บทที่ 354 การสื่อสาร

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠)

บทที่ 354

การสื่อสาร

รอยฝ่ามือของมู่หรงเสวี่ยประทับอยู่บนใบหน้าของ เฟิงจือหลิง

“ข้าขอโทษ ข้า…” มู่หรงเสวี่ยพูดออกมา

“เจ้าไม่ต้องขอโทษหรอก ข้าสมควรโดนแล้วล่ะ ข้ายอมให้เจ้าตบอีกเป็นร้อยครั้งก็ได้” เฟิงจือหลิงไม่สนใจความเจ็บที่ใบหน้าและสายตาของเขาก็จ้องตรงไปที่มู่หรงเสี่ย สายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่พลุ่งพล่านของเขาทำให้มู่หรงเสวี่ยกลัว

มู่หรงรีบหันหน้าหนีทันที “ต่อไปเราเป็นเพื่อนกันจะดีกว่านะ”

“ได้” เฟิงจือหลิงเผยรอยยิ้มขมขื่นและสุดท้ายก็ตอบออกมา

วิธีที่เขายอมแพ้ทำให้เธออึดอัดใจ “เราออกไปข้างนอกกันก่อนเถอะ” มู่หรงเสวี่ยจับมือเขาไว้

จือหลิงจับมือเธอแน่น

เธอไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาคิดยังไงแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าการจับมือธรรมดานี้มันน่าอึดอัดอย่างมากเลย

เพียงพริบตาทั้งสองคนก็กลับมาโผล่ที่เตียง เพราะตอนที่แวบเข้าไปพวกเธออยู่บนเตียง พอออกมาจึงกลับมาอยู่ที่เตียงอีก

เพราะความไม่แน่นอนจึงคุ้มที่จะลองเสี่ยงดู เฟิงจือหลิงกดร่างกายของมู่หรงเสวี่ยอีกครั้ง ริมฝีปากของทั้งสองแนบชิดกันแน่น

เฟิงจือหลิงรักเธอมากจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องริมฝีปากที่แนบชิดกันเลย แม้แต่หน้าผากของทั้งสองก็ยังชิดใกล้กันจนเขาแทบจะทนไม่ไหว

“อื่ม…จือ” เพียงเพราะจะร้องเรียกเฟิงจือหลิง ริมฝีปากของมู่หรงก็ถูกจู่โจมเข้าไปอีกครั้ง

เฟิงจือหลิงหลงระเริงไปกับกลิ่นหอมจากตัวเธอ เขาอยากให้เป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิตเลยก็ยังได้

“ไม่…อืม…” มู่หรงเสวี่ยผลักไปที่อกของเฟิงจือหลิง

เฟิงจือหลิงจับไปที่มือของเธอและกดไว้เหนือหัว ส่วนมืออีกข้างก็อดไม่ได้ที่จะลูบไล้ไปตามร่างกายของเธอ เขาต้องการเธอ!

มู่หรงเสวี่ยรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก “ไม่นะ ปล่อย…”

เขาจะปล่อยได้ยังไงในเมื่อเขาไม่อยากที่จะปล่อย! เขาปล่อยไม่ได้

มู่หรงเสวี่ยเตะไปที่เป้ากางเกง

“โอ๊ย!” เฟิงจือหลิงร้องอย่างเจ็บปวด ตัวขดงอ

มู่หรงเสวี่ยรีบลุกขึ้นพร้อมทั้งหยิบเสื้อผ้าที่เขาฉีกออกไป ใบหน้าแดงก่ำไปหมด รู้สึกทั้งโกรธทั้งอาย

เฟิงจือหลิงลุกขึ้น ในสายตายังเต็มไปด้วยความปรารถนา “มู่เทียน ขอข้าไม่ได้เหรอ?” เฟิงจือหลิงพูดออกมาพร้อมรอยยิ้มขมขื่น

“เจ้า เจ้ากล้าพูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง?” มู่หรงดูมีเสน่ห์และน้ำเสียงของเธอก็ยังฟังดูน่าหลงใหลเพราะจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้

“ทำไมข้าถึงพูดว่าข้ารักเจ้าไม่ได้ล่ะ? ข้าอยากให้โลกได้รู้ว่าข้ารักเจ้า”

เธอไม่ใช้ก้อนหินนะ เธอก็มีความรู้สึกเหมือนกัน เธอกัดริมฝีปาก “ถึงแม้ข้าจะไม่รักเจ้างั้นเหรอ?”

“ตราบใดที่เจ้าได้รู้ความรู้สึกของข้า ไม่สำคัญหรอกว่าเจ้าจะรักข้าหรือเปล่า ข้าจะคอยปกป้องเจ้าเสมอ” เฟิงจือหลิงพูดด้วยความรัก

มู่หรงเสวี่ยนวดไปที่หน้าผากที่กำลังปวด

“ขอข้าคิดดูก่อนแล้วกัน”

เฟิงจือหลิงเผยรอยยิ้มบนใบหน้า “ขอบคุณนะมู่เทียน ขอบคุณที่เจ้าจะเก็บเรื่องนี้ไปคิดดู ขอบคุณนะ…” นี่ก้าวหน้าใช่ไหม?! เขาไม่ได้ขออะไรมาก ถึงแม้เธอจะไม่ชอบเขาก็ตาม

มู่หรงเสวี่ยถอดหายใจอย่างหมดหนทาง ลองดูก็แล้วกัน! แต่หัวใจก็รู้สึกไปมากกว่าความรัก

หลายวันต่อมา เสี่ยวฉิงมองไปที่ท่านหญิงด้วยความไม่เข้าใจ “ท่านหญิง หลายวันที่ผ่านมานี้ท่านดูแปลกๆนะเจ้าคะ!” เสี่ยวฉิงที่กำลังช่วยพัดให้มู่หรงอยู่ถามออกมา

มู่หรงเสวี่ยได้สติกลับมาทันที “อะไร อะไรนะ?! ข้าไม่ชอบนะ”

“พูดเรื่องอะไรเจ้าคะท่านหญิง? ท่านไม่ชอบอะไรเจ้าคะ?” เสี่ยวฉิงถามอย่างสงสัย

“เปล่า ไม่มีอะไร” ทันใดนั้นมู่หรงเสวี่ยก็หน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที

ทำให้เสี่ยวฉิงยิ่งรู้สึกแปลกมากขึ้นไปอีก “ท่านหญิง ช่วงนี้ท่านไม่ค่อยสนใจพี่เฟิงเท่าไรเลยนะเจ้าคะ ทำไมเหรอ?” พวกเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย เห็นได้ชัดว่าพี่เฟิงอยากที่จะคุยกับนายหญิงแต่บ่อยครั้งที่นายหญิงจะดึงเธอเข้ามาขวางและพูดอะไรหลายอย่างที่อธิบายไม่ได้

“ข้าเหรอ เมื่อไรกัน?” มู่หรงพูดตะกุกตะกักขึ้นมาทันที “นี่แม่ตัวดี เจ้ากลายเป็นคนขี้นินทาตั้งแต่เมื่อไรกันเหรอ”

“นายหญิง ท่านอย่ามาเฉไฉเลย เกิดอะไรขึ้นกับพี่เฟิงเหรอคะ?” เธอไม่ได้ตาบอดนะ สองวันที่ผ่านมานี้ สองคนนี้ดูไม่ปกติกันเท่าไรเลย

“ไม่มี ไม่มีอะไรหรอก เจ้าออกไปได้แล้ว ข้าอยากจะนอนแล้วอย่ามากวนข้าหน่อยเลย” มู่หรงรู้สึกหงุดหงิดและรีบผลักเสี่ยวฉิงออกไปข้างนอก

ถ้าเขาไม่มีความคิดพวกนี้ตั้งแต่แรก เธอก็คงจะสนใจอยู่หรอก

“นายหญิงของเจ้าล่ะ?” เฟิงจือหลิงที่เห็นเสี่ยวฉิงเดิน ออกมานอกประตูจึงรีบถามออกไปทันที

“นายหญิงอยู่ข้างในค่ะ เดี๋ยวก่อนพี่เฟิง ท่านจะทำอะไรน่ะ?” เสี่ยวฉิงถามด้วยความสงสัยพร้อมมองไปที่ช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือของเฟิงจือหลิง

สีหน้าที่นิ่งสงบของเฟิงจือหลิงดูจะอายๆเล็กน้อยซึ่งเป็นใบหน้าที่เห็นได้ยาก “นี่เหรอ อย่าถามเลย” เฟิงจือหลิงตอบออกไปสบายๆแล้วจึงเปิดประตูเดินเข้าไปข้างในพร้อมทั้งล็อกประตูห้อง

“มู่เทียน เจ้าเป็นคนรักข้าได้ไหม?” เฟิงจือหลิงคุกเข่าลงเบื้องหน้ามู่หรงเสวี่ย

มู่หรงเสวี่ยลุกขึ้นจากเก้าอี้ “เจ้า…” สายตาประหลาดใจจ้องไปที่เขา

ที่มือและร่างกายของเฟิงจือหลิงมีเหงื่อออกเต็มไปหมด ดอกไม้นี่หลินหยางเป็นคนให้เขามา หลินหยางบอกว่าที่โลกของมู่เทียนนี่คือวิธีขอความรัก

ปากของมู่หรงยกขึ้น ไม่ต้องคิดเลยว่านี่เป็นความคิดของใคร หลินหยางต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วยแน่ๆ

เมื่อยังไม่ได้ยินคำตอบ หัวใจของเฟิงจือหลิงก็ยิ่งกังวลมากขึ้นกว่าเดิมจนแทบจะถอนใจ เขาไม่น่าฟังที่หลินหยางพูดเลย

ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจเล็กน้อย เขาไม่น่าใจร้อนแบบนี้เลย น่าจะคิดให้รอบคอบก่อน

“มู่เทียน…” เมื่อเวลาผ่านไป เฟิงจือหลิงก็เริ่มรู้สึกว่าดอกไม้ที่อยู่ในมือหนักอึ้งและไม่กล้าที่จะมองตาเธออีกครั้งด้วยซ้ำ

ตั้งแต่ตอนนั้นก็เห็นได้ชัดว่ามู่เทียนพยายามที่จะหลบหน้าเขาซึ่งยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่พอใจมากขึ้นไปเรื่อยๆ เธอไม่อยากที่จะคุยกับเขาด้วยซ้ำ

ถึงแม้เขาจะไม่ได้รู้สึกเสียใจที่ได้สารภาพออกไปวันนั้น แต่เขาก็เสียใจที่เธอพยายามหลบหน้าเขา

นี่เป็นครั้งแรกที่มู่หรงเสวี่ยไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอเองก็ชอบเฟิงจือหลิง แต่ความรักนี้เทียบไม่ได้กับความรักของคนรัก เธอรู้สึกรักแบบครอบครัวมากกว่า

เธอมองไปที่ดวงตาของเฟิงจือหลิงที่หมองลงเรื่อยๆ ภายในคือหัวใจที่เจ็บปวดที่เธอเองก็เห็นได้อย่างชัดเจน ถึงแม้เธอจะไม่ได้รู้สึกปวดหัวใจแต่ก็รู้สึกยังไม่อยากที่จะยอมแพ้เท่าไร บางทีเขาอาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีก็ได้

นี่ดีกว่าชีวิตที่แล้วมากที่เธอยอมมอบทุกอย่างแต่สิ่งที่ได้กลับมามีแต่เรื่องโกหก เธอคิดว่าถ้าเธอเลือกเฟิงจือหลิง เขาก็คงจะไม่ปล่อยให้เธอต้องร้องไห้

ถึงแม้จะไม่ใช่ความรักที่รุ่มร้อนแต่ก็เป็นความสุขที่เรียบง่ายและเชื่อถือได้

มู่หรงดูเหมือนจะตัดสินใจแล้วจึงรับดอกไม้ที่อยู่ในมือเขามา “งั้น ข้าก็หวังว่าตัวเองจะไม่ทำให้เจ้าต้องเสียใจนะ ถ้าวันหนึ่งเจ้าต้องเสียใจข้าก็ไม่โทษเจ้าหรอก” เธอพูดออกมาอย่างจริงจัง

หัวของเฟิงจือหลิงยกขึ้นพร้อมดวงตาที่เบิกกว้าง เธอตอบตกลง

เขาแทบจะเก็บรอยยิ้มที่เปล่งประกายของตัวเองไว้ไม่ไหว เขาลุกขึ้นกอดมู่หรงเสวี่ยแน่นพร้อมทั้งอุ้มเธอหมุนไปรอบห้อง “มู่เทียน ข้ารักเจ้า!”

“เข้าใจแล้วๆ ปล่อยข้าลงก่อน” มู่หรงเสวี่ยตีไปที่ไหล่เขาพร้อมรอยยิ้ม

ในหัวใจของเธอเกิดรอยยิ้มจางๆ

ตอนนี้องค์จักรพรรดิที่อยู่อีกฝั่งเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากมุมมองของมิติลับและทุกอย่างที่อยู่รอบๆเขาก็พังพินาศไปจนหมด

“หลบไปให้พ้น ข้าจะลงไปข้างล่าง” นางเป็นของข้า!

“ถ้าท่านจะลงไปข้างล่างก็ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ!” ร่างชุบทองอีกร่างยืนขวางอยู่เบื้องหน้าเขา โดยไม่สนใจท่าทางโกรธเกรี้ยวของเขา

“เจ้าอยากจะตายหรือไง!” แล้วทั้งสองก็พุ่งเข้าหากันด้วยความเร็ว เพราะทักษะเวทมนตร์จึงทำให้การเคลื่อนไหวของพวกเขาเร็วมากจนคนทั่วไปแทบจะมองไม่เห็น

“มู่เทียน ข้าจะดีกับเจ้าไปตลอดชีวิตข้าเลย” เฟิงจือหลิงวางมู่หรงลงหลังจากคำพูดที่เต็มไปด้วยความรักใคร่

มู่หรงพยักหน้า ไม่สนใจความรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆที่อยู่ในใจตอนนี้ “ข้ารู้ เราควรจะลองออกไปจากห้วงเวลานี้ก่อนจะดีกว่านะ”

“ได้เลย” ทั้งสองกอดกันและตั้งแต่ที่เธอยอมรับความสัมพันธ์ของเขาแล้ว เธอก็ไม่ขัดขืนความใกล้ชิดของเขาอีก

เสี่ยวฉิงที่หูแนบอยู่ที่ประตูแอบหัวเราะออกมาเงียบๆ เธออยากที่จะเห็นท่านหญิงมีความสุขมากกว่าใครๆ พี่เฟิงมักจะมองท่านหญิงเป็นคนที่สำคัญที่สุดเสมอ ต่อไปเขาจะต้องเป็นสามีที่ดีของท่านหญิงได้แน่ๆ

“เจ้ากำลังทำอะไรน่ะ?”

“โอ๊ย ตกใจหมดเลย!” ไหล่ของเสี่ยวฉิงสะดุ้งด้วยความตกใจขึ้นมาทันที

เสียงที่ค่อนๆข้างดังนี้ทำให้คนทั้งสองที่อยู่ในห้องได้ยินไปด้วย ปากของมู่หรงยกขึ้นเล็กน้อย ไม่ต้องคิดเลยว่าจะต้องเป็นเสี่ยวฉิงแน่ๆที่แอบฟังพวกเธออยู่

เธอลุกขึ้น เฟิงจือหลิงจับมือเธอและเดินไปที่ประตู

“มีอะไรกันเหรอ?” หลังจากเปิดประตูมา ก็เห็นเสี่ยวฉิงที่ยืนอยู่ข้างประตู และอีกคนที่กำลังยืนอยู่ข้างๆนางด้วยก็คือหวังซื่อ

หวังซื่อเห็นมู่หรงก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันทีแต่สายตาที่แหลมคมหันไปเห็นมือเธอที่กำลังจับอยู่กับเฟิงจือหลิง หัวใจก็แวบความรู้สึกมีความสุขขึ้นมา

“พวกเจ้าคบกันงั้นเหรอ?” หวังซื่อถามออกมาด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีอย่างที่หาได้ยาก

เฟิงจือหลิงเข้ามายืนอยู่ข้างหน้ามู่หรงพร้อมทั้งยื่นมือและโอบไปที่ไหล่ของมู่หรงเพื่อแสดงออกถึงการปกป้อง

“ทำไม? เจ้าอยากจะให้ของขวัญข้าหรือไง?” มู่หรงเลิกคิ้วพร้อมพูดออกมาเสียงเรียบ

“เป็นธรรมเนียม แน่นอนอยู่แล้ว มันเป็นธรรมเนียม ฮ่าฮ่าฮ่า ยินดีด้วยนะ ข้าขอให้พวกเจ้าครองรักกันไปเป็นร้อยปีเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!” หวังซื่อมองด้วยสายตาเป็นมิตรอย่างหาได้ยากอย่างคาดไม่ถึงไปที่มู่หรงพร้อมทั้งกล่าวคำยินดีออกมาอีก

“เจ้ากินยาผิดมาหรือไง” มู่หรงพูดประชดประชันออกไป ปกติเห็นแต่นางแช่งให้เธอตาย แล้วอารมณ์ไหนถึงมาอวยพรเธอแบบนี้ได้?!

“ฮ่าฮ่า ข้าไปก่อนล่ะ” พอพวกเขาสองคนคบกันเธอก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก

จะโทษที่เธอคิดมากไม่ได้ พี่หลินปฏิบัติกับนางต่างไปจากผู้หญิงคนอื่น ความต่างนี้ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงอันตรายร้ายแรง

เธอรีบวิ่งไปหาพี่หลินทันที ข่าวดีแบบนี้ก็ต้องรีบบอกให้พี่หลินได้รู้เป็นคนแรกสิ จริงไหม?!

“นายหญิง ฮ่าฮ่าฮ่า” เสี่ยวฉิงเรียกออกมาพร้อมรอยยิ้ม

มู่หรงยื่นมือออกไปและแกล้งแตะที่หน้าผากของนาง “เจ้าเองก็คงจะกินยาผิดมาด้วยเหมือนกันใช่ไหม?”

“คนเขามีความสุขกับท่านด้วยต่างหากล่ะเจ้าค่ะ”

“ขอบคุณมากนะ” มู่หรงมองไปที่เฟิงจือหลิงและพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม

บางทีนี่อาจจะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องในชีวิตของเธอแล้ว

เฟิงจือหลิงมองไปที่มู่หรงด้วยสีหน้าอ้อนๆและรู้สึกว่าเธอสวยขึ้นกว่าเดิมมากขึ้นไปอีก

ทุกรอยยิ้มที่เปล่งประกายแค่นี้ก็เพียงพอสำหรับหัวใจของเขาแล้ว ในฝ่ามือของเขามีมือเล็กๆอยู่ เขาหวังว่าจะสามารถที่จะกุมมือนี้ไปได้ชั่วนิรันดร์!

ทั้งสองมองหน้ากันพร้อมรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น

“ไปหาหลินหยางด้วยกันเถอะ” มู่หรงพูดเสียงเรียบ

“ได้สิ” ทุกที่ที่พวกเขาเดินจับมือไปด้วยกัน เขาจะเก็บมันไว้ในหัวใจเสมอ