ป้าแดงมองออกไป ทันใดนั้นก็เข้าใจความหมายของเธอทันที เธอยิ้มแล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะ ท่าทีที่คุณนายน้อยมีต่อคุณชายใหญ่เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เมื่อกี้ฉันเห็นคุณนายน้อยเป็นห่วงคุณชายใหญ่ กลัวว่าคุณชายใหญ่จะได้รับบาดเจ็บ สถานการณ์แบบนั้น ก็เหมือนกับท่าทีของคุณนายน้อยที่มีต่อคุณชายใหญ่ ในตอนที่พึ่งจะแต่งเข้ามาในตระกูลนวบดินทร์เมื่อหกปีก่อนไม่ใช่เหรอคะ ท่านย่าเลยอยากจะบอกว่าคุณชายใหญ่…”
ท่านย่ากินเค้กไปคำหนึ่ง “ใช่แล้ว ฉันหมายความว่าแบบนั้นแหละ ฉันไม่รู้ว่าช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับมายมิ้นท์และเปปเปอร์ แต่ฉันมั่นใจว่า มายมิ้นท์มีความรู้สึกที่ดีให้กับเปปเปอร์อีกครั้งจริงๆ”
“นั่นเป็นเรื่องที่ดีนะคะ” ป้าแดงตบมือด้วยความตื่นเต้น “ดูเหมือนว่าคุณชายใหญ่และคุณนายน้อยจะคืนดีกันแล้วจริงๆ”
“ใช่แล้ว เป็นเรื่องดีจริงๆ และก็เป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดสำหรับฉันในคืนนี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมเปปเปอร์ถึงไม่ยอมให้ฉันเปิดเผยว่ามายมิ้นท์มีความรู้สึกที่ดีกับเขา” ท่านย่าไม่เข้าใจ
ป้าแดงยิ้ม “จะยากอะไรคะ เดี๋ยวท่านก็ค่อยไปถามคุณชายใหญ่ก็ได้นิคะ”
“เธอพูดถูก” ท่านย่าพยักหน้าเห็นด้วย
จากนั้น ดูเหมือนว่าท่านย่าจะนึกอะไรขึ้นมาได้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอมืดมนลง แล้วแทนที่ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมและเย็นชา “ตอนนี้ มายมิ้นท์และเปปเปอร์มีท่าทีว่าจะคืนดีกัน ดังนั้นฉันไม่มีทางยอมให้ใครมาทำลายมัน พิศมัยไม่ชอบมายมิ้นท์มาตลอด ถ้าไม่ห้ามพิศมัยไว้ตอนนี้ เดี๋ยวมายมิ้นท์กลับมา เธอต้องมาหาเรื่องมายมิ้นท์อีกแน่นอน”
“ใช่แล้วค่ะ” ป้าแดงถอนหายใจ “ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงไม่ชอบคุณนายน้อยขนาดนั้น เธอมักจะคิดว่าคุณนายน้อยไม่คู่ควรกับคุณชายใหญ่มาตลอด แต่เธอก็ไม่คิดว่า ไม่ว่าจะเป็นภูมิหลัง หน้าตา ความสามารถ ศีลธรรม เธอเองก็ยังเทียบคุณนายน้อยไม่ได้ แต่ก็ยังได้แต่งงานกับคุณชายไม่ใช่เหรอ แล้วถึงแม้ว่าท่านย่าจะไม่ชอบเธอ แต่ท่านก็ไม่เคยทำให้เธอลำบากใจ แต่เธอกลับ…เฮ้อ…”
ท่านย่าหัวเราะแห้ง “หกปีที่ผ่านมา ฉันใจอ่อน มายมิ้นท์บอกว่าไม่ให้ฉันจัดการพิศมัย ฉันเห็นแก่มายมิ้นท์ เลยไม่ทำอะไรพิศมัย สุดท้ายก็ทำให้มายมิ้นท์ถูกพิศมัยรังแกขนาดนั้น แล้วก็หย่ากับตระกูลนวบดินทร์ ฉันทำพลาดมาครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่มีทางทำพลาดอีกครั้งแน่นอน พิศมัยอย่าคิดว่าจะรังแกมายมิ้นท์ได้อีก ไป เราไปเตือนพิศมัยกัน”
“ค่ะ” ป้าแดงรับชามมาจากมือของท่านย่าแล้ววางไว้ข้างๆ จากนั้นก็ประคองท่านย่าลุกขึ้นยืน เดินออกไปจากห้องโถงจัดงานเลี้ยง
อีกด้านหนึ่ง เปปเปอร์พามายมิ้นท์ไปรู้จักกับคนสำคัญที่ควรรู้จักหมดแล้ว
มายมิ้นท์ได้รับนามบัตรมาเป็นกอง แล้วยังมีคนสองคนที่บอกว่าพรุ่งนี้จะไปเยี่ยมชมเทนเดอร์กรุ๊ป
ถ้ารูปแบบการบริหารจัดการและการผลิตของเทนเดอร์กรุ๊ปทำให้พวกเขาสนใจ พวกเขาก็ยินดีที่จะร่วมหุ้นกับเทนเดอร์กรุ๊ป
ถึงแม้ว่ามันจะห่างไกลจากจำนวนที่มายมิ้นท์คาดหวังไว้ แต่มีสองคน ก็เพียงพอที่จะทำให้มายมิ้นท์ดีใจ
เห็นผู้หญิงที่อยู่ข้างๆยิ้มไม่หยุด เปปเปอร์ก็ถามด้วยความรักและเอ็นดู “ดีใจมากเหรอ?”
“แน่นอนสิ!” มายมิ้นท์พยักหน้าซ้ำๆ มือที่ควงแขนเปปเปอร์อยู่ก็ควงแน่นกว่าเดิม เธอพูดอย่างตื่นเต้น “ในที่สุดเทนเดอร์กรุ๊ปก็จะมีคนมาร่วมหุ้นแล้ว ฉันต้องดีใจอยู่แล้ว ฉันอยากทำให้เทนเดอร์กรุ๊ปกลับไปสู่ยุคที่รุ่งเรืองที่สุดอีกครั้ง หรือว่าเจริญรุ่งเรืองมากกว่านั้น แบบนั้น คุณพ่อคงจะดีใจมากเลย”
ได้ยินเธอพูดแบบนี้ สายตาของเปปเปอร์ก็เป็นประกาย สายตาของเขามีความซับซ้อน “อืม คุณพ่อของคุณต้องดีใจแน่นอน”
“ขอบคุณนะคะ” มายมิ้นท์ดึงมือออกมาจากแขนของเขา “ฉันไปห้องน้ำก่อน”
“ไปเถอะ” เปปเปอร์พยักหน้า
มายมิ้นท์เดินออกไปทางห้องน้ำ
เมื่อเธอเข้าห้องน้ำเสร็จ ยืนล้างมือที่หน้าอ่างล้างมือ ก็มีรูปร่างที่คุ้นเคยปรากฏขึ้นมาในกระจก
มายมิ้นท์เห็นรูปร่างนั้น เธอก็รีบหันไปมองด้วยความตกใจ “ป้าทิพย์?”
เดิมทีป้าทิพย์จะเดินตรงไปห้องข้างๆ เธอไม่ได้หันไปมองว่าคนที่อยู่หน้าอ่างล้างมือคือใคร ได้ยินคนเรียกเธอ เธอก็หยุดเดินแล้วหันไปมอง สบตากับมายมิ้นท์พอดี
ในตอนนี้เอง ป้าทิพย์ก็ตกใจ จากนั้นก็ปิดหน้าปิดตาแล้วหันหน้าหนีทันที เธอหันหลังให้มายมิ้นท์แล้วพูดด้วยความตกใจ “คุณผู้หญิงจำผิดคนแล้วค่ะ ฉันไม่ใช่ป้าทิพย์”
มายมิ้นท์หัวเราะแห้ง
จำผิด?
เธอจะจำผิดได้ยังไง
ตอนที่เธอมองไม่เห็น เธอไม่รู้ว่าป้าทิพย์หน้าตาเป็นยังไงจริงๆ
แต่หลังจากที่ตาของเธอหายดีแล้ว เธอเคยเห็นรูปของป้าทิพย์ เพราะอยากรู้ว่าตอนที่ตัวเองมองไม่เห็น แม่บ้านที่ดูแลเธอหน้าตาเป็นยังไง
และใบหน้าที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ เหมือนในรูปภาพนั้นอย่างกับแกะ เธอจะจำผิดได้ยังไง?
แล้วอีกอย่าง ท่าทีตื่นตระหนกที่รู้สึกผิดของป้าทิพย์ มันอธิบายทุกอย่างแล้วไม่ใช่เหรอ
“เอาล่ะป้าทิพย์ หยุดเสแสร้งได้แล้ว เราพูดกันตรงๆดีกว่า ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่ล่ะ? ตระกูลนวบดินทร์ไม่มีทางจ้างแม่บ้านข้างนอกมาดูแลงานเลี้ยงคืนนี้แน่นอน เพราะคนที่มาในคืนนี้ ล้วนแต่ไม่ใช่คนธรรมดา จ้างคนนอกเข้ามา ใครก็รับประกันไม่ได้ว่าจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น ดังนั้นคนที่มาดูแลงานเลี้ยงคืนนี้ ล้วนแต่เป็นคนเก่าคนแก่ของตระกูลนวบดินทร์ ดังนั้นป้าทิพย์ คุณไม่ใช่แม่บ้านของบริษัทแม่บ้านรับจ้างไช่ไหม? คุณคือคนรับใช้ของตระกูลนวบดินทร์ตั้งแต่แรกใช่ไหม?” มายมิ้นท์หรี่ตามองเธอ
ป้าทิพย์อ้าปาก ราวกับอยากจะแก้ตัว
แต่เมื่อเห็นสายตาที่เฉียบแหลมของมายมิ้นท์ สุดท้ายเธอก็ยอมรับชะตากรรม เธอพยักหน้าแล้วยิ้มอย่างเอือมระอา “คุณมายมิ้นท์ฉลาดจังเลยค่ะ ใช่แล้วค่ะ ฉันไม่ใช่คนของบริษัทแม่บ้านรับจ้าง ฉันคือคนรับใช้ของตระกูลนวบดินทร์ แต่ว่าฉันทำงานอยู่ที่ลานข้างหลังตลอด ดังนั้นทุกครั้งที่คุณมายมิ้นท์มา คุณถึงไม่เคยเจอฉัน”
“เป็นแบบนี้นี่เอง” มายมิ้นท์พยักหน้า จากนั้นก็เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เธอยืนตัวตรง “เดี๋ยวก่อน คุณบอกว่าคุณเป็นคนรับใช้ของตระกูลนวบดินทร์ งั้นเรื่องที่คุณมาเป็นแม่บ้านดูแลฉัน ท่านย่าเป็นคนบอกเหรอ? ไม่ๆๆ ท่านย่าน่าจะไม่รู้เรื่องตาของฉัน ไม่อย่างนั้นท่านต้องถามฉันตั้งนานแล้ว งั้นก็หมายความว่าเปปเปอร์…”
ป้าทิพย์ยิ้มแล้วพยักหน้า “เหมือนที่คุณมายมิ้นท์คิดค่ะ คุณชายใหญ่ส่งฉันไปดูแลคุณ แม่บ้านบริษัทแม่บ้านรับจ้างดูแลคุณ คุณชายใหญ่ไม่วางใจ กลัวแม่บ้านคนนั้นจะดูแลคุณได้ไม่ดี แล้วก็กลัวว่าเยี่ยมบุญจะรู้ว่าคุณมองไม่เห็น แล้วใช้เงินซื้อตัวแม่บ้านคนนั้นทำอะไรกับคุณ เขาเลยให้ฉันไปดูแลคุณค่ะ”
ได้ยินแบบนี้ มายมิ้นท์บอกไม่ถูกว่าในใจของตัวเองรู้สึกยังไง
มันรู้สึกฝาด แล้วก็รู้สึกหวาน
เปปเปอร์อีกแล้ว
เขาทำเพื่อเธอมากแค่ไหนกันแน่?
นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีเรื่องอื่นที่เธอไม่รู้อีกรึเปล่า?
“ทำไมเขาไม่บอกฉันตรงๆ” มายมิ้นท์ก้มหน้าลงแล้วพูดเบาๆ
ถึงแม้ว่าเสียงของเธอจะเบา แต่ป้าทิพย์ได้ยิน เธอยิ้ม “เพราะคุณชายใหญ่กลัวว่าถ้าคุณรู้ว่าฉันคือคนที่เขาส่งไปดูแลคุณ คุณจะไม่ยอมรับ ก็เลยปิดบังคุณค่ะ คุณมายมิ้นท์คะ คุณชายใหญ่รักคุณมากจริงๆนะคะ”
มายมิ้นท์กัดริมฝีปาก “ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วทำไมเขาต้อง…ต้อง…”
คำพูดสุดท้าย เธอพูดไม่ออก
ป้าทิพย์ถามด้วยความสงสัย “คุณมายมิ้นท์ ต้องอะไรคะ?”
“ไม่มีอะไร” มายมิ้นท์สะบัดมือ “ขอบคุณป้าทิพย์ที่เล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟัง ฉันกลับเข้าไปในงานเลี้ยงก่อนนะคะ ฉันจะไปขอบคุณเขา”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณมายมิ้นท์รีบกลับไปเถอะค่ะ เดี๋ยวก็จะเริ่มเต้นรำแล้ว” ป้าทิพย์พูด
มายมิ้นท์พยักหน้า “ค่ะ”
เธอหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนอ่างล้างมือแล้วเดินออกไป
ระหว่างทางกลับไปที่ห้องโถง เธอเดินไปอย่างช้าๆ เพราะเธอยังสงบสติอารมณ์ไม่ได้
ถ้าเธอไม่ได้บังเอิญเจอป้าทิพย์เมื่อกี้ ชาตินี้เธอคงจะไม่มีวันรู้ว่าเปปเปอร์ทำแบบนั้นเพื่อเธอ
ไม่ได้ เธอต้องไปถามเขาให้ชัดเจน ไปถามเขาว่าเขาทำอะไรเพื่อเธออีกรึเปล่า
ถ้ามีจริงๆ เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองติดหนี้บุญคุณเขามากเท่าไหร่
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เธอคงใช้หนี้ให้เขาไม่หมด