ตอนที่ 690 สามสิบหกชั่วโมง
ซิงเหอตอบกลับด้วยเสียงต่ำ “ฉันไม่รู้ ดังนั้นฉันต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อน”
ซิงเหอและผู้อาวุโสเฉินไม่อาจทำการตรวจพิสูจน์ความเป็นบิดาได้เพราะมันเป็นการตรวจสำหรับพ่อแม่กับบุตรเท่านั้น
แต่เธอสามารถทำการตรวจพิสูจน์เชื้อสายได้ ถ้าผลออกมาเป็นบวกนั่นหมายความว่าคุณแม่ของเธอคือลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉินอย่างแน่นอน เธอมีข้อมูลดีเอ็นเอของผู้อาวุโสเฉินอยู่ เธอสามารถรับผลตรวจพิสูจน์ได้ในวันพรุ่งนี้
มู่ไป๋เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเธอ “เรื่องนี้ต้องได้รับการยืนยัน ถ้าพวกเขาเป็นคนคนเดียวกันจริง งั้นตระกูลเฮ่อหลานนี่ก็อันตรายกว่าที่เราคิด”
ถ้าตัวตนของทั้งสองทับซ้อนกัน มันจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับตระกูลเฮ่อหลานและพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจกต์กาแล็กซีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ความจริงแล้วตระกูลเฮ่อหลานจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเธอในการค้นหาความจริงและอาจจะสามารถระบุที่อยู่ของคุณแม่ของเธอได้ แน่นอนว่าทั้งหมดตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่าแม่ของซิงเหอคือลูกสาวคนที่สองของตระกูลเฉิน
ซิงเหอไม่คาดหวังกับเรื่องนี้มากนัก แต่ยิ่งเธอคิดถึงเรื่องนี้มาเท่าไหร่ เธอยิ่งรู้สึกกระวนกระวายมากขึ้นเท่านั้น
“ถ้าได้รับการยืนยันเมื่อไหร่ ฉันจะกลับไปประเทศจีน” ซิงเหอสัญญาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
มู่ไป๋คิดแบบเดียวกัน “หลังจากการยืนยัน ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะอยู่ต่อโดยไม่จำเป็น คุณต้องกลับมาหลังจากนั้นแล้วเราจะคิดหาวิธีจัดการกับตระกูลเฮ่อหลาน”
“ตกลงค่ะ” ซิงเหอตอบกลับโดยไม่ลังเล
แต่กระนั้นมู่ไป๋ยังคงแนะนำซิงเหอด้วยน้ำเสียงที่มีความกังวล “คุณต้องระวังตัวให้มากขึ้นเวลาที่อยู่กับพวกเฮ่อหลาน หลังจากที่คุณมั่นใจในความไม่น่าไว้วางใจของพวกเขา อย่าลังเลที่จะมาหาผมนะ อย่าแบกทุกอย่างไว้เองคนเดียว มันมีแต่จะทำให้ผมเป็นห่วงคุณนะ”
“ฉันรู้ค่ะ” ซิงเหอตอบอย่างนุ่มนวล
มู่ไป๋ครุ่นคิดและกล่าวเสริม “ทำไมคุณไม่กลับมาตรวจดีเอ็นเอที่นี่ล่ะ ถึงยังไงการค้นหาก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรอยู่แล้วอย่างที่คุณบอก”
“ไม่จำเป็น ฉันจะทำการตรวจดีเอ็นเอที่นี่ ไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลตัวเอง” ซิงเหอให้คำมั่นก่อนเปลี่ยนไปซักถามอีกฝ่าย “แล้วคุณล่ะ การฟื้นตัวเป็นยังไงบ้าง”
มู่ไป๋ตอบอย่างมีความสุข “ผมสบายดี จริงๆ วางแผนว่าอีกสองวันจะบินไปหาคุณที่นั่น แต่ในเมื่อคุณจะกลับบ้านเร็วกว่านั้น ผมเลยคิดว่าผมจะรออยู่ที่จีนนี่แหละ”
ซิงเหออดยิ้มกับคนที่อยู่ปลายสายไม่ได้ “หลินหลินเป็นยังไงบ้าง ลูกกำลังทำอะไรอยู่”
“เขาสบายดีแต่บอกว่าคิดถึงคุณ เขาคิดถึงคุณทุกวินาทีตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงทุกวัน เขาพูดแบบนี้” มู่ไป๋ตอบอย่างเนิบช้าด้วยน้ำเสียงอันทรงเสน่ห์
เขาต้องการให้คำพูดเหล่านี้ทำให้ซิงเหอรู้สึกอุ่นใจ แต่เธอกลับรู้สึกเศร้า เธอเองก็หวังว่าจะได้อยู่เคียงข้างหลินหลินเพราะเธอเองก็คิดถึงเขามากเช่นกัน…
“ฉันจะกลับไปให้เร็วที่สุด” ซิงเหอสัญญา
“โอเค” มู่ไป๋ตอบกลับด้วยน้ำเสียงนุ่มก่อนพูดต่ออย่างเนิบช้าและเร้าอารมณ์ “เขาบอกด้วยว่า หลังจากที่คุณกลับมาแล้ว เขาอยากออกเดตกับคุณ อยากจะใช้เวลาอยู่กับคุณตามลำพัง อยากจะนอนอยู่บนเตียงข้างคุณ ไม่ว่ายังไงเขาก็คิดถึงคุณทุกวันและมีแผนและอะไรอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำร่วมกับคุณ ดังนั้นคุณต้องรีบกลับมาเร็วๆ เพื่อไม่ให้เขาผิดหวัง…”
“เดี๋ยว คุณแน่ใจเหรอวาหลินหลินเป็นคนพูดเรื่องพวกนี้” ซิงเหอคิ้วขมวดด้วยความสับสน
มู่ไป๋ที่อยู่ปลายสายพูดโดยไม่อาย “ไม่อยู่แล้ว ทั้งหมดนั่นเป็นความคิดเห็นแก่ตัวของผมเอง”
ซิงเหอพูดไม่ออก
“ซิงเหอ ผมคิดถึงคุณจริงๆ นะ” มู่ไป๋พูดออกมาอย่างกะทันหัน “ถ้าวันหนึ่งมีสามสิบหกชั่วโมง ผมจะใช้เวลาสามสิบหกชั่วโมงนั้นคิดถึงแต่คุณ”
ตอนที่ 691 ความเกี่ยวข้องทางสายเลือด
ถ้างั้นเขาก็พูดถึงตัวเองมาตลอด ดอกไม้แห่งความสุขเบ่งบานขึ้นในหัวใจของเธอ เธอไม่ใช่คนอารมณ์อ่อนไหว เธอไม่ชอบแสดงอารมณ์ที่แท้จริงออกมา แต่คำสารภาพรักเป็นครั้งคราวของมู่ไป๋ก็ทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหวได้เสมอ
เธอต้องยอมรับว่าเขารู้วิธีที่จะเข้ามาในหัวใจของเธอ เขาจะหยุดรุกก่อนที่จะทำให้เธออึดอัดเสมอ มันมีความกระตือรือร้นแต่ไม่กดดัน ในเรื่องของความสัมพันธ์มู่ไป๋ทำได้ดีมาก แต่ซิงเหอรู้ว่าความสัมพันธ์เป็นการให้และรับทั้งสองฝ่าย เธอไม่ควรคาดหวังให้มู่ไป๋เป็นคนทำทุกอย่าง เธอควรจะตอบแทนกลับไปในแบบเดียวกัน
อย่างไรก็ตามซิงเหอยังไม่สามารถพูดคำหวานๆ แบบนั้นออกมาได้ เธอจึงเสริมอย่างอ่อนโยน “ฉันเข้าใจ อันที่จริงฉันก็อยากจะกลับไปให้เร็วที่สุดเหมือนกัน”
ในฐานะของคนที่รู้จักเธอเป็นอย่างดี มู่ไป๋เข้าใจคำพูดที่เธอละไว้ เธอก็คิดถึงเขาเหมือนกัน เขาไม่ต้องการคำพูดสวยหรูเพราะการที่เธอคิดถึงเขาก็มากเกินพอแล้วสำหรับเขา
มู่ไป๋พูดด้วยน้ำเสียงพึงพอใจและมีความสุข “โอเค ผมจะรอคุณนะ อยู่ที่นั่นก็ดูแลตัวเองดีๆ ด้วย”
“โอเค งั้นฉันจะวางสายแล้วนะ อย่าทำงานจนดึกนักล่ะ”
“ราตรีสวัสดิ์” มู่ไป๋พูดอย่างรักใคร่ หลังจากซิงเหอวางสายไป เขาก็วางโทรศัพท์ลงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อีกด้านหนึ่ง ซิงเหอก็กำลังยิ้มอยู่เหมือนกัน
แต่ทันใดนั้นเธอก็เปลี่ยนไปคิดเรื่องการตรวจดีเอ็นเอ ถ้าแม่ของเธอเป็นคุณหนูคนที่สองของตระกูลเฉินจริงๆ ล่ะ
แม้แต่คนที่เฉลียวฉลาดอย่างเธอก็ไม่สามารถตอบได้อย่างมั่นใจ
…
ซิงเหอและคนที่เหลือไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดีเอ็นเอในวันรุ่งขึ้น ซิงเหอเลือกวิธีที่ตรวจสอบได้เร็วที่สุดซึ่งสามารถรู้ผลลัพธ์ภายในไม่กี่ชั่วโมง พวกเธออยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรอฟังผลเลย
และในระหว่างที่พวกเธอกำลังรอผลอยู่ เฮ่อหลานฉีก็โทรมาถามซิงเหอว่าเธออยู่ที่ไหนและชวนเธอไปทานอาหารกลางวันด้วยกัน แต่ซิงเหอปฏิเสธเขาไป เฮ่อหลานฉีคนนี้แค่แสร้งทำเป็นช่วยเหลือเธอเพื่อทำให้การค้นหาของเธอไม่คืบหน้าเท่านั้น ซิงเหอมองแผนของเขาออกแล้ว ดังนั้นเธอจึงระวังตัวจากเขามากขึ้น
หลังจากที่เธอวางสายจากเฮ่อหลานฉี ซิงเหอก็ได้รับสายจากอีเฉินต่อ
“คุณเซี่ยอยู่ที่ไหนครับ ผมต้องการพบคุณ คุณออกมาตอนนี้เลยได้ไหม” อีเฉินพูดตรงๆ
ซิงเหอสงสัย “เป็นเรื่องสำคัญมากเหรอ ฉันกำลังยุ่งอยู่กับการทำอะไรบางอย่าง ยังไม่สามารถปลีกตัวออกไปได้”
“งั้นผมก็ต้องขอโทษด้วยที่โทรมาขัดจังหวะคุณ เรื่องของผมยังรอได้ ไว้คุณทำธุระของคุณเสร็จก็ค่อยโทรมาหาผมแล้วกัน”
“โอเค” ซิงเหอรับปากก่อนที่จะวางสาย เธอไม่รู้ว่าทำไมอีเฉินถึงต้องการพบเธอ แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถปลีกตัวออกไปได้จริงๆ เธอต้องรอดูผลการตรวจด้วยตัวเอง จิตใต้สำนึกของเธอกังวลและร้อนใจที่จะรู้เรื่องนี้
กลุ่มของอาลิยิ่งดูตื่นเต้นกว่าเธออย่างเห็นได้ชัด
หลายชั่วโมงต่อมาในที่สุดผลการตรวจก็ออกมา!
คุณหมอเดินเข้ามาหาซิงเหอพร้อมกับผลตรวจในมือของเขา ไม่รู้ทำไมซิงเหอถึงรู้สึกว่าเธอสามารถเดาผลลัพธ์ได้เมื่อสบตากับเขา
เป็นอย่างที่เธอคาดไว้ คุณหมอเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอและพูดว่า “ยินดีด้วยนะครับ ตัวอย่างทั้งสองมีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด พูดให้ถูกก็คือเป็นความสัมพันธ์ของตากับหลาน”