เล่มที่ 20 เล่มที่ 20 ตอนที่ 583 ซูจิ่นซี เจ้าจะฆ่าสามีที่รักอย่างนั้นหรือ

สนมโง่เจ้าจะหนีไปไหน

“ยังไม่พอ หนี้ห้าล้านสองแสนตำลึงเมื่อไหร่จะคืน? จิ่นซี เจ้าต้องขยันให้มากกว่านี้! ”

เยี่ยโยวเหยาพูดพลางใช้มือข้างหนึ่งจับท้ายทอย ส่วนมืออีกข้างโอบเอวซูจิ่นซี และบรรจงจุมพิตนางอย่างดูดดื่มอีกครั้ง

เยี่ยโยวเหยา ท่านเป็นสัตว์ร้ายหรือ? เอะอะอันใดก็ทำภารกิจบนเตียง?

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วมุ่น นางพยายามผลักเยี่ยโยวเหยา ทว่ายิ่งผลักเท่าไร เยี่ยโยวเหยาก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นเท่านั้น เขาอุ้มนางเดินไปที่เตียง

ซูจิ่นซีเม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าเผยให้เห็นความไม่พอใจ สถานการณ์เช่นนี้ นางเป็นรองเยี่ยโยวเหยาอย่างเห็นได้ชัด

ประสบการณ์ได้สอนว่า ยิ่งนางต่อต้านมากเท่าใด ตัวนางเองจะยิ่งลำบากมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นซูจิ่นซีจึงหยุดขัดขืนและปล่อยให้เยี่ยโยวเหยาทำตามใจ

ท้ายที่สุด ซูจิ่นซีก็เหนื่อยจนผล็อยหลับไป ขณะที่ยังสะลึมสะลือ นางรู้สึกเพียงว่าเยี่ยโยวเหยาอ่อนโยนกับนางยิ่งนัก ทว่านางเหนื่อยเกินกว่าจะตอบสนองเขา

ซูจิ่นซีตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นเวลายามสองแล้ว แขนแข็งแกร่งซึ่งมีสีซีดเล็กน้อยโอบรอบหน้าอกของนาง และกอดนางไว้ในอ้อมกอดแนบแน่น

เท่าที่ตาเห็น บนพื้นมีเสื้อผ้ากระจัดกระจาย

ไม่รู้ว่ากล้ามเนื้อส่วนใดของซูจิ่นซีกระตุก นางผละตัวออกจากอ้อมแขนและเด้งตัวลงจากเตียงทันที

เยี่ยโยวเหยาลืมตาขึ้นด้วยความงุนงง เขามองซูจิ่นซีที่ยืนอยู่ข้างเตียง ทั้งนางยังจ้องมองมาด้วยแววตาขุ่นเคือง เขายกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ปิดเปลือกตาทั้งสองลงอีกครั้ง ก่อนจะยื่นมือไปหานางและพูดว่า “ซีซี มานี่! ”

ซูจิ่นซีเม้มริมฝีปาก ทว่าไม่พูดอันใด คิ้วของนางยังคงขมวดเข้าหากัน

เยี่ยโยวเหยาปิดเปลือกตาอยู่เช่นนั้น เขาขยับไปข้างเตียงเล็กน้อย พลางดึงแขนของซูจิ่นซี นางหมุนตัวอย่างสวยงามและถูกลากขึ้นไปบนเตียงอีกครั้ง

หลังจากนั้น มือเรียวยาวงดงามของเยี่ยโยวเหยาก็ลงโทษซูจิ่นซีด้วยการลูบไล้ไปทั่วร่างของนาง ลมหายใจของเขารู้สึกถึงความสุขสันต์ เขาโอบนางไว้ในอ้อมกอด และซุกไซ้ซอกคอของนาง

“นอน! ”

มุมปากของซูจิ่นซีกระตุกอย่างแรง

“เยี่ยโยวเหยา พวกเรานอนมาทั้งวันทั้งคืนแล้ว! ”

“อืม! ”

ซูจิ่นซีเบิกตาโพลง

“ท่านได้ยินที่หม่อมฉันพูดหรือไม่? ”

“ได้ยิน”

ซูจิ่นซีกัดฟันและเตะเยี่ยโยวเหยา “หนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว ท่านยังนอนอุตุ! เรื่องที่แคว้นซีอวิ๋นไม่ต้องไปจัดการแล้วหรือ? งานราชสำนักแคว้นจงหนิงไม่ต้องกังวลแล้วหรือ? ”

เยี่ยโยวเหยายังคงหลับตาเช่นเดิม ริมฝีปากของเขาซุกไซ้อยู่รอบลำคอของซูจิ่นซี มือที่จับอยู่บนเอวก็กระชับแน่นขึ้นเล็กน้อย

“คืนสุขสันต์ในฤดูใบไม้ผลิ ข้ากังวลเพียงเจ้า! ”

ซูจิ่นซีเม้มริมฝีปากและหันไปมองใบหน้าอันงดงามของเยี่ยโยวเหยา คิ้วคมเข้มดั่งภาพวาด สันจมูกโด่ง ริมฝีปากเย็นยะเยือก

ใบหน้าของเขายังคงหล่อเหลาคมสัน แม้จะอยู่ภายใต้แสงไฟสลัว ทว่าเมื่ออยู่บนเตียงนอน กลับยิ่งมีเสน่ห์ดึงดูดให้หัวใจของนางสั่นสะท้าน

ซูจิ่นซีมองใบหน้าของเยี่ยโยวเหยาเป็นเวลานาน นางยังคงตกตะลึงอยู่เช่นนั้น

“นารีก่อเหตุร้าย… จริงๆ ! ”

ซูจิ่นซีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันหลังให้เยี่ยโยวเหยา

เยี่ยโยวเหยาแย้มยิ้มเล็กน้อย “ชายาที่รักกำลังพูดถึงตนเองหรือ? ”

“หม่อมฉันกำลังพูดถึงท่านต่างหาก! ”

ริมฝีปากของเยี่ยโยวเยาสัมผัสแผ่นหลังของซูจิ่นซีแผ่วเบา “ชายาที่รักกับข้า นับเป็นภัยพิบัติของกันและกัน”

ซูจิ่นซีหัวใจสั่นไหว นางรู้สถานการณ์เช่นนี้ดี สัญชาตญาณสัตว์ร้ายของเยี่ยโยวเหยาผุดขึ้นมาอีกแล้ว ทันใดนั้น นางก็รีบขยับตัวไปอยู่ที่ขอบเตียง

อย่างไรก็ตาม ซูจิ่นซีไม่คิดเลยว่าเยี่ยโยวเหยาจะขยับตามนางมาด้วย

ซูจิ่นซีขยับตัว

เยี่ยโหยวเหยาขยับตาม

ซูจิ่นซีขยับ…

ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดัง ‘ตุบ’ ร่างของซูจิ่นซีลื่นไถลจากขอบเตียง ตกลงไปนอนบนพื้น

เจ็บยิ่งนัก!

เตียงไม่ได้สูงมาก ทว่าซูจิ่นซีลื่นไถลลงมาไม่เบานัก นางนอนอยู่บนพื้น เจ็บจนร้องไม่ออก ผ่านไปครู่หนึ่งอาการเจ็บจึงทุเลาลง

ซูจิ่นซียกมือจับบริเวณที่บาดเจ็บจากการล้ม คิ้ว หน้าผาก และตาต่างขมวดเข้าหากันจนเป็นรอยย่น

ตอนนี้ เยี่ยโยวเหยาลืมตาขึ้นแล้ว เขายกยิ้มมุมปากเยาะเย้ยด้วยท่าทีขบขัน ราวกับยินดีในความเดือดร้อนของผู้อื่น…

เยี่ยโยวเหยายกผ้าห่มขึ้นและพูดกับซูจิ่นซี “จิ่นซี มานี่! ”

เมื่อซูจิ่นซีเห็นรอยยิ้มนั้น ความเจ็บปวดทั่วร่างกายพลันแปรเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงแห่งความโกรธแค้น

ท่านมันเฮงซวย!

ซูจิ่นซีสาปแช่งอยู่ในใจ นางพลิกตัวและกระโดดขึ้นไปบนเตียง ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมหัวเยี่ยโยวเหยาและทุบตีเขารัวๆ

“เยี่ยโยวเหยา หม่อมฉันลื่นล้มจนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ท่านยังยิ้มหน้าระรื่นอยู่อีกหรือ”

“ยิ้มอยู่ได้ ยิ้มอยู่ได้ ยิ้มอยู่ได้! ”

ซูจิ่นซีใช้หมัดเล็กๆ ระดมทุบตีอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้น นางก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เยี่ยโหยวเหยาที่อยู่ใต้ผ้าห่มไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ไร้ซึ่งการดิ้นรน

นี่… มันเกิดอันใดขึ้น?

เป็นไปไม่ได้ ไม่ต่อต้านอันใดเลยหรือ?

ตายแล้วหรือ เป็นไปไม่ได้ ซูจิ่นซีไม่ได้นึกถึงเรื่องนี้เลย

คนอย่างเยี่ยโยวเหยาจะปล่อยให้ตนเองถูกผู้อื่นคลุมหัวและทุบตีจนตายหรือ

ความคิดแรกของซูจิ่นซีคือ เยี่ยโยวเหยาคงโกรธเสียมากกว่า

ซูจิ่นซีขมวดคิ้วมุ่น คงไม่ใช่กระมัง? นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ไร้มารยาทเกินไปหรือไม่?

ซูจิ่นซีนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ ทว่าเยี่ยโหยวเหยายังคงไม่ส่งเสียงและไม่ขยับเขยื้อน ซูจิ่นซีจึงตกใจเล็กน้อย

นางเม้มริมฝีปาก ไม่ได้สนใจท่าทางของตนเองที่กำลังคร่อมอยู่บนร่างของเยี่ยโยวเหยาว่าเป็นเช่นไร นางยื่นมือออกไปดึงผ้าห่มที่คลุมหน้าเยี่ยโยวเหยา

หากเยี่ยโยวเหยาโกรธจริง ซูจิ่นซีแทบจะจินตนาการถึงใบหน้าอันน่าหวาดกลัวของเยี่ยโยวเหยาในยามที่เขาโกรธได้

ขี้งก!

ซูจิ่นซีด่าพลางยื่นมือไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม เมื่อนิ้วมือของซูจิ่นอยู่ห่างจากผ้าห่มที่ปกคลุมใบหน้าของเยี่ยโยวเหยาเพียงหนึ่งชุ่น ทันใดนั้น เยี่ยโยวเหยาก็ขยับตัว!

พลังแข็งแกร่งระเบิดออกมาจากใต้ผ้าห่ม มันทำลายผ้าห่มที่ขั้นกลางระหว่างซูจิ่นซีกับเยี่ยโยวเหยาจนแหลกละเอียด สำลีก้อนใหญ่ปลิวว่อนกระจายไปทั่วราวกับเกล็ดหิมะขนาดใหญ่

ท่ามกลางปุยนุ่นที่ปลิวว่อน เยี่ยโยวเหยาลุกขึ้นนั่งด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ดูไม่ออกว่าเขากำลังรู้สึกเช่นไร ซูจิ่นซีพลันตื่นตกใจ

คราแรก ซูจิ่นซียังคิดว่าเยี่ยโยวเหยาต้องโกรธมาก ผลที่ตามมาต้องร้ายแรงเป็นแน่ ปฏิกิริยาของนางแทบจะเป็นแรงสะท้อนกลับ นางยื่นมือไปทางเยี่ยโยวเหยา ขณะเดียวกัน ร่างของนางก็ลอยแยกจากร่างของเขา

เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย และลุกขึ้นไล่ตามซูจิ่นซี เขาเอื้อมมือไปคว้าแขนของนาง

ซูจิ่นซีคิดว่าเยี่ยโยวเหยาจะลงมือกับนาง จึงยกฝ่ามือขึ้น และผลักพลังภายในที่ควบแน่นไปทางมือของเยี่ยโยวเหยา

พลังภายในที่ควบแน่นนั้นคือ พลังสยบมังกร ซึ่งซูจิ่นซียังควบคุมได้ไม่ถึงสามส่วน อย่างไรก็ตาม นางไม่คาดคิดว่าพลังสยบมังกรจะเป็นศัตรูโดยธรรมชาติของเยี่ยโยวเหยา

ขณะที่พลังสยบมังกรเพียงสามส่วนโจมตีไปทางเยี่ยโยวเหยา มันกลับกลายเป็นพลังภายในถึงหกส่วน

เยี่ยโยวเหยาขมวดคิ้วเข้าหากัน แววตาปรากฏความเย็นชา เขารวบรวมพลังที่ฝ่ามือทั้งสองข้างและต้านทานพลังของซูจิ่นซีอย่างรวดเร็ว เขาแทบจะใช้พลังเทพจิ่วเซียวระดับหกเกือบทั้งหมด

ขณะที่เยี่ยโยวเหยากำลังใช้พลังต้านทานไว้ ร่างของซูจิ่นซีก็เหาะออกไปราวกับนกนางแอ่น นางหมุนตัวกลางอากาศอย่างสวยงาม ก่อนจะคว้าชุดบนราวแขวนมาคลุมร่างกายตนเองและค่อยๆ ร่อนลงบนพื้นอย่างมั่นคง

ท่าทางเช่นนี้งดงามดั่งเทพธิดาเสวียนหนี่ว์จุติลงมาจากสรวงสวรรค์

เยี่ยโยวเหยาที่รับมือกับพลังสยบมังกรสำเร็จ นั่งลงบนเตียงอย่างมั่นคง มือข้างหนึ่งวางอยู่บนเตียง ส่วนมืออีกข้างวางอยู่บนเข่าที่งอขึ้นอย่างผ่อนคลาย ใบหน้านิ่งขรึมมองซูจิ่นซีอย่างดูถูก น้ำเสียงยังเย็นชาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ซูจิ่นซี เจ้ามีความสามารถถึงเพียงนี้เชียวหรือ? คิดจะสังหารพระสวามีที่รักอย่างนั้นหรือ? “