บทที่ 468 ทำการพยายามครั้งสุดท้าย

ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง

แต่​ฉันทัชกลับไม่ง่วงนอนแล้ว เขานอนตะแคง​ แล้ว​จ้องมองใบหน้ายามหลับใหลของเธอภายใต้แสงไฟสลัวเงียบๆ

ใบหน้าของเธอสวย และเรียบเนียน เปร่งประกายจากข้างในออกมา ขนตาของเธองอนยาว และ​กำลังสั่นไหวเล็กน้อย มือของเธอที่จับอยู่บนหน้าอกของเขา ยังคงจับไว้แน่นมาก ภายใต้​แสงไฟสีเหลืองอำพัน​ส่องแสงสลัวปกคลุมลงมา ทำให้​รู้สึก​อบอุ่นมาก

ริมฝีปากบางยกยิัมอย่างเซ็กซี่ออกมา ฉันทัชเพียงรู้สึกว่าในห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่น และสงบสุข​ ทั้งจิตใจและร่างกาย ก็อยู่ในอาการมีความสุข

ความสุข​และ​ความสงบสุขนี้ อยู่ได้ไม่นาน จากนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนหัวเตียงก็ดังขึ้น ทำลายความสงบนี้ลง คนที่โทรมาคืออาคิระ

เสียงเรียกเข้าที่ดังทำให้ยู่ยี่ขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจเล็กน้อย เมื่อเห็นแบบนี้ เขาก็เอื้อมแขนยาวออกไปและกดปิดเสียงโทรศัพท์ทีนที

นับตั้งแต่เหตุการณ์นั้น อาคิระก็ไม่ได้ติดต่อเขามานานแล้ว เห็นได้ชัดว่าเธอโกรธมากเพราะเขาเลือกที่จะหย่า

ในเวลานี้มันดึกมากแล้ว ในเวลาแบบนี้ เธอจะโทรมาทำไม?

ฉันทัชขยับนิ้วเล็กน้อย แล้ว​หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ใช้มือซ้ายยกผ้าห่มขึ้น และเดินไปที่ห้องนั่งเล่น ไม่อยากส่งเสียงดังจนเธอตื่น…

จากนั้น เขาเทน้ำอุ่นมาหนึ่งแก้ว แล้วกดรับสาย

“คุณจะกลับเฮทเคเมื่อไหร่” เสียงของอาคิระดังขึ้นมาตามสาย มันตรงไปตรงมา และสั้นมาก

ฉันทัชถอนหายใจ ก่อนจะ​พูด​ว่า “ตอนนี้ผมคงไม่มีทางที่จะกลับไปเฮทเคได้ชั่วคราว​ และผมจะอยู่ที่เมือง S อีกนาน”

ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง ทิ้งเธอไว้ที่นี่ตามลำพัง เขาไม่วางใจ ถึงแม้​จะมีโก๋อยู่ด้วยก็ตาม

“แต่ว่า คุณจะต้อง กลับมาเฮทเคให้เร็วที่สุด ฉันจะรอ” อาคิระพูดอีกครั้ง

“น้ำเสียงของคุณผสมไปด้วยอารมณ์​และ​คำสั่ง ผมไม่ชอบ และคำถามนี้ ผมได้ตอบคุณไปแล้ว…”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ อาคิระกำลังอารมณ์เสียมาก “แล้วยังไง คุณอยากเห็นเอวาตายก่อน ถึงจะกลับมาเฮทเคได้ ใช่ไหม”

พอพูดถึงเอวา คิ้วของฉันทัชก็ขมวดเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”

“อาการของเธอแย่ลงเรื่อยๆ และเธอปฏิเสธที่จะรับการเคมีบำบัด แค่เดินสองสามก้าวเธอก็ไม่ไหวแล้ว คำพูด​ของ​ฉัน เธอไม่ยอมฟัง ฉันจะรอให้คุณกลับเฮทเค…”

ฉันทัชเปิดปากพูดด้วยเสียงต่ำ “ผมจะโทรหาเธอ แล้วเกลี้ยกล่อมเธอเอง”

“ฉันบอกให้คุณกลับเฮทเค ไม่ได้บอกให้คุณโทรไปเกลี้ยกล่อม​เธอ คุณต้องรีบกลับเฮทเควันพรุ่งนี้​ก่อนบ่ายสอง”

“คุณจะโกรธ​ จะร้อนใจ จะอารมณ์เสียอาละวาด​ต่อหน้าผม ผมเข้าใจ แต่ผมมีวิธีจัดการของตัวเอง…” ฉันทัชพูด

“ฉันทัช บ้าเอ๊ย ในสายตา​ของ​คุณ​ชีวิตของเอวาเป็นอะไร มันไม่มีค่าเลย เทียบกับอะไรไม่ได้เลยหรือไง ตอนนี้เธอป่วยหนัก ฉันอุตส่าห์​บอกคุณ​แบบนี้ แต่คุณ​ยังบอกว่าจะจัดการเอง หึหึ จัดการอะไร จัดการให้เธอรอความตายหรือไง”

เธออารมณ์แบบนี้ ฉันทัชคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดคุยต่อแล้ว ดังนั้นเขาจึงกดวางสายไป

หลังจากนั้น โทรศัพท์ยังคงดังติดต่อ​กัน และคนที่โทรมายังคงเป็นอาคิระ ฉันทัชไม่รับสายเธอกลับไม่ยอม เธอกดโทรมาไม่หยุด

เขาไม่สนใจเธอ แล้วกดปิดเครื่องไป ฉันทัชใช้โทรศัพท์​บ้านกดโทรหาเอวา

สักพัก​ เอวาก็กดรับสาย ดูเหมือนเธอจะหลับอยู่ เสียงขึ้น​จมูก นอกจากนี้ เสียงของเธอก็ยังแหบแห้ง และ​อ่อนแรง​

ฉันทัชถามเธอเกี่ยวกับอาการป่วยของเธอ และยังถามถึงสาเหตุ​ที่​เธอไม่ยอมรับการรักษาและให้เคมีบำบัด เสียงของเขาพูดออกมาอย่างเชื่องช้า ในคืนที่มืดมิด ราวกับเสียงสายน้ำที่ไหลช้าๆ และแผ่วเบา

เอวาบอกว่า เธอรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องรักษาอีกต่อไป​แล้ว​ โรคนี้ได้หยั่งรากลึกลงไปในร่างกาย​ของ​เธอแล้ว ทำไมจะต้องต่อต้าน​อีก?

รักษา​มากี่ปี ทรมาน และ​เจ็บปวดมาแล้ว​แค่ไหน สุดท้ายแลกมาได้แค่ ร่างกาย​ซีดเซียวไร้เรี่ยวแรง

ในตอนแรก ยังเต็มไปด้วยความหวัง ความคาดหวัง แล้วมันก็ค่อยๆ เหี่ยวเฉา หดหู่​ ไม่มีความหวังอีกต่อไป

“เพราะไม่มีความหวัง ดังนั้น คุณจึงยอมแพ้อย่างนั้นเหรอ?” ฉันทัชเข้าใจสภาพจิตใจของเธอดี

“ทุกคนเกิดมาก็ต้องตาย แต่มันต่างกันที่เวลา ชีวิตของฉันก็แค่จบลงเร็วกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง ฉันไม่อยากเหนื่อย ไม่อยากได้รับความเจ็บปวดแบบนั้นอีกแล้ว​” เรื่องความเป็นความตาย เอวาด้านชา​กับมันไปแล้ว และปลงตก​แล้ว​ด้วย

“ผมหวังว่าคุณจะยอมเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัด ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม พยายามเป็นครั้งสุดท้าย”

เอวายกยิ้ม แต่ไม่อยากพูดอะไรต่อ เธอจึงบอกว่าง่วงและอยากพักผ่อนแล้ว จากนั้นจึงกดวางสายไป

นี่เป็นครั้งแรกที่เอวากดวางสายโทรศัพท์ของฉันทัช

ส่วนอีกด้านหนึ่ง

หลังจากดูหนังจบ และกลับถึงคฤหาสน์ภูษาธร ก็ดึกมากแล้ว หัสดินยังคงจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เอาเหม่อลอย ตอนที่ขับรถ ก็เกือบจะชนท้ายรถคนอื่นเกือบสองครั้ง

ในที่สุดเรนนี่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาไม่เสียดายชีวิตของเขา คนอื่นยังเสียดายชีวิตของตัวเอง ยังอยากมีชีวิตต่อไป!

เธอให้หัสดินลงจากรถ เธอจะขับรถเอง จนในที่สุดก็กลับมาถึงคฤหาสน์ภูษาธรโดยไม่เกิดอุบัติเหตุ​ใด ๆ พอถึงห้องนอน เรนนี่ก็เอ่ยปากพูด “เธอมีอิทธิพลต่อคุณมากเลยหรือไง อยู่​ต่อหน้าภรรยา คุณ​ยังคิดถึงผู้หญิงคนอื่น จนสติไม่อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​ หัสดิน คุณไม่​คิดว่าคุณ​ต้อง​อธิบายให้ฉันฟังบ้างหรือไงคะ?”

สีหน้า​ของเรนนี่ยังคงอ่อนโยน น้ำเสียงก็พยายามควบคุมไว้อย่างดี แต่หัสดินไม่มีอารมณ์จะพูด และไม่อยากสนใจเธอ

จะให้​เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เรนนี่เดินไปด้านหน้าเขาและยืนขวางทางเขาไว้

ตอนนี้อารมณ์หงุดหงิดของหัสดินเริ่มรุนแรงมากขึ้น เขารู้สึกว่าเรนนี่ในตอนนี้ไม่มีความเข้าอกเข้าใจเหมือนเมื่อก่อน

“ผมไม่มีอารมณ์จะคุยกับคุณในตอนนี้ พักผ่อนเถอะ” จากนั้นหัสดินก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ

สรุป​ก็คือ​ หัสดินยังไม่คิดว่าทั้งสองเป็นสามีภรรยากันแล้ว เขาก็ยังใช้ชีวิต​เหมือนเมื่อก่อน

เรนนี่เป็นผู้หญิง​อ่อนโยน เข้าอกเข้าใจ​กัน​ และเชื่อฟังคำพูด​ของเขาทุกอย่าง

พอได้ยินแบบนี้ เรนนี่ก็โมโห​จนแทบจะระเบิด เธอทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอเดินไปสองก้าว แล้วยืนขวางอยู่หน้าห้องน้ำ “ฉันเป็นภรรยาของคุณนะคะ! “

“ฉันจะอาบน้ำ” หัสดินเงยหน้า​ขึ้นมอง

“เราจำเป็นต้องคุยกันค่ะ!”

“ผมจะไปอาบน้ำ” หัสดิน​เคาะประตูห้องน้ำ บอกให้เธอหลีกทาง

“คุณ​หัสดิน!” เรนนี่ระเบิด​อารมณ์​เป็นครั้งแรก และเรียกเขาด้วยชื่อเต็ม

จากนั้น คิ้วของหัสดินก็เริ่มหมดความอดทน เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “ทางที่ดีคุณ​อย่ามาหาเรื่อง​ผมตอนผมอารมณ์ไม่ดี มันจะทำให้ผมยิ่งรู้สึกรำคาญ​มากกว่าเดิม”

“รำคาญ​ หมายถึง​ฉันเหรอคะ?” เรนนี่ยิ้มเยาะเย้ย

สิ่งที่ตอบกลับเธอคือ หัสดินผลักร่างของเธอออก แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะปิดประตูห้องน้ำ

ความรู้สึกขุ่นเคือง เรนนี่รีบลงไปชั้นล่างเพื่อเทน้ำดื่มเพื่อดับเปลวไฟในร่างกาย เธอไม่ระวัง​ ตอนวางแก้วน้ำลง แก้วน้ำก็ตกพื้นจนแตกกระจาย

ชฎารัตน์เพิ่งเข้ามา เห็นเหตุการณ์​ชัดเจน เธอขมวดคิ้ว เรนนี่เองก็เห็นเธอ ในเวลานี้เรนนี่ไม่มีอารมณ์​จะเสแสร้ง​ เธอจึงเดินผ่านชฎารัตน์ไป โดยไม่มีการทักทาย เดินจากไป

……

ระหว่างอาหารเช้า ฉันทัชบอกยู่ยี่ตรงๆ ว่าเขาจะกลับไปเฮทเค ไม่มีการปิดบัง เขาพูดอย่างเปิดเผย และตรงไปตรงมา บอกว่าเอวาอาการหนัก เขาต้องกลับเฮทเค ไปเกลี้ยกล่อม​เธอ

ยู่ยี่พยักหน้าให้ ไม่มีการห้ามปราม​ แค่เอ่ยถามว่า “คุณต้องไปกี่วันคะ?”

เขา ทำให้เธอรู้สึกไว้วางใจ เขาให้ความรู้สึกมีวุฒิภาวะ มั่นคง และมีความปลอดภัยกับเธอได้

“ยังไม่แน่ใจครับ กลับเฮทเคกับผมเถอะ ช่วงนี้เป็นวันหยุดปีใหม่​ ไม่ต้องไปทำงาน ถือว่าไปเที่ยวกับผม…” ฉันทัชนั้น ยังคงไม่อยากแยกห่างจากเธอ

“ไปกลับยุ่งยาก ฉันจะเหนื่อย ร่างกายจะไม่ไหว อย่าว่าแต่ตอนนี้เลยค่ะ ฉันไม่มีบัตรผ่านทางไปเฮทเค ถ้าคุณจะไปเกลี้ยกล่อม​เธอ ฉันไปกับคุณ จะเพิ่มความยากลำบากให้เปล่าๆ” ยู่ยี่พูด

เอวากับเขาเคยเป็นสามีภรรยากัน อีกทั้งยังชอบเขามากขนาดนั้น ถ้าเธอไปด้วย อาจจะกระตุ้น​อารมณ์​ของ​เธอ จนจากที่กำลังจะเกลี้ยกล่อม​สำเร็จ ไม่ใช่เพื่อกระตุ้นในอดีต

นอกจากนี้ ซูเจิ้งเซียวอยู่ที่ไหน เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น เป็นการดีกว่าสำหรับเธอที่จะไม่ไปที่นั่น

ขอแค่อาคิระเห็นเธอ เธอก็จะโกรธมาก และตอนนี้เธอกำลังตั้งท้อง เธอไม่อยากให้อารมณ์ของเธอกลายเป็น​ไม่ดี แล้วอีกอย่าง อาคิระเป็นคนไร้เหตุผล ถ้าเธอไป จะต้องทะเลาะกันแน่นอน

ฉันทัชไม่อยากบังคับใจเธอ จึงถอนหายใจเบา ๆ และยอมแพ้ไป “ถ้าอย่างนั้น ผมจะรีบกลับมาในหนึ่งวัน … “

ยู่ยี่กลัวว่าเขาจะเหนื่อยเกินไป การนั่งเครื่องบินก็เป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก เธอไม่อยากให้เขาเหนื่อยขนาดนั้น

“คุณอยู่ที่นี่ ผมจะรีบกลับมา ไม่ว่าจะต้องรีบแค่ไหน ผมก็ไม่มีทางรู้สึก​เหนื่อย…” เขา​พูด​

เวลาของเขาเร่งรัด​มาก ช่วงเที่ยงคืน​เดินทางมาถึงเฮทเค อยู่​ที่​นั่นหนึ่ง​วัน ตอนกลางคืนก็จะเดินทางกลับมาเมืองS

พอได้ยินว่าตารางเวลาของเขาเร่งรัด ยู่ยี่ก็รู้สึกเป็นห่วง เธอจะทนเห็นเขาเหนื่อย​ เดินทางไปกลับระหว่างสองที่ได้ยังไง​

จากนั้น ความคิดที่อยากจะไปกับเขาก็ปรากฏ​ขึ้น​มา​ และ​รุนแรงมาก

แต่ว่า เธอไม่พูด การไปเฮทเครอบนี้

ฉันทัชอยู่​กับเธอทั้งวัน แล้วซื้อของกินไว้มากมาย ล้วนแต่เป็นอาหารสำหรับผู้หญิง​มีครรภ์ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการดีต่อร่างกาย

ยู่ยี่​จะกินหมดได้ยังไง​กัน เธอต่อต้าน​ แต่ฉันทัชกอดเธอไว้อย่างอ่อนโยน​ แล้วพูดว่า ในท้องของเธอยังมีตัวเล็ก​อยู่​ด้วย ตอนนี้ต้องกินปริมาณ​ของ​สองคน ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เธอรู้สึกเหนื่อย​ใจ ฉันทัชยิ้มอย่างมีเสน่ห์ และให้โก๋จ้างนักโภชนาการ เพื่อจัดการอาหารสามมื้อของเธอ

ไม่ไปในตอนกลางวัน เพราะเขากลัวว่าจะทำใจไปจากเธอไม่ได้ ปกติช่วงห้าทุ่ม ยู่ยี่จะนอนหลับไปแล้ว​ แต่วันนี้เธอกลับดวงตาเบิกโต และยังคงจ้องมองที่ฉันทัช

เขาตั้งเวลา ออกเดินทางตอนห้าทุ่มครึ่ง จะรีบไปสนามบิน

“ดึกดื่นแบบนี้คุณ​ยังไม่นอนอีก ดีแล้ว​จริงๆ​ เหรอ?” ฉันทัชอ่อนใจ มือใหญ่ของเขาลูบไล้ผมของเธอ แล้วมันจะแตกต่าง​อะไรกับการที่เขาเดินทางในตอนกลางวัน?

“รู้ว่าคุณ​จะเดินทาง ฉันก็เลยนอนไม่หลับ ไม่เป็นไรค่ะ รอคุณ​เดินทางไป ฉันค่อยนอนหลับก็ได้”

ยู่ยี่ลุกขึ้นนั่ง “ข้างนอกหนาวมาก คุณอยากดื่มอะไรไหมคะ ฉันไปชงกาแฟให้นะคะ”

มือใหญ่จับไหล่เธอแล้วกดลง ฉันทัชสวมเสื้อสเวตเตอร์สีดำ เทกาแฟใส่แก้ว และน้ำอุ่นหนึ่งแก้ว: “เรื่องแบบนี้ให้เป็นหน้าที่ของผมเอง คุณนั่งดีๆ ห้ามขยับ.. .”

ทั้งสองพูดคุย​กัน​อีกเล็กน้อย​ พอเวลาถึงห้าทุ่มยี่สิบ โก๋โก๋ก็เดินทางมารออยู่ที่ชั้นล่างตรงเวลา

ฉันทัชสวมเสื้อคลุมสีน้ำตาลที่แขวนอยู่บนไม้แขวนเสื้อ แล้ว​เอื้อมมือออกไป ช่วยเธอคลุมผ้าห่ม ก่อนจะจูบริมฝีปากสีแดงของเธอ และจากไป

ด้านหน้า​เขาเดินออกไป ด้านหลัง​ยู่ยี่ก็รีบเดินตามมา

ในช่วงเช้ามืดในคืนฤดูหนาวอากาศหนาวมาก พอเดินออกจากคอนโด ก็รู้สึกมีลมหนาวพัดเข้าไปถึงกระดูก เหมือนถูก​เทถังน้ำแข็งลงจากศีรษะ​ ทั้งมือและเท้าของเธอก็ยิ่งเย็นลงอีก

พอมองย้อนกลับไป ฉันทัชก็มองเห็นเธอ คิ้วเข้มของเขาย่นเกือบจะในทันที ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนปกติ แต่เข้มงวดขึ้นเล็กน้อย “คุณลงมาทำไมกัน”

“ฉันยืนมองคุณจากไป แล้วค่อยขึ้นไปชั้นบน” ในระหว่างที่พูด ยู่ยี่ก็ดึงเสื้อคลุมของเธอให้แน่น และสับเท้าเล็กน้อย