ตอนที่ 105-3 อวี้เฟยเยียนมีแล้วหรือ

จำนนรักชายาตัวร้าย

ซย่าโหวฉิงเทียนได้ฟังคำพูดนี้ อดนึกถึงเรื่องราวของเชียนลั่วเฉิงและฉู่ฮองเฮาขึ้นมาไม่ได้

 

 

“เรื่องเช่นนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนรั้งอวี้เฟยเยียนเข้ามาในอ้อมกอด แล้วกล่าวคำสาบานเมื่อครั้งที่เขาใช้โลหิตตนตั้งสัตย์สาบานออกมา

 

 

“พี่จะปกป้องเจ้า ดูแลเจ้า ทะนุถนอมเจ้า รักเจ้า!”

 

 

“พี่จะไม่ยอมให้เจ้าต้องได้รับความทุกข์ใดๆ ยิ่งจะไม่มีวันทรยศเจ้า!”

 

 

คำสัตย์สาบานของเขา อวี้เฟยเยียนยังมีท่าทีเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

 

 

ทุกครั้งที่ได้เห็นหญิงสาวรอบกายนางหลั่งน้ำตาอย่างซาบซึ้งในคำสัตย์สาบานบุรุษของตน อวี้เฟยเยียนก็ยังเคยหัวเราะเยาะคนเหล่านั้นด้วยคิดว่าตนเองมีสติปัญญาครบถ้วน

 

 

บัดนี้ ตัวนางได้พบกับเหตุการณ์เฉกเช่นเดียวกันกับเขาเหล่านั้น ทว่านางกลับซาบซึ้งใจ

 

 

“ซย่าโหวฉิงเทียน ท่านอย่าได้ลืมสิ่งที่ท่านกล่าวมาในวันนี้! ข้าไม่ได้ใจกว้างอะไรมากมาย หากท่านทำเรื่องที่ผิดต่อข้า ไม่เพียงแต่จะเลิกกับท่านเท่านั้น ทั้งยังจะไม่ขออยู่ร่วมโลกกับท่านอีกด้วย ท่านก็รู้ดีว่าข้าเป็นหมอ วิธีการที่จะทรมานคนมีเยอะแยะถมเถไป! หากข้าท่านรังแกข้าล่ะก็ ข้าจะเอายาพิษทะลวงลำไส้ให้ท่านกิน ให้หัวใจท่านเน่าเฟะให้ปอดเน่าไม่เหลือ…”

 

 

อวี้เฟยเยียนก่นด่าออกมา

 

 

“แมวน้อยเด็กโง่!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนลูบไล้เส้นผมที่ปรกลงมาบริเวณหน้าผากอวี้เฟยเยียนแผ่วเบา

 

 

“พี่จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร…”

 

 

เจ้าต้องจากลาครอบครัว ลาจากบ้านเกิดเมืองนอนที่เจ้าเติบโตมาอยู่เคียงข้าพี่ แล้วพี่จะไม่ทะนุถนอมเจ้าได้อย่างไร! พี่จะทำร้ายเจ้าได้อย่างไร!

 

 

“เชื่อพี่!”

 

 

“อืม!”

 

 

อวี้เฟยเยียนพยักหน้าเบาๆ

 

 

ตอนนั้นเอง นางก็รู้สึกถึงความอุ่นร้อนบางอย่างกำลังวนเวียนอยู่ที่ท้องน้อยของนาง

 

 

เมื่อนางก้มหน้าลงไปดู อวี้เฟยเยียนก็พบว่าฝ่ามือใหญ่ของซย่าโหวฉิงเทียนวางอยู่บนท้องน้อยกับนางเขากำลังใช้พลังพิเศษโคจรพลังวัตร

 

 

หน้าร้อนอากาศร้อน แล้วคิดดูว่านำเตาร้อนมาวางบนท้องจะทรมานมากเพียงใดกันเล่า!

 

 

อวี้เฟยเยียนจับมือของซย่าโหวฉิงเทียนไปวางอีกด้าน แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงรังเกียจ

 

 

“ร้อน!”

 

 

“ตี้อู่เฮ่ออีสอนพี่มาเช่นนี้!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนหาได้สนใจไม่ เขายังคงวางมือบนท้องของนางต่อไป

 

 

ร้อน ร้อน…

 

 

อวี้เฟยเยียนทำเฉกเช่นเดียวกันอีกครั้ง ทว่าคราวนี้มือนางกลับถูกพันธนาการไว้ จนขยับเขยื้อนไม่ได้

 

 

“ซย่าโหวฉิงเทียน ข้าเป็นหมอ ข้ารู้ว่าร่างกายแข็งแรงดี! อีกอย่างในตอนนี้อากาศร้อนขนาดนี้ จึงไม่ต้องการเจ้านี่สักหน่อย!”

 

 

ท่าทางอวี้เฟยเยียน ทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนคิดไปว่าเป็นอาการเอาแต่ใจของเด็กหญิงตัวน้อย

 

 

เขาไม่อยากจะเห็นอวี้เฟยเยียนต้องเป็นเฉกเช่นที่ตี้อู่เฮ่ออีกล่าว ปวดจนต้องลงไปนอนกลิ้ง

 

 

สุดท้าย อวี้เฟยเยียนก็ยินยอมสงบลงภายใต้การบังคับขู่เข็ญของซย่าโหวฉิงเทียน ท้องน้อยถูกประคบร้อนมาทั้งบ่าย ร้อนจนเหงื่อโทรมกายราวกับถูกช้อนขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อนอย่างไรอย่างนั้น

 

 

ตี้อู่เฮ่ออี เจ้ากับข้าไม่จบกันเพียงแค่นี้แน่!

 

 

ก่อนนอนอวี้เฟยเยียนยังคาดโทษเขาไม่หยุด

 

 

เสียแรงที่ข้าคอยจับคู่เจ้าให้กับเชียนเยี่ยเสวี่ย เจ้ากลับสอนซย่าโหวฉิงเทียนจนเป็นเช่นนี้!

 

 

“เจ้าไม่ได้บอกเขาหรอกหรือว่า มีสตรีบางคนไม่ปวดท้องเมื่อมีระดู”

 

 

กระทั่งตี้อู่เฮ่ออีได้ล่วงรู้ชะตากรรมของอวี้เฟยเยียน ก็เอ่ยขอโทษไม่ขาดปาก

 

 

“ท่านพี่ซย่าโหว ข้าผิดเองที่บอกท่านไม่ชัดเจน สตรีบางคนที่ร่างกายแข็งแรงเพียงพอ จึงอาจจะไม่มีอาการปวดท้องเวลามีระดู”

 

 

“จริงหรือ”

 

 

ในที่สุดซย่าโหวฉิงเทียนก็ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

 

ยังดีที่แมวน้อยไม่ต้องปวดท้องเวลามีระดู ดียิ่งกว่าสิ่งอื่นใดทั้งสิ้น!

 

 

เพื่อที่จะไม่ให้ซย่าโหวฉิงเทียนกระทำการผิดพลาดซ้ำสอง ตี้อู่เฮ่ออีจึงเรียบเรียงหนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนวิเคราะห์แต่ละสถานการณ์โดยละเอียดชื่อว่า ‘คู่มือธรรมชาติของสตรี’ มอบให้กับซย่าโหวฉิงเทียน

 

 

เมื่อได้รับของขวัญชิ้นนี้ ซย่าโหวฉิงเทียนก็ดีอกดีใจเป็นอย่างมาก ถึงกับให้สัญญาว่าจะช่วยเหลืออย่างแน่นอนหากตี้อู่เฮ่ออีต้องการ

 

 

ความบ้าบิ่นเหนือธรรมดาวิสัยของซย่าโหวฉิงเทียน ทำให้ตี้อู่เฮ่ออีได้เปิดหูเปิดตา

 

 

เขาไม่รู้เลยว่าคำสัญญานี้ของซย่าโหวฉิงเทียน จะช่วยเหลือการใหญ่ของเขาในภายหลัง!

 

 

ขุนนางที่ซย่าโหวจวินอวี่ส่งมาให้รับช่วงดูแลฉินจื้อต่อ ไม่นานก็เดินทางมาถึง

 

 

ด้วยเกรงว่าลูกสะใภ้ตนจะต้องเหน็ดเหนื่อย ซย่าโหวจวินอวี่จึงคัดเลือกขุนนางที่เชื่อใจได้ส่งมาช่วยอวี้เฟยเยียนดูแลจัดการเขตปกครองปรมาจารย์

 

 

ครั้งนี้ซย่าโหวจวินอวี่ยิ่งโปรดปรานในตัวอวี้เฟยเยียนเข้าไปอีก

 

 

ไม่ต้องเปลืองแรงแม้แต่ปลายก้อยก็สามารถยึดครองฉินจื้อเอาไว้ได้ สมแล้วที่เป็นลูกสะใภ้ของข้า!

 

 

ซย่าโหวจวินอวี่คุยโวเรื่องนี้ต่อหน้าเซี่ยงจิ้นไม่ใช่เพียงครั้งเดียว

 

 

ก่อนหน้านี้เขายังเป็นกังวลในเรื่องระดับวรยุทธ์ของซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนที่แตกต่างกันมากแล้วจะทำให้ลูกสะใภ้ของเขารังเกียจรังงอน

 

 

ใครจะคาดคิดว่านำทหารออกศึกในครั้งนี้ ซย่าโหวฉิงเทียนจะเผยฐานะจอมเทวาของตนออกมา

 

 

เจ้าลูกคนนี้ สร้างความประหลาดใจครั้งยิ่งใหญ่ให้กับซย่าโหวจวินอวี่นัก!

 

 

บุตรชายเขาคือจอมเทวาเชียวนะ!

 

 

คราวนี้ความกลัดกลุ้มกังวลใจของซย่าโหวจวินอวี่ก็คลายลงได้ในที่สุด

 

 

ลูกชายคือจอมเทวา ลูกสะใภ้คือปรมาจารย์ ถึงตอนนั้นเมื่อมีเจ้าตัวน้อย เขาจะต้องสืบทอดความเก่งกาจของพ่อแม่มา กลายเป็นยอดคนที่ไร้เทียมทานในใต้หล้าอย่างแน่นอน…

 

 

ซย่าโหวจวินอวี่จินตนาการเอาไว้อย่างสวยงาม!

 

 

จนแทบจะรอซย่าโหวฉิงเทียนและอวี้เฟยเยียนกลับมาปิดประตูทำลูกหลังกลับจากต้าโจวไม่ไหว

 

 

ภาพชุนกงถูของเหอหม่านเฉิงก็วาดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซย่าโหวจวินอวี่พึงพอใจเป็นอย่างมาก รอให้ลูกชายกลับมาเสียก่อนจะได้ใช้ชี้แนะเขาอย่างเต็มที่

 

 

ทางทิศใต้ พิชิตแคว้นซีเย่ว์เอาไว้ได้แล้ว!

 

 

ซย่าโหวจวินอวี่วางแผนเอาไว้แล้วว่า รอให้ประมุขอวี้กลับมาก็จะไปสู่ขออวี้เฟยเยียนทันที

 

 

เพื่อแสดงความจริงใจ เขาจะต้องเดินทางไปยังจวนจงอี้กงด้วยตัวเองเพื่อตั้งใจดื่มกับประมุขแห่งตระกูลสักสองสามจอก

 

 

ซย่าโหวจวินอวี่คิดเอาไว้อย่างสวยงาม ทว่าซย่าโหวฉิงเทียนกลับเขียนจดหมายตอบกลับมา ความว่าอากาศร้อนระอุ หนทางยาวไกล ไม่เหมาะที่จะเดินทางไกล รอให้อากาศเย็นสบายขึ้นสักหน่อยแล้วจึงจะเดินทางกลับต้าโจว จึงทำให้อารมณ์ฝ่าบาทดิ่งลงยังก้นเหว

 

 

ข้าคือพ่อแท้ๆ ของเขานะ! นี่ได้เมียแล้วลืมพ่อหรือนี่! คนหนึ่งจอมเทวา อีกคนปรมาจารย์ เดินทางกลับจากเขตปกครองปรมาจารย์ ใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น เหตุใดถึงไม่ยอมกลับมากันนะ!

 

 

เมื่อได้รับจดหมายจากซย่าโหวฉิงเทียน ซย่าโหวจวินอวี่ถึงกับร่ำไห้คร่ำครวญอย่างไร้ซึ่งหนทาง แลดูเศร้าสร้อยทุกข์ระทมอย่างที่สุด

 

 

เซี่ยงจิ้นที่อยู่ด้านข้างพลอยคอหดไหล่ลู่ไปด้วย  ทว่าในใจกำลังพร่ำบอก

 

 

ว่าแต่ฝ่าบาท น้ำพระเนตรของพระองค์อยู่ที่ไหนกัน

 

 

เหตุใดหม่อมฉันถึงเห็นความสนุกสนานในแววพระเนตรพระองค์

 

 

พระองค์มิได้ทรงกำลังครุ่นคิดว่าท่านอ๋องและใต้เท้าอวี้หลัวช่าอยู่ทางโน้นกำลังบังเกิดเรื่องเกินเลยอยู่ใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ

 

 

ถ้าเป็นเช่นนั้นก็เป็นไปตามที่พระองค์ทรงคาดหวังไว้มิใช่หรือ

 

 

จริงดังที่คาด ซย่าโหวจวินอวี่โศกเศร้าเสียใจเพียงชั่วครู่ หลังจากนั้นดวงตาทั้งสองของเขาก็สว่างวาบ

 

 

“เซี่ยงจิ้น เจ้าว่าอวี้เฟยเยียนมีแล้วใช่หรือไม่ ตั้งครรภ์ในช่วงแรก ไม่เหมาะกับการนั่งรถม้าเดินทางไกล การหักโหมเกินไปไม่ดีต่อหญิงตั้งครรภ์…”

 

 

“ฝ่าบาททรงพระปรีชา!”

 

 

เซี่ยงจิ้นรู้ดีว่า การเป็นคนโปรดต่อหน้าพระพักตร์ เขาจะต้องยินดีในสิ่งที่ฝ่าบาททรงโปรดและเศร้าสร้อยเมื่อฝ่าบาททรงเป็นทุกข์

 

 

การคาดเดาที่อาจหาญของซย่าโหวจวินอวี่ เซี่ยงจิ้นที่รู้งานจึงรีบตามน้ำคล้อยตามในทันที

 

 

ดังนั้น ในสมองของทั้งนายและบ่าวเริ่มหยอกเย้าและจินตนาการถึงรูปร่างหน้าตาของเจ้าซาลาเปาน้อยทันที

 

 

เจ้าซาลาเปาน้อยที่นุ่มนิ่มไปทั้งตัวเอ๋ย…

 

 

“ไม่ได้! เช่นนี้ไม่ได้!”

 

 

ซย่าโหวจวินอวี่ลุกขึ้นยืนกำที่เคราของตนเองเดินวนไปวนมาที่ด้วยความร้อนใจอยู่ที่ห้องทรงอักษร

 

 

“ในเมื่อมีลูกมีแล้ว ฉะนั้นสิ่งที่ต้องตระเตรียมย่อมต้องมีมากมายทีเดียว! แม่นม หมัวมัวรับใช้ นางกำนัล เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งจำเป็น! ยังมีเสื้อผ้าตัวน้อยๆ รองเท้าคู่น้อยๆ สร้อยทอง กำไลวงน้อย ล้วนแต่ต้องตระเตรียมให้พร้อม!”