บทที่ 857 เหนื่อยแล้ว

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 857 เหนื่อยแล้ว

ฆ่า!

เมื่อมีดเปล่งประกาย หัวคนร่วงหล่น !

เพื่อจะได้แสดงออกถึงความรัก ฆ่าเพื่อกำจัดอุปสรรค และกำจัดอุปสรรคทั้งหมดส่ะ  !

ฉินเทียนนั้นบ้าไปแล้วจริงๆ

ในตอนนี้เขานั้นเหมือนกับปีศาจผีที่ไม่ลังเลเลย ที่ใช้ดาบในการเก็บเกี่ยวเอาชีวิต และเหมือนกับเก็บเกี่ยวผักพวกนี้อย่างไร้อารมณ์

จี้ชิงที่ตามมา

เขานั้นเหมือนได้รับพลังจากฉินเทียน เลือดภายในตัวนั้นเดือดพล่าน พี่น้องที่ดีที่ต่อสู้ร่วมกัน เพื่อจัดการคู่ต่อสู้  

ช่างสนุกจริงๆ!

เขารู้สึกว่า ชีวิตนี้ไม่เคยราบรื่นขนาดนี้มาก่อน

ทั้งสองคนนั้น เข้าหาผู้คนร้อยกว่าคน เมื่อเพิ่งจะเริ่ม ทั้งร้อยกว่าคนนั้นยังหยิ่งผยอง และรู้สึกว่ากำลังคนเยอะนั้นดีกว่ามาก สามารถที่จะจัดการทั้งสองคนนั้นได้อย่างง่ายดาย

ไม่คิดเลยว่า คู่ต่อสู้ทั้งสองคนนั้น เหมือนราวกับเป็นเทพแห่งความตาย!

ความเร็วที่น่าประหลาดใจ และวิธีการต่อสู้ที่แปลกตา เหมือนกับถูกวิญญาณเทพหลอก!

และที่ด้านข้างลำตัวพวกเขาทั้งสองคนนั้น แต่ละคนนั้นต่างก็ล้มลงข้างๆพวกเขาทีละคน ในที่สุดพวกเขานั้นก็หวาดกลัวแล้ว

กำแพงคนนั้นเริ่มพังทลายลง

จะเห็นเพียงแค่ทางเดือนเขื่อน ที่ได้มีประตูเขื่อนเอาไว้ และในช่วงต่อมา ก็ไม่สามารถที่จะควบคุมได้อีกต่อไป  

สิบนาที!

ใช้เวลาแค่สิบนาที จี้ชิงและฉินเทียนนั้น ก็สามารถผ่านด่านแรกไปแล้ว พวกเขานั้นเหวี่ยงมีดจนสามารถที่จะฆ่าพวกมันจนไม่เหลือ ต่างก็แยกย้ายหนีกันจ้าละหวั่น

จี้ชิงดวงตาที่เป็นสีแดงก่ำนั้น อยากที่จะไปตามไล่ล่าฆ่า แต่ว่าฉินเทียนกัดฟันแล้วเอ่ย “ไม่ต้องตามล่า ด้านในยังมีอีก!”

เวลาที่ค่อนข้างกระชั้นชิด ไม่ทันที่จะฆ่าหมดทุกคน เมื่อด้านหน้าไม่มีอะไรมากั้น พวกเขานั้นก็พุ่งเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว

ในความมืดมิดนั้น ส่วนหยินจ๋าที่มองเห็นทุกอย่างนี้นั้น เขานั้นหวาดกลัวจนตัวสั่น

เขาเอ่ยพึมพำว่า “บ้าไปแล้ว!”

“ฉินเทียนบ้าไปแล้วจริงๆ!”

“ทีมที่สอง เตรียมพร้อม!”

“ฆ่าพวกเขาส่ะ!อย่าให้พวกมันผ่านด่านไปได้!”

หนึ่งพันเมตร!

กำแพงคนขั้นที่สองได้ปรากฏ พวกเขามองไปแล้ว น่าจะต่อสู้ยากกว่าหนึ่งร้อยคนที่เพิ่งผ่านมา

ในตอนนี้ คำพูดมากมายนั้นก็ฟุ่มเฟือยเกินไป   

เมื่อต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่พุ่งเข้ามา ฉินเทียนนั้นได้ใช้แรงเน่ยจิ้งภายในนั้น ยัดลงไปในเกล็ดมังกร

และแรงสั่นสะเทือนที่เกล็ดมังกรนั้นได้ปล่อยออกมา จนมีเสียงเหมือนมังกรที่กำลังคร่ำครวญออกมา 

หลังจากนั้น ได้มีแสดงสะท้อนออกมาจากมีดยาว ที่เหมือนกับม้าที่อยู่ยังคงกระพัน ที่ได้พุ่งเข้าไปด้านหน้าพวกคนพวกนั้นโดนตรง

“นี่มันวิชาอะไรกันแน่?”

“หรือว่าจะเป็น——”หยินจ๋าเบิกตาโตด้วยความหวาดกลัว

“พี่เทียนสุดยอดมาก!”

“ดูข้านะ!”จี้ชิงรู้สึกได้ถึงพลัง ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปด้านหน้า ถึงแม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้เหมือนกับฉินเทียน แค่ปลดปล่อยกำลังภายในนั้น ก็ทำสามารถที่จะห่าคนรอบข้างในอากาศได้

แต่ว่า จี้ชิงนั้นที่ได้เป็นตระกูลเดียวเท่านั้นที่อยู่ในทางแดนใต้ เขานั้นยังได้สืบทอดวิชามาจากตระกูลอีก และจี้ชิงนั้นก็เป็นผู้สืบทอดตระกูลเพียงคนเดียว นับว่าเป็นมรดกที่ล้ำค่า และไม่เอ่ยก็ทราบ

ข้อมือของเขานั้นสั่น ก่อนที่ดาบที่อยู่ด้านหน้าของเขานั้นจะเปล่งประกายออกมา ราวกับว่าเป็นกระแสแม่น้ำ ที่ได้เบี่ยงเบนหันไปยังศัตรู   

เร็วๆนั้น ผู้คนร้อยคนในด่านที่สองนั้น ต่างก็เริ่มที่จะยอมแพ้ ……

จนตอนสุดท้ายแล้ว แม้แต่หยินจ๋าก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัว ในตอนที่เขานั้นกำลังถอดใจ ก็ได้รับโทรศัพท์จากหยางหลิว

หยางหลิวออกคำสั่ง หยินจ๋า ไม่ว่าจะต้องลงทุนเท่าไหร่ จะต้องฆ่าฉินเทียนให้อยู่ในถนนเส้นสิบไมล์นั่นให้ได้

ไม่ว่ายังไงก็จะไม่สามารถที่จะให้ฉินเทียนนั้นเข้ามายังหน้าประตูของตระกูลฉิน!

หยินจ๋าก็รู้ เป็นเพราะว่าการจับตัวซูซู ระหว่างเขากับฉินเทียนนั้น ได้กลายเป็นการต่อสู้ที่ไม่รู้จบ ฉินเทียนนั้นก็ยากที่เขานั้นจะไปต่อกร เขานั้นจะต้องคว้าโอกาสตรงหน้านี้ไว้ให้ได้

มิฉะนั้น หากเขานั้นหนีไปได้ในตอนนี้ หลังจากนั้นก็คงจะต้องกลายเป็นผีที่ไปอยู่ใต้ดาบของฉินเทียนเอา!

ดวงตาของเขานั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาออกคำสั่ง จะต้องฆ่าให้ตาย!

ใครกล้าที่จะถอย เขานั้นก็จะฆ่าทิ้งส่ะ!

  ……

ฝนที่ตกลงมาหนัก

ทั้งจวนฉิน ได้ถูกน้ำฝนชะล้าง ราวกับว่าคนแก่ที่มองเห็นทุกอย่างออกจนหมด และไม่ได้เอ่ยอะไร  

ที่ด้านหน้าของถนนนั้น เลือดและน้ำฝนนั้น ตอนนี้ได้รวมกันกลายเป็นแม่น้ำแล้ว

ในตอนนี้ คฤหาสน์ของซีเป่ยจวนฉิน ยังคงดื่มด่ำกับความสุขอยู่

แสงไปสลัวที่ส่องผ่านจากหน้าต่างไม้เก่าในสมัยโบราณ ในค่ำคืนที่ฝนตกนี้นั้น ทำให้รู้ถึงได้สึกความอบอุ่น  

ที่นี่ ก็คือที่ห้องโถงบรรพบุรุษตระกูลฉิน

ตั้งแต่การต่อสู้ร้อยปีก่อน ในตอนที่บรรพบุรุษนั้นลงหลักปักฐานสร้างธุรกิจ ในช่วงที่ตระกูลฉินนั้นได้อยู่ในยุคสมัยใหม่ ได้นำพาถึงระดับใหม่ แต่ในสุดท้ายแล้ว ฉินว่างจู่นั้นกลับได้หายตัวไปอย่างลึกลับ

ตระกูลฉินนั้นได้ผ่านมาห้าชั่วอายุคนยุคสมัยแล้ว

และในบรรดารูปปั้นนั้น นอกจากผู้นำทั้งห้าคนแล้ว อีกทั้งในระยะเวลาที่แตกต่างกันนั้น ก็ยังสร้างความโดดเด่นสะดุดตาให้กับตระกูลฉินอีกด้วย  

ภายใต้แสดงไฟ ตระกูลฉินนั้นคือคนที่มีอำนาจปกครองอย่างแท้จริง นายหญิงใหญ่ ต่งซวงจุน มองไปที่ซูซู ที่มีใบหน้าที่งดงามแล้วเอ่ย   “ข้าเอ่ยคำพวกนี้แล้วกับเธอ จำได้หมดไหม?”

ซูซูเอ่ยเสียงต่ำ“จำได้แล้วค่ะ”

“ขอบคุณคุณย่ามากๆค่ะ”

ต่งซวงจุนพยักหน้า อยากที่จะเอ่ยอะไร แต่ในเวลานี้ ที่ด้านนอกนั้นได้มีเสียงต่ำส่งเข้ามา “นายหญิงใหญ่ ได้เวลาแล้วล่ะ”

ต่งซวงจุนลังเลเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย “ราชาจินตูน เข้ามาเถอะ”

ด้านนอกที่เงียบสงบ ราชาจินตูนเดินเข้ามา และมองไปแล้วเขานั้นเหมือนผู้ใหญ่ที่อบอุ่นและน่าเชื่อถือ

“นายหญิงใหญ่”หลังจากที่หันไปถามต่งซวงจุนแล้ว ก่อนที่จะหันมาพยักหน้าให้ซูซู แล้วเอ่ย “นายหญิง”

ซูซสีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง ก่อนที่จะรีบเอ่ย“สวัสดีคุณท่าน”

หลังจากที่มาถึงที่นี่ ก็นั้นก็ทราบถึงกิจการของตระกูลฉิน ตอนนี้ยังโดนเรียกว่านายหญิง เธอนั้นรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่

ท้ายที่สุดแล้ว ครอบครัวตระกูล มีกฎมากมาย เธอนั้นเคยหลงทางต่างๆมาก่อน ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นสามารถที่จะรับตำแหน่ง   “นายหญิง”ตำแหน่งนี้ได้ไหม

ต่งซวงจุนดูเหมือนว่าเธอนั้นจะพอใจในตัวของซูซู และเผยปรากฏให้เห็นถึงรอยยิ้มที่พอใจ

“จินตูน เจ้าไปส่งนายหญิงไปพักผ่อนเถอะ ”

“ที่ด้านนอกฝนตก ระวังทางที่จะต้องเดินไปด้วยนะ นายหญิงตอนนี้ตั้งครรภ์แล้ว ต้องระวังด้วยล่ะ”

จินตูนลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ยตอบ “รับทราบครับ นายหญิงใหญ่”

“นายหญิง ขอให้ท่านเดิมถามผมมาเถอะ”

ซูซูลังเลเล็กน้อย ก่อนที่จะเอ่ย “คุณยาย งั้นฉินเทียนเขา——”

ต่งซวงจุนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “วางใจเถอะ”

“เจ้าไปพักผ่อนก่อน ฉันจะรอเขาอยู่ที่นี่ อยากจะเอ่ยกับเขาไม่กี่คำ ก็จะให้เขาไปหาเธอนะ”

“พวกเจ้าสามีภรรยาไม่ได้เจอกันนานแล้วใช่ไหมล่ะ?”

ซูซูมีสีหน้าแดงขึ้น ไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรก่อนที่จะหันหลังแล้วเดินตาม จินตูนออกไปด้าน

เมื่อถึงที่หน้าประตู คิดออกถึงอะไร ก่อนที่จะหันหลัง อยากที่จะหันไปเอ่ยอวยพร แล้วเอ่ยเสียงต่ำ “คุณยายราตรีสวัสค่ะ”

ต่งซวงจุนพยักหน้า พร้อมรอยยิ้ม “ที่บ้านตระกูลฉินนั้นมีกฎมากมาย อย่ารีบร้อนไปแล้ว เจ้าสามารถที่จะค่อยๆเรียนรู้ได้”

“ถึงเวลาฉันจะหาคนไปคอยสอนเจ้านะ”

ซูซูตอนนี้ถึงจะค่อยเดินตามจินตูนและจากไป

ต่งซวงจุนนิ่งสงบลง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ผ่านไปสักพัก เขานั้นมองไปที่รูปปั้นข้างๆแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา “ฉินว่างจู่ หลายชายคนสำคัญของคุณคนนั้น ในที่สุดก็จะต้องกลับมาแล้ว”

“เขาในปีนั้นได้หนีออกจากบ้านไป ในวันนี้กลับมาพร้อมทั้งเลือดสด นับว่าถือว่ายังเป็นการได้กลับมา เหมือนกลับมาเกิดใหม่”

“ข้ายายคนนี้ก็นับว่าได้พยายามเติมเต็มความหวังความปรารถนาของคุณแล้ว ……”

เมื่อเอ่ยถึงดังนี้ ดวงตาของเธอนั้นก็ร่องลอย ในส่วนลึกของดวงตานั้น ได้ปรากฏถึงความแค้นที่ฝังเอาไว้ในใจ

ก่อนที่จะถอนหายใจเอ่ยเบาๆ“แต่ว่าจนถึงตอนนี้ฉันนั้นยังสับสนอยู่เล็กน้อยว่า ในตอนแรกที่คุณทำเช่นนี้น นั้นถูกหรือว่าไม่ถูกกันนะ ……”

“ทั้งๆที่เป็นพี่น้องกันแท้ๆ ต้องเป็นศัตรูกันไม่ได้หรือไง?”

“ฉินว่างจู่ ข้ายายคนนี้หลายปีมานี้นั้น เหนื่อยแล้วจริงๆ”

“หากคุณยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ กลับมาเจอฉันบ้างจะได้ไหม?”