ตอนที่ 109-3 สะกดรอยตามข้า? ช่างอาจหาญนัก!

จำนนรักชายาตัวร้าย

ถูกหนานกงจื่อหลิงพูดแทงใจดำเข้า เชียนเยี่ยเสวี่ยถึงกับหน้าแดง รีบเอ่ยปฏิเสธพัลวัน

 

 

ทิวทัศน์ที่นี่สวยงามยิ่งนัก นางจึงรู้สึกว่าน่าเสียดายแทนเจ้าทึ่มเท่านั้นเอง

 

 

“อธิบายก็คือปกปิด ปกปิดก็คือไม่ซื่อสัตย์!”

 

 

หนานกงจื่อหลิงหยิบใบต้นเฟิงขึ้นมาใบหนึ่งพร้อมกับคืนคำพูดของเชียนเยี่ยเสวี่ยให้กับนาง

 

 

“จริงๆ ข้าคิดว่าพี่เฮ่ออีดีออกนะเจ้าคะ ถึงแม้ว่าจะซื่อบื้อไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ใช่คนเลว พี่เสวี่ย ท่านอย่าทำเรื่องที่ทำให้ตนเองเสียใจไปตลอดชีวิตเพียงเพราะความบุ่มบ่ามเพียงชั่วครู่นะเจ้าคะ!”

 

 

ในบรรดาพวกเขา หนานกงจื่อหลิงอายุน้อยที่สุด แต่ทุกครั้งที่นางเอ่ยปากราวกับผู้ใหญ่ก็อย่างไรอย่างนั้น ทำให้เชียนเยี่ยเสวี่ยถึงกับยิ้มไม่ออก

 

 

“ไปทางโน้นเลย เป็นสาวเป็นนาง พูดเรื่องพวกนี้ไม่มีเขินอายเลยทีเดียวเชียว!”

 

 

เมื่อเห็นว่าเชียนเยี่ยเสวี่ยไม่อยากจะเอ่ยถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ หนานกงจื่อหลิงก็ไม่ได้เซ้าซี้ ตรงกันข้ามนางกลับกระโดดโลดเต้นไปหาอวี้เฟยเยียนแทนแล้วคล้องแขนของนางเอาไว้

 

 

“พี่อวี้ พี่เสวี่ยรังเกียจที่ข้าอายุน้อยเกินไป ท่านไม่รังเกียจใช่ไหม!”

 

 

จริงๆ แล้วอวี้เฟยเยียนอายุมากกว่าหนานกงจื่อหลิงเพียงสองเดือน แต่นางมีฐานะเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ ดังนั้นจึงต้องเรียกว่าพี่สาว

 

 

“ข้าจะเล่นเป็นเพื่อนเจ้าเอง!”

 

 

อวี้เฟยเยียนร้องขึ้นพร้อมกับแลบลิ้นปลิ้นตาให้กับเชียนเยี่ยเสวี่ย

 

 

“เราสองคนเป็นสาวน้อย จึงจะไม่พูดคุยเรื่องเช่นนั้นกับแม่สาวใหญ่!”

 

 

“พี่อวี้ดีที่สุดเลย! เรื่องที่ข้าคาดหวังมากที่สุดในตอนนี้นั่นก็คืออยากให้ท่านแต่งงานกับพี่ใหญ่ในเร็ววัน เช่นนี้แล้วข้าก็จะได้เรียกท่านว่าซ้อใหญ่ได้เสียที!”

 

 

คนหนึ่งคือหญิงที่เขารักสุดหัวใจ อีกคนคือน้องสาวที่เขารักและเอ็นดูที่สุด คนทั้งสองสนิทสนมรักใคร่กันถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าย่อมทำให้ซย่าโหวฉิงเทียนดีใจเป็นที่สุด

 

 

เฉินเจินที่สะกดรอยตามมา แฝงตัวลึกลับอยู่ในป่าต้นเฟิง ซึ่งถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างกันไกล แต่เฉินเจินก็จดจำหนานกงจื่อหลิงได้ดี

 

 

คุณหนูใหญ่มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน!

 

 

ก่อนที่จะออกมานี้ หนานกงเอ๋ามอบหมายภารกิจให้เขาสองอย่าง อย่างแรกก็คือตามหาหนานกงจื่อหลิง แล้วพานางกลับไป อย่างที่สอง จับเจ้าปีศาจน้อยกลับไปด้วย

 

 

หนานกงเอ๋าบอกกับเขาอย่างชัดเจนว่า ขอเพียงตามหาหนานกงจื่อหลิงเจอก็จะหาเจ้าปีศาจน้อยเจอเอง

 

 

ตอนนี้หนานกงจื่อหลิงเรียกขานซย่าโหวฉิงอย่างสนิทสนมว่า ‘พี่ใหญ่’ ทำให้เฉินเจินอดไม่ได้ที่จะเกิดความสงสัย หรือว่าซย่าโหวฉิงเทียนคือเจ้าปีศาจน้อยกันนะ

 

 

แต่มันก็ไม่ถูกต้องนี่นา!

 

 

รูปร่างหน้าตาเขา ต่างกันลิบลับ!

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนคืออ๋องแห่งต้าโจว ดวงตาสีดำ แต่เจ้าปีศาจน้อยนั่นผมสีเงินดวงตาสีม่วง

 

 

หากจะบอกว่าพวกเขาคือคนคนเดียวกัน ให้ตายเฉินเจินก็ไม่มีทางเชื่อ

 

 

“แมวน้อย เจ้าไปเที่ยวเล่นตรงด้านนั้นกับพวกนางก่อน พี่มีเรื่องต้องจัดการเสียหน่อย!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนกล่าวพร้อมกับยิ้มกว้างออกมา รอยยิ้มเขาใสซื่อบริสุทธิ์ยิ่งนัก

 

 

นางคบหากับซย่าโหวฉิงเทียนมาเป็นเวลานาน เมื่อเขามีอะไรผิดแผกไปจากปกติ อวี้เฟยเยียนก็จะสามารถสัมผัสได้ทันที

 

 

ออกมาท่องเที่ยวกัน เพิ่งจะมาถึงที่หมายแต่ซย่าโหวฉิงเทียนไม่ได้ทำหน้าที่ของเจ้าบ้านอย่างสุดกำลัง กลับขอตัวออกไปก่อน ทำให้อวี้เฟยเยียนอดไม่ได้ที่ต้องเกิดความคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา

 

 

กระทั่งนางตั้งใจเงี่ยหูสดับฟังให้ดีอีกครั้ง ก็พบว่าเสียงเสียดสีกันของใบต้นเฟิงผิดปกติไป พริบตานั้นนางก็เข้าใจในทันที

 

 

มีคนหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าต้นเฟิง

 

 

คนผู้นี้มารนหาที่ตาย หรือถูกส่งมาตายกันแน่นะ

 

 

“ได้สิ! ข้าจะไปดูว่าเที่ยงนี้เราจะกินอะไรกันดี! หลิงเอ๋อร์ เสวี่ย พวกเจ้ามาช่วยข้าที! หานจื่อ เจ้านำทาง!”

 

 

รอจนกระทั่งอวี้เฟยเยียนหายไปจากสายตาของซย่าโหวฉิงเทียน พลันเขาก็หายไปจากตรงนั้นทันที

 

 

คนเล่า

 

 

เฉินเจินยืดคอสอดส่องค้นหาอยู่นาน แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาของซย่าโหวฉิงเทียน

 

 

หนานกงจื่อหลิงหายไปแล้ว ส่วนซย่าโหวฉิงเทียนก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ฉับพลัน ในใจของเฉินเจินก็เกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา ผิดปกติ ต้องรีบถอยเดี๋ยวนี้!

 

 

ทว่า เขากลับช้าไปก้าวหนึ่ง

 

 

เมื่อเฉินเจินกระโดดข้ามกำแพงของสวนต้นเฟิงออกมาด้านนอก ก็พบว่าซย่าโหวฉิงเทียนมายืนอยู่ที่เบื้องหน้าเขา

 

 

“เหอะ ที่แท้ก็เจ้านั่นเองหรือ!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนเคยพบเฉินเจินมาก่อน จึงรู้ว่าเขาคือคนของหนานกงเอ๋า เพียงแต่นึกไม่ถึงว่า เขาจะตามมาถึงที่นี่รวดเร็วถึงเพียงนี้

 

 

เห็นที หนานกงเอ๋าและซย่าจื่ออวี้คงจะต้องเอาหัวใจเขาให้ได้สินะ

 

 

“เจ้าเป็นใครกันแน่”

 

 

ด้วยรู้สึกคุ้นชินกับลักษณะการพูดจาของอีกฝ่ายยิ่งนัก เฉินเจินชักกระบี่คู่ของตนเองออกมา

 

 

“หน้าโง่! ข้าเป็นใครเจ้ายังไม่รู้ แล้วยังบังอาจกล้ามาสะกดรอยตามข้า!”

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนยิ้มเยือกเย็นชั่วร้าย เขาลงมือทันทีและรวดเร็ว

 

 

ซย่าจื่ออวี้เจ้าสงสารลูกชายจนแทบจะรอให้ข้ารีบไปตายไม่ไหวเชียวหรือ เจ้าทำเช่นนี้ยังคู่ควรเป็นแม่คนได้อยู่อีกหรือ

 

 

ดวงไฟแห่งความแค้นเคืองกำลังลุกโชนอยู่ในหัวใจเขา ซึ่งมันแสดงออกมาผ่านทางการกระทำของซย่าโหวฉิงเทียน

 

 

เฉินเจินกำลังเตรียมที่จะลงมือ ทว่าดาบคู่ในมือเขากลับหลุดลอยไปแล้วเข้าไปอยู่ในกำมือของซย่าโหวฉิงเทียนแทน

 

 

“ไปตายเสียเถอะ!”

 

 

ดวงตาทั้งสองข้างของซย่าโหวฉิงเทียนค่อยๆ ส่องแสงประกายที่ม่วงออกมา ดาบทั้งสองเล่มแทงทะลุเข้าที่หัวใจของเฉินเจินพร้อมๆ กัน ในขณะนั้นพลังแสงสีม่วงจากร่างของซย่าโหวฉิงเทียนลอยเข้าสู่ร่างของเฉินเจิน

 

 

บึ้ม!

 

 

เฉินเจินร่างระเบิด

 

 

ซ่าๆ

 

 

ห่าเลือดสาดกระเซ็นขึ้นกลางอากาศ ผสมรวมกับเนื้อสดๆ จนทำให้พื้นสกปรกเลอะเทอะ

 

 

เวลาผ่านไปอยู่เป็นนานกว่าที่ซย่าโหวฉิงเทียนจะสงบใจลงได้

 

 

เขาเอาความแค้นที่มีต่อซย่าจื่ออวี้ไปลงกับเฉินเจิน!!

 

 

นี่เขาลืมที่จะดูดกลืนความทรงจำของเฉินเจินออกมาหรือนี่ เสียแผนหมด!

 

 

ดีดนิ้วเพียงครั้งเดียว เสวี่ยเยียนก็มาปรากฏตัวเบื้องหน้าของซย่าโหวฉิงเทียน

 

 

“จัดการเก็บกวาดที่นี่ที แล้วไปสืบมาด้วยมามันมาได้อย่างไรกัน…”

 

 

เฉินเจิ้นติดตามมาถึงที่นี่ได้รวดเร็วเช่นนี้ นับเป็นสัญญาณอันตราย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคราวนี้หนานกงเอ๋าส่งคนมาเท่าไหร่กัน

 

 

แต่ไม่ว่าจะส่งมากี่คน พวกมันก็จะได้เพียงมาไม่ได้กลับไปอีกเลย

 

 

กว่าที่ซย่าโหวฉิงเทียนจะอาบน้ำชำระกลิ่นคาวเลือดที่ติดตัวออกไปและเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเสร็จ เวลาก็ปาเข้าไปถึงเที่ยงตรง

 

 

ในขณะที่กินข้าวเขามิได้แสดงอาการผิดปกติออกมาแต่อย่างใด จึงสามารถตบตาหนานกงจื่อหลิงและเชียนเยี่ยเสวี่ยได้ ยกเว้นแต่อวี้เฟยเยียน

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนเองก็มิได้คิดที่จะปิดบังอวี้เฟยเยียนอยู่แล้ว ดังนั้นในช่วงเวลาพักผ่อนตอนบ่าย เขาจึงเล่าเรื่องนี้ให้กับนางได้ฟัง

 

 

“หลิงเอ๋อร์จะไม่เป็นอันตรายใช่ไหม!”

 

 

ได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น คนแรกที่อวี้เฟยเยียนเป็นห่วงก็คือหนานกงจื่อหลิง

 

 

หนานกงเอ๋าและซย่าจื่อสามารถหลอกใช้บุตรสาวแท้ๆ ของตนเองได้ ก็ไม่แน่ว่าพวกเขาจะรักนางจริง!

 

 

หากว่าให้เลือกระหว่างหนานกงจื่อหลิงและหนานกงเช่อละก็ อวี้เฟยเยียนเชื่อแน่ว่า พวกเขาจะต้องละทิ้งหนานกงจื่อหลิง แล้วเลือกหนานกงเช่อ

 

 

“เจ้าวางใจเถอะ พี่ให้เสวี่ยเยียนคอยติดตามอยู่ข้างกายหลิงเอ๋อร์แล้ว!”