TQF:บทที่ 627 ต่างคนต่างมีแผน (4)
ทั้งครอบครัวออกไปอย่างรีบร้อน เหลือไว้เพียงคนของบ้านรองและบ้านสามที่มองหน้ากัน พวกเขาไม่รู้ว่าเมื่อกี้นายท่านทั้ง 3 คุยอะไรกัน ทำไมนายท่านสี่ถึงต้องรีบร้อนออกไป
พอกลับมาถึงบ้านตัวเอง ฟางเต๋อหรงก็รีบสั่งเด็กๆในบ้านไม่ให้ออกไปไหนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขา ไม่อย่างนั้นจะลงโทษตามกฎบ้าน
ได้รับคำสั่งนี้เด็กๆย่อมไม่กล้าพูดอะไรมาก ที่จริงทุกคนก็รู้กันดีว่าตระกูลฟางจะเกิดเรื่องแล้ว
ส่วนจะบานปลายขนาดไหนไม่มีใครเดาออก จึงอยู่ที่บ้านตัวเองอย่างว่านอนสอนง่าย นี่ต่างหากคือวิธีรักษาชีวิตที่ดีที่สุด
เมื่อกลับเข้าห้องหนังสือตัวเองฟางเต๋อหรงก็นั่งลง คนที่ตามเขาเข้ามาคือภรรยาและลูกชาย 2 คนของเขา
ลูกชายคนโตฟางหมิงเลี่ย ลูกชายคนเล็กฟางหมิงเฉิน ภรรยาของเขาหลินหวี่เจิน คุณหนูจากตระกูลหลิน 1 ใน 10 ตระกูลใหญ่ ทั้ง 3 ตามเข้ามาพลางมองเขาด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“ท่านพ่อ พวกเราจะทำอย่างไรกันดี” ฟางหมิงเฉินถามเป็นคนแรก ในแววตามีความกังวล
หลินหวี่เจินเดินเข้าไปที่ด้านหลังสามี นวดไหล่เขาเบาๆ “นายท่าน แม้ว่าความสัมพันธ์ของเรากับบ้านใหญ่จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้รังแกอะไรพวกเขา ข้าว่าพวกเขาคงจะไม่กำจัดจนหมดสิ้นหรอกใช่มั้ย”
“ท่านพ่อ ครอบครัวท่านลุงใหญ่ไม่ใช่คนใจร้าย ไม่น่าจะลงมือกับพวกเราใช่มั้ย” ฟางหมิงเลี่ยพูดขึ้นบ้าง
ฟางเต๋อหรงที่หลับตาอยู่ค่อยๆลืมตาขึ้น เหลือบมองลูกชายทั้ง 2 “ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าฟางซูหยุนจะกลับมาจริงๆ และนางไม่ใช่แค่กลับมา ยังแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้ โชคดีที่ข้าไม่ได้เข้าร่วมด้วย ไม่อย่างนั้นชีวิตพวกเจ้า….”
พูดมาถึงตรงนี้ฟางเต๋อหรงก็ถอนหายใจ อดเตือนสติลูกชายทั้ง 2 ของตัวเองไม่ได้ “พวกเจ้าจำไว้นะ ไม่ว่าจะทำอะไรอย่าให้มันเกินไปนัก โดยเฉพาะกับคนที่มีสายเลือดเดียวกัน ทำอะไรเหลือหนทางให้ตัวเองบ้างก็ดี ที่ว่าทีใครทีมันนี่มันคือเรื่องจริงนะ แต่คนที่จำคำๆนี้ได้มีน้อยมาก”
“ท่านพ่อ ข้าเข้าใจท่าน”
“ท่านพ่อ ข้ารู้แล้ว”
2 พี่น้องซึมซับประโยคนี้ไว้ ขณะเดียวกันก็รู้สึกโชคดีที่ท่านพ่อตัวเองไม่ได้ทำอะไรที่เกินไปในตอนนั้น ไม่อย่างนั้นพวกเขาต้องอยู่ไม่เป็นสุขแน่
“พวกเจ้าก็อธิบายให้เด็กๆฟังดีๆล่ะ บางครั้งไว้ชีวิตคนอื่นตอนนี้ก็เท่ากับไว้ชีวิตตัวเองในวันหน้า แน่นอนนี่แค่สำหรับคนภายในตระกูลเดียวกันเท่านั้น กับคนนอกละก็ต้องเอาให้ตายเท่านั้น ห้ามใจอ่อนเด็ดขาด” ฟางเต๋อหรงบอกกับลูกชาย 2 คนอย่างเข้มงวด
“ขอรับท่านพ่อ”
“เข้าใจขอรับ ท่านพ่อ”
“อื้ม จำไว้ก็ดีแล้ว” ฟางเต๋อหรงพยักหน้าด้วยความพอใจ ที่จริงเรื่องแบบนี้เขาเคยสอนลูกหลานตัวเองตั้งนานแล้ว และก็เพราะแบบนี้คนในบ้านสี่ของเขาจึงไม่มีใครไปเหยียบย่ำซ้ำเติมคนบ้านใหญ่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องรังแกเลย
แม้จะไม่เคยทำร้ายคนบ้านใหญ่ แต่พวกเขาก็ไม่เคยช่วยเหลือ เพียงแต่เย็นชาและเมินเฉยใส่
และก็เพราะแบบนี้คนบ้านสี่ก็กลัวว่าจะถูกลงโทษเหมือนกัน แต่ละคนไม่สามารถมีความสุขได้
เหมือนว่าฟางเต๋อหรงจะมองความคิดพวกเขาออก เอ่ยเสียงเบา “พวกเจ้าวางใจเถอะ อย่างมากก็แค่คืนธุรกิจให้บ้านใหญ่ไป เรื่องอื่นๆเราไม่ได้เข้าร่วม หลังจากนี้ก็ยิ่งไม่เข้าร่วม พวกเจ้าทุกคนต้องเฝ้าอยู่ในบ้านนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามเข้าไปยุ่ง เข้าใจมั้ย”
“ท่านพ่อ ท่านหมายความว่า…”
2 คนพี่น้องมีท่าทีตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
ฟางเต๋อหรงสีหน้าเคร่งขรึม “พวกเขาจะทำอะไรไม่เกี่ยวกับพวกเรา ยังไงซะเราก็ไม่ได้จะเข้าร่วมอยู่แล้ว พวกเจ้าก็เหมือนกัน เข้าใจมั้ย”
“ทราบแล้วท่านพ่อ”
2 พี่น้องพยักหน้าพร้อมกัน พวกเขารู้ว่าหากมีเรื่องกันจริงๆละก็ ต้องเป็นจุดจบที่ไม่ตายไม่เลิกแน่ๆ จะไม่ให้กลัวได้อย่างไร
หลินหวี่เจินที่ยืนอยู่ด้านหลังใช้ความคิดอยู่สักพักก็กล่าวขึ้น “นายท่าน ให้ข้าไปคุยกับตระกูลหลินมั้ย”
“อย่า เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามดีกว่า”
ฟางเต๋อหรงพูดด้วยท่าทีจริงจัง “ถ้าพวกเจ้าได้รับข่าวจากตระกูลหลินบอกพวกเขาว่าอย่ายุ่ง หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เตือน”
“ได้นายท่าน ข้ารู้ว่าต้องทำยังไงแล้ว”
“ท่านพ่อ ท่านวางใจเถอะ พวกเราจะไม่บุ่มบ่าม”
ครอบครัวบ้านสี่หารือการรับมือเสร็จก็เบาใจลง
เหล่าคนที่ยังนั่งรออยู่ในห้องรับแขก พอคนบ้านสี่ไปแล้ว ผ่านไปไม่นานนายท่านสามที่หน้าดำคร่ำเครียดก็ปรากฏตัวออกมาเช่นกัน เขาตะคอกใส่ลูกหลานเขา “ไสหัวกลับไปซะ…”
ด้วยประโยคนี้ คนบ้านสามก็ไปกันจนหมด เหลือเพียงคนบ้านรอง
ฮูหยินใหญ่ของบ้านรองลุกขึ้นสั่งกับเด็กๆในบ้าน “ทุกคนก็กลับบ้านไปนอนพักผ่อนเถอะ มีอะไรเดี๋ยวส่งคนไปแจ้งเอง”
พวกเขาที่กังวลใจที่สุดตอบรับก่อนจะกลับห้องพักผ่อนด้วยจิตใจที่แตกต่างกันไป
ไม่นานนักในห้องรับแขกก็เหลือแค่ฮูหยินใหญ่และชายวัยกลางคนอีก 3 คน ซึ่งก็คือลูกชาย 3 คนของบ้านรอง ฟางหมิงต๋า ฟางมิงหยาง ฟางหมิงผิง พวกเขาก็แอบเขม่นกันเองเหมือนกัน ใครๆก็อยากได้ตำแหน่งเจ้าบ้าน
แต่เรื่องวันนี้เข้ามารบกวนแผนของพวกเขาแต่ละคนโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้
แม่ลูกทั้ง 4 คนสบตากัน ฮูหยินใหญ่ถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อย “ไปสิ ไปดูหน่อยว่าพ่อเจ้าจะเอายังไง”
“ขอรับท่านแม่”
พี่น้องทั้ง 3 สบตากัน พวกเขามีสีหน้ากังวล เดินตามร่างท่านแม่ไปที่ห้องหนังสือท่านพ่อ
—————————-