ซย่าโหวฉิงเทียนได้ฟังคำพูดนี้ อดนึกถึงเรื่องราวของเชียนลั่วเฉิงและฉู่ฮองเฮาขึ้นมาไม่ได้
“เรื่องเช่นนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น!”
ซย่าโหวฉิงเทียนรั้งอวี้เฟยเยียนเข้ามาในอ้อมกอด แล้วกล่าวคำสาบานเมื่อครั้งที่เขาใช้โลหิตตนตั้งสัตย์สาบานออกมา
“พี่จะปกป้องเจ้า ดูแลเจ้า ทะนุถนอมเจ้า รักเจ้า!”
“พี่จะไม่ยอมให้เจ้าต้องได้รับความทุกข์ใดๆ ยิ่งจะไม่มีวันทรยศเจ้า!”
คำสัตย์สาบานของเขา อวี้เฟยเยียนยังมีท่าทีเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ทุกครั้งที่ได้เห็นหญิงสาวรอบกายนางหลั่งน้ำตาอย่างซาบซึ้งในคำสัตย์สาบานบุรุษของตน อวี้เฟยเยียนก็ยังเคยหัวเราะเยาะคนเหล่านั้นด้วยคิดว่าตนเองมีสติปัญญาครบถ้วน
บัดนี้ ตัวนางได้พบกับเหตุการณ์เฉกเช่นเดียวกันกับเขาเหล่านั้น ทว่านางกลับซาบซึ้งใจ
“ซย่าโหวฉิงเทียน ท่านอย่าได้ลืมสิ่งที่ท่านกล่าวมาในวันนี้! ข้าไม่ได้ใจกว้างอะไรมากมาย หากท่านทำเรื่องที่ผิดต่อข้า ไม่เพียงแต่จะเลิกกับท่านเท่านั้น ทั้งยังจะไม่ขออยู่ร่วมโลกกับท่านอีกด้วย ท่านก็รู้ดีว่าข้าเป็นหมอ วิธีการที่จะทรมานคนมีเยอะแยะถมเถไป! หากข้าท่านรังแกข้าล่ะก็ ข้าจะเอายาพิษทะลวงลำไส้ให้ท่านกิน ให้หัวใจท่านเน่าเฟะให้ปอดเน่าไม่เหลือ…”
อวี้เฟยเยียนก่นด่าออกมา
“แมวน้อยเด็กโง่!”
ซย่าโหวฉิงเทียนลูบไล้เส้นผมที่ปรกลงมาบริเวณหน้าผากอวี้เฟยเยียนแผ่วเบา
“พี่จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร…”
เจ้าต้องจากลาครอบครัว ลาจากบ้านเกิดเมืองนอนที่เจ้าเติบโตมาอยู่เคียงข้าพี่ แล้วพี่จะไม่ทะนุถนอมเจ้าได้อย่างไร! พี่จะทำร้ายเจ้าได้อย่างไร!
“เชื่อพี่!”
“อืม!”
อวี้เฟยเยียนพยักหน้าเบาๆ
ตอนนั้นเอง นางก็รู้สึกถึงความอุ่นร้อนบางอย่างกำลังวนเวียนอยู่ที่ท้องน้อยของนาง
เมื่อนางก้มหน้าลงไปดู อวี้เฟยเยียนก็พบว่าฝ่ามือใหญ่ของซย่าโหวฉิงเทียนวางอยู่บนท้องน้อยกับนางเขากำลังใช้พลังพิเศษโคจรพลังวัตร
หน้าร้อนอากาศร้อน แล้วคิดดูว่านำเตาร้อนมาวางบนท้องจะทรมานมากเพียงใดกันเล่า!
อวี้เฟยเยียนจับมือของซย่าโหวฉิงเทียนไปวางอีกด้าน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงรังเกียจ
“ร้อน!”
“ตี้อู่เฮ่ออีสอนพี่มาเช่นนี้!”
ซย่าโหวฉิงเทียนหาได้สนใจไม่ เขายังคงวางมือบนท้องของนางต่อไป
ร้อน ร้อน…
อวี้เฟยเยียนทำเฉกเช่นเดียวกันอีกครั้ง ทว่าคราวนี้มือนางกลับถูกพันธนาการไว้ จนขยับเขยื้อนไม่ได้
“ซย่าโหวฉิงเทียน ข้าเป็นหมอ ข้ารู้ว่าร่างกายแข็งแรงดี! อีกอย่างในตอนนี้อากาศร้อนขนาดนี้ จึงไม่ต้องการเจ้านี่สักหน่อย!”
ท่าทางอวี้เฟยเยียน ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนคิดไปว่าเป็นอาการเอาแต่ใจของเด็กหญิงตัวน้อย
เขาไม่อยากจะเห็นอวี้เฟยเยียนต้องเป็นเฉกเช่นที่ตี้อู่เฮ่ออีกล่าว ปวดจนต้องลงไปนอนกลิ้ง
สุดท้าย อวี้เฟยเยียนก็ยินยอมสงบลงภายใต้การบังคับขู่เข็ญของซย่าโหวฉิงเทียน ท้องน้อยถูกประคบร้อนมาทั้งบ่าย ร้อนจนเหงื่อโทรมกายราวกับถูกช้อนขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อนอย่างไรอย่างนั้น
ตี้อู่เฮ่ออี เจ้ากับข้าไม่จบกันเพียงแค่นี้แน่!
ก่อนนอนอวี้เฟยเยียนยังคาดโทษเขาไม่หยุด
เสียแรงที่ข้าคอยจับคู่เจ้าให้กับเชียนเยี่ยเสวี่ย เจ้ากลับสอนซย่าโหวฉิงเทียนจนเป็นเช่นนี้!
“เจ้าไม่ได้บอกเขาหรอกหรือว่า มีสตรีบางคนไม่ปวดท้องเมื่อมีระดู”
กระทั่งตี้อู่เฮ่ออีได้ล่วงรู้ชะตากรรมของอวี้เฟยเยียน ก็เอ่ยขอโทษไม่ขาดปาก
“ท่านพี่ซย่าโหว ข้าผิดเองที่บอกท่านไม่ชัดเจน สตรีบางคนที่ร่างกายแข็งแรงเพียงพอ จึงอาจจะไม่มีอาการปวดท้องเวลามีระดู”
“จริงหรือ”
ในที่สุดซย่าโหวฉิงเทียนก็ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ยังดีที่แมวน้อยไม่ต้องปวดท้องเวลามีระดู ดียิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น!
เพื่อที่จะไม่ให้ซย่าโหวฉิงเทียนกระทำการผิดพลาดซ้ำสอง ตี้อู่เฮ่ออีจึงเรียบเรียงหนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนวิเคราะห์แต่ละสถานการณ์โดยละเอียดชื่อว่า ‘คู่มือธรรมชาติของสตรี’ มอบให้กับซย่าโหวฉิงเทียน
เมื่อได้รับของขวัญชิ้นนี้ ซย่าโหวฉิงเทียนก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก ถึงกับให้สัญญาว่าจะช่วยเหลืออย่างแน่นอนหากตี้อู่เฮ่ออีต้องการ
ความบ้าบิ่นเหนือธรรมดาวิสัยของซย่าโหวฉิงเทียน ทำให้ตี้อู่เฮ่ออีได้เปิดหูเปิดตา
เขาไม่รู้เลยว่าคำสัญญานี้ของซย่าโหวฉิงเทียน จะช่วยเหลือการใหญ่ของเขาในภายหลัง!
ขุนนางที่ซย่าโหวจวินอวี่ส่งมาให้รับช่วงดูแลฉินจื้อต่อ ไม่นานก็เดินทางมาถึง
ด้วยเกรงว่าลูกสะใภ้ตนจะต้องเหน็ดเหนื่อย ซย่าโหวจวินอวี่จึงคัดเลือกขุนนางที่เชื่อใจได้ส่งมาช่วยอวี้เฟยเยียนดูแลจัดการเขตปกครองปรมาจารย์
ครั้งนี้ซย่าโหวจวินอวี่ยิ่งโปรดปรานในตัวอวี้เฟยเยียนเข้าไปอีก
ไม่ต้องเปลืองแรงแม้แต่ปลายก้อยก็สามารถยึดครองฉินจื้อเอาไว้ได้ สมแล้วที่เป็นลูกสะใภ้ของข้า!
ซย่าโหวจวินอวี่คุยโวเรื่องนี้ต่อหน้าเซี่ยงจิ้นไม่ใช่เพียงครั้งเดียว
ก่อนหน้านี้เขายังเป็นกังวลในเรื่องระดับวรยุทธ์ของซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนที่แตกต่างกันมากแล้วจะทำให้ลูกสะใภ้ของเขารังเกียจรังงอน
ใครจะคาดคิดว่านำทหารออกศึกในครั้งนี้ ซย่าโหวฉิงเทียนจะเผยฐานะจอมเทวาของตนออกมา
เจ้าลูกคนนี้ สร้างความประหลาดใจครั้งยิ่งใหญ่ให้กับซย่าโหวจวินอวี่นัก!
บุตรชายเขาคือจอมเทวาเชียวนะ!
คราวนี้ความกลัดกลุ้มกังวลใจของซย่าโหวจวินอวี่ก็คลายลงได้ในที่สุด
ลูกชายคือจอมเทวา ลูกสะใภ้คือปรมาจารย์ ถึงตอนนั้นเมื่อมีเจ้าตัวน้อย เขาจะต้องสืบทอดความเก่งกาจของพ่อแม่มา กลายเป็นยอดคนที่ไร้เทียมทานในใต้หล้าอย่างแน่นอน…
ซย่าโหวจวินอวี่จินตนาการเอาไว้อย่างสวยงาม!
จนแทบจะรอซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนกลับมาปิดประตูทำลูกหลังกลับจากต้าโจวไม่ไหว
ภาพชุนกงถูของเหอหม่านเฉิงก็วาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซย่าโหวจวินอวี่พึงพอใจเป็นอย่างมาก รอให้ลูกชายกลับมาเสียก่อนจะได้ใช้ชี้แนะเขาอย่างเต็มที่
ทางทิศใต้ พิชิตแคว้นซีเย่ว์เอาไว้ได้แล้ว!
ซย่าโหวจวินอวี่วางแผนเอาไว้แล้วว่า รอให้ประมุขอวี้กลับมาก็จะไปสู่ขออวี้เฟยเยียนทันที
เพื่อแสดงความจริงใจ เขาจะต้องเดินทางไปยังจวนจงอี้กงด้วยตัวเองเพื่อตั้งใจดื่มกับประมุขแห่งตระกูลสักสองสามจอก
ซย่าโหวจวินอวี่คิดเอาไว้อย่างสวยงาม ทว่าซย่าโหวฉิงเทียนกลับเขียนจดหมายตอบกลับมา ความว่าอากาศร้อนระอุ หนทางยาวไกล ไม่เหมาะที่จะเดินทางไกล รอให้อากาศเย็นสบายขึ้นสักหน่อยแล้วจึงจะเดินทางกลับต้าโจว จึงทำให้อารมณ์ฝ่าบาทดิ่งลงยังก้นเหว
ข้าคือพ่อแท้ๆ ของเขานะ! นี่ได้เมียแล้วลืมพ่อหรือนี่! คนหนึ่งจอมเทวา อีกคนปรมาจารย์ เดินทางกลับจากเขตปกครองปรมาจารย์ ใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น เหตุใดถึงไม่ยอมกลับมากันนะ!
เมื่อได้รับจดหมายจากซย่าโหวฉิงเทียน ซย่าโหวจวินอวี่ถึงกับร่ำไห้คร่ำครวญอย่างไร้ซึ่งหนทาง แลดูเศร้าสร้อยทุกข์ระทมอย่างที่สุด
เซี่ยงจิ้นที่อยู่ด้านข้างพลอยคอหดไหล่ลู่ไปด้วย ทว่าในใจกำลังพร่ำบอก
ว่าแต่ฝ่าบาท น้ำพระเนตรของพระองค์อยู่ที่ไหนกัน
เหตุใดหม่อมฉันถึงเห็นความสนุกสนานในแววพระเนตรพระองค์
พระองค์มิได้ทรงกำลังครุ่นคิดว่าท่านอ๋องและใต้เท้าอวี้หลัวช่าอยู่ทางโน้นกำลังบังเกิดเรื่องเกินเลยอยู่ใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ
ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นไปตามที่พระองค์ทรงคาดหวังไว้มิใช่หรือ
จริงดังที่คาด ซย่าโหวจวินอวี่โศกเศร้าเสียใจเพียงชั่วครู่ หลังจากนั้นดวงตาทั้งสองของเขาก็สว่างวาบ
“เซี่ยงจิ้น เจ้าว่าอวี้เฟยเยียนมีแล้วใช่หรือไม่ ตั้งครรภ์ในช่วงแรก ไม่เหมาะกับการนั่งรถม้าเดินทางไกล การหักโหมเกินไปไม่ดีต่อหญิงตั้งครรภ์…”
“ฝ่าบาททรงพระปรีชา!”
เซี่ยงจิ้นรู้ดีว่า การเป็นคนโปรดต่อหน้าพระพักตร์ เขาจะต้องยินดีในสิ่งที่ฝ่าบาททรงโปรดและเศร้าสร้อยเมื่อฝ่าบาททรงเป็นทุกข์
การคาดเดาที่อาจหาญของซย่าโหวจวินอวี่ เซี่ยงจิ้นที่รู้งานจึงรีบตามน้ำคล้อยตามในทันที
ดังนั้น ในสมองของทั้งนายและบ่าวเริ่มหยอกเย้าและจินตนาการถึงรูปร่างหน้าตาของเจ้าซาลาเปาน้อยทันที
เจ้าซาลาเปาน้อยที่นุ่มนิ่มไปทั้งตัวเอ๋ย…
“ไม่ได้! เช่นนี้ไม่ได้!”
ซย่าโหวจวินอวี่ลุกขึ้นยืนกำที่เคราของตนเองเดินวนไปวนมาที่ด้วยความร้อนใจอยู่ที่ห้องทรงอักษร
“ในเมื่อมีลูกมีแล้ว ฉะนั้นสิ่งที่ต้องตระเตรียมย่อมต้องมีมากมายทีเดียว! แม่นม หมัวมัวรับใช้ นางกำนัล เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งจำเป็น! ยังมีเสื้อผ้าตัวน้อยๆ รองเท้าคู่น้อยๆ สร้อยทอง กำไลวงน้อย ล้วนแต่ต้องตระเตรียมให้พร้อม!”