ตอนที่ 694 ศพเด็ก
ซิงเหอตอบตามตรง “สัญชาตญาณ”
อีเฉินรู้สึกหลอน เขาหัวเราะด้วยความกังวล “สัญชาตญาณของผู้หญิงทุกคนแม่นยำแบบนี้หรือว่าเป็นเฉพาะคุณคนเดียว”
“ฉันพูดได้แค่ว่ารถบรรทุกคันนั้นดึงดูดความสนใจของฉัน บอกฉันมา รถบรรทุกคันนั้นมีอะไรผิดปกติ” ซิงเหอถาม
อีเฉินตอบตามความจริง ใบหน้าของเขาหม่นหมองลง “ไม่มีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับรถบรรทุกหรอก เพราะปัญหามันอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า! รถบรรทุกช่วยขนส่งเสบียงมาที่สถานรับเลี้ยงแห่งนี้ มันจะมาทุกเดือนและเวลาที่มาถึงก็จะแตกต่างกัน แต่ทุกครั้งมันจะใช้เวลาอยู่ที่บ้านเด็กกำพร้าทั้งวัน ภายนอกดูเหมือนว่าเพราะมีเสบียงมากมาย พวกเขาจึงต้องใช้เวลาทั้งวันเพื่อขนมันออกมา แต่ก็อย่างที่คุณเห็น นั่นไม่ใช่ความจริง รถบรรทุกจะอยู่ตลอดทั้งคืนเพราะพวกเขาต้องการความมืดในยามค่ำคืนไว้ขนบางอย่างออกไป และสิ่งเหล่านั้นก็คือด้านอัปลักษณ์ของตระกูลเฮ่อหลาน!”
“สิ่งที่ถูกขนออกไปจากบ้านเด็กกำพร้าคืออะไร” ซิงเหอกดดัน คำถามของเธอมักจะตรงไปตรงมาเสมอ
“ศพของเด็กๆ!” อีเฉินถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ทุกคนตกใจกับการเปิดเผยนี้
“คุณพูดว่าอะไรนะ” อาลิเรียกร้อง เธอคิดว่าเธอฟังผิด
อีเฉินพูดต่ออย่างสงบนิ่ง “ถูกต้อง รถบรรทุกมาที่นี่เพื่อขนศพของเด็กๆ ออกไป ทุกคนเป็นเด็กกำพร้าจากบ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้ ตอนแรกผมก็มองข้ามเรื่องนี้ไปเหมือนกันและต้องใช้เวลานานกว่าผมจะตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับรถบรรทุก หลังจากนั้นผมก็พยายามสะกดรอยตามรถบรรทุกไป แต่ก็หลังจากพยายามอยู่หลายครั้งกว่าผมจะได้เห็นว่าพวกเขาขับไปทางเมรุ พวกเขาขนศพของเด็กๆ ออกจากรถบรรทุกแล้วจัดการกับศพพวกนั้นที่เมรุเพื่อปกปิดเส้นทางของพวกเขา วันนี้ผมสังเกตเห็นว่ารถบรรทุกมาอีกครั้ง ผมเลยเรียกพวกคุณมาที่นี่เพื่อจะได้เห็นมันกับตาตัวเอง”
สิ่งที่อีเฉินเปิดเผยกดลงบนหัวใจของเธออย่างหนัก นี่เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับได้ กลุ่มของอาลิซึ่งล้วนแต่เป็นเด็กกำพร้ารู้สึกโกรธจัด
อาลิเรียงร้องด้วยความโมโห “คุณไม่ได้บันทึกรูปหรือวิดีโอตอนที่พวกเขาทำผิดไว้หรอ”
อีเฉินอธิบาย “แน่นอนว่าผมพยายามทำแบบนั้น แต่จะเรียกว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะมองมันยังไง มีครั้งหนึ่งที่คนงานไม่ระวัง ผมจึงสังเกตเห็นศพของเด็กๆ เข้า แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่ทำพลาดอีก ดังนั้นผมเลยไม่สามารถบันทึกหลักฐานใดๆ ไว้ได้ นอกจากนี้ระบบรักษาความปลอดภัยของพวกเขาก็เข้มงวดมาก ไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่รอบบ้านเด็กกำพร้าหรือเมรุให้ผมแฮกเข้าไปได้เลย แล้วยังมีหน่วยลาดตระเวนกับยามคอยเฝ้าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย ผมไม่สามารถรวบรวมหลักฐานใดๆ ได้ด้วยตัวเอง และถึงแม้ว่าผมจะรวบรวมหลักฐานเอาผิดพวกเขาได้ ตระกูลเฮ่อหลานก็สามารถยับยั้งมันอยู่ดี ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องเปิดเผยตัวตนให้พวกเขารู้ แต่ตอนนี้ด้วยความช่วยเหลือของพวกคุณ ผมหวังว่าเราจะสามารถหาหลักฐานและเปิดโปงตัวตนแท้จริงที่น่ารังเกียจของตระกูลเฮ่อหลานได้”
เขาเชื่อมั่นในตัวซิงเหอและเพื่อนของเธอ
อาลิให้สัญญาอย่างมั่นใจ “ปล่อยให้การรวบรวมหลักฐานเป็นหน้าที่ของพวกเราเถอะ! วันนี้เราจะจับพวกมันให้ได้คาหนังขาเขาและทำลายตระกูลเฮ่อหลานที่ชั่วช้าตระกูลนี้!”
“ใช่แล้ว คืนนี้พวกเราจะไปเก็บหลักฐานก่ออาชญากรรมของพวกมัน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเราเถอะ” แซมเสริมด้วยรอยยิ้มเย็น
จู่ๆ ซิงเหอก็ถามขึ้น “เด็กๆ ตายยังไง”
คำถามของเธอตรงไปที่อีเฉิน เขาส่ายหน้า “ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน แต่บ้านเด็กกำพร้ามีระบบรักษาความปลอดภัยดีเกินไป ผมไม่สามารถตรวจสอบได้”
ตอนที่ 695 ระบบเฝ้าระวังผ่านดาวเทียม
“ของที่บรรทุกออกไปคือศพทุกครั้งเลยเหรอ” ซิงเหอถามอีกครั้ง
อีเฉินพยักหน้า “น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะรถบรรทุกไปที่เมรุทุกครั้ง”
“พวกเขาจะไปเมื่อไหร่”
อีเฉินดูนาฬิกาข้อมือของเขาแล้วตอบว่า “อีกสามถึงสี่ชั่วโมง”
ซิงเหอพยักหน้า เธอมองไปที่บ้านเด็กกำพร้าแล้วสั่งเบาๆ “เอาแล็ปท็อปมาให้ฉัน”
อีเฉินสงสัย “คุณจะเอามันไปทำไม ในบ้านเด็กกำพร้าไม่มีกล้องวงจรปิด”
ถ้ามันมีเขาก็คงแฮกเข้าไปและรวบรวมหลักฐานการกระทำผิดกฎหมายของตระกูลเฮ่อหลานได้ตั้งนานแล้ว
ซิงเหอตอบ “ฉันรู้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ต้องมีวิธีที่จะเอาข้อมูลมาได้”
“วิธีไหน”
ซิงเหอมองเขาจากข้างๆ และพูดอย่างชัดเจน “ระบบเฝ้าระวังผ่านดาวเทียม”
อีเฉินอ้าปากค้าง เขาลืมเรื่องแบบนั้นไปได้ยังไง
แม้จะไม่สามารถดูรายละเอียดของคนหรืออาคารจากดาวเทียมธรรมดาได้ แต่มันก็ยังมีดาวเทียมที่มีความแม่นยำสูงอยู่ อย่างไรก็ตามดาวเทียมพวกนั้นสงวนไว้สำหรับผู้มีหน้าที่รักษาความปลอดสูงสุดระดับประเทศเท่านั้น ประชาชนธรรมดาไม่เกี่ยวอะไรกับมัน แม้แต่อีเฉินก็ไม่กล้าแฮกเข้าไปในระบบแบบนั้น เพราะถ้าถูกจับได้ล่ะก็จะมีปัญหาตามมามากมาย
หรือว่าซิงเหอจะมีความสามารถถึงขนาดแฮกเข้าไปในระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดแบบนั้นแล้วไม่โดนจับได้
อีเฉินไม่แน่ใจแต่เขาเชื่อเธอ และในเมื่อเธอเป็นคนพูดเรื่องนี้ขึ้นมา มันก็หมายความว่าเธอมีความมั่นใจ เขาลังเลอยู่ไม่กี่วินาทีก่อนที่จะส่งแล็ปท็อปของเขาให้กับเธอ
อีเฉินวางแล็ปท็อปไว้บนโต๊ะ เปิดมัน และเตือนเธอด้วยความกังวล “คุณเซี่ย คุณต้องระวังไม่ให้ถูกจับได้นะครับ”
ซิงเหอพยักหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร เธอเริ่มปฏิบัติการโดยใช้แล็ปท็อป ถึงแม้พวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่าเธอเก่งแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่พวกเขาเห็นเธอทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ พวกเขาก็ยังอดรู้สึกทึ่งไม่ได้อยู่ดี โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นว่าเธอแฮกเข้าไปในระบบเฝ้าระวังผ่านดาวเทียมของประเทศได้ง่ายแค่ไหน
ซิงเหอใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีในการแฮกเข้าไปในระบบ เธอระบุพิกัดของบ้านเด็กกำพร้า และมุ่งความสนใจไปที่กิจกรรมข้างในนั้น พวกเขาแทบจะก้มหัวให้เธอด้วยความชื่นชมล้วนๆ
แม้กระทั่งอีเฉินก็ประทับใจ ดวงตาของเขาเปล่งประกายไปด้วยแรงบันดาลใจ “คุณเซี่ย ความสามารถของคุณทำให้ผมได้เปิดหูเปิดตาอีกครั้ง! อันที่จริงคุณทำให้ผมอยากจะสมัครเป็นลูกศิษย์ของคุณ”
“นี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” ซิงเหอตอบเบาๆ และสิ่งที่เธอพูดก็เป็นความจริง อย่างไรก็ตามมันทิ่มแทงหัวใจของอีเฉินจนเจ็บปวด ถ้านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร… แล้วเรื่องธรรมดาหน้าตาเป็นยังไงหรอ
อยู่ดีๆ อีเฉินก็รู้สึกว่าความสามารถของเขาที่ทำให้หลายคนประทับใจเป็นเรื่องกล้วยๆ เมื่อเปรียบเทียบกับความสามารถของซิงเหอ
แซมตบบ่าเขาแล้วพูดปลอบใจ “ผมรู้ว่าคุณรู้สึกยังไง แต่อย่าเศร้าไปเลย เพราะซิงเหอเป็นขีดจำกัดที่ไม่มีใครสามารถข้ามผ่านไปได้ไม่ว่าพวกเราจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นพวกเราควรเรียนรู้ที่จะมีความสุขกับสิ่งที่เรามีดีกว่า”
อีเฉินพูดไม่ออก นี่เป็นการปลอบโยนหรือทำให้หมดกำลังใจกันแน่เนี่ย
ต้องขอบคุณที่เขาได้รับการสั่งสอนจากซิงเหอมาตั้งนานแล้ว และได้เรียนรู้ที่จะเผชิญหน้ากับความจริง
อีเฉินยิ้มอย่างชั่วร้าย “ถึงแม้ว่าผมจะไม่สามารถเอาชนะเธอได้แต่ผมก็เรียนรู้จากเธอได้ คุณเซี่ยครับ ทำไมคุณถึงไม่รับผมเป็นลูกศิษย์ล่ะ”
ซิงเหอตอบโดยไม่ละสายตาออกจากหน้าจอ “ถ้ามีโอกาสก็เอาสิ”
อีเฉินตื่นเต้น!
“ผมจะถือว่านั่นคือคำตกลง หลังจากจบเรื่องนี้แล้ว ผมจะนับถือคุณเป็นอาจารย์!”