“พวกคุณไสหัวออกไปให้หมด!”
ชายหัวโล้นที่ได้ยินเช่นนี้สีหน้าก็กลายเป็นความโกรธทันที “เถ้าแก่หลู่ คุณทำอย่างนี้มันไม่น่าเหมาะสมนะครับ? วันหลังใครจะกล้ามาที่นี่อีก?”
“ขนาดคุณยังเรียกฉันว่าเถ้าแก่หลู่ งั้นพวกคุณก็น่าจะรู้ดีว่าฉันเป็นเจ้าของบาร์ที่นี่! และกฎของที่นี่ฉันเป็นคนตั้งขึ้นมาเอง!”
หลู่ซีซานหัวเราะอย่างเย็นชา จากนั้นฝ่ามืออันเรียวงามของเธอก็โบกไปข้างหน้า และรปภ. นับสิบคนก็วิ่งเข้าไปทันที
เนื่องจากเป็นมืออาชีพในสายงานนี้อยู่แล้ว ดังนั้นใช้เวลาไม่นานเหล่ารปภ. ก็เข้าไปควบคุมตัวชายหัวโล้นและพวกไว้ได้ แม้แต่ชายผมทองที่เพิ่งหัวแตกก็ไม่เว้น
“เถ้าแก่หลู่ นี่คุณหมายความว่ายังไง?”
สีหน้าของชายหัวโล้นถึงกับบูดบึ้งทันที
“เชื่อว่าทุกคนต่างก็รู้ดีสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น พวกเขาเป็นฝ่ายหาเรื่องแขกก่อน แขกกลุ่มนี้ก็แค่ป้องกันตัว”
หลู่ซีซานไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ ดวงตาที่สดใสของเธอกวาดไปรอบๆ ฝูงชนพร้อมกับชี้นิ้วไปที่ชายหัวโล้นและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฉันจะพูดให้ฟังอีกครั้ง ซันนี่เดย์บาร์ของเราไม่ใช่สถานที่ที่จะให้ใครมาสร้างความเดือดร้อนก็ได้!”
“ถ้าหากเกิดการไม่พอใจจริงๆ พวกคุณไปเคลียร์กันในห้องน้ำ แต่ถ้าใครกล้าเข้ามารบกวนหรือว่ามารังแกคนอื่น แล้วอย่าหาว่าฉันหลู่ซีซานไม่เตือน!”
“นับตั้งแต่วันนี้ พวกคุณทุกคนจะถูกลิสในบัญชีดำของซันนี่เดย์บาร์ของเรา!”
สายตาของหลู่ซีซานมองไปที่ชายหัวโล้นแล้วพูดด้วยสีหน้าเฉยเมย “ฮุยจื่อ ถ้าเห็นพวกมันมาอีก จับพวกมันโยนทิ้งได้เลยนะ!”
หัวหน้ารปภ. พยักหน้าตอบ “รับทราบครับ บอส!”
แปะ แปะ แปะ!!!
เมื่อพูดจบ ผู้คนมากมายในที่เกิดเหตุก็พากันปรบมือชื่นชม เห็นได้เลยว่าคำพูดนี้ของหลู่ซีซานได้ใจของทุกคนแค่ไหน
“คุณชายรองตระกูลเซว ไม่ทราบว่าคุณพอใจกับวิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ไหมคะ?”
หลังจาก รปภ. จับชายหัวโล้นโยนออกไป และหลังจากผู้คนต่างแยกย้ายกันไป ดวงตาอันงดงามของหลู่ซีซานถึงจะหันมองไปที่เซวฟู่ยี่
เซวฟู่ยี่เบะปากทันที “ก็พอได้!”
หลู่ซีซานขมวดคิ้วทันที จากนั้นยื่นมือออกไปแล้วหยิบขวดเหล้าอู่เหลียงเย่มาและเทลงแก้วให้ตัวเอง
“คุณชายรองเซว งั้นเอางี้นะ เดี๋ยวดิฉันจะดื่มหมดแก้วเพื่อแทนคำขอโทษ หวังว่าคุณจะหายโกรธนะคะ”
เมื่อพูดจบ หลู่ซีซานก็ยกแก้วขึ้นมาและดื่มจนหมดแก้ว
เมื่อเห็นการกระทำของหลู่ซีซาน สายตาของเย่เทียนที่มองเซวฟู่ยี่ก็กลายเป็นความประหลาดใจ
เดิมทีเมื่ออยู่ในห้างสรรพสินค้านิวซันเขาก็เริ่มแปลกใจแล้ว ผางอานคางถูกเซวฟู่ยี่เตะไปหลายที และสุดท้ายยังต้องวิ่งหนีเซวฟู่ยี่ไป
ดูเหมือนว่า ในเมืองนี้ อำนาจและอิทธิพลของตระกูลเซวก็ไม่น้อยเหมือนกันนะ!
อย่าว่าแต่เย่เทียนเลย แม้แต่หัวหน้ารปภ. ที่ยังอยู่ในที่เกิดเหตุยังรู้สึกแปลกใจเลย
เขามาอยู่ที่ซันนี่เดย์บาร์ตั้งแต่แรกเปิด ซึ่งเขาต้องรู้จักนิสัยของหลู่ซีซานเป็นอย่างดี เธอเป็นคนหยิ่งผยองมาก และเขาไม่เคยเห็นเธอให้เกียรติใครขนาดนี้มาก่อนเลย!
ใช่ว่าในบาร์นี้จะไม่เคยมีเรื่องมาก่อน แต่ทุกครั้งคนที่มาหาเรื่องจะถูกกำจัดไปหมด และยังไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อบาร์แห่งนี้อีกด้วย
แต่ในครั้งนี้ หลู่ซีซานแสดงความเคารพต่อเด็กหนุ่มคนนั้นมาก ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่าชายหนุ่มคนนั้นต้องมีอำนาจอยู่เหนือกว่าหลู่ซีซานแน่นอน!
“เอาล่ะครับ เถ้าแก่หลู่ คุณเป็นคนงานเยอะอยู่แล้ว ผมว่าคุณรีบไปทำธุระของคุณเถอะ!”
เซวฟู่ยี่พยักหน้าตอบด้วยความพึงพอใจ จากนั้นหยิบอู่เหลียงเย่อีกขวดขึ้นมาแล้วดื่มเข้าไปคำใหญ่ๆ
“หวังว่าคุณชายรองเซวกับเพื่อนๆ จะเล่นให้สนุกนะคะ ส่วนดิฉันก็ขอไม่รบกวนต่อแล้วค่ะ”
เมื่อหลู่ซีซานเห็นอย่างนี้ เธอค่อยสบายใจ จากนั้นพาเหล่ารปภ. เดินออกไปจากที่นี่ทันที
สำหรับเซวฟู่ยี่แล้ว นี่เป็นแค่เรื่องเล็กเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องถือสาอะไรเลย
แต่สำหรับหลู่ซีซานแล้ว มันเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
อย่างน้อย เธอต้องสงสัยว่าเย่เทียนและคนอื่นๆ ที่มานั้นเป็นใครมาจากไหน ถึงขั้นทำให้คุณชายรองเซวยอมมานั่งดื่มกับพวกเขาได้?
“หึหึ ฟู่ยี่ ทำไมดูเหมือนเจ้าของบาร์ร้ายนี้กลัวคุณมากเลยนะ?”
เย่เทียนถามด้วยความสงสัยพร้อมกับนั่งลงข้างของเซวฟู่ยี่
เซวฟู่ยี่ส่ายหัวและพูดอย่างโผงผางว่า “พี่เย่ พี่อย่ามาพูดเล่นหน่อยเลย หลู่ซีซานกลัวผมที่ไหนกัน เธอกลัวคนแก่ในตระกูลผมต่างหาก!”
“โอเค! มา มา ดื่มต่อกันเถอะ!”
เย่เทียนพยักหน้าพร้อมกับคิดในใจไปด้วย เขารู้ว่าเซวฟู่ยี่ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เขาจึงไม่ถามคำถามใดๆ อีก
“ก็มาสิครับ! กลัวซะที่ไหน!”
เซวฟู่ยี่พยักหน้าและหัวเราะออกมาดังๆ พร้อมกับยกขวดขึ้นมาและชนแก้วกับเย่เทียน
“คุณชายรองเซวครับ นี่เป็นเหล้าที่ดีที่สุดในรบาร์เราของเราครับ บอสสั่งให้ผมเอาพาเป็นการส่วนตัวเลยครับ”
ทันทีที่ทั้งสองกำลังดื่มกันอยู่ ทันใดนั้นพนักงานคนหนึ่งก็นำเหล้ามาเสิร์ฟหลายขวด
“วางไว้เลย!”
เซวฟู่ยี่ยิ้มและพยักหน้า ซึ่งเขาไม่ได้ปฏิเสธน้ำใจของหลู่ซีซานเลย
“ได้ครับ”
พนักงานเปิดเหล้าที่นำมาเสิร์ฟแล้ววางไว้บนโต๊ะ
หยุนเหมิงหยานใช้โอกาสนี้พูดออกมาว่า “น้องยี่ นายช่วยหลบให้ฉันหน่อยสิ ฉันจะไปเข้าห้องน้ำ”
“รับทราบครับ!”
เซวฟู่ยี่จะกล้ามีปฏิเสธได้อย่างไร ได้แต่รีบลุกขึ้นเพื่อหลบทาง
“เหมิงหยาน ให้ฉันไปเป็นเพื่อนเธอไหม?”
เมื่อเห็นท่าทางการเดินของหยุนเหมิงหยานแล้ว จี้เยียนหรันก็ไม่ค่อยไว้ใจ
“ไม่ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันก็กลับมาแล้ว”
หยุนเหมิงหยานโบกมือ เมื่อเห็นร่องอกของเธอ พวกโรคจิตข้างโต๊ะก็มองมาที่เธอด้วยความหิวโหย
แต่ถึงอย่างนั้น หยุนเหมิงหยานรีบเข้าห้องน้ำเสร็จก็เดินออกมาอย่างรวดเร็ว
ในขณะนั้นเอง ก็มีผู้ชายสองสามคนซุบซิบพูดคุยกันและเดินเข้ามาในบาร์
ถ้าเย่เทียนหรือจี้เยียนหรันอยู่ด้วย พวกเขาคงต้องดูออกทันทีว่าผู้นำของคนกลุ่มนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นตู้เคอหลิน!
จวบจนวันนี้แล้ว แขนขวาของตู้เคอหลินยังไม่ตอบสนองเลย ซึ่งสามารถเดาได้ว่าสภาพจิตใจของเขานั่นยังคงแย่แค่ไหน
เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจจะออกมาเที่ยว แต่ตู้เฮิงฉุนแจ้งเขาอย่างกะทันหัน และหาบอดี้การ์ดให้เขาสองคนเพื่อดูแลความปลอดภัยของเขา และเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
ด้วยเหตุนี้ เขาถึงได้มาที่ซันนี่เดย์บาร์แห่งนี้เพราะมีบอดี้การ์ดสองคนนี้คอยคุ้มกัน
ตู้เคอหลินเดินสวนกับหยุนเหมิงหยาน จากนั้นเขาหยุดอย่างกะทันหัน และมองไปที่หยุนเหมิงหยานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความลามก
เดิมทีหยุนเหมิงหยานก็มีรูปร่างหน้าตาที่พอใช้ได้อยู่แล้ว บวกกับอาการเมาจากการดื่มเหล้าของเธอ ทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำเหมือนลูกพีช และทำให้คนเห็นแล้วอยากจะลองกัดเข้าไปสักคำ
“เห็นผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าไหม? คนนี้ต้องลากเธอมาในห้องวีไอพีให้ได้นะ!”
ตู้เคอหลินกระซิบพูดกับบอดี้การ์ดด้วยสายตาชั่วร้าย
“ได้ครับ คุณชายตู้ เดี๋ยวผมจัดการให้ครับ”
บอดี้การ์ดคนนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เรื่องแบบนี้เป็นงานถนัดสำหรับพวกเขาอยู่แล้ว ที่ผ่านมาผู้หญิงทุกคนต่างก็ต้องยอมจำนนต่ออำนาจเงินของตู้เคอหลิน และไม่เคยมีใครรอดไปได้สักคน!
ตู้เคอหลินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ จากนั้นเขาก็เดินขึ้นบันไดและตรงไปยังห้องวีไอพีที่จองไว้ล่วงหน้า
ส่วนบอดี้การ์ดคนนั้นยังคงแสดงรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์และวิ่งตามหยุนเหมิงหยานไป….