TQF:บทที่ 629 การรักษาลุล่วง (2)
“เรื่องนี้…”
พูดถึงการรังแกข่มเหงตลอดหลายสิบปีมานี้ที่ลูกๆหลานๆทำไว้กับบ้านใหญ่ ใจของฮูหยินเจ้าบ้านก็เย็นวาบ นึกไปถึงว่าตัวเองก็อาจจะต้องใช้ชีวิตแบบนั้น ก็รู้สึกอยากโต้ตอบขึ้นมา
ฟางเต๋อซิวไม่สนว่านางคิดอะไร หลับตาอีกครั้ง “เจ้าเป็นแค่สตรี ไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้หรอก อย่างมากสุดไอตำแหน่งเจ้าบ้านคืนให้เขาไปก็จบ อย่างน้อยก็ยังรักษาไอพวกเด็กๆไว้ได้ ถ้าหากจะยื้อแย่งกับพวกเขาจริงๆละก็ ข้าเกรงว่าจะมีจุดจบที่แย่ยิ่งกว่าบ้านใหญ่ในตอนนี้ซะอีก”
“…..”
จางชิวถิงก้มหน้าลงไม่พูดอะไร หลุบตาลงต่ำไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
เทียบกับอีก 2 บ้านแล้ว บทสนทนาในบ้าน 3 รุนแรงกว่าเยอะ
เหล่าคนรับใช้ที่เฝ้าอยู่ข้างนอกต่างกลัวจนตัวสั่น เสียงคำราม เสียงก่นด่า เสียงเขวี้ยงข้าวของ จากเจ้านายดังมาเป็นระลอกๆ ราวกับจะพังบ้านไปซะ
เสียงดังอยู่ครึ่งชั่วยามเต็มๆ ในที่สุดก็เห็นคุณชายใหญ่ที่ถูกตีจากไปด้วยความโมโห เสียงต่างๆถึงได้เงียบลง
ผ่านไปไม่นานคนรับใช้เหล่านี้ก็เริ่มเก็บกวาด หนังสือดีๆถูกขว้างเกือบหมด เหลือแต่ชั้นหนังสือที่ยังมีสภาพสมบูรณ์อยู่ ของอย่างอื่นส่งเข้าห้องครัวใช้แทนฟืนได้เลย
แต่เรื่องพวกนี้ก็ไม่เกี่ยวกับคนรับใช้ พวกเขาจำไว้แค่ว่าหากเจ้านายอารมณ์ไม่ดี ต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นหากไม่ระวังแล้วถูกเจ้านายตีตาย ก็คงไม่มีใครเสียใจให้
แต่ละบ้านก็มีความคิดในใจของแต่ละบ้าน ส่วนบ้านโทรมๆในหลืบหลังนั้นยังคงอยู่ในความครื้นเครง ทุกคนยังเฝ้ารออยู่ในห้องรับแขก
นอกจากที่คุยเล่นกันก็ผ่านไปหลายชั่วยามแล้ว พวกฟางเต๋อหยวนเริ่มนั่งไม่อยู่ ผ่านไปอีกสักพักก็เริ่มลุกเดิน สายตาก็คอยชำเลืองข้างนอกราวกับรอให้ใครมา
เริ่มแรกทุกคนก็ยังไม่รู้สึก แต่เมื่อเวลาผ่านไปคนตระกูลฟางก็เริ่มมีท่าทีร้อนใจขึ้นเหมือนกัน ทำให้พวกตาแก่แปลกใจและงุนงง
แม้จะเป็นแบบนี้แต่พวกตาแก่เห็นว่าฟางซูหยุนยังคงนิ่งเฉย จึงเก็บงำความอยากรู้อยากเห็นไว้ รอดูว่าเพราะเรื่องอะไรกัน
คนที่นี่เริ่มร้อนใจ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวและหยูเฮงน้อยยังยุ่งกันอยู่ เศษกระดูกขา 2 ข้างของฟางหมิงเห้อถูกสมานไว้ด้วยน้ำเถาวัลย์ของหยูเฮงน้อย รอให้งอกอีกสัก 10 กว่าชั่วยามขาของเขาก็จะหายดี
กล้ามเนื้อที่ถูกกรีดออกก็ถูกทายาไว้อย่างดี การรักษาขาใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว ที่เหลือที่สำคัญที่สุดก็คือการคลายคำสาปและฟื้นฟูตันเถียนในการฝึกฝนวิทยายุทธ
คำสาป พลังวิเศษที่เข้าไปสกัดเส้นชีพจร นอกจากคลายมันไม่มีวิธีอื่น
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวมองหยูเฮงน้อยและเอ่ยถาม “เจ้ามั่นใจใช่มั้ยว่าน้ำจากใบไม้ของเจ้าและเจ้าต้นหลิวน้อยจะคลายคำสาปได้”
นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยลองมาก่อน อย่างไรซะคำสาปบนตัวท่านย่าฟางซูหยุนก็ถูกชำระล้างด้วยกฎแห่งฟ้าดินเมื่อตอนเลื่อนขั้นมิติ ไม่เหมือนกับวิธีของหยูเฮงน้อยเลย
แก้วใสๆในมือหยูเฮงน้อยมีของเหลวสีเขียวอยู่ นางพูดอย่างไม่คิดมาก “คุณหนู ท่านวางใจเถอะ ไม่เป็นอะไรแน่นอน และก็ยังคลายคำสาปได้ด้วย”
“ได้ ข้าจะทำให้ท่านปู่เล็กตื่นขึ้นมาก่อน ของของเจ้านี่ต้องให้เขารู้ก่อนแล้วค่อยดื่ม”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวชี้นิ้วออกไป มีแสงสีทองพุ่งเข้าสู่หัวของฟางหมิงเห้อ หลายวินาทีต่อมา ฟางหมิงเห้อกรอกตาและค่อยๆลืมตาขึ้น ก่อนจะมีสีหน้าเจ็บปวด
“ท่านปู่เล็ก….”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวรีบเดินขึ้นไปดูคนที่มีท่าทางทรมาน รีบอธิบาย “ท่านปู่เล็ก ขอโทษด้วย 2 ขาของท่านพวกเราเพิ่งรักษาเสร็จ ต้องใช้เวลา 2-3 วันในการฟื้นฟู ตอนนี้พวกเราจะคลายคำสาปและฟื้นฟูตตันเถียน ต้องให้ท่านมีสติถึงจะทำได้ ท่านปู่เล็ก ถ้าท่านทนความปวดไม่ไหวละก็ เรื่องคลายคำสาปและฟื้นฟูตันเถียนอีกสักพักเราค่อยทำก็ได้ ตอนนี้ให้ท่านหลับไปก่อน ท่านคิดว่าไง”
“ไม่ ไม่ต้อง” ฟางหมิงเห้อกัดฟันอดทนความเจ็บปวดทรมานที่ทิ่มแทงใจอยู่ในตอนนี้ บอกอย่างแน่วแน่ “เสี่ยวเสี่ยว ข้าทนไหว เจ้าบอกมาเลยว่าต้องให้ข้าทำอย่างไรบ้าง”
“จริงๆแล้วง่ายมากท่านปู่เล็ก แค่ดื่มยานี้ก็พอ”
หยูเฮงน้อยเดินขึ้นไปยื่นน้ำสีเขียวให้เขา และมองเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ได้ ไม่มีปัญหา” ฟางหมิงเห้อไม่มีท่าทางปฏิเสธแม้แต่น้อย พูดกับเฉิงเสี่ยวเสี่ยว “เสี่ยวเสี่ยว รบกวนเจ้าช่วยพยุงข้าขึ้นหน่อย ข้าถึงจะกินยาได้”
“ได้”
ด้วยความช่วยเหลือจากเฉิงเสี่ยวเสี่ยว ฟางหมิงเห้อดื่มจนหมด หลังจากที่นอนลงอีกครั้งเขาก็ถามขึ้น “เสี่ยวเสี่ยว ต้องทำอะไรอีก”
“ตอนนี้ยังไม่ต้องทำอะไรท่านปู่เล็ก ท่านลองสัมผัสความเปลี่ยนแปลงของร่างกายก่อน พรุ่งนี้ท่านก็เริ่มกินยาเม็ดเลย”
พูดจบเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็หยิบขวดยาออกมาและพูดต่อ “ท่านปู่เล็ก พรุ่งนี้ท่านกิน 1 เม็ด มะรืนกินอีก 1 เม็ด หลังจากที่ท่านกินหมดแล้ว ในวันที่ 3 นอกจากขาท่านจะหายดี ตันเถียนท่านก็จะฟื้นสภาพกลับมาด้วย”
“ดีๆ” ฟางหมิงเห้อที่ปวดจนเหงื่อออกเสียงเริ่มสั่น แต่ก็ยังพูดด้วยท่าทางขึงขังและจริงจัง “เสี่ยวเสี่ยว ขอบใจเจ้ากับหยูเฮงน้อยนะ ถ้าไม่ใช่พวกเจ้าละก็ เกรงว่าข้าจะอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่ปี”
“ท่านปู่เล็กเป็นคนมีบุญ จะอายุสั้นได้ยังไง ข้าว่าท่านปู่เล็กอยู่อีกสักพันปีก็ยังเป็นไปได้”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวเพิ่งพูดจบหยูเฮงน้อยก็ร้องขึ้น “ท่านปู่เล็ก ท่านพูดแบบนี้ได้ยังไง ท่านวางใจเถอะ ยมบาลไม่กล้ารับท่านหรอก ท่านอยากจะมีชีวิตอยู่อีกนานเท่าไหร่ก็ได้”
“ฮ่าๆ ซื้ดดด” พอหัวเราะฟางหมิงเห้อก็ปวดจนซื้ดปาก ขาของข้าเหมือนมีมดมากมายมากัด ปวดจนเข้ากระดูกและคันแต่เกาไม่ได้ ช่างทรมานเสียจริง และยังหลับไปไม่ได้ด้วย
———————-