TQF:บทที่ 626 ต่างคนต่างมีแผน (3)
แต่จู่ๆวันนี้เขาก็รู้สึกว่าตัวเองผิด เขาไม่ควรลงมือรุนแรงขนาดนั้น โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นชีวิตหลายสิบปีของฟางหมิงเห้อที่จะตายแหล่มิตายแหล่ เขากลัว กลัวว่าตัวเองก็ต้องมีวันนี้เหมือนกัน
ทำยังไงดี เขาจะทำยังไงดี
ฟางหมิงจื้อทะเลาะกับตัวเอง คนอื่นๆมองหน้ากันเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรออก
ขณะนั้น เหล่านายท่านที่อยู่ในห้องหนังสือ ฟางเต๋อซิว ฟางเต๋อถัง ฟางเต๋อหรง นายท่านทั้ง 3 ที่เดินไปไหนก็มีแต่คนเคารพ บัดนี้กลับมีท่าทีหมดหนทาง ราวกับทั้งบ้านถูกฆ่าทิ้งแต่ไม่มีปัญญาจะแก้แค้น
เนิ่นนาน นายท่านรองฟางเต่อซิวถึงเงยหน้าขึ้น “ฟางซูหยุนกลับมาแล้ว สถานการณ์พวกเจ้าก็เห็นแล้ว ไหนลองพูดซิว่าจะทำอย่างไรกันดี”
“……”
ฟางเต๋อถังและฟางเต๋อหรงต่างขมวดคิ้วไม่ปริปาก ไม่ได้เสนอความคิดเห็นอะไร
เมื่อเห็นท่าทางของพวกเขาพี่น้อง มีความไม่พอใจแว้บหนึ่งใจตาของฟางเต๋อซิว “พวกเจ้าต้องรู้ไหวนะ ฟางซูหยุนไม่ยอมรามือแน่ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนนั้นพวกเจ้าเองก็รู้ดี ตอนนี้จะทำตัวไม่ยุ่งไม่เกี่ยวรึไง”
“…..” นายท่านสามฟางเต๋อถังอ้าปากจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้าด้วยรอยยื้มขมขื่น
ฟางเต๋อซิวเบือนสายตาไปที่นายท่านสี่ฟางเต๋อหรง เขามีสีหน้าทำอะไรไม่ได้และกล่าวเรียบๆ “เจ้าบ้าน พี่สาม พวกท่านก็รู้ว่าข้าก็แค่รับธุรกิจบางอย่างจากมือพี่ใหญ่เท่านั้น เรื่องอื่นข้าไม่ได้ทำ อย่างมากข้าก็แค่คืนธุรกิจพวกนั้นให้พี่ใหญ่ก็จบ”
“เจ้า…”
สีหน้าฟางเต๋อซิวเข้มขึ้น เอ่ยเสียงเย็น “น้องสี่ เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร เจ้าคิดว่าแยกตัวเองกับพวกเราได้เหรอ”
“เจ้าบ้านพูดเป็นเล่นไป ข้าทำอะไรข้ารู้อยู่แก่ใจ ส่วนจะแยกออกจากพวกท่านได้มั้ยนั้น คงไม่ใช่ท่านหรือข้าที่ตัดสิน เชื่อว่าในใจพี่ใหญ่รู้ดี โดยเฉพาะหลายปีมานี้ข้าไม่เคยรังแกบ้านใหญ่เลย”
พูดมาถึงตรงยี้ฟางเต๋อหรงก็ไม่รักษาหน้าพวกเขาอีกต่อไป พูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย “ข้าเคยบอกแล้วใช่มั้ย ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นพี่เป็นน้องกัน จะทำอะไรก็อย่าให้เกินไปนัก เหลือเส้นกั้นไว้วันหน้ายังคุยกันได้ เจ้าบ้านกับพี่สามลืมคำพูดที่ข้าเคยพูดแล้วรึ”
“ตอนนี้ก็เหมือนกัน ข้าจะทำอย่างไรข้ารู้ตัวเองดี ส่วนพวกท่านจะทำอย่างไรไม่เกี่ยวกับข้า และข้าก็จะไม่ร่วมมือด้วย พวกท่านคิดกันเอาเองก็แล้วกัน ข้าลาล่ะ”
พูดจบฟางเต๋อหรงก็ประสานมือหันหลังเดินออกไป ไม่สนว่าสีหน้าของนายท่านอีก 2 คนแย่แค่ไหน
“เจ้าน้องสี่คนนี้นี่…..”
เจ้าบ้านสบถหนักๆแต่ก็ทำอะไรน้องชายคนนี้ไม่ได้ วิทยายุทธของอีกฝ่ายไม่ต่างกับเขาเท่าไหร่ และฟางเต๋อหรงก็รู้เรื่องที่เขาเคยทำดี เขาไม่สามารถขู่อะไรได้
ต่อให้เขาจะลงมือ พวกผู้อาวุโสในตระกูลฟางก็ไม่ยอมหรอก ตอนนั้นที่เขาทำตัวต่อต้านฟางเต๋อหยวนก็แค่แย่งอำนาจและตำแหน่งเจ้าบ้านของเขาเท่านั้น ไม่กล้าลงมือฆ่าจริงๆ
ไม่อย่างนั้นตำแหน่งเจ้าบ้านของเขาก็คงไม่มั่นคง และก็เป็นเพราะความกังวลแบบนี้ครอบครัวฟางเต๋อหยวนถึงได้มีโอกาสพลิกตัวได้
แน่นอนว่าสาเหตุหลักๆก็เพราะฟางซูหยุนกลับมา ถ้าไม่ใช่เพราะการกลับมาอย่างกะทันหันของนางละก็ ตำแหน่งเจ้าบ้านนี้นายท่านรองก็ยังนั่งสบายอยู่
แต่ตอนนี้เขากลับสบายไม่ออก เพราะอีกไม่นานก็ต้องถูกคิดบัญชีเรื่องที่เคยก่อไว้ อย่าว่าแต่จะเสียตำแหน่งเจ้าบ้านไปเลย คนในตระกูลสายเขาก็อย่าหวังว่าจะได้อยู่สบาย
เทียบกับการทำใจยอมรับของเจ้าบ้านแล้ว ใบหน้าของนายท่านสามฟางเต๋อถังเริ่มจะบิดเบี้ยว พูดอย่างเคียดแค้น “พี่รอง พวกเราไม่มีทางเลือก ตอนนี้ได้แต่ทุ่มทุกอย่างแล้วสู้ตาย ข้าไม่เชื่อว่ายัยเด็กที่ฟางซูหยุนพากลับมาจะมีความสามารถขนาดนั้นจริงๆ”
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” ฟางเต๋อซิวเลิกคิ้ว นัยน์ตาอึมครึมจ้องเขม็งไปยังคนตรงหน้าที่เริ่มจะบ้าคลั่ง
ฟางเต๋อถังกัดฟันกรอด กำหมัดแน่น “พี่รอง พวกเราผูกใจแค้นกับบ้านใหญ่มากที่สุด พวกนางไม่ปล่อยเราไว้แน่ เราจะรอโดนสังหารเฉยๆแบบนี้ไม่ได้”
“เรื่องนี้….”
ฟางเต๋อซิวนิ่งไป ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยาก แต่เขารู้ว่าโอกาสมีน้อยมากๆ อย่าว่าแต่ย่าหลานฟางซูหยุนยากจะต่อกรด้วยเลย แม้แต่พวกปีศาจเฒ่าในตระกูลก็คงไม่ยอม
ไม่มีความช่วยเหลือจากเหล่าปีศาจเฒ่า อยากจะเอาชนะสัตว์อมตะในมือยัยเด็กนั่นยากเกินไป อีกว่าปรมารจารย์ฝึกสัตว์ของตระกูลฟางก็ถูกฆ่าตายไปแล้ว สัตว์วิญญาณและสัตว์อมตะก็กลายเป็นอาหารของอีกฝ่าย ตอนนี้ในมือพวกเขายังมีพลังเหลือเท่าไหร่เชียวที่จะไปสู้กับย่าหลานฟางซูหยุน
คิดมาถึงตรงนี้คิ้วของฟางเต๋อซิวขมวดกันเป็นปม การตัดสินใจนี้ยากมาก ยากมากจริงๆ
“พี่รอง….”
ราวกับดูออกว่าฟางเต๋อซิวลังเล ฟางเต๋อถังทั้งโกรธทั้งร้อนใจ ตะคอกเสียงต่ำ “พี่รอง ตำแหน่งเจ้าบ้านของท่านจะไม่เอาแล้วหรือไง ท่านจะยกให้คนอื่นง่ายๆแบบนี้เหรอ”
“น้องสาม ความหมายของเจ้าข้าเข้าใจ ข้าก็อยากจะทำแบบนั้น แต่เรื่องนี้ยังต้องทบทวนดีๆก่อน ว่าการร่วมมือของพวกเรา 2 บ้านจะมีโอกาสชนะมากแค่ไหน”
“พี่รอง…”
ฟางเต๋อถังร้อนใจแล้วจริงๆ เขารู้ว่าหากตัวเองไม่ตอบโต้ละก็ ถึงเวลาสายเขาก็คงจบเห่ โดยเฉพาะลูกชายของเขาที่เป็นคนลงมือทำให้ฟางหมิงเห้อพิการ ปมนี้ไม่มีทางคลายได้
เห็นเขาจะพูด ฟางเต๋อซิวชูมือขัดไว้ “น้องสาม เจ้าอย่าเพิ่งใจร้อนไป ข้าต้องไตร่ตรองดีๆ วางใจเถอะ พวกนางยังไม่ลงมือไวขนาดนี้หรอก พวกเรามีเวลาเตรียมตัว เจ้าก็ไปคิดดีๆก็แล้วกัน”
“พี่รอง…”
“ไปเถอะ”
ฟางเต๋อซิวโบกมือและหลับตาลง ไม่พูดอะไรอีก
“พี่รอง….”
ร้องเรียกอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจตัวเอง ฟางเต๋อถังจึงลุกออกไป
คนที่ออกมาคนแรกคือนายท่านสี่ฟางเต๋อหรง เขาเดินมาถึงห้องรับแขกก็พุ่งไปสั่งให้ภรรยาและลูกหลานของตัวเองรีบกลับบ้านไปซะ
———————————