ตอนที่ 688 จุดประสงค์ถูกเปิดโปง
แต่เมื่อคนพวกนี้มาเข้ารับการตรวจ ทุกคนกลับพูดว่าถูกเลี้ยงที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนั้นแม้ว่าจะไม่มีใครโตมาจากที่นั่นจริงก็ตาม
บางคนถึงขนาดมีพ่อแม่และมาจากครอบครับธรรมดา คนที่เป็นกำพร้าจริงนั้นมีเพียงหยิบมือเท่านั้น ทุกคนโกหกเพื่อให้ตรงกับข้อกำหนดที่ระบุไว้ ถ้าเป็นกรณีอื่นนี่อาจจะเป็นเพียงความโลภ แต่นี่กลับเป็นทุกคน มันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น!
ถ้าซิงเหอไม่ได้พบกับอีเฉินในวันนั้น เธออาจจะไม่รู้ว่าวัตถุประสงค์ของพวกเขาคืออะไร แต่บัดนี้เธอมองเห็นแผนการของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ทั้งหมดนี้ทำขึ้นเพื่อปกปิดความน่าสงสัยที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเฮ่อหลาน พวกเขาเบี่ยงเบนความสนใจออกจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า
เฮ่อหลานฉีเกือบจะหลอกซิงเหอและทุกคนด้วยแผนการชั่วร้ายของเขาได้สำเร็จ เขาจะต้องคิดว่าหากการค้นหาครั้งนี้ไม่สัมฤทธ์ผล พวกซิงเหอจะยอมแพ้และจากไป เขาไม่คาดว่าอีเฉินจะปรากฎตัวหรือซิงเหอจะทำการตรวจสอบประวัติของผู้หญิงพวกนี้ด้วยตัวเธอเอง
บัดนี้ซิงเหอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงกระตือรือร้นและเต็มใจที่จะช่วยเหลือพวกเธอเป็นอย่างมาก นั่นเพื่อให้เขาสามารถหลอกพวกเธอได้ง่ายขึ้น
ทันใดนั้นเอง ซิงเหอตระหนักได้ในที่สุดว่าความตะขิดตะขวนใจที่เธอรู้สึกที่โรงพยาบาลคืออะไร ถ้าผู้หญิงพวกนั้นเติบโตมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเดียวกันจริง ทำไมพวกเธอถึงไม่เข้าไปทักทายกันหรือแม้แต่จะพูดคุยถึงเรื่องช่วงเวลาวัยเด็กที่เติบโตมาด้วยกันล่ะ
ซิงเหอไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองมองการแสดงของผู้หญิงหน้าเงินพวกนี้ไม่ออก เธอตำหนิตัวเองในความไม่รอบคอบนี้
“นี่ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก เพราะพวกเราก็ไม่ทันได้สังเกตความผิดปกตินี้เหมือนกัน” แซมปลอบโยนซิงเหอแต่ยังคงเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “ว่าแต่ตระกูลเฮ่อหลานนั่นจะทำตัวลอดห่วงมากมายเพื่อสร้างการแสดงนี้มาหลอกเราไปทำไม เขาคิดอะไรอยู่”
“มีบางอย่างที่น่าสงสัยเกี่ยวกับครอบครัวนี้ใช่ไหม” อาลิเสริม
แคร์นพยักหน้าด้วยความมั่นใจ “ต้องมีแน่ ไม่งั้นพวกเขาจะทำแบบนี้ไปทำไมกัน”
“แน่นอน มีบางอย่างที่น่าสงสัยมากเกี่ยวกับพวกเขา” ซิงเหอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกราวน้ำแข็ง “มีปัญหาหนึ่งเกี่ยวกับพวกเขาที่น่าสงสัยมาก และฉันจะต้องคิดแผนที่รอบคอบมากขึ้นมาใช้รับมือกับพวกเขา”
“ปัญหาอะไร” แซมอึ้ง
“สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของพวกเขา บางอย่างไม่ดีอาจจะเกิดขึ้นกับลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินรวมถึงแม่ของฉัน พวกเธอทั้งสองคนมีความเกี่ยวข้องกับสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่น่าสงสัยนั่น” ซิงเหอกล่าวสรุปอย่างกว้างๆ เธอไม่ได้พูดถึงโปรเจกต์กาแล็กซี ไม่ใช่ว่าซิงเหอไม่เชื่อใจพวกแซมแต่เธอไม่ต้องการดึงพวกเขาเข้ามาอยู่ในอันตราย
ก่อนที่เธอจะสามารถไขปัญหาทุกอย่างได้ เธอจะต้องระวังอย่างที่สุดไม่เช่นนั้นบางอย่างอาจจะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นเธอจึงไม่เปิดเผยอะไรออกมาก่อนที่จะถึงเวลานั้น
“แม่ของเธอ” อาลิชะงัก “เธอว่าไงนะซิงเหอ คุณแม่ของเธอเกี่ยวข้องกับสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านี่ได้ยังไงกัน”
“ใช่ เกี่ยวกับแม่คุณได้ยังไง” แซมและคนที่เหลือรู้สึกงุนงงเช่นกัน
ซิงเหอมองไปยังพวกเขาและกล่าว “ฉันเองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้วันนี้ คุณแม่ของฉันเคยเป็นเด็กที่อยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแต่เธอหายสาบสูญไป ฉันสงสัยว่าการหายตัวไปของเธอมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมากกับเฮ่อหลานชางและครอบครัวของเขา นอกเหนือจากนั้น ฉันพบว่าตระกูลเฮ่อหลานไม่ได้ขาวสะอาดอย่างที่พวกเขาแสดงให้คนภายนอกเห็น ดังนั้นเพื่อให้ไปถึงต้นตอของความจริง เพื่อหาคุณแม่ของฉันและลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉิน เราจะต้องจัดการกับตระกูลเฮ่อหลานก่อนเป็นอันดับแรก”
ตอนที่ 689 บางทีเธออาจเป็นคุณแม่ของคุณ
“อะไรนะ แม่ของเธอก็มาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้านั่นงั้นเหรอ” อาลิและคนที่เหลืออึ้งด้วยความช็อก
ซิงเหอพยักหน้า “ใช่”
“บังเอิญอะไรอย่างนี้! เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง แม่ของเธอกับลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเดียวกัน เธอคิดว่าสองคนนั้นจะรู้จักกันไหม” ต่อมความสนใจของอาลิถูกกระตุ้น
ดวงตาทั้งสองข้างของซิงเหอสั่นเล็กน้อย “ฉันบอกไม่ได้ว่าทั้งสองคนจะรู้จักกันหรือเปล่า แต่พวกเธอมีอายุไล่เลี่ยกัน เพราะฉะนั้นก็อาจจะเป็นไปได้”
“พวกเขามาจากสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเดียวกัน พวกเขาต้องรู้จักกันแน่ๆ! นี่มันน่าเหลือเชื่อ…”
“ซิงเหอ จะเป็นไปได้ไหมที่แม่ของคุณคือลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉิน” แคร์นเอ่ยขึ้นอย่างฉับพลัน นี่ทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ
แซมโผลงขึ้น “แคร์นอาจจะพูดถูกก็ได้!”
“ซิงเหอ ไปตรวจกันเถอะ อาจจะใช่แม่ของเธอก็ได้!” อาลิเชื่อในความเป็นไปได้ที่น่าสนใจนี่ แคร์นและวูลฟ์มองไปทางซิงเหออย่างคาดหวัง อะไรบางอย่างทำให้หัวใจของซิงเหอเริ่มเต้นเร็วขึ้น…
เป็นไปได้อย่างไร คุณแม่ของเธอคือลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินงั้นเหรอ มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญที่น่าขันเกินไปแล้ว แต่กระนั้นเธอไม่อาจหยุดตัวเองไม่ให้คิดถึงเรื่องนี้ได้
ท้ายที่สุด เธอตัดสินใจที่จะพิจารณาความเป็นไปได้นี้เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว ซิงเหอบอกทุกคนหลังจากที่ตัดสินใจได้แล้ว “ตกลง พรุ่งนี้เราจะไปตรวจกัน”
“ซิงเหอ ถ้าแม่ของเธอเป็นลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินจริงๆ งั้นเธอก็คือส่วนหนึ่งของตระกูลเฉินที่แท้จริง ผู้อาวุโสเฉินจะเป็นคุณตาโดยสายเลือดของเธอและท่านผู้หญิงเองก็จะเป็นป้าโดยสายเลือดของเธอเช่นกัน ยอดไปเลยใช่ไหมล่ะ ฉันว่าฉันเริ่มหวังให้แม่ของเธอเป็นคนที่พวกเรากำลังตามหาอยู่จริงๆ แล้วนะเนี่ย” อาลิกล่าวด้วยความตื่นเต้น
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง โลกนี้คงเป็นสถานที่ที่อัศจรรย์น่าดู” แซมพูดอย่างมีความสุขแต่เสริมด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย “เราจะได้เห็นว่าคุณถงนั่นจะพุดอะไรเพื่อท้าทายตำแหน่งของคุณกัน!”
“ใช่ ผู้หญิงคนนั้นเอาแต่ใช้สายเลือดมาเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งเธอ ดังนั้นหลังจากที่เราได้รับการยืนยันเรื่องนี้ เราจะกลับไปเอาความจริงตบหน้ายัยนั่นและทำให้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่ากรรมมันเป็นยังไง” อาลิพูดแทรกขึ้นมา เธออดทนรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหว เพราะเธออยากเห็นถงเยียนหน้าชาจะแย่อยู่แล้ว
ซิงเหออดขำไม่ได้ “เรื่องนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันสักหน่อย อย่าเพิ่งคิดไปไกลนักเลย ถ้าผลออกมาว่าไม่จริง พวกเราจะได้กลายเป็นตัวตลก”
“ต้องเป็นจริงแน่ๆ!” อาลิกล่าวอ้างอย่างมั่นใจ “อย่าสงสัยในสัญชาตญาณของผู้หญิงเชียว”
“แม่ของคุณดูคล้ายหรือให้ความรู้สึกเหมือนคนตระกูลเฉินไหม” วูลฟ์ถาม
ซิงเหอนิ่งเงียบขณะดำดิ่งลงไปในความทรงจำ ที่จริงแล้วเธอจำอะไรเกี่ยวกับคุณแม่ของเธอไม่ได้มากนัก แต่ซิงเหอจำภาพของคุณแม่ของเธอว่าเป็นผู้หญิงที่เฉลียวฉลาดและสง่างามมาก กิริยาท่าทางของเธอดูคล้ายกับคนตระกูลเฉินและแม้แต่รูปลักษณ์ของพวกเขา…
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนั่นไม่อาจใช้เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ ซิงเหอตัดสินใจที่จะเอาเรื่องนี้ออกจากหัวไปก่อนในตอนนี้ จนกว่าเธอจะมีหลักฐานที่หนักแน่นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะสร้างปราสาทขึ้นมาจากทราย
เธอจะต้องทำอย่างดีที่สุดเพื่อตรวจสอบความเป็นไปได้นี้ เพราะถึงอย่างไรทุกอย่างล้วนเป็นไปได้ แต่อะไรจะเกิดขึ้นถ้าคุณแม่ของเธอกับลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินเกิดเป็นคนเดียวกันขึ้นมาจริงๆ …
อารมณ์ของซิงเหอยุ่งเหยิงขึ้นอีกครั้งเพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้
…
ทุกคืนมู่ไป๋จะโทรมาคุยกับซิงเหอ และคืนนี้ก็เช่นกัน
ซิงเหอบอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้เขาฟัง
เมื่อมู่ไป๋ได้ยินเรื่องความเป็นไปได้นี้ เสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและความคาดหวัง “พวกเขาจะเป็นคนคนเดียวกันจริงงั้นเหรอ”