บทที่ 643 ดูว่าจะทำให้เขาซาบซึ้งได้หรือไม่

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 643 ดูว่าจะทำให้เขาซาบซึ้งได้หรือไม่
รู้สึกว่าฮองเฮาฉู่มีพลังชนิดนั้นที่สามารถปกป้องเขาได้

ฮ่องเต้ฉู่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่พลังที่ปรากฏออกมาทั่วร่างก็คือจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเขาเช่นกัน

ถึงกระทั่ง……

ฮ่องเต้ฉู่มีฐานะเป็นเจ้าแห่งแคว้น กลับไม่ได้วางมาดสักนิด ทั้งยังหยิบยารักษาบาดแผลมาช่วยพันแผลให้ด้วยตัวเองอีก และไม่ได้รังเกียจตัวตนของเขาโดยสิ้นเชิง

ไม่ว่าเลว่อิ่งจะใจแข็งเป็นหินเพียงใด ในนาทีนี้ก็สั่นไหวเล็กน้อยแล้ว

“แม่นางกู้ ทำไมเขาถึงไม่ขยับเลยล่ะ?”

ไม่รอให้กู้ชูหน่วนพูด ฮัวฉีหลัวก็แย่งพูดก่อนแล้ว “เขาเป็นนักฆ่า วิทยายุทธสูงมาก คนก็ชั่วร้ายมาก พวกเราสิ้นเปลืองแรงมากกว่าจะจับเขาไว้ได้ จึงสะกดจุดเขาไว้แล้วเพคะ”

“หากสามารถเลือกได้ ใครจะยอมเป็นนักฆ่ากันล่ะ” ฮองเฮาฉู่ทอดถอนใจช้าๆ กล่าวต่อว่า “สามารถช่วยคลายจุดของเขาได้หรือไม่?”

“ห๊ะ……ไม่ได้ไม่ได้ คลายแล้วเขาก็จะหนีไป วิชาตัวเบาของเขาสูงมาเชียวนะเพคะ ข้าตามเขาไม่ทัน หากว่าเขาร้ายขึ้นมา ทำร้ายพวกท่านหรือว่าฆ่าพวกท่านขึ้นมาอีกจะทำอย่างไรเพคะ?”

“เขาจะไม่ทำ ข้าเชื่อเขา” ฮ่องเต้ฉู่และฮองเฮาฉู่ยิ้มให้กันและกัน

แม้ว่าพวกเขาจะได้พบกันเพียงครั้งเดียว แต่พวกเขาก็เชื่อมั่นในตัวเลว่อิ่งอย่างอธิบายไม่ถูก

กู้ชูหน่วนเห็นความแปลกประหลาดในดวงตาของเลว่อิ่ง นางกล่าวเบาๆ “คลายจุดให้เขาเถอะ”

“ห๊ะ…..คลายจริงๆเหรอ?”

“ข้าวางยาพิษเขาแล้ว ภายในสามวันไม่เพียงเขาจะสูญเสียกำลังภายใน แต่ทว่าทั้งร่างกายก็ไม่สามารถออกแรงได้อีกด้วย”

“เช่นนี่…….ก็ได้”

หลังจากที่ฮัวฉีหลัวคลายจุดให้เขา ก็ทำหน้าทำตาเป็นผีใส่เลว่อิ่ง “หึ หากเจ้ายังกล้าทำร้ายพี่หน่วนอีก ครั้งหน้าข้าจะไม่คลายจุดให้เจ้าแล้ว ข้าจะใช้ผ้าไหมผ้าแพรฉีหลัวรับรองเจ้า”

กู้ชูหน่วนดึงฮัวฉีหลัวไว้ หิ้วไปด้านนอก และเรียกเซียวหยู่เซวียนไปด้วย

“อ้าก พี่หน่วน พี่หิ้วข้าทำไม ข้าโตแล้วนะ ทำแบบนี้ข้าอายมากนะ”

“ครอบครัวคนอื่นเขารวมตัวกันอยู่สามคนตรงนั้น เจ้าไปยุ่งอะไรด้วย ไม่เห็นหรือว่าสีหน้าของฮ่องเต้ฉู่และฮองเฮาฉู่เปลี่ยนไปหมดแล้ว?”

“ข้าไม่ได้พูดผิดสักหน่อย เลว่อิ่งร้ายกาจมากนี่นา”

เซียวหยู่เซวียนโบกพัดไปพลางเอ่ยถามไปพลาง “ยัยขี้เหร่ เจ้าสงสัยว่าตอนนั้นฮองเฮาฉู่ให้กำเนิดฝาแฝดงั้นเหรอ?”

“อืม คนที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์กัน เป็นไปไม่ได้ที่จะหน้าตาเหมือนกันขนาดนั้น รอก่อนละกันว่าหอหนึ่งในหล้าสามารถสืบหาอำนาจเบื้องหลังของเขาได้หรือไม่”

“หากพวกเขาเป็นพี่น้องกันจริงๆ ทำไมถึงได้ถูกแยกไปไว้เป็นสองที่?”

“บางที อาจเพื่อต้องการแก้แค้นฮ่องเต้ฉู่และฮองเฮาฉู่ ดังนั้นจึงได้ทิ้งเด็กทั้งสองไว้ในสถานที่ที่โหดร้ายที่สุดในโลก เฝ้าดูให้พวกเขามีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น ต่ำต้อย และด้อยค่าน่ะสิ”

ดวงตาของเซียวหยู่เซวียนดุดันขึ้นทันที หุบพัดลงในทันใด เค้นประโยคหนึ่งออกมาจากซอกฟัน “หากข้ารู้ว่าใครคือผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ข้าจะไม่มีวันปล่อยเขาไปเด็ดขาด”

กู้ชูหน่วนอยากบอกว่า ผู้บงการอยู่เบื้องหลังมีแปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่น่าจะเป็นรองหัวหน้าเผ่าของเผ่าเทียนเฟิ่น

แต่คำพูดมาถึงปากนางก็เงียบไปแล้ว

ไม่มีเหตุผลอื่นใด

กองกำลังอิทธิพลของเผ่าเทียนเฟิ่นยิ่งใหญ่มากเกินไป

วิทยายุทธของรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็สูงเกินไป

อาศัยแค่เซียวหยู่เซวียนคนเดียวไม่สามารถจะสั่นคลอนเขาได้แม้แต่น้อยโดยสิ้นเชิง ขืนรู้ไปก็เท่ากับการไปหารนที่ตายเท่านั้น

“พี่หน่วน เช่นนั้นหลังจากสามวันแล้วจะทำเช่นไร? พวกเราจะวางยาพิษเขา? วางต่อไปวางต่อไป? วางจนเขาจะไม่ไปทำร้ายคนอื่นอีกหรือ?”

“การวางยาพิษเป็นวิธีการที่ต่ำที่สุด ลองดูไปก่อนว่าฮ่องเต้ฉู่และฮองเฮาฉู่จะสามารถทำให้เขาซาบซึ้งได้หรือไม่?”

“ทำให้เขาซาบซึ้ง? นี่จะเป็นไปได้อย่างไร จิตใจเขาแข็งกว่าก้อนหินเสียอีก”

ใช่หรือ?

หากว่าแข็งกว่าก้อนหินจริง เช่นนั้นเมื่อครู่แววตาที่หวั่นไหวของเขาควรจะอธิบายว่าอย่างไรกัน?

แม้ว่าเลว่อิ่งจะมีจิตใจอำมหิตทารุณ แต่ในใจของเขาก็ยังมีคุณธรรมเล็กน้อย

หากว่าไม่มี ตอนนั้นแม้ว่านางจะได้ช่วยเหลือเขาไว้หลายครั้งที่แดนเหนือสุด เขาก็จะไม่จดจำบุญคุณครั้งนั้นและปล่อยนางไปรอบหนึ่ง