักหน้า “นั่นคือข้า”

 

“เป็นเช่นนี้” ผู้อมตะตระกูลอี้ถอนหายใจ พวกเขาแสดงความเคารพต่อลั่วเว่ยหยินทันที

 

พวกเขาไม่สงสัยคำกล่าวของลั่วเว่ยหยิน

 

วิธีการต่อสู้ของลั่วเว่ยหยินเหมือนกับเทพอมตะสวรรค์พิภพ เขามีทักษะในการวางกับดักและเปลี่ยนแปลงศัตรู นี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเทพอมตะสวรรค์พิภพอย่างชัดเจน

 

ท่ามกลางผู้อมตะระดับเก้าทั้งหมด เทพอมตะสวรรค์พิภพเป็นคนใจดีและมีเมตตาที่สุด เขารักษาโลกใบนี้ด้วยตัวเขาเองเพียงผู้เดียวและสามารถหยุดความวุ่นวายหลังจากยุคของเทพปีศาจจิตวิญญาณ

 

แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เทพอมตะสวรรค์พิภพกลับไม่ได้เข้าร่วมกับวังสวรรค์ เขาอยู่ที่ภาคใต้และกระทั่งทิ้งมรดกที่แท้จริงสวรรค์พิภพไว้ที่นี่