TQF:บทที่ 612 อดีตตระกูลฟาง (4)
“หา….”
ผู้จัดการได้สติกลับมาและเห็นฟางซูหยุนพยักหน้าใส่เขา ผู้จัดการที่ปิติอยู่ในใจรีบปาดน้ำตาออกพร้อมกล่าวกับเห้อไป๋ยี่ “มี มีตึกนอน ข้าจะลงทะเบียนให้ทุกท่านเดี๋ยวนี้”
ผู้จัดการรีบลงทะเบียนให้พวกนาง ก่อนจะนำทุกคนไปที่ตึกนอนด้านหลังด้วยตัวเอง
เมื่อพวกนางจากไปแล้วทุกคนก็เริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องที่สาวสวยทั้ง 3 เมื่อกี้เป็นใครมาจากไหน ทำไมผู้จัดการโรงเตี๊ยมมั่วเซวียนถึงให้ความสำคัญขนาดนี้
คนทั้งชิงยางรู้ว่าโรงเตี๊ยมมั่วเซวียนเป็นธุรกิจของตระกูลฟาง ผู้จัดการก็เป็นคนของตระกูลฟาง คนที่ทำให้ผู้จัดการเสียอาการขนาดนี้ได้หรือว่าจะเป็นคนของตระกูลฟาง หรืออาจจะเป็นแขกของตระกูลฟาง
ทุกคนคาดเดาไปต่างๆนาๆ แขกบางคนที่มั่นใจในตัวเองก็เริ่มแต่งเรื่องแต่งราวขึ้น ข่าวซุบซิบก็เริ่มแพร่หลายออกไป
ผู้จัดการพาพวกนางไปยังตึกนอนที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ก่อนจะคุกเข่าลงหน้าฟางซูหยุนทันที พูดสะอึกสะอื้น “คุณหนู ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว ท่านกลับมาแล้ว นายท่านและฮูหยินรอท่านมานานเหลือเกิน….”
“อาเสียง รีบลุกขึ้นเร็วอาเสียง ท่านลุกขึ้นเถอะ ท่านพ่อท่านแม่ข้าเป็นอย่างไรบ้าง” ฟางซูหยุนเองก็เสียอาการเช่นเดียวกัน แม้นางจะมานอนที่โรงเตี๊ยมมั่วเซวียนก่อนชั่วคราว แต่นางก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอพ่อบ้านที่เห็นตัวเองมาตั้งแต่เด็ก”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองหน้ากับหยูเฮงน้อย ทั้ง 2 ยืนอยู่ข้างๆอย่างว่านอนสอนง่าย แกล้งทำเป็นล่องหนอยู่
ส่วนเห้อไป๋ยี่เพิ่งจะออกไปสั่งอาหารให้พวกนาง
ผู้จัดการเช็ดน้ำตาพลางลุกขึ้น “คุณหนู หลังจากที่ท่านหายตัวไป นายท่านและฮูหยินก็เสียใจอย่างที่สุดจนป่วยหนัก สายของนายท่านรองจึงฉวยโอกาสนี้ชิงอำนาจส่วนใหญ่ในมือนายท่านไป ผ่านไปไม่นานนายท่านเฒ่าก็ถูกส่งไปช่วยลูกศิษย์ในตระกูลเรา แต่กลับถูกลอบฆ่าโดยคนของสำนักมาร หลังจากที่เสียการคุ้มครองจากนายท่านเฒ่าไป นายท่านและฮูหยินก็ยิ่งถูกรังแกจากนายท่านรอง นายท่านสาม และนายท่านสี่”
“อำนาจในมือนายท่านก็ถูกชิงไปจนหมด หลายปีหลังจากนั้นในระหว่างการแข่งขันภายในตระกูล คุณชายก็ถูกวางยา และในช่วงที่กำลังแข่งอยู่ก็….”
“ก็ยังไงอาเสียง น้องชายข้าเป็นอย่างไรบ้าง” ฟางซูหยุนสีหน้าเปลี่ยน น้องชายของนางอายุน้อยกว่า 7-8 ปี ตัวเองรักและตามใจน้องมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้มาได้ยินว่าน้องชายตัวเองถูกคนอื่นทำร้าย จะไม่ให้ร้อนใจได้อย่างไร
อาเสียงเช็ดน้ำตาและมองคุณหนูตรงหน้าที่ร้อนรนใจ ทั้งปลื้มปริ่มและเสียใจ “คุณหนู ตันเถียนคุณชายถูกทำลาย ขาก็ถูกตีหัก จึง…”
“อะไรนะ…”
ฟางซูหยุนตกใจจนถอยหลังไปก้าวนึง พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ”ใคร ใครกันที่ทำเรื่องโหดร้ายขนาดนี้ อาเสียง ใครกัน”
“คุณหนู คือ คุณชายใหญ่ของบ้านนายท่านสาม คุณชายฟางจื้อหมิง”
“ไอ้ระยำ…”
ฟางซูหยุนที่กำลังโมโหคำรามเสียงดัง ราวกับฟ้าที่ผ่าลงมา อาเสียงที่เสียใจอยู่ก็สะเทือนจนถอยหลังไปเพราะเสียงนี้
เขาเบิกตากว้างมองคุณหนูอย่างตกตะลึง ลมปราณขนาดนี้เกรงว่าจะแกร่งกว่าเจ้าพวกอาจารย์ปู่ในตระกูลอีก
ไม่นานนักอาเสียงก็มีสีหน้าดีใจ มองนางด้วยความปิติ “คุณหนู ท่าน วิทยายุทธของท่าน…”
“ปู่เสียง วิทยายุทธของท่านย่าอยู่ระดับปรากฏเทพเทวาแล้ว” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตอบด้วยรอยยิ้ม
“อะไรนะ ปรากฏเทพเทวา…”
อาเสียงอึ้งไป ปรากฏเทพเทวาเชียวนะ ต่อให้เป็นที่ชิงยางก็เป็นการมีอยู่ระดับเทพเจ้า คุณหนูเป็นถึงปรากฏเทพเทวาแล้ว ตอนนั้นที่นางหายตัวไปก็ยังเป็นแค่บรรลุราชันย์จักพรรดิ์เท่านั้นเอง
เมื่อได้สติกลับมา เขาก็มองไปที่หญิงสาวที่หน้าเหมือนกับคุณหนูเมื่อหลายสิบปีก่อนเป๊ะพลางถามด้วยความทึ่ง “คุณหนูผู้นี้คือ…”
“ปู่เสียง ข้าชื่อว่าเฉิงเสี่ยวเสี่ยว เป็นหลานสาวคนโตของท่านย่า ท่านย่ายังมีหลานสาวอีกคนหนึ่ง แต่นางอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ตามท่านย่ากลับมาด้วย”
“ท่านเป็นหลานสาวของคุณหนูเหรอ”
อาเสียงรู้สึกรับไม่ได้นิดหน่อย ไม่คิดเลยว่าพริบตาเดียวคุณหนูในตอนนั้นก็ได้เป็นย่าคนซะแล้ว เขามองเฉิงเสี่ยวเสี่ยวอย่างเลื่อนลอย
“อาเสียง เสี่ยวเสี่ยวคือหลานสาวของข้า หน้าเหมือนข้าล่ะสิ” ฟางซูหยุนที่ขับไล่ความโกรธเคืองออกไปแล้วรีบดึงหลานสาวตัวเองมา บอกด้วยสีหน้าอ่อนโยน
“เหมือน เหมือนมากๆ เหมือนกับตอนคุณหนูยังสาวอยู่เป๊ะๆ” อาเสียงพยักหน้า มีรอยยิ้มขึ้นมาเมื่อมองไปยังย่าหลานทั้ง 2
“ใช่ เสี่ยวเสี่ยวน่ะเหมือนข้าที่สุดแล้ว”
ฟางซูหยุนก็มีรอยยิ้มเช่นเดียวกัน นางมีหลานสาว 2 คน แต่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเหมือนตัวเองที่สุด เฉิงหลานหลานหน้าเหมือนแม่นางลั่วหยูฉินมากกว่า และด้วยเหตุนี้นางจึงรู้สึกกับหลานสาวเหมือนเป็นลูกสาว
“คุณหนู ท่านจะกลับไปเมื่อไหร่” สายตาอาเสียงมองไปยังคนข้างๆ
ฟางซูหยุนสีหน้าเคร่งขรึมขึ้น กล่าวอย่างแค้นเคือง “ข้าอยากจะกลับไปตอนนี้ซะด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบ เชื่อว่าอีกไม่นานคนบางคนก็ต้องรู้ว่าข้ากลับมาแล้ว ข้าอยากจะเห็นว่าพวกเขาจะทำอย่างไรบ้าง”
“เรื่องนั้น…” อาเสียงไม่ค่อยมั่นใจ “คุณหนู ให้ข้าบอกนายท่านและฮูหยินมั้ย”
“ไม่ต้องหรอก พรุ่งนี้ข้าจะกลับไปหาท่านพ่อท่านแม่และน้องชายด้วยตัวเอง” คิดไปถึงชีวิตของท่านพ่อท่านแม่และน้องชายในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ใจของฟางซูหยุนก็เจ็บเหมือนโดนทิ่มแทง เจ็บจนนางหายใจไม่ออก
—————————-