บทที่ 566 ปัญหามีไม่จบ

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“ที่พวกคุณดื่มนั้นเป็นอู่เหลียงเย่จริงเหรอ?”

เมื่อเห็นเย่เทียนกับเซวฟู่ยี่ดื่มหมดขวดอย่างง่ายดาย หยุนเหมิงหยานก็ตกใจและหยิบอู่เหลียงเย่ขึ้นมาหนึ่งขวด “ดูแล้วไม่ค่อยเหมือนเลยนะ! ไหน ฉันลองดูหน่อยสิ!”

หลังจากพูดจบ เธอก็ยกอู่เหลียงเย่เพื่อจะลองดื่ม

“เฮ้ เฮ้!”

เย่เทียนที่เห็นการกระทำของหยุนเหมิงหยานก็รีบห้ามเธอไว้ “คุณเทใส่แก้วแล้วค่อยดื่มสิ! เดี๋ยวดื่มไม่หมดมันจะเสียดายนะ!”

“แล้วใครว่าฉันจะดื่มไม่หมดล่ะ?”

หยุนเหมิงหยานฮึดฮัดไม่พอใจและยกขวดขึ้นมาเพื่อจะดื่ม

ใช่ว่าเธอจะไม่เคยเห็นคนดื่มวอดก้า แต่ที่เธอเคยเห็นนั้นเป็นการเทใส่แก้วแล้วดื่มกัน แต่วันนี้ เธอเห็นเย่เทียนกับเซวฟู่ยี่ยกกันคนละขวด เธอจึงเกิดความสงสัยว่าทั้งสองคนนี้แอบตกลงอะไรกันไว้ โดยการเปลี่ยนเหล้าในขวดให้เป็นน้ำ เพื่อให้จี้เยียนหรันชื่นชมในตัวของเย่เทียนมากขึ้น

กรึบ กรึบ!!

เกรงว่าเย่เทียนจะห้าม หยุนเหมิงหยานจึงเรียนแบบท่าทางก่อนหน้านี้ของทั้งสองคน และยกขวดขึ้นมาดื่มทันที

ฟุ้ม!

แต่ยังไม่ทันไร หยุนเหมิงหยานก็ทนไม่ไหวจนพ่นเหล้าในปากออกมาและวางขวดลงทันที

“ร้อนมากๆ!”

ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที เธอได้แต่แลบลิ้นออกมาอย่างไม่หยุด และใช้มือพัดลิ้นให้หายแสบร้อน

“ฮ่า ฮ่า!”

เมื่อเห็นภาพนี้เย่เทียนกับเซวฟู่ยี่ทั้งสองต่างก็พากันหัวเราะ แม้แต่จี้เยียนหรันก็ถึงกับเม้มปากแล้วแอบหัวเราะเบาๆ

“มา! เหมิงหยาน เธอดื่มค็อกเทลให้ชุ่มคอหน่อยสิ!”

เมื่อจี้เยียนหรันตั้งสติได้ เธอก็รีบไปหยิบค็อกเทลให้กับหยุนเหมิงหยาน

“อ๊าาา! ร้อนจริงๆ! ทำไมมันถึงร้อนขนาดนี้!”

หยุนเหมิงหยานทนความแสบร้อนไม่ได้จริงๆ เธอจึงรีบหยิบค็อกเทลมาจิบไปคำหนึ่ง แต่ยังรู้สึกแสบร้อนตรงลำคอไม่หาย ซึ่งความรู้สึกตอนนี้ มันเป็นอาการปวดแสบร้อนจนทำให้เธอแทบจะร้องไห้ออกมา

“เมื่อกี้ใครนะที่บอกว่าดื่มเป็น?”

เย่เทียนยังคงหยอกล้อไม่หยุด จากนั้นยกมือเรียกพนักงานเพื่อให้เอาน้ำเย็นมาให้

“ไอ้บ้า! ก็เพราะนายแหละ!”

หยุนเหมิงหยานดื่มน้ำเย็นหลายคำติดต่อกัน หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆ รู้สึกดีขึ้น แต่ยังมองไปที่เย่เทียนอย่างหัวร้อน “ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันจะทำอะไรอย่างนี้ได้ไงล้ะ!”

“จะโทษผมได้ไง?”

เย่เทียนหยักไหล่พร้อมกับเสียงหัวเราะแล้วมองไปที่หยุนเหมิงหยาน

เมื่อเห็นสีหน้าขี้เล่นของเย่เทียน หยุนเหมิงหยานแทบอดไม่ได้ที่จะปาขวดเหล้าใส่เขาทันที

“กูขอสั่งให้พวกมึงทุกคนไสหัวออกไปให้พ้น!”

ในขณะนั้นเอง จู่ ๆ ก็มีเสียงที่หยาบคายก็ดังขึ้น

เมื่อเย่เทียนและคนอื่นๆ ได้ยินก็หยุดทะเลาะกันและหันไปมองยังต้นเสียงพร้อมกันทั้งสี่คน

และพวกเขาก็เห็นชายหัวโล้นคนหนึ่งที่ไม่รู้มาเมื่อไหร่ได้ยืนอยู่ด้านหลังเซวฟู่ยี่ ซึ่งชายหัวโล้นคนนี้มีรอยแผลเป็นที่คล้ายตัวตะขาบอยู่ตำแหน่งหน้าผากของเขายาวไปจนถึงใบหู และมันทำให้คนมองแล้วรู้สึกน่ากลัวมาก!

“หือ?!”

เย่เทียนขมวดคิ้วทันที แต่ด้วยการที่ไม่อยากสร้างปัญหา เขาจึงถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “คุณผู้ชายท่านนี้ครับ พวกผมคงไม่ได้ทำอะไรให้พี่ไม่พอใจใช่ไหมครับ?”

“พวกมึงจะไม่ได้ทำให้กูไม่พอใจได้ไงล่ะ?”

ชายหัวโล้นฮึดฮัดไม่พอใจ “ก็ที่ที่พวกมึงนั่งอยู่เป็นที่ประจำของกู! ในบาร์นี้! ที่นี่! มีแต่กูเท่านั้นที่มีสิทธิ์นั่งตรงนี้ได้!”

“อ้าว! นี่คุณทำไมไม่มีเหตุผลเลยล่ะ!”

หยุนเหมิงหยานยืนขึ้นทันทีและพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า “เรื่องอะไรที่คุณเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์นั่งตรงนี้ได้!”

“นั่นน่ะสิ มีชื่อคุณเขียนติดไว้บนโซฟานี้ด้วยเหรอ? หรือว่ามีชื่อคุณเขียนติดไว้บนโต๊ะ?”

เซวฟู่ยี่ก็เริ่มไม่พอใจ “อีกอย่าง ต่อให้มันมีชื่อคุณเขียนไว้แล้วยังไง? หรือถ้าคุณอยากมีปัญหา ก็เข้ามาเลยสิ!!”

เขาเป็นถึงนายน้อยคนที่สองของตระกูลเซวอยู่แล้ว ปกติอยู่ไหนทำอะไรก็ไม่จำเป็นต้องกลัวใคร และตอนนี้เหล้ายังเข้าปากด้วย แล้วเขาจะกลัวใครอีก?

พู่……!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่เทียนและสาวทั้งสองถึงกับอดขำไม่ได้ แม้แต่หยุนเหมิงหยานที่สนิทกับเซวฟู่ยี่มากที่สุดก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะพูดแบบนี้ได้

เดิมทีที่เห็นหยุนเหมิงหยานสายตาของชายหัวโล้นก็เต็มไปด้วยความบ้ากามอยู่แล้ว และเมื่อได้ยินคำพูดเย่อหยิ่งของเซวฟู่ยี่ สีหน้าของเขาก็ยิ่งเปลี่ยนไปทันที

“ไอ้หนู เพราะคำพูดของมึงเมื่อกี้ มึงต้องทิ้งผู้หญิงคนนี้ให้กู ส่วนที่เหลือก็ไสหัวออกไปให้พ้น!”

ชายหัวโล้นพูดอย่างเย็นชา “ไม่อย่างนั้น เหอะๆ……”

“ปากดีเหมือนกันนะ! ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน!”

เย่เทียนก็เริ่มไม่พอใจ คนในเมืองจินเป็นอะไรกันแน่? ทำไมชอบเอาแต่หาเรื่องคนอื่นไปทั่ว?

“เอาความมั่นใจมาจากตัวกูเองไงล่ะ!”

ชายหัวโล้นฮึดฮัดไม่พอใจแล้วยื่นมือออกมาตบโต๊ะ จากนั้นลูกค้าสามโต๊ะข้างๆ ก็ลุกขึ้นมาทันที

เย่เทียนเหลือบไปมองไปที่พวกเขา และเห็นว่ามีโต๊ะละหกคน ถ้าไม่รวมผู้หญิงแล้วรวมชายหัวโล้นคนนี้ด้วย ก็น่าจะประมาณสิบสามถึงสิบสี่คนน่าจะได้

ชายหัวโล้นมองออกว่าเย่เทียนน่าจะเป็นหัวโจกของกลุ่มนี้ จึงจ้องไปที่เย่เทียนและข่มขู่ว่า “ไอ้หนู กูจะให้โอกาสมึงครั้งสุดท้าย รีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”

“ถ้าเราไม่ไปล่ะ!”

ดวงตาสีเข้มของเย่เทียนประกายความเย็นยะเยือกออกมา

เมื่อนึกคิดแล้ว เขาเพิ่งมาถึงเมืองจินไม่กี่ชั่วโมง แต่ทำไมเจอปัญหารุมเร้าซ้ำแล้วซ้ำอีก? หรือว่าวันนี้เป็นปีชงของเขาหรือ?

“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ งั้นอย่าหาว่ากูไม่เกรงใจก็แล้วกันนะ!”

ชายหัวโล้นส่ายหัวอย่างไม่พอใจและโบกมือไปด้านหลัง

“พี่ใหญ่ครับ มีอะไรจะสั่งเหรอครับ?”

หลังจากที่เขาโบกมือเรียกคน ทันใดนั้นชายสองคนก็วิ่งออกมาจากสามโต๊ะด้านข้าง ซึ่งคนแรกย้อมผมสีทอง ส่วนอีกคนย้อมผมสีแดง ดูจากการแต่งตัวแล้วต้องเป็นพวกอันธพาลอย่างแน่นอน

“พวกแกสองคนทำไมไม่แหกตาดูบ้าง?”

หัวโล้นขมวดคิ้วและชี้นิ้วไปที่เย่เทียนกับเซวฟู่ยี่แล้วออกคำสั่ง “ไอ้เวรสองตัวนี้ไม่อยากออกไปจากที่นี่ เรียกพวกมาถอนขนพวกมันสองตัวและจับพวกมันโยนออกไปจากร้าน!”

“เตือนแล้วไม่ฟังใช่ไหม? กล้าหาเรื่องกับพี่ใหญ่ของเรา สงสัยเบื่อโลกมากแล้วสินะ?”

ชายผมแดงกับชายผมทองรู้งานทันที จากนั้นโบกมือไปข้างหน้าและกลุ่มนักเลงที่อยู่ข้างหลังก็ต่างพากันลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาล้อมเย่เทียนกับคนของเขาไว้

จี้เยียนหรันขมวดคิ้ว เธอทนไหวจนลุกขึ้นและตั้งใจจะไปด่าพวกเขา “พวกแก……”

แต่เธอยังไม่ทันได้พูดจบ ชายผมทองก็พูดแทรกขึ้นมาว่า “โอโห! สาวสายนะเนี่ย! พี่ใหญ่ครับ ดูเหมือนว่าวันนี้พี่จะโชคดีมากๆ เลยนะครับ!”

“ฮ่า ฮ่า! ดูเหมือนวันนี้มาถูกเวลาจริงๆ โชคดีที่ได้เจอสาวสวยตั้งสองคน”

ชายหัวโล้นสีหน้าที่เปลี่ยนไปอีกครั้ง และพูดด้วยรอยยิ้มอันชั่วช้าว่า “พวกเรา จับไอ้สองตัวนี้โยนออกไปจากร้านไป!”

ทันทีที่พูดจบ ชายผมทองก็เปิดโดยการต่อยหมัดใส่เย่เทียนพร้อมกับพูดว่า “ไอ้หนู ไม่ดูสระรูปตัวเองซะเลย พวกกูดูเหมือนเป็นเพื่อนเล่นมึงงั้นเหรอ?”

เมื่อชายหัวโล้นเห็นอย่างนี้ เขาก็พยักหน้าอย่างพอใจ เพราะเขาชอบวิธีการทำงานของไอ้ผมทองคนนี้มาก เป็นลูกน้องที่สั่งได้ดั่งใจจริงๆ

แต่ทว่า ถึงแม้ว่าชายผมทองจะต่อยออกไปอย่างกะทันหัน แต่เย่เทียนก็ตอบโต้กลับไปโดยการยื่นมือออกไปแล้วหยุดหมัดของชายผมทองคนนั้นไว้!

ชายผมทองรู้สึกเหมือนแขนของเขาถูกล็อกด้วยคีมเหล็ก ทำให้เขาไม่สามารถขยับได้เลยแม้แต่น้อย!

“ไอ้เวร ปล่อยมือกูนะ!”

เพล้ง!

วินาทีต่อมา เซวฟู่ยี่ก็ลุกขึ้นทันทีและหยิบขวดอู่เหลียงเย่ที่อยู่บนโต๊ะแล้วฟาดใส่หัวของชายผมทอง และทำให้เลือดสีแดงไหลลงมาจากบนหัวเขาทันที!

ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นคนตีกัน ทุกคนก็หันมาให้ความสนใจและดูอย่างตื่นเต้น……