SD:บทที่ 104 กลับไปที่เมืองชิงเหอ

 

“ใช่แล้ว เซี่ยกรุ๊บของเมืองชิงเหอ…พี่พอจะมีเพื่อนอยู่บ้างไหม”

จางเหวิน และ เสี่ยวหลี่ ยังคงนิ่งเงียบ  ซูเซี่ยวเซี่ยว พยักหน้าในขณะที่มองไปที่ ซูฉิวไป่

ซูฉิวไป่ ไม่คาดคิดว่าผู้จัดการจู้จะเป็นสมาชิกของเซี่ยกรุ๊บ ทันใดนั้นภาพต่างๆจำนวนมากก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขาเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาควรจะเลือกใคร

อย่างไรก็ตามความเงียบกับท่าทางของเขาทำให้ 3 สาวที่ยืนอยู่ตรงข้ามเข้าใจผิดใบหน้าของพวกเธอมืดมนทันที

“พี่ไม่ต้องเป็นกังวลไป ถ้ามันไม่ได้ผลฉันจะไปหางานทำที่อื่น”

จางเหวิน กำลังคิดว่า ซูฉิวไป่ กำลังเป็นทุกข์จากเรื่องของเธอดังนั้นเธอจึงพูดขึ้นก่อน

“ไม่มีปัญหา!ไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อยเขาเพียงแค่ต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาโทรเท่านั้น”

เฉาตั้วเฟย อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น มันทำให้ผู้หญิงทั้ง 3 คนมีความหวัง

“ใช่แล้วไม่มีปัญหาอะไร เดี๋ยวพี่จะโทรหาเพื่อน”

ซูฉิวไป่ ยิ้มก่อนจะเดินเลี้ยวออกไป

ในห้อง เฉาตั้วเฟย ยังคงให้ความมั่นใจกับ ซูเซี่ยวเซี่ยว และเพื่อนๆของเธอแต่ในใจของเขากำลังพึมพำกับตัวเอง

ถ้า ซูฉิวไป่ ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์เช่นนี้ได้คงไม่มีใครทำ

ซูฉิวไป่ โทรไปหา เซี่ยหรงหรง หลังจากที่ออกมาจากห้องรับประทานอาหาร

“พรุ่งนี้คุณจะกลับมาอย่างนั้นหรอ เซี่ยวเซี่ยวดีขึ้นหรือยัง”

เซี่ยหรงหรง ต้องประหลาดใจเมื่อได้ยินว่า ซูฉิวไป่ กำลังวางแผนที่จะกลับไปยังเมืองชิงเหอ

“ใช่ทุกอย่างที่นี่จัดการเรียบร้อยแล้ว..ผมมีบางอย่างที่จะถามคุณ..”

หลังจากพูดคุยทักทายกับ เซี่ยหรงหรง ซูฉิวไป่ ก็เริ่มเล่าเรื่องของผู้จัดการจู้ ให้เธอฟัง

“มีบริษัทโฆษณาในตงไห่ แต่ฉันไม่รู้ว่ามีผู้จัดการที่ชื่อผู้จัดการจู้หรือไม่ ฉันจะโทรหาบริษัทที่นั่นในภายหลังและจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้… พรุ่งนี้เดินทางอย่างปลอดภัยนะ”

เซี่ยหรงหรง กล่าวถึงสิ่งนี้โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ซูฉิวไป่ รู้สึกอบอุ่นในหัวใจของเขาอย่างลึกลับจากนั้นพวกเขาคุยกันสักพักก่อนจะวางสาย

ซูฉิวไป่ ไม่รู้ว่ามันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกของเขาหรือเปล่าแต่ดูเหมือนตั้งแต่ที่ เซี่ยหรงหรง ออกไปจากตงไห่มีบางอย่างเกิดขึ้นที่เมืองชิงเหอ แต่เธอไม่เคยบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถเดาเรื่องนี้ได้

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยแต่ความคิดที่ว่าเขากำลังกลับไปเมืองชิงเหอในไม่ช้ามันทำให้เขาสงบลง

ในห้องอาหาร ซูเซี่ยวเซี่ยว และ จางเหวิน ยังคงรออย่างใจจดใจจ่อ หลังจากเห็น ซูฉิวไป่ เดินเข้ามาพวกเขาต่างจ้องมองชายหนุ่ม

“ไม่เป็นอะไรตอนนี้เธอแค่ไปทำงานตามปกติ”

ซูฉิวไป่ ยิ้มให้ กับ จางเหวิน

“ จริงหรอคะ?” จางเหวินไม่อยากจะเชื่อ

เธอรู้ว่าผู้จัดการจู้มีอิทธิพลบางอย่างในบริษัทและเซี่ยกรุ๊บก็เป็นบริษัทใหญ่ ดังนั้นพวกเขาอาจมีความสัมพันธ์ส่วนตัวบางอย่างเกินกว่าที่จะคาดคิด

“แน่นอนว่ามันเป็นความจริง มั่นใจได้”

เฉาตั้วเฟย พูดออกมาอีกครั้งโดยไม่ลังเล

ซูฉิวไป่ บุคคลที่กอบกู้เซี่ยกร๊บและเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของกลุ่ม เรื่องนี้จะไม่สามารถแก้ไขได้อย่างไร

แม้ว่า จางเหวิน ยังรู้สึกกังวลแต่เธอก็ยังคงนั่งเงียบๆ

งานปาร์ตี้จบลงอย่างที่ควรจะเป็น ทุกคนเมาก่อนที่จะจากกัน

วันรุ่งขึ้น จางเหวิน ลังเลอยู่นานก่อนที่เธอจะเก็บของและไปที่บริษัทระหว่างทางเธอเตรียมพร้อมที่จะถูกไล่ออก

แม้ว่า ซูฉิวไป่ จะยืนยันว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยแต่เธอก็ตระหนักดีว่าคนอย่างผู้จัดการจู้จะไม่ปล่อยเรื่องนี้อย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นพระอาทิตย์คงขึ้นทางตะวันตก!

แน่นอนว่าเมื่อเธอเข้ามาในบริษัทเธอสังเกตเห็นท่าทีของทุกคนที่มองเธออย่างผิดปกติ หัวใจของ จางเหวิน เต้นกระส่ำ เธอมีความรู้สึกที่ไม่ดีนัก เธอเดินขึ้นบันไดช้าๆและมองไปที่ประตูสำนักงาน ไม่รู้ว่าผู้จัดการจู้อยู่หรือไม่

จางเหวิน รู้สึกลำบากใจยิ่งขึ้นและเธอพร้อมที่จะขอลาออก อาจเป็นเพราะผลทางจิตวิทยา แต่เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับบรรยากาศในบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนร่วมงานที่เธอเคยมีสัมพันธ์ที่ดีกับเธอไม่ได้เข้ามาคุย

ในขณะที่เธอรู้สึกประหม่าอย่างยิ่งผู้จัดการจู้ก็ออกมาจากสำนักงาน

แต่ น่าแปลกใจ การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและสิ้นหวังในขณะที่เขาถือกล่องไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง

เกิดอะไรขึ้น!

จางเหวิน รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้จัดการจู้มองเธอด้วยสายตาที่ไม่เต็มใจ

เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นรองประธานที่ไม่เคยปรากฏตัวในบริษัทก็ปรากฏตัวขึ้นและวิ่งเข้ามาหาเธอ

“คุณคือ จางเหวิน ใช่ไหม บริษัทได้จัดการพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้จัดการจู้แล้ว การกระทำของเขาไม่เหมาะสมเขาจึงถูกไล่ออก…นอกจากนี้บริษัทอยากจะแจ้งว่าเงินเดือนของคุณจะเพิ่มเป็น 2 เท่าในเดือนหน้า”

จางเหวิน ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดของเขา นี่เป็นครั้งแรกที่รองประธานพูดคุยกับเธอและยังบอกอีกด้วยว่า…เงินเดือนของเธอจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า

“แต่…แต่ดิฉันเป็นแค่พนักงานชั่วคราว”สุดท้าย จางเหวิน บังคับประโยคหนึ่งออกมาจากปากของเธอ

“แล้วทำไมล่ะ? พวกเราต้องการคนมีพรสวรรค์อย่างคุณ”

หลังจากนั้นรองประธานก็ยิ้มอย่างใจดีพร้อมกลับไปที่สำนักงานของเขา จนกระทั่งผู้จัดการจู้ออกไปจากบริษัท จางเหวิน ยังคงไม่สามารถตอบสนองต่อเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เธอได้ยินเพื่อนร่วมงานของเธอเข้ามาร่วมแสดงความยินดี

การแก้แค้นที่เธอจินตนาการเอาไว้ไม่ได้เกิดขึ้นแต่ได้ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดแทน

ในขณะที่เธองุนงงเธอก็นึกถึงเหตุการณ์ที่ ซูฉิวไป่ ออกไปโทรศัพท์เมื่อคืนนี้ มันทำให้เธออดที่จะสงสัยไม่ได้

ตัวตนที่แท้จริงของพี่ชาย ซูเซี่ยวเซี่ยว คือใครกันแน่*?*

ในขณะที่ ซูฉิวไป่ เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางจากตงไห่เขาก็ได้พบกับ กู่เฉิงหยา โดยบังเอิญ

กู่เฉิงหยา อยู่ในชุด คาวบอยสาวที่เรียบง่ายพร้อมกับหมวก  ซูฉิวไป่ รู้สึกถึงความคุ้นเคยนี่คือชุดที่พวกเขาพบกันครั้งแรก

และแน่นอนว่าเป็นเหมือนอย่างที่เธอพูดอาจารย์ตงฟางอยู่ที่นี่เช่นกัน

เป็นความจริงที่ชายชราคนนี้ยืนกรานที่จะแลกเปลี่ยนพูดคุยกับ ซูฉิวไป่  เขาต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการประดิษฐ์อักษรแม้ว่า ซูฉิวไป่ ต้องการที่จะพูดคุยหัวข้ออื่นเพื่อหลีกเลี่ยงหัวข้อนี้แต่เขาก็จงใจที่จะวกกลับมาหัวข้อเดิมอย่างรวดเร็ว

ซูฉิวไป่ ส่ายหัวอย่างลับๆเขาทำอะไรไม่ได้เลยและพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะหยุดการพูดคุยในครั้งนี้

มิฉะนั้นชายชราคนนี้จะต้องติดตามเขาไปที่เมืองชิงเหอและเมื่อพบว่าไม่มีงานประดิษฐ์ตัวอักษรมันจะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่สำหรับเขา

อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องออกจากเมืองตงไห่

แม้แต่ ซูฉิวไป่ ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีหลายสิ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆเมื่อคิดย้อนกลับไปถึงการสังหารหมู่ที่บนภูเขาเจียงเป่ย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่จดจำไม่เคยลืม

โดยเฉพาะความตายของ เซี่ยเทียน!

หลังจากเตือนตัวเองอยู่เงียบๆ ซูฉิวไป่ ก็เหยียบคันเร่งพร้อมกับกลุ่มของเขาที่อยู่ด้านหลังติดตามไปเมืองชิงเหอ

ที่เมืองชิงเหอ  เซี่ยหรงหรง  มีความรู้สึกบางอย่างหลังจากได้ยินว่า ซูฉิวไป่ กำลังกลับมา

แม้เธอไม่ต้องการพึ่งพิงผู้ชายคนนี้แต่เธอก็รู้สึกอบอุ่นใจ เช่นเดียวกันกับ ซูฉิวไป่ เขาคาดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นในเซี่ยกรุ๊บ

ในตอนแรกบริษัทกำลังเฟื่องฟูแต่แล้วก็มีบางอย่างที่ไม่ดีเกิดขึ้น

ในวันที่ 2 ที่ไปเมืองตงไห่ ธุรกิจที่กำลังประสบความสำเร็จของเซี่ยกรุ๊บ ถูกโกงโดยนักต้มตุ๋นและต่อมาค้นพบว่ามีการทุจริตหลายสิบล้านดอลลาร์

เป็นเพราะเหตุนี้เอง เซี่ยหรงหรง จึงต้องรีบกลับจาก ตงไห่มายังเมืองชิงเหออย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาก็ผ่านมา 1 สัปดาห์แล้วตั้งแต่เกิดเหตุ พวกเขาได้แจ้งความกับตำรวจแต่ยังไม่มีข่าวคืบหน้าในตอนนี้

เงิน 100 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าเซี่ยกรุ๊บจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่แต่การสูญเสียในครั้งนี้เหมือนกับสึนามิที่โถมกระหน่ำทำลายทุกอย่างของพวกเขาเช่นกัน

ผู้ช่วยของ เซี่ยหรงหรงเซี่ยหรงหรง เดินเข้ามาในสำนักงานพร้อมกับกาแฟในมือ

“ท่านประธานคะคุณควรที่จะหยุดพักผ่อนสักหน่อย”

ผู้ช่วยรู้สึกเคารพในตัวผู้หญิงคนนี้ เนื่องจากอนาคตของเซี่ยกรุ๊บอยู่ในมือของผู้หญิงคนนี้

อย่างไรก็ตามใครจะรู้สิ่งที่เกิดขึ้น มีบางคนนินทาว่าร้ายบริษัทหลายอย่าง

เซี่ยหรงหรง ไม่พูดอะไรออกมา เธอหยิบกาแฟขึ้นแต่ไม่ได้ดื่ม เธอวางไว้บนโต๊ะ เธอใช้ความรู้และประสบการณ์ทั้งหมดของเธอกำลังแยกแยะผลกระทบของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ปัญหามากมายยังคงไม่ได้รับการแก้ไขมันทำให้เธอรู้สึกสิ้นหวัง

อย่างไรก็ตาม เซี่ยหรงหรง มีประสบการณ์กับเหตุการณ์ที่ใหญ่กว่านี้ดังนั้นเธอจึงมั่นใจว่าเธอจะสามารถอยู่รอดได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

นอกจากนี้  ซูฉิวไป่ กำลังกลับมา

เธอรู้สึกประหลาดใจที่มีความคิดนี้อยู่ในใจของเธอจริงๆแล้ว ซูฉิวไป่ จะสามารถทำอะไรได้เมื่อเขากลับมา?

แต่..เขาเป็นชายหนุ่มที่มีความลึกลับเป็นพิเศษ

——————————-