ตอนที่ 679 ไม่มีทางผ่านไปได้

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

มู่เฉียนซีกวาดสายตามองสมุนไพรวิญญาณเหล่านี้และกล่าวว่า “ครั้งนี้ การทดสอบคือการหลอมรวมกัน!”

“เดาถูกแล้ว! สาวน้อยคนสวยเป็นอัจฉริยะที่ฉลาดเสียจริง ๆ” เสี่ยวเย่ากล่าวด้วยความดีใจ

“ครั้งนี้เป็นการนำสมุนไพรวิญญาณในห้องนี้หลอมรวมกันให้สมบูรณ์แบบจนถึงขั้นที่เสี่ยวเย่าพึงพอใจ โดยมีเวลาให้สามวัน หากสามวันทำไม่สำเร็จก็ต้องเริ่มต้นใหม่ และจํานวนสมุนไพรวิญญาณก็จะเพิ่มขึ้นอีกครึ่งหนึ่ง!”

“สาวน้อยคนสวยเก่งกาจที่สุด คงไม่มีปัญหาเป็นแน่!”

มู่เฉียนซีพยักหน้า “อืม! ข้าเข้าใจแล้ว”

มู่เฉียนซีรู้ดีถึงคุณสมบัติของสมุนไพรวิญญาณทั้งหมด ว่าชนิดไหนที่สามารถหลอมรวมได้ และชนิดไหนที่ไม่อาจหลอมรวมได้!

สําหรับการหลอมรวมสมุนไพรวิญญาณ นางนั้นมีความชํานาญอย่างหาที่เปรียบมิได้ และแน่นอนว่าความเร็วของนางก็รวดเร็วมากเช่นกัน

“เสร็จแล้ว!” มู่เฉียนซีเก็บหม้อเทพปาฮวางชิงมู่และกล่าวกับเสี่ยวเย่า

เสี่ยวเย่าอุทานออกมา “สวรรค์! สาวน้อยคนสวย เจ้า… เจ้าใช้เวลาแค่วันเดียว เหลือเชื่อ!”

การทดสอบของหอโอสถในครั้งนี้ ทุกชั้นล้วนมีความประหลาดใจ และยิ่งต้องประหลาดใจมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้เข้าร่วมการคัดเลือกเหล่านั้นเมื่อได้เห็นสมุนไพรวิญญาณมากมายเช่นนี้ก็แทบจะเป็นลมไปแล้ว และเมื่อได้ยินว่าให้เวลาสั้นๆเช่นนั้นก็ยิ่งทำอะไรไม่ถูก

ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะสามารถเสร็จภารกิจได้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะได้พบกับผู้ที่ทําสําเร็จก่อนหมดเวลาเสียอีก

“สาวน้อย ข้าจะส่งเจ้าไปที่ชั้นที่สี่เดี๋ยวนี้! สู้เข้าล่ะ!” เสี่ยวเย่ากล่าวอย่างร่าเริง

แน่นอนว่ามันมีความรื่นเริงแค่ต่อหน้ามู่เฉียนซีเท่านั้น เพราะจากนั้นเขาก็ได้กระจายข่าวร้ายออกมา

“ผู้สมัครทุกคน ตอนนี้มีผู้ที่ได้ขึ้นมาถึงชั้นที่สี่แล้ว พวกที่ยังอยู่ในชั้นที่หนึ่งต้องทบทวนตัวเองให้ดี อย่าทำให้ข้าผิดหวังนักล่ะ หากข้าผิดหวัง พวกเจ้าก็จะไม่เป็นสุขเอานะ”

คนเหล่านั้นที่อยู่ในชั้นแรก อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

พวกเขาที่ถูกเสี่ยวเย่าด่าทออย่างรุนแรง ได้มองเครื่องกลไกวิญญาณอย่างมันเป็นเหมือนปีศาจร้ายแล้ว

อวี้เหลียนชิงที่กําลังทำให้บริสุทธิ์อยู่ในรอบที่สองเมื่อได้ยินข่าวนี้ก็เผาสมุนไพรวิญญาณทันที

ใบหน้าของเขากลายเป็นดุร้ายขึ้นมา “บ้าเอ้ย! นางไปที่ชั้นที่สี่แล้ว ชั้นที่สี่!”

“การทําให้บริสุทธิ์ล้มเหลว เริ่มใหม่!” ขณะที่เขากําลังโกรธและอิจฉา เสียงของเสี่ยวเย่าก็ดังขึ้นมาอย่างไร้ความปรานี

ไป๋เหลิ่งชวงเองก็อยู่ชั้นที่สองของการทำให้บริสุทธิ์เช่นกัน เมื่อได้ยินข่าวนี้ มือก็ชะงักไป!

นางไปที่ชั้นที่สี่แล้ว นางเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวจริง ๆ นางไม่สามารถล้าหลังได้มากนัก

การทดสอบของชั้นที่สี่คือการเล่นไฟ

นี่เป็นการเล่นตลกกับนางอย่างใหญ่หลวง เพราะมู่เฉียนซีคือจอมภูตธาตุน้ำ

ในโลกแห่งการปรุงยาไม่ได้มีข้อกำหนดที่เขียนไว้ว่านักปรุงยาอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์จะต้องเป็นจอมภูตธาตุไฟอย่างแน่นอน!

ผู้บำเพ็ญภูตธาตุอื่นๆ ไม่มีพรสวรรค์ เช่นนั้นยังกลายเป็นนักปรุงยาที่ยอดเยี่ยมได้เลย

“อ๊าก! เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? สาวน้อยเจ้าเป็นผู้บำเพ็ญภูตธาตุน้ำ! สวรรค์” มู่เฉียนซียังไม่รีบร้อนอะไร! แต่เสี่ยวเย่ากลับร้อนใจยิ่งกว่านางเสียอีก

“ถ้าเป็นผู้บำเพ็ญภูตธาตุอื่น ๆ ก็ช่างมันเถอะ แต่เป็นผู้บำเพ็ญภูตธาตุน้ำที่ตรงข้ามกับไฟ มันช่างไม่ง่ายเลยที่จะเข้ากันได้”

“จะทําอย่างไร? จะทําอย่างไรกันดี?”

เสี่ยวเย่าร้อนใจราวกับมดบนหม้อร้อน คนที่ไม่รู้คงคิดว่ามันเป็นผู้เข้ารับการทดสอบเสียเองแล้วกระมัง!

มู่เฉียนซีขมวดคิ้วเล็กน้อย การไม่ใช่ผู้บำเพ็ญธาตุไฟเป็นปัญหาใหญ่ที่นางพบเจอในตอนนี้ การทดสอบของหอคอยโอสถครั้งนี้ได้เตือนสตินางอีกครั้งแล้ว

แม้ว่าตอนนี้นางจะมีพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก และสามารถควบคุมเปลวเพลิงให้ทะลวงผ่านได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่สมุนไพรวิญญาณระดับที่ยิ่งสูงนั้นไม่ใช่สิ่งที่ไฟธรรมดา ๆ จะสามารถหลอมกลั่นได้สําเร็จ

เดิมทีนางไม่มีคุณสมบัติที่จะฝึกฝน พูดให้ถูกก็คือไม่สามารถฝึกฝนได้ เพราะได้รับแหวนมังกรเทพวารี นางจึงมีพลังวิญญาณธาตุน้ำ และกลายเป็นจอมภูตธาตุน้ำ

หากต้องการจะเป็นจอมภูตธาตุไฟละก็ เกรงว่าคงต้องหามหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของธาตุไฟ และกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาต

มู่เฉียนซีเอ่ยถาม “เสี่ยวเย่า จะผ่านด่านนี้ไปได้อย่างไร?”

“ข้างหน้ามีเส้นทางเปลวเพลิงเส้นหนึ่ง บนเส้นทางเปลวเพลิงมีเปลวเพลิงหลากหลายชนิด สาวสวยเจ้าจะต้องปลอบประโลมพวกมัน กดทับและควบคุมพวกมัน จากนั้นก็รีบบุกเข้าไปอย่างปลอดภัย”

มู่เฉียนซีกล่าว “ไม่ว่าอย่างไร ? ข้าก็ต้องลอง!”

เมื่อเส้นทางเปลวเพลิงเปิดออก มู่เฉียนซีก็เดินเข้าไปเผชิญหน้ากับเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามา นางใช้พลังจิตกดทับและใช้พลังวิญญาณธาตุไฟมาต้านรับ!

แม้ว่าการเดินทางจะผ่านไปอย่างปลอดภัย แต่ก็ล้มเหลว!

เขาทําได้เพียงต่อต้าน แต่ไม่สามารถควบคุมได้!

การท้าประลองล้มเหลว!

เสี่ยวเย่าจะร้องไห้ “ฮือฮือฮือ! จะทําอย่างไรดี? มันเกิดขึ้นได้ยังไง? กว่าจะได้พบกับอัจฉริยะแห่งการปรุงยาที่หาตัวได้ยากในรอบหมื่นปีมันไม่ง่ายเลย แต่ค่าสถานะของเขากลับไม่เข้ากันกับไฟ สวรรค์ต้องเล่นตลกกับข้าอย่างแน่นอน”

มู่เฉียนซีปลอบมัน “หยุดร้องไห้ได้แล้ว ตราบใดที่เวลาทดสอบยังไม่จบ! เช่นนั้นข้าย่อมต้องมีวิธีอย่างแน่นอน!”

“ฮือฮือฮือ! เสี่ยวเย่าจะไม่ร้อง! ตอนนี้สาวสวยต้องยิ่งอารมณ์ไม่ดีแน่”

มู่เฉียนซีติดอยู่ที่ชั้นที่สี่เป็นเวลานาน คิดหาวิธีมากมายแต่ก็ไม่สามารถผ่านได้ เพราะค่าสถานะของนางได้ถูกกําหนดไว้แล้ว

และเพราะติดอยู่เป็นเวลานาน อวี้เหลียนชิงจึงตามขึ้นมาได้ทันแล้ว

อวี้เหลียนชิงตื่นเต้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ในที่สุดเขาก็สามารถไล่ตามสตรีผู้นี้ทัน เมื่อเขาได้ยินเนื้อหาของการทดสอบนี้ เขาก็ดีใจจนแทบบ้า!

อวี้เหลียนชิงกล่าว “แม่นางมู่ น่าเสียดายจริง ๆ! ข้าต้องยอมรับเลยว่าบางอย่างเจ้านั้นแข็งแกร่งมาก แต่ก็มีบางสิ่งที่ถูกกําหนดมาโดยสวรรค์ อย่างเช่นค่าพลังวิญญาณนี้! ”

“เจ้าเป็นจอมภูตธาตุน้ำ ถูกลิขิตให้หยุดอยู่ที่การทดสอบของชั้นที่สี่ตลอดไป ต้องล้มเหลวอยู่ที่นี่! และไม่อาจกลายเป็นนักปรุงยาที่แข็งแกร่งกว่านี้ได้!”

อวี้เหลียนชิงเยาะเย้ยมู่เฉียนซีด้วยสีหน้าเสียดาย

เสี่ยวเย่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธ “ข้าอยากจะแก้แค้นเป็นการส่วนตัวแล้วเตะเจ้าคนไร้ยางอายผู้นี้ให้ตกรอบไปจริงๆ! มันน่าโมโหยิ่งนัก ”

มู่เฉียนซีโต้กลับ “พูดราวกับว่าเจ้าจะสามารถผ่านไปได้ในคราเดียว บางคนแม้แต่จอมภูตธาตุไฟเองก็อาจจะเป็นนักปรุงยาเศษสวะก็ได้!”

เสี่ยวเย่าปรบมืออย่างลับๆ “สาวน้อยพูดได้ดี! พูดได้ดีมาก”

อวี้เหลียนชิงกล่าวอย่างเย็นชา “เช่นนั้นเจ้าก็คอยดูให้ดี ด้วยความสามารถในการควบคุมไฟของข้าผู้นี้ จะต้องสามารถผ่านด่านได้ในคราวเดียวอย่างแน่นอน”

แต่เขาดูถูกการทดสอบของหอโอสถเกินไปหน่อยแล้ว โดยเฉพาะตอนนี้ที่อยู่ในชั้นที่สี่แล้วมันไม่ง่ายอย่างก่อนหน้านี้แน่นอน

เมื่ออวี้เหลียนชิงบุกเข้าไป เขาประมาทเล็กน้อยจึงถูกเปลวเพลิงที่ลุกโชนอยู่นั้นแผดเผาโดยตรงอย่างอนาถ และเสื้อผ้าของเขาก็ถูกไฟไหม้ไปจนหมด

“สาวน้อยอย่ามอง อย่ามอง เดี๋ยวจะเป็นตากุ้งยิงเอา ช่างน่าขายหน้านัก!”

มู่เฉียนซีเบนสายตาออกไปนานแล้ว นางไม่ได้ชอบอะไรเช่นนั้นอยู่แล้ว

แม้ว่ามู่เฉียนซีจะผ่านไปไม่ได้ แต่นางจะไม่ปล่อยให้ตนเองตกอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชเช่นนี้ อวี้เหลียนชิงรู้สึกอับอายและโกรธจนอยากจะมุดเข้าไปในหลุม

ขณะที่อวี้เหลียนชิงล้มเหลวอย่างน่าอนาถ ก็มีบางคนที่ขึ้นมาถึงชั้นที่สี่และต้องเห็นฉากเช่นนี้ ยิ่งทำให้อวี้เหลียนชิงขายหน้าอย่างถึงที่สุด

ไป๋เหลียนชวงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ามู่เฉียนซีแล้วกล่าวด้วยความเสียดายว่า “ข้าไม่คิดเลยว่าจะตามเจ้าได้ทันในชั้นที่สี่ แต่ชั้นที่สี่นี้ สําหรับเจ้าแล้วกลับเป็นภารกิจที่ไม่อาจทําสําเร็จได้”